ฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี TT

ฉันเคยคบกับผู้ชายคนหนึ่งได้ 2 ปี  เขานอกใจมาตลอดในช่วงเวลาที่คบกัน
จนฉันไม่ไหว และตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ เขาไม่ยอมเลิก ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายฉัน
ฉันทำงานห่างบ้าน ไม่มีญาติพี่น้อง ฉันกลัวเขามาก ฉันจึงตัดสินใจทำเรื่องขอย้ายที่ทำงาน ...

ในระหว่างที่ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต เป็นพี่ชายของเพื่อน พี่เขาทราบเรื่องราวของฉันดี จากเพื่อนของฉัน 
ฉันบอกเขาว่า ฉันยังไม่พร้อม ตอนนี้ฉันไม่สามารถคบใครได้ ฉันอาจทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน และตอนนี้ฉันรอผลการย้าย

เขาบอกว่าเขาไม่รีบร้อนอะไร คุยกันธรรมดา เหมือนพี่ชายคนหนึ่งก็ได้
หรือถ้าได้คบกัน เราต้องย้าย ห่างกัน 120 กิโลเมตร เขาอยากไปหา เขาก็ไปได้
เขาเห็นใจที่เราเจอปัญหาที่ค่อนข้างสาหัส และเป็นห่วงที่ตัวคนเดียว เพื่อนของเราก็ฝากให้ช่วยดูแลเรา

เขามาดูแล คอยโทรมาถามไถ่ ว่ามีปัญหาอะไรไหม มาช่วยทำบ้านพักให้แน่นหนา พาไปกินข้าว ทุกวัน
เราตอบไลน์ช้า หรือไม่ได้รับสาย เขาก็ขับรถมาดูที่ทำงาน ว่าเราเป็นอะไรไหม (ช่วงนั้นแฟนเก่าเรามาวนเวียนที่ทำงานบ่อยๆ)
คนที่อยู่ในช่วงหัวใจอ่อนแอและอยู่กับความหวาดระแวง มีคนมาดูแล ทำให้รู้สึกปลอดภัย กลายเป็นรู้สึกดีกับเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
เขาโทรหาบ่อยขึ้น  สนิทกันมากขึ้น  ผ่านไป 4- 5 เดือน เราลืมเรื่องราวแย่ๆนั้นไปได้แล้ว (แฟนเก่าเราก็ไม่ได้มายุ่งกับเราแล้ว)
สุดท้ายพี่เขาก็ขอคบกับเรา  เราตอบตกลง...(โดยคิดแล้วว่า เคลียร์ตัวเองได้แล้ว ทั้งความรู้สึก และแฟนเก่าไม่ได้มายุ่งแล้ว)

เมื่อเราคบกับพี่เขา เราก็เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น เจอกันบ่อยขึ้น จนแฟนเก่าเรารู้เรื่อง 
แฟนเก่าทักแชทไปหาพี่เขา ไม่ได้ทักหาเรา  (แต่พี่เขาไม่บอกให้รู้ในรายละเอียดว่าบทสนทนาที่คุยกันคืออะไร บอกแค่ว่า "ทักมาด่า")
พี่เขาบอกว่า เขารู้มาแต่ต้นแล้วว่าต้องเจอแบบนี้ ไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องเสียใจไป เขาไม่โดนอะไรง่ายๆหรอก 
เราสบายใจมากขึ้น รู้สึกดีที่เขายังอยู่กับเรา แม้เขาจะต้องเสี่ยงกับอะไรแบบนี้ "เรายิ่งเต็ม 100 กับเขามากขึ้น"

จนเดือนเมษายน เราได้ย้ายที่ทำงาน และต้องห่างกัน (120 กิโลเมตร) พี่เขาไม่เคยมาหาเราเลย เราทนความคิดถึงไม่ไหว
เราก็ไปหาเขา (15 วัน/ครั้ง)  แต่ครั้งนี้ 1 เดือนแล้ว ที่เรายังไม่ได้ไป ด้วยไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง ด้วยสถานการณ์โควิด
ด้วยงานที่ไม่ได้ work from home (งานค่อนข้างยุ่งมาก) และพี่เขา...ก็ไม่ได้มาหาเราเช่นเดิม...

พี่เขาถูกก่อกวนจากแฟนเเก่าของเราอีกครั้ง (รู้แค่ว่าทักแชทมา) จนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ (แต่พี่เขาก็ไม่บอกรายละเอียดให้เรารู้อีกเช่นเดิม)
โดยปกติ ไม่ว่าพี่เขาเครียดอะไร จะไม่เคยเล่าให้ฟัง โดยบอกว่าไม่อยากให้เราเครียด แต่จะไปโพสระบายอยู่ในเฟสบุก
ครั้งนี้ เราเซ้าซี่ให้พี่เขาบอก แต่พี่เขากลับโมโหและทำให้ทะเลาะกันเป็นเรื่องใหญ่โต (พี่เขาหายเงียบไป 7 วัน)  แต่เราทักแชทเพื่อเคลียร์และกลับมาดีกัน

แต่เราเริ่มรู้สึกแปลกๆบางอย่าง กับสิ่งที่เขาเป็น เราไปส่องเฟสบุกเขา (ปกติจะไม่ได้ใส่ใจมากนัก) และเห็นเขากดหัวใจให้ผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆ
(ต่างฝ่ายต่างกดหัวใจ ต่างฝ่ายต่างคอมเมนต์ให้กำลังใจกัน) เราเลยตัดสินใจถามพี่เขา "หนูเห็นพี่กดหัวใจให้ผู้หญิงคนนี้บ่อยจัง หนูไม่สบายใจเลย"
แต่พี่เขาโมโหกลับโมโหเรา บอกว่า ความคิดไร้สาระ มาถามแบบนี้ได้ไง คบกันมันต้องไว้ใจ ทีเขายังไม่ไปวุ่นวายเลยนะ
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เหมือนผู้หญิงของไอ้นั่น (แฟนเก่าเรา) หรอกนะ และอีกมากมายจนลุกลามใหญ่โต

เราบอกเขาว่า ปัญหาของเราตอนนี้ไม่ใช่การกดหัวใจแล้ว แต่เป็นวิธีการอธิบายที่มีการเหน็บกันแบบนี้ แค่อธิบายดีๆ มันก็จะไม่ใหญ่โตแบบนี้
แค่อะไรที่ทำให้กันได้ ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ทำให้ได้ก็ทำ ยอมให้ได้ก็ยอม ทำไมต้องพูดอะไรแบบนี้

เขาตอบกลับมาว่า "ก็มาสนใจแต่เรื่องไร้สาระ ปัญญาอ่อน คิดแต่อะไรด้านลบ ไม่คิดอะไรด้านที่ดีมั้ง เขาต้องแบกรับอะไรบ้าง อุตส่าห์แบกรับไว้คนเดียว
ไอ้นั่น (แฟนเก่า) มันจะตีหัวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ออกไปไหนก็ลำบาก แต่แฟนตัวเองกลับไปอยู่บ้านปลอดภัยแล้ว"

นั่งพิจารณาคำพูดของพี่เขาอยู่สักพัก จนตัดสินใจ "บอกเลิก" พี่เขา (ทั้งที่ไม่ได้อยากเลิก)
เหตุผล ไม่ใช่เพราะเขากดหัวใจให้ใคร
แต่เป็นการจัดการปัญหาเวลาทะเลาะกัน ทัศนคติ แนวความคิด 
และเราก็ควรรับผิดชอบที่ทำให้เขาต้องเดือดร้อน
เขาก็โอเค

ครั้งนี้ เขาหายเงียบไป ครบ 7 วันแล้ว
เราไปส่องเฟสผู้หญิงคนนั้น ก็ยังกดหัวใจให้กันเหมือนเดิม

เราอยู่ในการหน่วงๆ 
บางอารมณ์ก็อยากทักไปเคลียร์อีก บางทีก็อยากให้จบแบบนี้

ช่วยแนะนำเราทีนะคะ  ว่าเราควรทำอย่างไร TT
เป็นเราที่ผิด ไร้สาระ หาเรื่องชวนทะเลาะ  เราควรขอโทษ ปรับตัว..แล้วขอเริ่มใหม่...
หรือเราควรเลิก ปล่อยให้ห่างหายกันไปแบบนี้ดี

คนอื่นช่วยมองปัญหา อาจจะเห็นได้ชัดกว่าเรามองด้วยตัวเอง
ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่