เที่ยวทิพย์ : ครั้งหนึ่ง เคยไปเสียมเรียบ

ในช่วงต้นเดือนธค. 2560 บรรดาเพื่อนที่เคยเรียนมศ.4 ห้องเดียวกัน เกิดอยากจะไปเที่ยวกันไกลๆสักครั้ง  ประจวบกับ “หลับดี ( Lub d - Cambodia Siem Reap )” ซึ่งเป็น Hostel ในเครือของ บ. ที่พรรคพวกกันเป็นผู้บริหารได้เปิดให้บริการ  พวกเราเลยถือโอกาสไปช่วยอุดหนุนกัน  มันจึงเป็นการเที่ยวที่ไม่ต้องทำการบ้านอะไรเลย  แค่จองตั๋วเครื่องบิน flight เดียวกัน  พอถึงสนามบินเสียมเรียบ  เดี๋ยวก็จะมีรถตู้ที่ทาง Hostel เป็นธุระจัดหาพาเราเข้าพักเอง  ( ปกติ ถ้าผมเที่ยวเอง ผมจะทำการบ้านทุกอย่าง ไม่ว่าการเดินทาง ที่กิน ที่พัก ที่เที่ยว  ทางหนีทีไล่ แผนสำรอง  แต่คราวนี้ คือไปพักผ่อนจริงๆ  เลยไม่ค่อยได้ขยันถ่ายรูปนัก )

เขมรเป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า  แค่พกพาสปอร์ตไปก็พอแล้ว ปรากฏว่า เพื่อนเราคนหนึ่งลืมเช็คอายุของพาสปอร์ต เพราะมันเหลืออายุเพียง 5 เดือน กับ 20กว่าวัน  ดังนั้นมันจึงไม่สามารถใช้เดินทางออกนอกประเทศได้  (ต้องมากกว่า 6 เดือน ) แต่ด้วยความตั้งใจอย่างมาก นางจึงรีบไปที่แจ้งวัฒนะในตอนสาย  แล้วทำ passportแบบด่วน แล้วบินตามมาในช่วง flightเย็น  โอ... น้ำใจเพื่อนฝูง 


  ขณะบินผ่าน คุ้งน้ำอันคดเคี้ยวของแม่น้ำบางปะกง 


พวกเราออกเดินทางกันด้วยสายการบิน Thai Smile Airways   เที่ยวบิน 07.25 น. จากสุวรรณภูมิ  กำหนดระยะเวลาเดินทางอยู่ที่ 50 นาที   08.15 น. เราก็เดินลากกระเป๋ากันอยู่ในสนามบินเสียมเรียบ  ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ผ่านตม.ออกมา  รถตู้ก็พาพวกเราเข้าไป เช็คอิน ที่ Hostel   

หลับดี เป็น Hostel ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่โต แต่ก็ไม่คับแคบ  ผมเองก็ไม่ใช่สายรีวิวที่พักที่กินอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปภายในเอาไว้  หมดโควิทอยากจะไปเที่ยวเสียมเรียบบ้าง ก็ลองดูรายละเอียดที่ https://lubd.com/destination/cambodia-siem-reap/ กันนะครับ

เสียมเรียบ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีปราสาทหินเก่าแก่โบราณอยู่มากมายเลยทีเดียว   ในขณะเดียวกันในส่วนที่เป็นตัวเมืองก็มีความเจริญไม่น้อยหน้าจังหวัดใหญ่ๆในบ้านเราเช่นกัน  มีสนามบิน รถโดยสาร รถรับจ้าง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตลาดสด    แต่สิ่งที่น่าปวดหัวมากๆสำหรับผมก็คือ วิธีการขับขี่ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ของชาวเสียมเรียบ ตอนแรกผมเลือกที่จะนั่งด้านหน้ารถตู้เพราะอยากจะดูทิวทัศน์ของเมืองชัดๆ  แต่พอเป็นการเดินทางในเที่ยวถัดไป ผมขอแลกกับเพื่อนที่อยากจะนั่งหน้าให้มานั่งแทน   ฮ่า ฮ่า ไม่มีอะไรมากหรอกครับ มันหวาดเสียวเกิ๊นนนนนน  ขับกันไปได้ยังไง  พวกจะเลี้ยวก็เลี้ยวตัดหน้ากัน  พวกที่ขับมาทางตรงก็ไม่ชะลอ ไม่เบรค  ถึงมันจะไม่ชนกันให้เห็นเลยตลอดเวลา 3 วัน 2 คืนที่อยู่ที่นี่  แต่ก็ยังสงสัยว่า มันรอดปากเหยี่ยวปากกากันมาได้ยังไงนะ คนที่นี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า   ขนาดเราเดินถนน เรายังเสียวที่จะโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวเอาเลย   

อากาศที่เสียมเรียบค่อนข้างร้อนและอบอ้าว  เดือน ธค.ที่พวกเราไปกันนี้ จัดเป็นช่วงที่”ร้อนน้อยที่สุด”ของปีเลยก็ว่าได้  ดังนั้นจึงเป็นช่วงยอดนิยมของนักท่องเที่ยวกันเลยแหละ 
 
คนที่นี่เขารับเงิน US dollar กันนะครับ  เราก็เลยต้องแลกเงิน US dollar ไปสำหรับซื้อของ และซื้อบัตร pass สำหรับเที่ยวชมปราสาทต่างๆ  เหมาจ่ายกัน 3 วัน  $60  จะเข้ากี่ครั้ง กี่ที่ ก็ได้   

หลังจากซื้อบัตร pass กัน  รายการทัวร์ปราสาทหินขอมยุคโบราณก็เริ่มขึ้นหละ

ปราสาทบันทายศรี

เรามาถึงปราสาทบันทายศรีตอนเที่ยงพอดี  อากาศกำลังร้อนทีเดียวหละ 
ปราสาทบันทายศรี เป็นปราสาทหินทรายสีชมพู หลังไม่ใหญ่นัก   


ทางเข้าสู่ตัวปราสาทจะต้องเดินผ่านซุ้มทวารอยู่ 2-3 ชั้น 


ตรงหน้าบัน  ซุ้มทวารแรก เป็นรูปแกะสลัก พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ  รายละเอียดค่อนข้างสมบูรณ์มาก


พ้นจากซุ้มทวารแรกเข้าไป จะเห็นหลัก ศิวลึงค์ เรียงรายอยู่ 2 ฝั่ง



ตัวปราสาทมีขนาดไม่ใหญ่นัก  จะมีสระน้ำขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง   นักท่องเที่ยวเข้ามาตลอดเวลา




สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดจะทำมาจากหินทรายสีชมพู ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของปราสาทแห่งนี้    
ถ้าไม่ติดว่า อากาศร้อนอบอ้าว และนักท่องเที่ยวค่อนข้างวุ่นวาย โดยเฉพาะทัวร์จีนและเกาหลีที่มีลักษณะจำเพาะที่เราคงไม่ต้องอธิบายกันนัก 
เราก็คงจะมีเวลาดื่มด่ำกับ โบราณสถานแห่งนี้ให้มากกว่านี้ 

----------------------------------------


ปราสาทตาพรม

ออกกันมาจาก ปราสาทบันทายศรี  ก็มากันที่ปราสาทตาพรม  เขมรอนุรักษ์สถานที่แห่งนี้ไว้ให้คงสภาพเดิมให้มากที่สุด  เราจึงเห็นอาณาบริเวณรอบปราสาทที่กว้างใหญ่มาก  ( ทั้งๆที่ตัวปราสาทเองไม่ได้ใหญ่โตมากมายนัก ) รายล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่  มีทางเข้าและออก 2 ด้าน  นั่นแหละ ผมเดินหลงเลย ฮ่า ฮ่า  ( โทษฐานไปเที่ยวแบบไม่ทำการบ้าน ) 



ลักษณะเฉพาะของปราสาทแห่งนี้คือ จะมีต้นสะปง แผ่รากปกคลุมตัวปราสาทหินเอาไว้หลายจุด   ปราสาทนี้เป็น High light ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมาก  ลานจอดรถมีรถตู้จอดกันเรียงรายมากมาย ( กว่าจะหารถคันที่เรามาเจอ ยังเหนื่อยเลย )    จำนวนนักท่องเที่ยวที่เจอกันที่ปราสาทบันทายศรีกลายเป็นน้อยมากกกก เมื่อเทียบกับที่นี่ 


และเพราะต้องการที่จะเก็บรักษาให้คงสภาพดั้งเดิม ตัวปราสาทจึงอยู่ในสภาพที่เก่าแก่และทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา 


อัปสราที่นี่ค่อนข้างชำรุด เลือนลางไปพอสมควร  บวกกับตอนไปนี่ก็เย็นแล้ว แสงเฉียงๆ เกิดเงามืดๆ ก็เลยเลือกถ่ายเก็บเอามา



หันไปทางไหน ก็เจอแต่คนเดินเต็มไปหมด  ส่งเสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวไปทั่ว  คงไม่ต้องบอกว่าเป็นทัวร์จากไหนนะครับ ( จริงๆทัวร์พี่ไทย ถ้าเจอกลุ่มใหญ่ก็ไม่เบาเหมือนกันหรอกนะ ฮ่า ฮ่า )   เลยถ่ายรูปมาไม่มากเท่าไหร่

----------------------------------------

ปราสาทบายน 

ข้อเสียของการเที่ยวแบบสบาย นั่งรถตู้แบบไม่ต้องทำการบ้าน ก็คือ มันมักจะได้เที่ยวแบบชะโงกทัวร์  

รูปแกะสลักหินขนาดใหญ่ที่เรียงรายตรงทางเข้าบริเวณ นครธม เป็นสิ่งที่ตระการตา  แต่ไม่มีจังหวะที่จะถ่ายรูปไว้ได้  ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะการท่องเที่ยวครั้งนี้คือการไปสนุกสนานกับเพื่อนๆ   

รถตู้ก็พาเรามาหยุดอยู่ตรงใกล้ๆกับทางเข้าปราสาทบายน


เมื่อเดินเข้ามาในปราสาท  ก็จะพบกับพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ใต้ฉัตร  เห็นแสงเงาดูแปลกตาดี รอจังหวะคนว่างก็เลยเก็บภาพมา  
ปราสาทบายนนี่

จริงๆแล้วที่นี่ คือ วัด นะครับ  


ปราสาทบายน มีเอกลักษณะเฉพาะคือ พระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 4 ทิศ  ประหนึ่งดั่งพรหม4หน้า  วางกระจายอยู่ทั่วประสาท


ตามประวัติศาสตร์บอกว่าปราสาทหินแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเป็นวัดเพื่อ เฉลิมฉลองการที่พระเจ้าชัยวรมันเอาชนะขับไล่พวกจามปาออกไปจากอาณาจักรขอมได้สำเร็จ  น่าจะเป็น inspiration ให้มีพระพักตร์ของพระองค์เรียงรายไปทั่ว  ประหนึ่งว่า ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนในอาณาจักรขอม ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเราไปได้ 


พอขึ้นมาถึงยอดปราสาท มองไปทางไหนก็เจอแต่พระพักตร์สี่ทิศ  แต่พอได้พิจารณาดูชัดๆ ก็จะอึ้งกับความสามารถเชิงวิศวกรรมและปฏิมากรรมของชาวขอมในยุคโบราณ   หินแต่ละก้อนก็ไม่ใช่ก้อนเล็กๆนะ  แล้วก็ไม่ได้มี software 3D เหมือนกับสมัยปัจจุบัน  การแกะสลักหินแต่ละก้อนที่วางซ้อนกันให้เป็นรูปพระพักตร์ไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆเลย  และที่สำคัญมองไปทางไหนก็พบเห็นไปหมด  ใช้เวลาในการก่อสร้างและแรงงานขนาดไหนกันหนอ


รูปแกะสลักอัปสรา  เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของทุกๆปราสาทหินของขอมยุคโบราณ  


เพียงแต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า อัปสราของแต่ละที่จะมีลักษณะ เครื่องทรง รูปร่างที่แตกต่างกัน   เหตุผลที่สำคัญน่าจะมาจากลักษณะของศิลปะที่เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่ก่อสร้างปราสาทแต่ละหลัง

เสียดายสภาพแสงทั่วไปไม่ค่อยถูกใจสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ    นักท่องเที่ยวก็มากตามประสา   เวลาก็แสนจำกัด  
พรรคพวกเรียกกลับไปรวมผล  ( อย่าแปลกใจ เพราะสามารถโทรตามผ่าน line กันได้  เรามาถึงยุคโลกไร้พรมแดนกันแล้ว ติด sim2fly มาจากเมืองไทยก็หมดทุกปัญหา )  

ถามว่าไปอยู่ไหน   เออ หลงทางหวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า  โดนแซวยับ  

ประมาณว่า เมื่อวานที่ปราสาทตาพรม ก็ออกผิดทางมาครั้งหนึ่งแล้ว  วันนี้ก็เจออีก  ( ตอนนั้นยังไม่รู้จัก Google Maps  แต่หลังจากนั้นแค่ 2 ปี  ใช้ขับรถในอังกฤษได้เลย , คนเราต้องพัฒนา ) 

ที่สำคัญ ไกด์เร่งอีก บอกว่าต้องรีบไปนครวัดกัน

----------------------------------------


นครวัด

นครวัดนี่ เป็นที่ที่เคยอยากจะมาเที่ยวมาก แต่สมัยนั้นไม่ได้สะดวกแบบสมัยนี้  แล้วการมาท่องเที่ยวต่างแดนแบบนี้ในสมัยนั้นก็ดูไม่ค่อยมั่นใจนัก   พอเพื่อนๆชวนกันมาเที่ยว ก็เลยเต็มใจมา ก็อยากจะพบว่าอลังการ์ของโบราณสถานแห่งนี้

พอมาถึง โอววววววว เรื่องไม่ตรงปก  เขากำลังบูรณะซ่อมแซมกันชุดใหญ่เลย  มีทั้งตั้งร้านสำหรับป่ายปีน  มีทั้งสร้างผนังหุ้มล้อมไม่ให้มีการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง  

ที่สำคัญ เหล่าอัปสราและรูปแกะสลัก พระวิษณุที่ทำการบ้านมาเล็กน้อยก่อนจะมาเที่ยว ก็โดนรื้อเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์    ส่วนลานข้างล่างด้านหน้าตัวปราสาท ที่จะเห็นเป็นเงาสะท้อนตัวปราสาทจากบึงน้ำ  ท่านก็เฉลิมฉลองในวาระครบรอบอะไรสักอย่าง  มีทั้งคนใส่เสื้อหลากสี โบกธง ตีกลอง อยู่เต็มลาน

ผิดหวัง แต่ไม่ถึงกับสิ้นหวัง  เพี้ยนเซ็งเป็ด


หลังจากเดินเซ็งๆ รายรอบวิหารคดชั้นกลาง  จะว่าไปก็ยังพอมีจังหวะดีๆที่แสงสาดมาทางด้านข้าง ทำให้เห็นเป็นเงา และ Texture 


หลังจากยืนรอคอยด้วยความอดทน ให้นักท่องเที่ยวที่ยืนพัก นั่งพักย้ายถิ่นฐานออกไป  แล้วก็ยังลุ้นอีกว่า แสงที่สาดมาจะหมดไปก่อนไหม ?


ยังมีอัปสราที่สภาพยังดี แต่แสงไม่ค่อยจะสวยนัก เลยไม่เอามาอวดให้  เคยฟังอจ.ท่านหนึ่งเคยบอกไว้ว่า ถ้าสังเกตดีๆ ปทุมถันของอัปสราบางตนจะมีความเงาวับ ราวกับผ่านมือคนมาขัด มาถู  อจ.ท่านนั้นบอกว่า ไม่ใช่ว่าคนเขาลามกนะ แต่เขาเชื่อกันว่า ถ้าอยากได้ลูกให้มาขัดถูปทุมถันของอัปสรา แล้วก็อธิษฐานขอให้ได้ลูกตามที่ประสงค์  อัปสราบางตนจะเห็นได้ว่า ส่วนที่เสียหายก่อนก็มักจะเป็นปทุมถันนี่แหละครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่