"หมอธีระวัฒน์" โพสต์เดือด "วัคซีน"ไม่มีก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่แก้ข่าวไปวันๆ
https://www.komchadluek.net/news/regional/470346
"หมอธีระวัฒน์" โพสต์เดือด "วัคซีน"ไม่มีก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่แก้ข่าวไปวันๆ
เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เรื่องของการจัดสรรวัคซีนที่ไม่เพียงพอ จนก่อให้เกิดการเลื่อนนัดในหลายๆ รพ.เอกชน ที่ออกมาประกาศเลื่อนนัดออกไปก่อน เพราะยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเข้ามา เล่นเอาประชาชนที่ลงทะเบียนไปแล้วถึงกับต้องผิดหวังไปตามๆกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว กทม.พบการระบาดจากการติดเชื้อโควิดมากที่สุด ทำให้มีการจัดสรรวัคซีนให้จำนวนมากกว่าจังหวัดอื่น
ซึ่งจากข้อมูลการจัดสรรวัคซีนพบว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ มีกำหนดการจัดสรรวัคซีนอยู่ที่ 1 ล้านโดส ได้จัดสรรไปแล้วประมาณ 5 แสนโดส แบ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 3.5 แสนโดส ซิโนแวค 1.5 แสนโดส จนกระทั่ง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเผยว่า
"ประเด็นที่มีการสื่อสารในสังคมออนไลน์ของโรงพยาบาลในพื้นที่กทม. ที่ระบุว่าเลื่อนฉีดวัคซีนต้องไปสอบถามทาง กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นผู้บริหารจัดการวัคซีนโดยตรง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจัดสรรให้ตาม ศบค. ทุกอย่างเป็นไปตามกฎกติกาแล้ว ส่วนในเรื่องการบริหารของแต่ละพื้นที่ ต้องอยู่ที่พื้นที่เป็นผู้สื่อสาร"
ล่าสุด ทาง กทม.ก็ไม่รอช้า ที่จะออกมาชี้แจ้งถึงเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกันว่า
จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าได้ให้วัคซีนกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาแล้ว 1 ล้านโดส ตามแผน เดือน มิ.ย. 64 นั้น กรุงเทพมหานครขอให้ข้อมูลดังนี้ โดย ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข กทม. ได้รับการแจ้งว่าจะได้รับการจัดสรร AstraZeneca 2.5 ล้านโดส ซึ่งให้กทม.ไปทำแผนการฉีดให้สอดคล้อง และสำหรับวัคซีนที่ใช้ในวันที่ 7-14 มิ.ย 64 กทม.ได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 350,000 โดส Sinovac 150,000 โดส กทม.ยืนยันว่า กทม.พร้อม สถานที่พร้อม บุคลากรพร้อม และหาก "วัคซีนพร้อม" ตามแผน กทม.พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที
ทั้งนี้"หมอธีระวัฒน์" เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า
จะบอกตั้งแต่แรกว่า ไม่มีก็ไม่มี ก็ไม่ว่า อธิบายชัดๆไปเลย มีเท่าไหร่ จะฉีดใคร คนเสี่ยงสูงก็ไม่ได้ฉีด สลับไปสลับมา รพ. ได้มา ไม่มากเข็ม จะให้ฉีดทั้งๆที่ ประกาศไปแลัวว่า มีเป็นพันๆ เป็นหมื่นเข็ม รพ. ก็ต้องเลิก อย่าลืมว่า การเตรียมการฉีดของแต่ละแห่ง ใช้การเตรียมการ สถานที่ บุคลากรเท่าไร ต้องดึงจากคนทำงานประจำเท่าใด? ถูกด่าอีกต่างหาก ไม่มี ก็ไม่มี ประชาชนรับได้ครับ ไม่ใช่ ว่ามีๆๆๆๆ แต่แก้ข่าวเป็นวัน จะเอาอย่างไรก็เอา อย่าลืม ฉีดช้า สาย เดลต้า อินเดีย เบต้า แอฟริกา มีในไทยแล้ว อย่าปฎิเสธว่ามีแต่หลักสี่ มีแต่ตากใบ เมื่อมีในชุมชน แม้แต่คนเดียว หมายความว่าแพร่ไปหมดแล้ว
https://www.facebook.com/thiravat.h/posts/4589572994409552
แพทย์ชนบท ชี้เรือใกล้แตก โยนกันเอาตัวรอด วัคซีนไม่พอ สธ.ไม่เกี่ยว นายกฯ รับผิดชอบเต็มๆ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6450974
ชมรมแพทย์ชนบท ชี้เรือใกล้แตก โยนกันเอาตัวรอด วัคซีนไม่พอ สธ.ไม่เกี่ยว จัดสรรตาม ศบค. นายกฯ ในฐานะประธาน ศบค. ต้องรับผิดชอบเต็มๆ
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2564
ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ถึงปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอในขณะนี้ว่า
ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 11 : 13-06-64 โกลาหลวัคซีนกรุงเทพไม่พอ คนรับผิดชอบไม่ใช่ สธ.นะ ดูเหมือนวัน 14 มิถุนายนนี้ การฉีดวัคซีนโควิดในพื้นที่กรุงเทพจะโกลาหลที่สุด มีการประกาศเลื่อนการฉีดเพราะไม่มีการส่งวัคซีนมาให้ จนมีการประกาศออกสื่อจากโรงพยาบาลหนึ่งให้ไปสอบถามจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะมีการแก้ไขให้สุภาพขึ้น ในความเป็นจริง ก็ต้องบอกว่า การจัดสรรวัคซีนใน กทม. ไม่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข
การจัดสรรวัคซีนในขณะนี้ เป็นหน้าที่ ศบค.คือนายกประยุทธ และเลขา สมช.มานานแล้ว ตั้งแต่ที่นายกแต่งตั้งเองเป็นประธาน ศบค. ดังนั้นการตัดสินใจสุดท้ายว่าจะจัดสรรอย่างไร จะจัดแบ่งโควตากันอย่างไร สธ.ไม่ใช่คนตัดสินใจ เมื่อ ศบค.ตัดสินใจแล้ว ก็สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ให้จัดส่งวัคซีนกระจายต่อไปโรงพยาบาลต่างๆ ตามโผ
ในส่วนของ กทม. คนที่จัดสรรโควตาให้ กทม.ก็คือ ศบค.อีกเช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขยิ่งไม่เกี่ยว เป็นเรื่องภายในของ ศบค. และ กทม. รวมถึงโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ที่ตั้งใน กทม. ต้องหารือกันเองว่าจะกระจายอย่างไร และตามยอดจัดสรรรอบที่แล้ว ศบค.มีมติจัดวัคซีนมิถุนายนให้ กทม. 1 ล้านโดส ซึ่ง สธ.ก็ส่งให้ 5 แสนโดสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จึงได้ฉีดกันอย่างกว้างขวางมีความสุขในพื้นที่กรุงเทพ (ซึ่งปัจจุบันคงฉีดจนใกล้จะหมดแล้ว ส่วนอีก 5 แสนโดสยังต้องรอเพราะยังไม่มีวัคซีนจะให้)
นี่คือสารที่ รมต.อนุทิน ได้สื่อสารในวันนี้มายังผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขและสาธารณชน เพื่อความเข้าใจร่วมกัน จริงๆ ก็เป็นเช่นนั้น จากการประชุมศบค. นัดพิเศษเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา นายกประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค. ได้นัดประชุมนัดพิเศษเพื่อให้หน่วยงานต่างๆที่เชื่อมโยงกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เข้ามาหารืออย่างเร่งด่วน และมีมติ ตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 กรุงเทพฯและปริมณฑล” โดยมีตัวนายกรัฐมนตรี รวบอำนาจมานั่งผอ.ศูนย์ฯเสียเอง โดยไม่มีชื่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งในทีมเลย ไม่มีแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการ
อันนี้จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับ รมต.อนุทินด้วย เพราะ นายกประยุทธ์ได้อาศัยอำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน แต่งตั้งตนเองเป็นผู้บัญชาควบคุมโควิดใน กทม.ไปแล้ว ดังนั้นความโกลาหลจากการขาดแคลนวัคซีนในกรุงเทพ หรือการกระจายวัคซีนในกรุงเทพ ที่ไม่ตรงกลุ่มที่ควรจะได้ เช่นไทยร่วมใจมาแรงแซงคิวผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังนั้น ก็ต้องไปวิพากษ์ให้ถูกคน นั่นคือ วิพากษ์นายกประยุทธ์นั่นเอง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของ รมต.อนุทิน
ในยามที่เรือใกล้แตก การเอาตัวรอดก็ย่อมปรากฏ เรื่องอะไรจะปล่อยให้โดนรุมสกรัมผิดคน วัคซีนกรุงเทพไม่พอ กระทรวงสาธารณสุขไม่เกี่ยวนะ คนที่ต้องรับผิดชอบคือนายกประยุทธ์เต็มๆ กรุณาวิพากษ์วิจารณ์หรือนินทาให้ถูกคนด้วย นั่นคือบทสรุปของปรากฏการณ์ในครั้งนี้
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4731177216909398&id=142436575783508
ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้!หนุ่มท้อชีวิต เศรษฐกิจแย่ทิ้งจม.ลาโลก
https://www.dailynews.co.th/regional/849615
หนุ่มบุรีรัมย์ผูกคอเสียชีวิตคาต้นไม้หลังบ้าน ทิ้งจดหมายลาตายตัดพ้อเศรษฐกิจตกต่ำ ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้!!
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.
ธนดร ภักษารัมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตจึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด อ.สตึก และแพทย์เวร รพ.สตึก เข้าร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 12 หมู่บ้านวรานนท์ ต.นิคม อ.สตึก พบศพ นาย
วิโรจน์ ปราบมาลัย อายุ 40 ปี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอติดกับกิ่งต้นมะม่วงสูงจากพื้นประมาณ 2.5 เมตร หน่วยกู้ภัยจึงนำร่างวางลงพื้นตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงถังน้ำสีดำคว่ำอยู่ซึ่งผู้ตายน่าจะนำมายืนก่อนผูกคอ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชม.
จากการตรวจสอบพบจดหมายลาตาย 3 ฉบับ อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขียนด้วยข้อความตัดพ้อเรื่องหนี้สินและสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ระบุ แล้วจะอยู่ไปทำไม ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้ พร้อมฝากขอโทษทุกคนที่ตัดสินใจทำแบบนี้
พ่อผู้ตาย เล่าว่า ตนมีอาชีพทำลูกชิ้นขาย ในครอบครัวอยู่อาศัยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก โดยลูกชายที่เสียชีวิตจะเป็นคนเอาลูกชิ้นไปขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึกเป็นประจำทุกวัน ถือว่าเป็นเสาหลักหารายได้มาจุนเจือครอบครัวเพราะพ่อแม่มีอายุมากแล้ว ช่วงเช้าวันนี้ได้เปิดประตูห้องนอนจะปลุกลูกชาย แต่ปรากฏว่า ไม่เห็นลูก เห็นเพียงโทรศัพท์มือถือวางอยู่จึงเดินตามหาบริเวณหลังบ้าน เห็นลูกอยู่ไกลๆ คิดว่า ยืนปัสสาวะอยู่ แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้พบว่าเท้าลอยจากพื้นดินจึงเรียกญาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนสาเหตุตอนแรกคิดว่า ลูกอาจจะคิดมากหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาได้ 3 วัน เพราะบ่นว่าปวดหัว แต่เมื่อมาเห็นจดหมายจึงรู้สาเหตุที่ทำลงไปเพราะปัญหาเศรษฐกิจ จริงๆ แล้วครอบครัวพออยู่ได้ แต่อาจจะไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้มาก่อนว่าลูกจะคิดมากจึงตัดสินใจจบชีวิตแบบนี้
JJNY : 4in1 "หมอธีระวัฒน์"โพสต์เดือด│แพทย์ชนบท ชี้เรือใกล้แตก│หนุ่มท้อ ศก.แย่ ทิ้งจม.ลาโลก│บุรีรัมย์ร้านปักชื่อน.ร.เงียบ
https://www.komchadluek.net/news/regional/470346
"หมอธีระวัฒน์" โพสต์เดือด "วัคซีน"ไม่มีก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่แก้ข่าวไปวันๆ
เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับประเทศเลยก็ว่าได้ เรื่องของการจัดสรรวัคซีนที่ไม่เพียงพอ จนก่อให้เกิดการเลื่อนนัดในหลายๆ รพ.เอกชน ที่ออกมาประกาศเลื่อนนัดออกไปก่อน เพราะยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเข้ามา เล่นเอาประชาชนที่ลงทะเบียนไปแล้วถึงกับต้องผิดหวังไปตามๆกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว กทม.พบการระบาดจากการติดเชื้อโควิดมากที่สุด ทำให้มีการจัดสรรวัคซีนให้จำนวนมากกว่าจังหวัดอื่น
ซึ่งจากข้อมูลการจัดสรรวัคซีนพบว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ มีกำหนดการจัดสรรวัคซีนอยู่ที่ 1 ล้านโดส ได้จัดสรรไปแล้วประมาณ 5 แสนโดส แบ่งเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 3.5 แสนโดส ซิโนแวค 1.5 แสนโดส จนกระทั่ง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเผยว่า
"ประเด็นที่มีการสื่อสารในสังคมออนไลน์ของโรงพยาบาลในพื้นที่กทม. ที่ระบุว่าเลื่อนฉีดวัคซีนต้องไปสอบถามทาง กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นผู้บริหารจัดการวัคซีนโดยตรง ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจัดสรรให้ตาม ศบค. ทุกอย่างเป็นไปตามกฎกติกาแล้ว ส่วนในเรื่องการบริหารของแต่ละพื้นที่ ต้องอยู่ที่พื้นที่เป็นผู้สื่อสาร"
ล่าสุด ทาง กทม.ก็ไม่รอช้า ที่จะออกมาชี้แจ้งถึงเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกันว่า จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าได้ให้วัคซีนกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาแล้ว 1 ล้านโดส ตามแผน เดือน มิ.ย. 64 นั้น กรุงเทพมหานครขอให้ข้อมูลดังนี้ โดย ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข กทม. ได้รับการแจ้งว่าจะได้รับการจัดสรร AstraZeneca 2.5 ล้านโดส ซึ่งให้กทม.ไปทำแผนการฉีดให้สอดคล้อง และสำหรับวัคซีนที่ใช้ในวันที่ 7-14 มิ.ย 64 กทม.ได้รับวัคซีน AstraZeneca จำนวน 350,000 โดส Sinovac 150,000 โดส กทม.ยืนยันว่า กทม.พร้อม สถานที่พร้อม บุคลากรพร้อม และหาก "วัคซีนพร้อม" ตามแผน กทม.พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที
ทั้งนี้"หมอธีระวัฒน์" เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า
จะบอกตั้งแต่แรกว่า ไม่มีก็ไม่มี ก็ไม่ว่า อธิบายชัดๆไปเลย มีเท่าไหร่ จะฉีดใคร คนเสี่ยงสูงก็ไม่ได้ฉีด สลับไปสลับมา รพ. ได้มา ไม่มากเข็ม จะให้ฉีดทั้งๆที่ ประกาศไปแลัวว่า มีเป็นพันๆ เป็นหมื่นเข็ม รพ. ก็ต้องเลิก อย่าลืมว่า การเตรียมการฉีดของแต่ละแห่ง ใช้การเตรียมการ สถานที่ บุคลากรเท่าไร ต้องดึงจากคนทำงานประจำเท่าใด? ถูกด่าอีกต่างหาก ไม่มี ก็ไม่มี ประชาชนรับได้ครับ ไม่ใช่ ว่ามีๆๆๆๆ แต่แก้ข่าวเป็นวัน จะเอาอย่างไรก็เอา อย่าลืม ฉีดช้า สาย เดลต้า อินเดีย เบต้า แอฟริกา มีในไทยแล้ว อย่าปฎิเสธว่ามีแต่หลักสี่ มีแต่ตากใบ เมื่อมีในชุมชน แม้แต่คนเดียว หมายความว่าแพร่ไปหมดแล้ว
https://www.facebook.com/thiravat.h/posts/4589572994409552
แพทย์ชนบท ชี้เรือใกล้แตก โยนกันเอาตัวรอด วัคซีนไม่พอ สธ.ไม่เกี่ยว นายกฯ รับผิดชอบเต็มๆ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6450974
ชมรมแพทย์ชนบท ชี้เรือใกล้แตก โยนกันเอาตัวรอด วัคซีนไม่พอ สธ.ไม่เกี่ยว จัดสรรตาม ศบค. นายกฯ ในฐานะประธาน ศบค. ต้องรับผิดชอบเต็มๆ
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2564 ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ถึงปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอในขณะนี้ว่า
ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 11 : 13-06-64 โกลาหลวัคซีนกรุงเทพไม่พอ คนรับผิดชอบไม่ใช่ สธ.นะ ดูเหมือนวัน 14 มิถุนายนนี้ การฉีดวัคซีนโควิดในพื้นที่กรุงเทพจะโกลาหลที่สุด มีการประกาศเลื่อนการฉีดเพราะไม่มีการส่งวัคซีนมาให้ จนมีการประกาศออกสื่อจากโรงพยาบาลหนึ่งให้ไปสอบถามจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนจะมีการแก้ไขให้สุภาพขึ้น ในความเป็นจริง ก็ต้องบอกว่า การจัดสรรวัคซีนใน กทม. ไม่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข
การจัดสรรวัคซีนในขณะนี้ เป็นหน้าที่ ศบค.คือนายกประยุทธ และเลขา สมช.มานานแล้ว ตั้งแต่ที่นายกแต่งตั้งเองเป็นประธาน ศบค. ดังนั้นการตัดสินใจสุดท้ายว่าจะจัดสรรอย่างไร จะจัดแบ่งโควตากันอย่างไร สธ.ไม่ใช่คนตัดสินใจ เมื่อ ศบค.ตัดสินใจแล้ว ก็สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ให้จัดส่งวัคซีนกระจายต่อไปโรงพยาบาลต่างๆ ตามโผ
ในส่วนของ กทม. คนที่จัดสรรโควตาให้ กทม.ก็คือ ศบค.อีกเช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขยิ่งไม่เกี่ยว เป็นเรื่องภายในของ ศบค. และ กทม. รวมถึงโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ที่ตั้งใน กทม. ต้องหารือกันเองว่าจะกระจายอย่างไร และตามยอดจัดสรรรอบที่แล้ว ศบค.มีมติจัดวัคซีนมิถุนายนให้ กทม. 1 ล้านโดส ซึ่ง สธ.ก็ส่งให้ 5 แสนโดสตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จึงได้ฉีดกันอย่างกว้างขวางมีความสุขในพื้นที่กรุงเทพ (ซึ่งปัจจุบันคงฉีดจนใกล้จะหมดแล้ว ส่วนอีก 5 แสนโดสยังต้องรอเพราะยังไม่มีวัคซีนจะให้)
นี่คือสารที่ รมต.อนุทิน ได้สื่อสารในวันนี้มายังผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขและสาธารณชน เพื่อความเข้าใจร่วมกัน จริงๆ ก็เป็นเช่นนั้น จากการประชุมศบค. นัดพิเศษเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา นายกประยุทธ์ ในฐานะผอ.ศบค. ได้นัดประชุมนัดพิเศษเพื่อให้หน่วยงานต่างๆที่เชื่อมโยงกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เข้ามาหารืออย่างเร่งด่วน และมีมติ ตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 กรุงเทพฯและปริมณฑล” โดยมีตัวนายกรัฐมนตรี รวบอำนาจมานั่งผอ.ศูนย์ฯเสียเอง โดยไม่มีชื่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งในทีมเลย ไม่มีแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรรมการ
อันนี้จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับ รมต.อนุทินด้วย เพราะ นายกประยุทธ์ได้อาศัยอำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน แต่งตั้งตนเองเป็นผู้บัญชาควบคุมโควิดใน กทม.ไปแล้ว ดังนั้นความโกลาหลจากการขาดแคลนวัคซีนในกรุงเทพ หรือการกระจายวัคซีนในกรุงเทพ ที่ไม่ตรงกลุ่มที่ควรจะได้ เช่นไทยร่วมใจมาแรงแซงคิวผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังนั้น ก็ต้องไปวิพากษ์ให้ถูกคน นั่นคือ วิพากษ์นายกประยุทธ์นั่นเอง ไม่ใช่ความรับผิดชอบของ รมต.อนุทิน
ในยามที่เรือใกล้แตก การเอาตัวรอดก็ย่อมปรากฏ เรื่องอะไรจะปล่อยให้โดนรุมสกรัมผิดคน วัคซีนกรุงเทพไม่พอ กระทรวงสาธารณสุขไม่เกี่ยวนะ คนที่ต้องรับผิดชอบคือนายกประยุทธ์เต็มๆ กรุณาวิพากษ์วิจารณ์หรือนินทาให้ถูกคนด้วย นั่นคือบทสรุปของปรากฏการณ์ในครั้งนี้
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4731177216909398&id=142436575783508
ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้!หนุ่มท้อชีวิต เศรษฐกิจแย่ทิ้งจม.ลาโลก
https://www.dailynews.co.th/regional/849615
หนุ่มบุรีรัมย์ผูกคอเสียชีวิตคาต้นไม้หลังบ้าน ทิ้งจดหมายลาตายตัดพ้อเศรษฐกิจตกต่ำ ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้!!
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.ธนดร ภักษารัมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตจึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด อ.สตึก และแพทย์เวร รพ.สตึก เข้าร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 12 หมู่บ้านวรานนท์ ต.นิคม อ.สตึก พบศพ นายวิโรจน์ ปราบมาลัย อายุ 40 ปี ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอติดกับกิ่งต้นมะม่วงสูงจากพื้นประมาณ 2.5 เมตร หน่วยกู้ภัยจึงนำร่างวางลงพื้นตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงถังน้ำสีดำคว่ำอยู่ซึ่งผู้ตายน่าจะนำมายืนก่อนผูกคอ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชม.
จากการตรวจสอบพบจดหมายลาตาย 3 ฉบับ อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขียนด้วยข้อความตัดพ้อเรื่องหนี้สินและสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ระบุ แล้วจะอยู่ไปทำไม ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้ พร้อมฝากขอโทษทุกคนที่ตัดสินใจทำแบบนี้
พ่อผู้ตาย เล่าว่า ตนมีอาชีพทำลูกชิ้นขาย ในครอบครัวอยู่อาศัยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก โดยลูกชายที่เสียชีวิตจะเป็นคนเอาลูกชิ้นไปขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึกเป็นประจำทุกวัน ถือว่าเป็นเสาหลักหารายได้มาจุนเจือครอบครัวเพราะพ่อแม่มีอายุมากแล้ว ช่วงเช้าวันนี้ได้เปิดประตูห้องนอนจะปลุกลูกชาย แต่ปรากฏว่า ไม่เห็นลูก เห็นเพียงโทรศัพท์มือถือวางอยู่จึงเดินตามหาบริเวณหลังบ้าน เห็นลูกอยู่ไกลๆ คิดว่า ยืนปัสสาวะอยู่ แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้พบว่าเท้าลอยจากพื้นดินจึงเรียกญาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
ส่วนสาเหตุตอนแรกคิดว่า ลูกอาจจะคิดมากหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาได้ 3 วัน เพราะบ่นว่าปวดหัว แต่เมื่อมาเห็นจดหมายจึงรู้สาเหตุที่ทำลงไปเพราะปัญหาเศรษฐกิจ จริงๆ แล้วครอบครัวพออยู่ได้ แต่อาจจะไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้มาก่อนว่าลูกจะคิดมากจึงตัดสินใจจบชีวิตแบบนี้