สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
...[๑๒๙] สมัยนั้น ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกสะพรั่งนอกฤดูกาล ดอกไม้
เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอก
มณฑารพอันเป็นของทิพย์ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของ
ทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยัง
พระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อ
บูชาพระตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ฯ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า ดูกรอานนท์
ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของ
ตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอก
มณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่ง
จันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ใน
อากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต
ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม
ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก
หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตาม
ธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด
เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ...
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
**********************
การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ก็คือ การเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อกำหนดรู้ทุกข์*
* - เพื่อรู้ว่าสิ่งทั้งปวงเป็นเช่นนั้นเอง กล่าวคือ ไม่เที่ยงแท้ยั่งยืน ไม่อาจยึดถือว่าเป็นตน ของตน หรือตัวตนโดยแท้ได้เลย
- เมื่อกำหนดรู้สิ่งที่ควรกำหนดรู้โดยชอบแล้วดังนี้ ก็เป็นอันว่าได้ละสิ่งที่ควรละแล้ว กล่าวคือ
ย่อมละตัณหาอุปาทาน อันเป็นเหตุของการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะอันเป็นทุกข์เสียได้
- เมื่อกำหนดรู้ในสิ่งที่ควรกำหนดรู้ ละในสิ่งที่ควรละแล้วดังนี้ ก็สามารถทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งได้ กล่าวคือ
ย่อมรู้แจ้ง ธรรมที่สงบ ประณีต เป็นธรรมที่หลุดพ้นจากการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ตลอดจนทุกข์โศกโรคภัยทั้งปวง
- เมื่อกำหนดรู้ในสิ่งที่ควรกำหนดรู้ ละในสิ่งที่ควรละแล้ว เมื่อนั้นก็เป็นอันได้เจริญให้มากซึ่งสิ่งที่ควรเจริญแล้ว
กล่าวคือ ได้เจริญให้มากซึ่งอริยมรรคมีองค์ 8 คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สัมมาสติ และ สัมมาสมาธิ แล้ว
เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอก
มณฑารพอันเป็นของทิพย์ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของ
ทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยัง
พระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อ
บูชาพระตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ฯ
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า ดูกรอานนท์
ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของ
ตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอก
มณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่ง
จันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ใน
อากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต
ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม
ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก
หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตาม
ธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด
เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ...
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
**********************
การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ก็คือ การเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อกำหนดรู้ทุกข์*
* - เพื่อรู้ว่าสิ่งทั้งปวงเป็นเช่นนั้นเอง กล่าวคือ ไม่เที่ยงแท้ยั่งยืน ไม่อาจยึดถือว่าเป็นตน ของตน หรือตัวตนโดยแท้ได้เลย
- เมื่อกำหนดรู้สิ่งที่ควรกำหนดรู้โดยชอบแล้วดังนี้ ก็เป็นอันว่าได้ละสิ่งที่ควรละแล้ว กล่าวคือ
ย่อมละตัณหาอุปาทาน อันเป็นเหตุของการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะอันเป็นทุกข์เสียได้
- เมื่อกำหนดรู้ในสิ่งที่ควรกำหนดรู้ ละในสิ่งที่ควรละแล้วดังนี้ ก็สามารถทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งได้ กล่าวคือ
ย่อมรู้แจ้ง ธรรมที่สงบ ประณีต เป็นธรรมที่หลุดพ้นจากการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ตลอดจนทุกข์โศกโรคภัยทั้งปวง
- เมื่อกำหนดรู้ในสิ่งที่ควรกำหนดรู้ ละในสิ่งที่ควรละแล้ว เมื่อนั้นก็เป็นอันได้เจริญให้มากซึ่งสิ่งที่ควรเจริญแล้ว
กล่าวคือ ได้เจริญให้มากซึ่งอริยมรรคมีองค์ 8 คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สัมมาสติ และ สัมมาสมาธิ แล้ว
แสดงความคิดเห็น
ศาสนาพุทธขอบคุณพระพุทธเจ้ายังไง