กลับมาอีกรอบหลังจบแฟนตาซีพรีเมียร์ลีกไป โดยรอบนี้เป็นเวอร์ชันแฟนตาซียูโร 2020 ที่หลายคอมมูนิตี้เริ่มคึกคักเล่นกัน (ถึงบ้านเราจะยังไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมาก็ตาม!) โดยผมได้เขียนบทความไว้ก่อนหน้าเกี่ยวกับยูโร และแฟนตาซียูโร ไว้ 2 บทความ เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับทัวร์นาเมนท์ทั่วไป กับสอนเล่นแฟนตาซียูโร พร้อมกฎ-กติกาที่มีความต่างจาก FPL พอควร สนใจย้อนอ่านดูลิงค์ด้านล่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากรู้รายละเอียดทั่วไปของทัวร์นาเมนท์ยูโร 2020 : >> คลิกที่นี่ <<
เล่นแฟนตาซียูโรไม่เป็น ไม่ต้องห่วง อ่านวิธีเล่น และกฎ-กติกาแฟนตาซียูโรละเอียดยิบ : >> คลิกที่นี่ <<
บทความนี้ก็ถึงคราวลงลึกถึงเทคนิคการจัดตัวกันบ้าง เพราะดึกคืนวันศุกร์นี้ (ตามเวลาบ้านเรา) ยูโร 2020 ก็จะเริ่มโม่แข้งกันแล้ว เริ่มด้วยคู่เปิดสนามระหว่างอิตาลี-ตุรกี ที่กรุงโรม ดังนั้นทีมของคุณควรจะมีไอเดียในการจัดพอสมควรแล้ว เนื่องจากเหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะเดดไลน์ Matchday 1
ใครที่ยังลังเลอยู่ ว่าจะเล่นดีหรือเปล่า ผมมีข่าวดีมาบอกเพิ่มเติม ว่ามีลีกจัดชิงเสื้อบอลทีมชาติของแท้ให้ได้จอยด้วย รายละเอียดติดตามได้ในช่วงท้ายบทความนี้ จะแชร์โค้ดจอยลีก ไว้ให้ทราบกันด้วย
ใครยังไม่ตัดสินใจลองเล่น มาเปลี่ยนโหมดเลือกนักเตะชื่อดังจากนานาชาติบ้างก็สนุกดีนะ
เอาล่ะ! กลับมาเข้าเรื่องการจัดทีมของแฟนตาซียูโร 2020 กันดีกว่า ย้ำอีกทีว่ารูปแบบการเล่นนั้นมีความแตกต่างจาก FPL พอสมควร ดังนั้นอยากให้เข้าใจรูปแบบ และกฎ-กติกาให้ครบถ้วนก่อน จะได้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นเมื่อเราพูดคุยเรื่องเทคนิคจัดตัวต่างๆ สามารถย้อนไปอ่านตามที่แจ้งไว้ด้านบนได้นะครับ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจ
ภาพรวมทัวร์นาเมนท์
ก่อนจะถึงเรื่องรายละเอียดการจัดตัว อยากให้เข้าใจภาพรวมก่อน ว่าแฟนตาซียูโร 2020 นั้นมีเพียง 7 Matchday เท่านั้น โดยแบ่งออกเป็นรอบแบ่งกลุ่ม ที่เราทราบโปรแกรมแน่นอนแล้ว Matchday 1-3 ก่อนคั่นด้วยการเปลี่ยนตัว unlimit (เปรียบเสมือน Wildcard) ก่อนที่ Matchday 4-7 จะเป็นรอบน็อคเอาท์ ซึ่งแต่ละรอบ ทีมจะลดลงครึ่งนึงตลอด 16-8-4-2 ทีม ตามลำดับ
จบรอบแบ่งกลุ่ม (Matchday 3) จะให้เปลี่ยนตัว Unlimit เหมือนได้ WC แถม
ดังนั้นเราสามารถแบ่งการวางแผนเป็น 2 ช่วงได้เลย นั่นคือ Matchday 1-3 และ Matchday 4-7 โดยสามารถโฟกัสไปที่รอบแบ่งกลุ่ม (รอบแรก) ก่อนได้เลย ว่าจะจัดตัวแบบไหนให้ดีที่สุด เพราะระหว่าง Matchday 1-3 เราจะมี Free Transfer ได้แค่ 2 ครั้งต่อ Matchday เท่านั้น
ตัวช่วยที่มี
แม้จะเพิ่งบอกไปว่าสามารถแบ่งการวางแผนออกเป็น 2 ช่วง ไปด้านบน แต่มีอีกสิ่งนึงที่อาจจะต้องเอามาคำนึงถึงภาพรวมยาวๆ ตลอด 7 Matchday ด้วย นั่นคือ “ตัวช่วย” หรือ “Chips” เพราะมันช่วยทำให้คุณวางเป้าหมายในภาพรวมได้ดีขึ้น
หากตัด Matchday 1 และ 4 ไป จะมีเพียง 5 สล็อต ที่คุณจะหยอดตัวช่วย 2 ตัว ลงไป
ตัวช่วยที่มีคือ Wildcard และ Limitless อย่างละ 1 ครั้ง โดยมีช่วงเปลี่ยนตัวทั้งหมด 5 ช่วงให้คำนึงถึง เพราะ ก่อน Matchday 1 และ 4 เราเปลี่ยนตัวได้ unlimit ดังนั้นมันจะมี gap แค่ Matchday 1 ไป 2, 2 ไป 3, 4 ไป 5, 5 ไป 6 และ 6 ไป 7 เท่านั้น ที่จะใช้เลือกใช้ตัวช่วยที่เรามี
พอมันมี Matchday ให้คำนึงถึงในการหยอดตัวช่วยลงไปแค่ไม่กี่ช่วง การวางแผนใช้ไว้ก่อน ก็จะทำให้เราเตรียมทีมได้ตรงเป้ามากขึ้นแน่นอน
ธรรมชาติของแต่ละ Matchday
ผมคงไม่อยากมากะเกณฑ์ว่าคุณควรใช้ Wildcard และ Limitless เมื่อไหร่ แต่คงจะให้ข้อมูลแก่คุณมากกว่า ว่าธรรมชาติของแต่ละ Matchday นั้นเป็นอย่างไร เผื่อจะได้เห็นภาพและวางแผนที่จะใช้ได้ชัดขึ้น
Matchday 1-3 ทราบโปรแกรมแล้ว สามารถวางตัวเมเจอร์ที่มีโปรแกรมน่าสนใจลงมาได้เลย
Matchday 1 : เป็นแมทช์ที่ทุกทีมอยากเก็บผลที่ดีประเดิมแน่นอน แต่ปัญหาคือเราอาจจะคาดเดาการจัดตัวนัดแรกของแต่ละชาติได้ยากพอควร ดังนั้นคุณอาจจะต้องพยายามเลือกตัวที่ชัวร์หน่อย โดยเฉพาะตัวทำคะแนนหลัก ที่น่าจะต้องคาดหวังไปตลอด Matchday 1-3
Matchday 2 : แน่นอนว่าทุกทีมจะยังต้องใส่เต็มแน่นอน ไม่ว่าผลนัดแรกจะเป็นอย่างไร ทีมที่เก็บชัยชนะมาได้ โอกาสจะเปลี่ยนทีมก็อาจจะน้อย กลับกันทีมที่ผลงานไม่เด่น ตัวที่เล่นไม่ออกนัดแรก หรือโดนเปลี่ยนตัวเร็ว ก็อาจจะโดนดร็อปบ้าง ในนัดที่ 2
Matchday 3 : เราอาจจะคุ้นเคยกับการที่มีบางทีมเข้ารอบไปแล้ว หรือตกรอบไปแล้ว เลยอาจจะโรเตชันมโหฬารในนัดที่ 3 แต่ต้องไม่ลืมว่ายูโรมีการคัดเอาอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุด 4 จาก 6 กลุ่มเข้ารอบด้วย ดังนั้นแทบทุกทีมยังมีลุ้นเข้ารอบถึงนัดสุดท้าย ส่วนที่ทีมที่ชนะรวดมา 2 นัดแรก อันนี้ก็อาจจะต้องทำใจ หากจะมีการโรเตชันบ้าง เพื่อรักษาความฟิตของนักเตะตัวหลัก
รอบน็อคเอาท์ ตั้งแต่ Matchday 4 เป็นต้นไป อาจจะเห็นยักษ์ชนยักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ
Matchday 4 : แม้ก่อนจะเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ เกมจะให้ Wildcard ฟรีสำหรับการจัดตัว แต่ต้องไม่ลืมว่า หลังจากรอบนี้ ทีมทั้งหมด 16 ทีม จะหายแว้บไปครึ่งนึง และเรามี Free Transfer สำหรับ Matchday 5 แค่เพียง 3 ครั้ง ดังนั้นการคาดเดาทีมที่เข้ารอบจึงมีความสำคัญไม่น้อย
Matchday 5-7 : ขอเขียนรวมไปเลย เพราะรูปแบบจะคล้ายคลึงกัน นั่นคือทีมจะหายไปทีละครึ่งนึงตลอดจนนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับมี Free Transfer อย่างละ 5 ครั้งสำหรับ Matchday 6 และ 7 ถ้าเทียบจากตัวทั้งหมดในทีมเรา 15 ตัว ก็คือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นเอง
ธรรมชาติของ Matchday ต่างๆ จะช่วยให้เราวางแผนใช้ตัวช่วยทั้ง 2 ตัวได้ดีขึ้น
พอเห็นธรรมชาติของแต่ละ Matchday แล้ว เราจะสามารถวางแผนการใช้ตัวช่วยได้ชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณคิดว่ารอบน็อคเอาท์อาจจะคาดเดาได้ยากว่าทีมไหนจะผ่านเข้ารอบได้บ้าง ก็อาจจะเก็บ Wildcard ไว้ใช้หลัง Matchday 4 เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลชาติที่ตกรอบไปครึ่งต่อครึ่ง
หรือหากคิดว่า Matchday 3 ลำพังการจัดตัวต่อเนื่องมาจาก Matchday 1-2 จะมีตัวลงเล่นครบได้ยาก โดยเฉพาะหากทีมใหญ่ๆ คว้าชัย 2 นัดรวด แล้วโรเตชันตัวในนัดที่ 3 ก็อาจจะเลือกใช้ Limitless เพื่อจัดเต็มกับทีมที่ยังต้องการชัยชนะในนัดสุดท้าย เป็นต้น
เอกลักษณ์ของแฟนตาซียูโร
สิ่งที่ต้องไม่ลืมต่อไป นั่นคือเอกลักษณ์ที่ทำให้แฟนตาซียูโรมีเทคนิคการจัดแจงที่แตกต่างจาก FPL ซึ่งจะมีอยู่ 2 เรื่องหลักๆ นั่นคือ เดดไลน์พร้อมเวลาคิกออฟ และการสามารถสลับตัวได้ทุกวัน
[เดดไลน์ชนคิกออฟเลย]
เดดไลน์การเปลี่ยนตัว (Transfer) ของแฟนตาซียูโร แต่ละ Matchday จะสิ้นสุดพร้อมคู่แรกของ Matchday นั้นคิกออฟเลย นั่นคือคุณสามารถเช็ครายชื่อตัวจริงของแมทช์แรกได้สบายก่อนการจัดทีมของคุณ
ทั้งเดดไลน์การเปลี่ยนตัว และสลับตัว จะจบพร้อมแมทช์แรกคิกออฟเลย
ตัวอย่างง่ายๆ จากรอบแรก Matchday 1 คุณสามารถทราบรายชื่อตัวจริงของตุรกี-อิตาลีได้ก่อนเดดไลน์ ดังนั้นใครอยากเลือก 2 ทีมนี้ รอรายชื่อก่อนเลย, Matchday 2 จะเป็นฟินแลนด์-รัสเซีย และ Matchday 3 ซึ่งกลุ่มเดียวกันต้องเตะพร้อมกัน คุณจะเห็นรายชื่อของกลุ่ม A ก่อนถึง 4 ทีม (สวิส, ตุรกี, อิตาลี, เวลส์)
[การสลับตัวได้ทุกวัน]
ส่วนเรื่องของการสลับตัว (Substitution) อย่างที่อธิบายไปใน EP ที่แล้ว คุณสามารถปรับทีมด้วยตัวที่คุณมีในทีม เพื่อสลับเอาตัวที่ยังไม่ลงเล่น ขึ้นมาแทนตัวที่ลงเล่นไปเรียบร้อยแล้ว และคุณไม่พึงพอใจคะแนนที่ได้
เทคนิคสำคัญของแฟนตาซียูโร คือการสลับตัวที่ยังไม่ลงเล่น ขึ้นมาแทนตัวคะแนนแย่
ประโยชน์เบื้องต้นของการสลับตัวคือการจัดแจง 15 ตัวในมือให้ขึ้นไปลุ้นคะแนนก่อนสำหรับตัวที่มีแมทช์ลงเล่นก่อน ไม่ดีก็ค่อยสลับ ถ้าดีขึ้นมาก็เป็นโบนัสไป ดังนั้นแล้วตัวสำรองหรือตัวราคาไม่แพงในทีมเรา อาจจะมีประโยชน์มากกว่าในรูปแบบที่เราคุ้นเคยอย่างของ FPL
และหากจะมองกว้างกว่านั้น มันยังทำให้เราได้ลองลุ้นนักเตะที่เราอยากได้ แม้จะต้องเจอกับโปรแกรมที่หนัก อย่างเช่น นักเตะจากกลุ่ม F ที่มีทีมใหญ่ชนกันเยอะ การสามารถสลับตัวได้ ก็ช่วยลดความเสี่ยง หากเราอยากลองเอาตัวทีมเหล่านั้นเข้ามาไว้ก่อนได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ต้องระมัดระวังอย่าให้การสลับตัวย่อยใน Matchday มากระทบการเลือกตัวเพื่อระยะยาว อย่างในรอบแรก 3 นัด คุณอาจจะต้องมองภาพใหญ่มากกว่า และใช้ฟังก์ชันสลับตัวใน Matchday ให้เป็นประโยชน์ในวัตถุประสงค์รองแทน
ตัวอย่างการวางทีมสำหรับ Matchday 1 ที่มีเตะมากถึง 5 วัน
อีกเรื่องเล็กๆ แต่ขอพูดถึงหน่อย เพราะมีคนมาถามอยู่เหมือนกัน และหลังจากเช็ค ก็มั่นใจว่านักเตะในแฟนตาซียูโร ไม่มีการปรับราคาขึ้นลงเหมือน FPL หรือแฟนตาซี UCL แต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเร่งรีบเปลี่ยน และคุณยังสามารถจัดตัวพอดีงบประมาณ แบบไม่ต้องมาเผื่อเหลือเผื่อขาดในอนาคตเหมือน FPL อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าเอกลักษณ์เหล่านี้ของแฟนตาซียูโร ช่วยทำให้เราได้เปรียบหากใช้มันอย่างเต็มที่ ดูให้ดี เพราะถ้าเราละเลยจุดพวกนี้ ย่อมเสียเปรียบคนที่บริหารความเสี่ยงจากจุดต่างๆ เหล่านี้ได้ดี
(ขออนุญาตต่อส่วนที่เหลือ และรายละเอียดจอยลีกในคอมเมนท์ครับ)
มิตรรัก นักแฟนตาซียูโร : แนะนำเทคนิคจัดทีม พร้อมข่าวดี! เปิดจอยลีก ลุ้นเสื้อบอล!
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครที่ยังลังเลอยู่ ว่าจะเล่นดีหรือเปล่า ผมมีข่าวดีมาบอกเพิ่มเติม ว่ามีลีกจัดชิงเสื้อบอลทีมชาติของแท้ให้ได้จอยด้วย รายละเอียดติดตามได้ในช่วงท้ายบทความนี้ จะแชร์โค้ดจอยลีก ไว้ให้ทราบกันด้วย