.
“ผมนั่งทับอุปกรณ์ไม่ได้นอนเลยครับจ่า”
ฉันดูรูปพวกขี้เหล้าพร้อมอ่านโพสต์ของสามีเบะปากให้ แต่ ก็ไม่กดถูกใจหรือคอมเม้นอะไรไปหรอก เพราะฉันรู้ หากฉันคอมเม้นอะไรไป พวกเพื่อน ๆ ของสามีมันจะกระโจนเข้ามารุมตอบเม้นฉันแทน ล้อบ้าง แซวบ้าง ฉันไม่ถือสาแต่ฉันเบื่อและรำคาญค่ะ โพสต์ไร้สาระแบบนี้ฉันไม่สนใจหรอก
นี่ก็เป็นวันที่สามแล้วสำหรับการทำตัวเถลไถลของเขา ฉันขี้เกียจจะบ่น บ่นไปก็เท่านั้น ทะเลาะกันเปล่า ๆ วันแรกผ่านไปก็ยังเหมือนเดิม วันที่สองผ่านไปก็ยังเหมือนเดิม และในวันนี้ ! นี่ก็จะสามทุ่มเข้าทุกที ยังไม่ยอมโผล่หัวกลับบ้านอีก
“จะกลับตอนไหน อย่าให้มันมากนะ สองวันติดแล้ว วันนี้ยังจะดื่มอีกเหรอ” ฉันฝากข้อความไว้ รู้ว่าสามีไม่อ่านแน่ ผิดคาด ! อ่านเฉยเลย
“จะเป็นคนดีแล้วเมีย ขออีกหนึ่งวันนะ ๆ นะครับ“ เขาตอบกลับมา ฉันถอนหายใจ ไม่ได้ใจดีอะไรขนาดนั้นนะ ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเข้าสิง แล้วฉันก็ตอบกลับไปดั่งพายุดีเปรสชั่นที่ถาโถมใส่
ใช่ค่ะ ฉันใส่ไม่ยั้งเลย ด้วยกาลเวลาที่ยาวนานในการอยู่ด้วยกัน คำพูดที่สวยหรูจึงไม่มี อืมม์ แต่ฉันไม่เคยพูดต่อหน้าผู้ใหญ่เลยสักครั้งนะคะ สัตว์ทุกชนิดมันหลั่งไหลลงไปในแชทของสามี สถานะขึ้นอ่านแล้ว ฉันก็สบายใจค่ะ ถึงไม่มีข้อความตอบกลับมาอย่างน้อย ๆ ฉันก็ไม่ได้พูดคนเดียวล่ะ
พอได้ระบายอารมณ์ พูดทุกอย่างที่อัดอั้นตันใจออกไปหมด ก็สบายใจดีค่ะ ฮัมเพลงแต่งตัวต่อไป ฉันไม่ได้จะแต่งตัวเข้านอนนะคะ แสยะยิ้ม ! นึกอะไรในสมองขึ้นมาได้ ภูมิใจในตัวเองยิ่งนักที่คิดแบบนี้ได้ กล้าคิดก็ต้องกล้าทำค่ะ เพราะมัวแต่คิดอย่างเดียวไม่กล้าทำมันจะได้ผลอะไร
ฉันกำลังจะเชือดไก่ให้ลิงดูสักครั้ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีปากมีเสียง ไม่เคยไปตามให้ขุ่นเคืองใจ ให้หม่นหมอง ให้อายเพื่อน วันนี้ล่ะจะได้คิดได้ว่ามีฉันคอยอยู่ที่บ้านบ้าง
“จะด่าอะไรนักหนา ขออีกวันนึงนะเมียจ๋า จะเป็นคนดีแล้ว” พอฉันทิ้งระยะห่างในการด่าไปสักพัก ข้อความก็ถูกตอบกลับมา เป็นข้อความของสามีตัวดีของฉันแหละค่ะ สงสัยจะเมาเพราะถ้าไม่เมาป่านนี้ต่อปากต่อคำกับฉันไปนานแล้ว แสดงว่าวันนี้เมามากถึงไม่เถียงกลับมา
“จะกลับไม่กลับ ! ถ้าไม่กลับภายในสามทุ่มนี้ก็ไม่ต้องกลับมา เพราะถ้ามืงกลับมาก็ไม่ได้เข้าบ้านอยู่ดี” ฉันตอบไปเท่านี้ อารมณ์ขุ่นมัวหายไปจนหมดสิ้น มองหน้าจอโทรศัพท์และยิ้มให้ เดี๋ยวได้รู้กัน
“กลับ ๆ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอต่ออีกห้าทุ่มได้ปะ” สามีฉันต่อรอง ฉันหยักไหล่แล้วแต่เลย จะกลับตอนไหนก็ตามใจ ไหน ๆ ก็ไม่ยอมกลับมาตามคำสั่งแล้วหนิ จะกลับตอนไหนก็ตามใจ แต่ฉันจะไม่อยู่บ้านหรอกนะ กลับมาไม่เจอฉันแน่นอน อย่าว่ากันล่ะ นึกในใจคนเดียว
ฉันรีบแต่งตัวให้เสร็จเพื่อที่จะออกไปซื้อแม่กุญแจชุดใหม่ค่ะ ฉันจะเปลี่ยนกุญแจใหม่ทุกดอกของบ้าน ยกเว้นลูกบิดเท่านั้นแหละที่ยังเปลี่ยนตอนนี้ไม่ได้ อ่อประตูบ้านของฉันใส่กุญแจคล้องก็ได้นี่นา แสยะยิ้มแบบคนอารมณ์ดีอีกครั้ง ฮัมเพลงตามน้องกลับสารคามและจดหมายผิดซองอย่างสบายใจ คราวนี้แหละ ได้ร้องไห้แน่ เลิกเป็นเลิก !
แต่งตัวเสร็จฉันบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเร็ว หาซื้อพวกกุญแจค่ะ จะใช้ล็อกตรงไหนซื้อมาให้ครบ พูดมาถึงตรงนี้พวกคุณคงจะนึกออกแล้วใช่มั้ยคะว่าฉันกำลังจะทำอะไร ฮา ใช่แล้ว ! ทำอย่างที่พวกคุณคิดนั่นแหละ มันต้องสั่งสอนสักครั้งถึงจะจำ
พอได้กุญแจชุดใหม่มาฉันจัดการเปลี่ยนใหม่ทุกดอกค่ะ กุญแจประตู้รั้ว กุญแจประตูบ้าน เอาแค่นี้พอค่ะ มีปัญญาเข้าบ้านก็เชิญ ส่วนฉันเหรอไปนอนบ้านพี่ชายสิคะ ฉันรู้ว่าสามีตัวดีของฉันมันจะไม่กล้าหือแน่นอน ฉันยืนมองผลงานของตนเองอย่างภาคภูมิใจ คนอะไรเก่งจังคิดได้ยังไง ฮา
“โตแล้วคิดไม่ได้ก็ไม่ต้องคิด เบื่อ ! ” ฉันโพสต์ทิ้งไว้ ก่อนจะขับรถไปค้างที่บ้านพี่ชาย ทุกคนฉันคิดลึกกว่านั้นอีกค่ะ ถ้าเรื่องนี้มันบานปลายนะ ฉันพร้อมแยกทาง อันที่จริงก็สะสมมานานแล้วเหมือนกัน
“คิดได้คร๊าบแต่ขออีกหนึ่งวันได้ปะ นะ ๆ พรุ่งนี้และต่อ ๆ ไปจะไม่แล้ว เค้าขออีกหนึ่งวันนะ พอดีพี่ย้ายมาอ่ะ ต้อนรับหน่อย” ดูสิยังมีหน้ามาตอบเยาะเย้ยไปอีก ไม่รู้เลยหรือไงว่ามีคนรอ
“เตือนแล้วนะว่าเลยสามทุ่มไปเมื่อไหร่ถ้ายังไม่กลับมาจะไม่ได้เข้าบ้าน !” ฉันก็ยังมีใจตอบกลับไปอีก กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่พูดแบบนี้ แบบที่พูดว่าจะไม่แล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทุกคนคิดว่าฉันจะเชื่อมันเหรอ ฉันไม่เชื่อมัน เอ้ย เขาหรอกค่ะ บางครั้งก็คิดน้อยใจนะคะว่าขนาดบางคนที่เขาไม่มีครอบครัวเขายังคิดได้ แต่นี่ ! อะไรก็ไม่รู้ ทำเหมือนโสด ทำเหมือนไม่มีคนคอย
และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอยสักที เวลาแห่งความสนุกมาถึงแล้วสิ ทุกคนเที่ยงคืนมัน เอ้ย ! เผลอปากบ่อยแล้วนะเราหนิ สามีของฉันโทรมาค่ะ ฮา ฉันยิ้มกริ่มเข้าบ้านไม่ได้สิท่า น้อยใจนิด ๆ นะที่บอกว่าจะกลับห้าทุ่มแต่ตอนนี้เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งละพึ่งจะโทรมา ฉันรู้ว่าเขาเข้าบ้านไม่ได้ ถึงได้โทรมาถี่ ๆ ขนาดนี้
กี่สายต่อกี่สายที่สามีของฉันโทรเข้า ฉันก็ไม่ยอมรับค่ะ ไม่รับหรอกทีตอนฉันโทรไปยังไม่รับเลย เรื่องอะไรจะรับ หึหึ ปิดเสียงเอาไว้ ไม่อยากปิดเครื่องค่ะ อยากเห็นความทุรนทุรายของเขาบ้างที่โดนเชือดเบา ๆ ป่านนี้คงแหกปากลั่นบ้านแล้วมั้ง แหกไปเลยให้เพื่อนบ้านเอาปืนมายิงทิ้งไปเลย สะใจพิลึก ! นี่ฉันบ้าไปแล้วใช่มั้ยคะ ที่สะใจเห็นสามีเข้าบ้านไม่ได้
“อี่อ้วน ! นี่มืงเล่นเปลี่ยนกุญแจบ้านเลยรึ !” เขาไลน์มาฉันอ่านแต่ไม่ตอบ อยู่ที่ไหน อะไรยังไงเขาแชทมาถามฉันค่ะ แต่ฉันไม่ตอบ ปล่อยให้ดิ้นพล่านไปเถอะ ให้รู้ซะบ้างว่าฉันก็เอาจริงเหมือนกัน ฉันไม่สนใจว่าคืนนี้เขาจะเป็นยังไง นอนที่ไหน ก็แล้วแต่เลย แต่ถ้าพรุ่งนี้มีปัญหามากก็พร้อมแยกเดิน
เช้าวันต่อมา
“เธอ… “ เสียงใครคนหนึ่งเรียกฉัน ฉันตื่นเช้าออกมาสูดอากาศหน้าบ้านพี่ชาย ใครคนหนึ่งเรียกฉัน คนที่คุ้นตาอยู่ในชุดเดิมเมื่อวานนี้
ฉันรู้ว่าเขาต้องตามมาที่นี่ ไม่หรอก คงจะตามหาทุกที่ ๆ คิดว่าฉันจะไป ที่เขาเลือกบ้านพี่ชายฉันเป็นที่สุดท้าย เพราะอะไรคงไม่ต้องให้ฉันพูด เพราะเกรงใจแหละค่ะ ฉันเตรียมกุญแจชุดของเขาไว้แล้ว พอฉันเห็นเขายืนอยู่ถนนนอกรั้วบ้าน ฉันเขวี้ยงกุญแจให้ทันที แล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน
“เธอเดี๋ยวก่อน ! ทำไมเปลี่ยนกุญแจบ้านอ่ะ ทำไมไม่บอกกันสักคำว่าอยู่ที่นี่” ฉันหยุดทว่าไม่ยอมหันหน้าไปตอบเขา โกรธนะคะไม่ใช่ไม่โกรธ ฉันทำท่าจะเดินเข้าบ้านต่อเมื่อฟังจบ “กลับบ้านเรากัน”
ฉันหันกลับไปมอง มองใบหน้าที่คุ้นเคย “กลับไปก่อนเลย เดี๋ยวตอนเย็นกลับเอง” ฉันตอบเสียงเรียบ ใครจะไปกล้ากลับตอนนี้ล่ะคุณ เผื่อมันโมโหอยู่ทำไง อย่างน้อยตอนเย็นอารมณ์คงจะเย็นลงบ้างแล้วล่ะ
“ก็ได้… ตอนเย็นกลับบ้านเรานะ”
“อือ “ แล้วสามีของฉันก็กลับบ้านไป
เรื่องของฉันก็มีเท่านี้แหละค่ะ เชือดไม่เงียบ ! มันจะเงียบได้ยังไงละคะ คืนนั้นมันแหกปากโวยวายทั้งคืนที่ฉันล็อกบ้าน แถมยังเล่นเปลี่ยนกุญใหม่ด้วย หึ ให้มันรู้ฤทธิ์แม่ซะบ้าง ใครเป็นใคร ไผเป็นไผน่ะ ที่ฉันรู้ว่าดิ้นเพราะโทรมาถี่ ๆ นี่แหละค่ะ และเพื่อนของเขาที่ตามมาด้วยนั่นแหละเล่าให้ฉันฟัง ฉันคงจะเป็นที่โจทย์ขานในที่ทำงานของเขา
หลังจากวันนั้นสามีของฉันกลับบ้านตรงเวลาทุกวันเลยค่ะ เหมือนเขาอยากเล่าให้ฟังนะทว่าฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ เหมือนอยากเล่าว่าต้องไปนอนที่ไหน ตามหาตัวฉันที่ไหนบ้างอะไรประมาณนี้ แต่ฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้จึงปัดไปเรื่องอื่นเสมอ
อย่างวันนี้ฉันเดาว่าต้องกลับบ้านดึกแน่ ไม่แฮะ ! กลับบ้านตรงเวลาเฉย มีเลทนิดหน่อย ทั้งที่ฉันกะจะปล่อยหนึ่งวันเพราะเห็นงานเห็นอะไรของเขา แต่ฉันไม่ได้บอกเขาหรอกค่ะว่าอนุญาต ก็จะไม่พูดเช่นทุกวันนั่นแหละ ทว่าวันนี้ดันกลับบ้านเฉย ก็ดี ! จะดีได้สักกี่น้ำ ใครสนใจทำตามได้นะคะ
จบ…
*เห็นหัวข้อเชือดไม่เงียบ ! ว่าหนิแหมะ คนเขียนนี่มือก่ายหน้าผากเลย ก็ไม่รู้จะเขียนออกมาแบบไหน คิดพล็อตไม่ออกค่ะว่าจะเชือดไม่เงียบยังไง ก็เลยเขียนแบบนี้ พล็อตแบบนี้เลย พอไดนะคะ เชือดที่ไม่เงียบ แหแหแห^^*
ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง….เชือดไม่เงียบ…’เชือด เบา ๆ’
.
“ผมนั่งทับอุปกรณ์ไม่ได้นอนเลยครับจ่า”
ฉันดูรูปพวกขี้เหล้าพร้อมอ่านโพสต์ของสามีเบะปากให้ แต่ ก็ไม่กดถูกใจหรือคอมเม้นอะไรไปหรอก เพราะฉันรู้ หากฉันคอมเม้นอะไรไป พวกเพื่อน ๆ ของสามีมันจะกระโจนเข้ามารุมตอบเม้นฉันแทน ล้อบ้าง แซวบ้าง ฉันไม่ถือสาแต่ฉันเบื่อและรำคาญค่ะ โพสต์ไร้สาระแบบนี้ฉันไม่สนใจหรอก
นี่ก็เป็นวันที่สามแล้วสำหรับการทำตัวเถลไถลของเขา ฉันขี้เกียจจะบ่น บ่นไปก็เท่านั้น ทะเลาะกันเปล่า ๆ วันแรกผ่านไปก็ยังเหมือนเดิม วันที่สองผ่านไปก็ยังเหมือนเดิม และในวันนี้ ! นี่ก็จะสามทุ่มเข้าทุกที ยังไม่ยอมโผล่หัวกลับบ้านอีก
“จะกลับตอนไหน อย่าให้มันมากนะ สองวันติดแล้ว วันนี้ยังจะดื่มอีกเหรอ” ฉันฝากข้อความไว้ รู้ว่าสามีไม่อ่านแน่ ผิดคาด ! อ่านเฉยเลย
“จะเป็นคนดีแล้วเมีย ขออีกหนึ่งวันนะ ๆ นะครับ“ เขาตอบกลับมา ฉันถอนหายใจ ไม่ได้ใจดีอะไรขนาดนั้นนะ ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเข้าสิง แล้วฉันก็ตอบกลับไปดั่งพายุดีเปรสชั่นที่ถาโถมใส่
ใช่ค่ะ ฉันใส่ไม่ยั้งเลย ด้วยกาลเวลาที่ยาวนานในการอยู่ด้วยกัน คำพูดที่สวยหรูจึงไม่มี อืมม์ แต่ฉันไม่เคยพูดต่อหน้าผู้ใหญ่เลยสักครั้งนะคะ สัตว์ทุกชนิดมันหลั่งไหลลงไปในแชทของสามี สถานะขึ้นอ่านแล้ว ฉันก็สบายใจค่ะ ถึงไม่มีข้อความตอบกลับมาอย่างน้อย ๆ ฉันก็ไม่ได้พูดคนเดียวล่ะ
พอได้ระบายอารมณ์ พูดทุกอย่างที่อัดอั้นตันใจออกไปหมด ก็สบายใจดีค่ะ ฮัมเพลงแต่งตัวต่อไป ฉันไม่ได้จะแต่งตัวเข้านอนนะคะ แสยะยิ้ม ! นึกอะไรในสมองขึ้นมาได้ ภูมิใจในตัวเองยิ่งนักที่คิดแบบนี้ได้ กล้าคิดก็ต้องกล้าทำค่ะ เพราะมัวแต่คิดอย่างเดียวไม่กล้าทำมันจะได้ผลอะไร
ฉันกำลังจะเชือดไก่ให้ลิงดูสักครั้ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีปากมีเสียง ไม่เคยไปตามให้ขุ่นเคืองใจ ให้หม่นหมอง ให้อายเพื่อน วันนี้ล่ะจะได้คิดได้ว่ามีฉันคอยอยู่ที่บ้านบ้าง
“จะด่าอะไรนักหนา ขออีกวันนึงนะเมียจ๋า จะเป็นคนดีแล้ว” พอฉันทิ้งระยะห่างในการด่าไปสักพัก ข้อความก็ถูกตอบกลับมา เป็นข้อความของสามีตัวดีของฉันแหละค่ะ สงสัยจะเมาเพราะถ้าไม่เมาป่านนี้ต่อปากต่อคำกับฉันไปนานแล้ว แสดงว่าวันนี้เมามากถึงไม่เถียงกลับมา
“จะกลับไม่กลับ ! ถ้าไม่กลับภายในสามทุ่มนี้ก็ไม่ต้องกลับมา เพราะถ้ามืงกลับมาก็ไม่ได้เข้าบ้านอยู่ดี” ฉันตอบไปเท่านี้ อารมณ์ขุ่นมัวหายไปจนหมดสิ้น มองหน้าจอโทรศัพท์และยิ้มให้ เดี๋ยวได้รู้กัน
“กลับ ๆ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอต่ออีกห้าทุ่มได้ปะ” สามีฉันต่อรอง ฉันหยักไหล่แล้วแต่เลย จะกลับตอนไหนก็ตามใจ ไหน ๆ ก็ไม่ยอมกลับมาตามคำสั่งแล้วหนิ จะกลับตอนไหนก็ตามใจ แต่ฉันจะไม่อยู่บ้านหรอกนะ กลับมาไม่เจอฉันแน่นอน อย่าว่ากันล่ะ นึกในใจคนเดียว
ฉันรีบแต่งตัวให้เสร็จเพื่อที่จะออกไปซื้อแม่กุญแจชุดใหม่ค่ะ ฉันจะเปลี่ยนกุญแจใหม่ทุกดอกของบ้าน ยกเว้นลูกบิดเท่านั้นแหละที่ยังเปลี่ยนตอนนี้ไม่ได้ อ่อประตูบ้านของฉันใส่กุญแจคล้องก็ได้นี่นา แสยะยิ้มแบบคนอารมณ์ดีอีกครั้ง ฮัมเพลงตามน้องกลับสารคามและจดหมายผิดซองอย่างสบายใจ คราวนี้แหละ ได้ร้องไห้แน่ เลิกเป็นเลิก !
แต่งตัวเสร็จฉันบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเร็ว หาซื้อพวกกุญแจค่ะ จะใช้ล็อกตรงไหนซื้อมาให้ครบ พูดมาถึงตรงนี้พวกคุณคงจะนึกออกแล้วใช่มั้ยคะว่าฉันกำลังจะทำอะไร ฮา ใช่แล้ว ! ทำอย่างที่พวกคุณคิดนั่นแหละ มันต้องสั่งสอนสักครั้งถึงจะจำ
พอได้กุญแจชุดใหม่มาฉันจัดการเปลี่ยนใหม่ทุกดอกค่ะ กุญแจประตู้รั้ว กุญแจประตูบ้าน เอาแค่นี้พอค่ะ มีปัญญาเข้าบ้านก็เชิญ ส่วนฉันเหรอไปนอนบ้านพี่ชายสิคะ ฉันรู้ว่าสามีตัวดีของฉันมันจะไม่กล้าหือแน่นอน ฉันยืนมองผลงานของตนเองอย่างภาคภูมิใจ คนอะไรเก่งจังคิดได้ยังไง ฮา
“โตแล้วคิดไม่ได้ก็ไม่ต้องคิด เบื่อ ! ” ฉันโพสต์ทิ้งไว้ ก่อนจะขับรถไปค้างที่บ้านพี่ชาย ทุกคนฉันคิดลึกกว่านั้นอีกค่ะ ถ้าเรื่องนี้มันบานปลายนะ ฉันพร้อมแยกทาง อันที่จริงก็สะสมมานานแล้วเหมือนกัน
“คิดได้คร๊าบแต่ขออีกหนึ่งวันได้ปะ นะ ๆ พรุ่งนี้และต่อ ๆ ไปจะไม่แล้ว เค้าขออีกหนึ่งวันนะ พอดีพี่ย้ายมาอ่ะ ต้อนรับหน่อย” ดูสิยังมีหน้ามาตอบเยาะเย้ยไปอีก ไม่รู้เลยหรือไงว่ามีคนรอ
“เตือนแล้วนะว่าเลยสามทุ่มไปเมื่อไหร่ถ้ายังไม่กลับมาจะไม่ได้เข้าบ้าน !” ฉันก็ยังมีใจตอบกลับไปอีก กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่พูดแบบนี้ แบบที่พูดว่าจะไม่แล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทุกคนคิดว่าฉันจะเชื่อมันเหรอ ฉันไม่เชื่อมัน เอ้ย เขาหรอกค่ะ บางครั้งก็คิดน้อยใจนะคะว่าขนาดบางคนที่เขาไม่มีครอบครัวเขายังคิดได้ แต่นี่ ! อะไรก็ไม่รู้ ทำเหมือนโสด ทำเหมือนไม่มีคนคอย
และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอยสักที เวลาแห่งความสนุกมาถึงแล้วสิ ทุกคนเที่ยงคืนมัน เอ้ย ! เผลอปากบ่อยแล้วนะเราหนิ สามีของฉันโทรมาค่ะ ฮา ฉันยิ้มกริ่มเข้าบ้านไม่ได้สิท่า น้อยใจนิด ๆ นะที่บอกว่าจะกลับห้าทุ่มแต่ตอนนี้เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งละพึ่งจะโทรมา ฉันรู้ว่าเขาเข้าบ้านไม่ได้ ถึงได้โทรมาถี่ ๆ ขนาดนี้
กี่สายต่อกี่สายที่สามีของฉันโทรเข้า ฉันก็ไม่ยอมรับค่ะ ไม่รับหรอกทีตอนฉันโทรไปยังไม่รับเลย เรื่องอะไรจะรับ หึหึ ปิดเสียงเอาไว้ ไม่อยากปิดเครื่องค่ะ อยากเห็นความทุรนทุรายของเขาบ้างที่โดนเชือดเบา ๆ ป่านนี้คงแหกปากลั่นบ้านแล้วมั้ง แหกไปเลยให้เพื่อนบ้านเอาปืนมายิงทิ้งไปเลย สะใจพิลึก ! นี่ฉันบ้าไปแล้วใช่มั้ยคะ ที่สะใจเห็นสามีเข้าบ้านไม่ได้
“อี่อ้วน ! นี่มืงเล่นเปลี่ยนกุญแจบ้านเลยรึ !” เขาไลน์มาฉันอ่านแต่ไม่ตอบ อยู่ที่ไหน อะไรยังไงเขาแชทมาถามฉันค่ะ แต่ฉันไม่ตอบ ปล่อยให้ดิ้นพล่านไปเถอะ ให้รู้ซะบ้างว่าฉันก็เอาจริงเหมือนกัน ฉันไม่สนใจว่าคืนนี้เขาจะเป็นยังไง นอนที่ไหน ก็แล้วแต่เลย แต่ถ้าพรุ่งนี้มีปัญหามากก็พร้อมแยกเดิน
เช้าวันต่อมา
“เธอ… “ เสียงใครคนหนึ่งเรียกฉัน ฉันตื่นเช้าออกมาสูดอากาศหน้าบ้านพี่ชาย ใครคนหนึ่งเรียกฉัน คนที่คุ้นตาอยู่ในชุดเดิมเมื่อวานนี้
ฉันรู้ว่าเขาต้องตามมาที่นี่ ไม่หรอก คงจะตามหาทุกที่ ๆ คิดว่าฉันจะไป ที่เขาเลือกบ้านพี่ชายฉันเป็นที่สุดท้าย เพราะอะไรคงไม่ต้องให้ฉันพูด เพราะเกรงใจแหละค่ะ ฉันเตรียมกุญแจชุดของเขาไว้แล้ว พอฉันเห็นเขายืนอยู่ถนนนอกรั้วบ้าน ฉันเขวี้ยงกุญแจให้ทันที แล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน
“เธอเดี๋ยวก่อน ! ทำไมเปลี่ยนกุญแจบ้านอ่ะ ทำไมไม่บอกกันสักคำว่าอยู่ที่นี่” ฉันหยุดทว่าไม่ยอมหันหน้าไปตอบเขา โกรธนะคะไม่ใช่ไม่โกรธ ฉันทำท่าจะเดินเข้าบ้านต่อเมื่อฟังจบ “กลับบ้านเรากัน”
ฉันหันกลับไปมอง มองใบหน้าที่คุ้นเคย “กลับไปก่อนเลย เดี๋ยวตอนเย็นกลับเอง” ฉันตอบเสียงเรียบ ใครจะไปกล้ากลับตอนนี้ล่ะคุณ เผื่อมันโมโหอยู่ทำไง อย่างน้อยตอนเย็นอารมณ์คงจะเย็นลงบ้างแล้วล่ะ
“ก็ได้… ตอนเย็นกลับบ้านเรานะ”
“อือ “ แล้วสามีของฉันก็กลับบ้านไป
เรื่องของฉันก็มีเท่านี้แหละค่ะ เชือดไม่เงียบ ! มันจะเงียบได้ยังไงละคะ คืนนั้นมันแหกปากโวยวายทั้งคืนที่ฉันล็อกบ้าน แถมยังเล่นเปลี่ยนกุญใหม่ด้วย หึ ให้มันรู้ฤทธิ์แม่ซะบ้าง ใครเป็นใคร ไผเป็นไผน่ะ ที่ฉันรู้ว่าดิ้นเพราะโทรมาถี่ ๆ นี่แหละค่ะ และเพื่อนของเขาที่ตามมาด้วยนั่นแหละเล่าให้ฉันฟัง ฉันคงจะเป็นที่โจทย์ขานในที่ทำงานของเขา
หลังจากวันนั้นสามีของฉันกลับบ้านตรงเวลาทุกวันเลยค่ะ เหมือนเขาอยากเล่าให้ฟังนะทว่าฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ เหมือนอยากเล่าว่าต้องไปนอนที่ไหน ตามหาตัวฉันที่ไหนบ้างอะไรประมาณนี้ แต่ฉันไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้จึงปัดไปเรื่องอื่นเสมอ
อย่างวันนี้ฉันเดาว่าต้องกลับบ้านดึกแน่ ไม่แฮะ ! กลับบ้านตรงเวลาเฉย มีเลทนิดหน่อย ทั้งที่ฉันกะจะปล่อยหนึ่งวันเพราะเห็นงานเห็นอะไรของเขา แต่ฉันไม่ได้บอกเขาหรอกค่ะว่าอนุญาต ก็จะไม่พูดเช่นทุกวันนั่นแหละ ทว่าวันนี้ดันกลับบ้านเฉย ก็ดี ! จะดีได้สักกี่น้ำ ใครสนใจทำตามได้นะคะ
จบ…
*เห็นหัวข้อเชือดไม่เงียบ ! ว่าหนิแหมะ คนเขียนนี่มือก่ายหน้าผากเลย ก็ไม่รู้จะเขียนออกมาแบบไหน คิดพล็อตไม่ออกค่ะว่าจะเชือดไม่เงียบยังไง ก็เลยเขียนแบบนี้ พล็อตแบบนี้เลย พอไดนะคะ เชือดที่ไม่เงียบ แหแหแห^^*