เคยผิดหวังกับคนที่เรารักมากๆไหมครับ
ไอความรู้สึกใจเต้นตึกตัก เวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบ โทรคุยกับใครนานๆ (สมัยนี้น่าจะวิดีโอคอล) กระชุ่มกระชวยหัวใจเวลาได้ยินคำพิเศษ แทบจะลืมไปหมดแล้ว
ในวันที่ชีวิตดำเนินไปในช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้ แค่ใช้ชีวิตไปวันๆก็ยากแล้ว ร้านอาหารต่างๆพากันปิด ไม่มีของขาย มื้อกลางวันที่ปกติมีร้านประจำก็ไม่มี ผลสุดท้ายก็จบที่ร้านสะดวกซื้อ
ร้านสะดวกซื้อระแวกนี้มีมากมายเต็มไปหมดเนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ แต่เหมือนมีอะไรดลใจบางอย่าง ทำให้วันนี้เปลี่ยนไปอีกร้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านประจำ
ทันทีที่เข้ามาก็เห็นพนักงานยืนประจำเคาน์เตอร์ 1 คน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจผมรีบเดินไปหยิบมื้อกลางวันที่ต้องการ ก่อนที่จะรีบให้พนักงานอุ่นและคิดเงิน
แต่เมื่อเงยหน้ามาก็ทำให้รู้สึกตกใจเป็นอย่างแรก พนักงานหน้าที่ไม่คุ้นคนนี้เป็นผู้หญิงหน้าตาเด็กกว่าผมหลายปีเลย ปกติร้านนี้ถึงจะไม่ได้มาประจำ แต่ก็เดินผ่านบ่อย ไม่รู้ว่าไม่ได้สังเกตุหรือยังไง อยู่ๆวันนี้มีเด็กสาวมาเป็นแคชเชียร์
ระหว่างรอเวลาอุ่นอาหารประมาณ 3:30 นาที สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตกใจอย่างที่สองคือสำเนียงของเธอ สาวน้อยจากแดนอีสานมาทำอะไรไกลถึงที่นี้ เสียงสัญญาจากเครื่องอุ่นอาหารดังเตือนว่าอาหารอุ่นเสร็จ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผมใช้สายตาพิจารณาเธออย่างถี่ถ้วน ก็เกิดสิ่งที่ทำให้ผมตกใจเป็นอย่างที่สาม ทำไมเธอน่ารักเหลือเกิน ช้างเผือกเชือกงาม ออกจากป่ามาเข้าเมืองแบบนี้ ชาตินี้จะได้เจออีกไหม
เธอดูไม่เหมือนคนอีสานเลย ผิวพรรณเนียนละเอียด ขาว มีสันจมูก คิ้วคม ถ้าไม่ได้ยินสำเนียงคงคิดว่าเป็นลูกหลานเจ้าของธุรกิจที่ไหน ที่อยากลองมาทำงาน ท่าทางเธอเงอะงะดูไม่คล่องแคล่ว ยิ่งทำให้คิดว่าเป็นลูกคุณหนูจริงๆนั้นแหละ
ผมสั้นประบ่า เสื้อตัวใหญ่โคร่ง ทำให้ตัวที่เล็กของเธอดูเล็กลงไปอีก ผิวพรรณที่ขาวเนียน และใบหน้าที่ถูกสเปคผมทุกอย่าง จนทำให้ผมถึงกับอุทานในใจอย่างหยาบคายว่า "น่ารักเ*ี้ยๆ"
หัวใจที่ไม่เคยหวั่นไหวมาแสนนาน กลับมาใจสั่นเต้นตึกตัก จนทำให้ลืมจ่ายเงินจนน้องคนนั่นต้องบอกยอดเงินที่จ่ายมาอีกรอบ ถึงมีสติกลับมาได้ หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ผมเดินออกมาจากร้านแบบมึนๆงงๆ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าซื้ออะไปบ้าง เงินทอนเท่าไหร่
ทันทีที่กลับมาที่ทำงานผมรวมรวบสติ ก่อนที่จะบอกกับตัวเองว่าต้องลงมือทันที ไม่งั้นเสร็จคนอื่นแน่ๆ พนักงานร้านสะดวกซื้อวันนึงต้องเจอผู้คนมากมาย น่ารักขนาดนั้นต้องมีชายอื่นหมายปองแน่นอน
งานกองที่ไว้โต๊ะจำนวนนึงถูกวางไว้แบบนั้น เนื่องจากไม่มีสมาธิทำ จนถึงเวลาเบรคช่วงบ่าย ปกติแล้วผมจะไม่ออกไปไหน จะใช้เวลางีบหลับที่ทำงาน หรืออย่างมากก็กินน้ำ ขนม ที่ซื้อตุนไว้ช่วงเที่ยง
แต่วันนี้ต่างไป ผมรีบเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อร้านนั้น เพื่อที่จะไปเฝ้ามองน้องคนนั้นอีก แค่ขอให้ได้มองตอนนี้มันก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
เมื่อเข้าไปที่ร้านก็สุขใจที่ได้เจอกับน้องคนเดิม แต่ไม่ทันไร บรรยากาศมันก็ต่างไป ทำไมอยู่ๆมีลูกค้าผู้ชายมาพูดคุยกับ P ทำไมรู้จักชื่อเล่นกันด้วย ทำไมคุยกันอย่างสนิทสนมกันจัง (ต่อไปนี้จะใช้ชื่อย่อ P.แทนน้องนะครับ)
ไม่ได้การแล้ว หน้าตาไอนั้นมันดูไม่ปลอดภัยสุดๆ น้องยังเด็ก มีหวังได้ถูกไอเจ้านั่นหลอกเอาแน่ๆ อย่างน้อยถ้าจะโดนหลอกก็ขอให้เป็นคนดีๆหน่อยไม่ได้เหรอ ช่วยไม่ได้ มีแค่ทางเดียวต้องลงไปไฟท์กับศึกนี้สินะ ต้องลงเลยด้วย ช้าไม่ได้แล้ว
จะทำยังไงละ ??? จีบสาว...จีบเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเอง 1 รอบเนี้ยนะ แล้วตอนนั้นจีบแฟนคนแรกยังไงวะ อะไรที่ควรทำ ไม่ควรทำสิ่งที่ผู้หญิงชอบ ไม่ชอบ ?? เริ่มยังไงดี ??
สมัยวัยรุ่นๆ ก็ไม่เคยทักผู้หญิงก่อน ต้องบอกทั้งชีวิตเลยดีกว่า ไม่เคยจะเดินเข้าไปคุยแบบโต่งๆกับผู้หญิง เดินไปขอเบอร์ ขอเฟสนี่เลิกหวังไปได้เลย คนขี้อายแบบผมบางทีก็สงสัยตัวเองว่าเคยมีแฟนกับเขาได้อย่างไงนะ
อะจริงสิ ยุคนี้มันยุคแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์กนิ อย่างน้อยแค่รวบรวมความกล้าแล้วไปขอเฟส บุ๊คมาก่อนก็ได้ มาคุยผ่านแชทคงอายน้อยกว่าคุยต่อหน้าจริงๆนั้นแหละ
นั้นแหละ...สิ่งที่ยากที่สุด
เวลาผ่านไป 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาด้วยความง่วงเพราะมัวแต่คิดเรื่องของ P ถึงเวลาเที่ยง ผมรีบไปร้านเธอทันที หลังจากคิดมาอย่างดี เตรียมประโยคมาเรียยร้อยว่าต้องพูอะไร กะพอรับเงินทอนเสร็จนี่แหละ ต้องขอเฟสบุ๊คให้ได้ แต่พอแค่ยืนจ้องหน้าเธอเท่านั้นแหละ เวลาหยุดเดิน ทุกอย่างที่คิดและเตรียมมา หายวับ... จบสิ้นแล้ว ผมคงทำได้แค่เฝ้ามองเธอไปแบบนี้แหละ
แต่...ก่อนที่จะถอดใจ ผมเหลือบไปเห็นป้ายประจำตัวพนักงานฝึกงาน "น.ส.คัทลียา สวยสด" (นามสมมุติ) ลายมืออ่านยากพอสมควร องศาก็ไม่ได้ พลาสติกป้ายก็สะท้อนแสงไฟ แถมจ้องนานๆ อาจจะดูคุกคามทางเพศ (ป้ายติดที่หน้าอก) ไม่เป็นไร ค่อยๆสังเกตุ ทีละคำ ใช้เวลาไป 3 วัน มาร้านนี้ 6 รอบ ในที่สุดก็ได้ชื่อ P มาแล้ว
เดี๋ยวนะ...ถ้าเฟสบุ๊ค P ไม่ได้ใช้ชื่อนามสกุลจริงตั้งเป็นชื่อเฟสละ...
เกือบจะลืมวิธีจีบสาวไปแล้ว
ไอความรู้สึกใจเต้นตึกตัก เวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบ โทรคุยกับใครนานๆ (สมัยนี้น่าจะวิดีโอคอล) กระชุ่มกระชวยหัวใจเวลาได้ยินคำพิเศษ แทบจะลืมไปหมดแล้ว
ในวันที่ชีวิตดำเนินไปในช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้ แค่ใช้ชีวิตไปวันๆก็ยากแล้ว ร้านอาหารต่างๆพากันปิด ไม่มีของขาย มื้อกลางวันที่ปกติมีร้านประจำก็ไม่มี ผลสุดท้ายก็จบที่ร้านสะดวกซื้อ
ร้านสะดวกซื้อระแวกนี้มีมากมายเต็มไปหมดเนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ แต่เหมือนมีอะไรดลใจบางอย่าง ทำให้วันนี้เปลี่ยนไปอีกร้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านประจำ
ทันทีที่เข้ามาก็เห็นพนักงานยืนประจำเคาน์เตอร์ 1 คน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจผมรีบเดินไปหยิบมื้อกลางวันที่ต้องการ ก่อนที่จะรีบให้พนักงานอุ่นและคิดเงิน
แต่เมื่อเงยหน้ามาก็ทำให้รู้สึกตกใจเป็นอย่างแรก พนักงานหน้าที่ไม่คุ้นคนนี้เป็นผู้หญิงหน้าตาเด็กกว่าผมหลายปีเลย ปกติร้านนี้ถึงจะไม่ได้มาประจำ แต่ก็เดินผ่านบ่อย ไม่รู้ว่าไม่ได้สังเกตุหรือยังไง อยู่ๆวันนี้มีเด็กสาวมาเป็นแคชเชียร์
ระหว่างรอเวลาอุ่นอาหารประมาณ 3:30 นาที สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตกใจอย่างที่สองคือสำเนียงของเธอ สาวน้อยจากแดนอีสานมาทำอะไรไกลถึงที่นี้ เสียงสัญญาจากเครื่องอุ่นอาหารดังเตือนว่าอาหารอุ่นเสร็จ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผมใช้สายตาพิจารณาเธออย่างถี่ถ้วน ก็เกิดสิ่งที่ทำให้ผมตกใจเป็นอย่างที่สาม ทำไมเธอน่ารักเหลือเกิน ช้างเผือกเชือกงาม ออกจากป่ามาเข้าเมืองแบบนี้ ชาตินี้จะได้เจออีกไหม
เธอดูไม่เหมือนคนอีสานเลย ผิวพรรณเนียนละเอียด ขาว มีสันจมูก คิ้วคม ถ้าไม่ได้ยินสำเนียงคงคิดว่าเป็นลูกหลานเจ้าของธุรกิจที่ไหน ที่อยากลองมาทำงาน ท่าทางเธอเงอะงะดูไม่คล่องแคล่ว ยิ่งทำให้คิดว่าเป็นลูกคุณหนูจริงๆนั้นแหละ
ผมสั้นประบ่า เสื้อตัวใหญ่โคร่ง ทำให้ตัวที่เล็กของเธอดูเล็กลงไปอีก ผิวพรรณที่ขาวเนียน และใบหน้าที่ถูกสเปคผมทุกอย่าง จนทำให้ผมถึงกับอุทานในใจอย่างหยาบคายว่า "น่ารักเ*ี้ยๆ"
หัวใจที่ไม่เคยหวั่นไหวมาแสนนาน กลับมาใจสั่นเต้นตึกตัก จนทำให้ลืมจ่ายเงินจนน้องคนนั่นต้องบอกยอดเงินที่จ่ายมาอีกรอบ ถึงมีสติกลับมาได้ หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ผมเดินออกมาจากร้านแบบมึนๆงงๆ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าซื้ออะไปบ้าง เงินทอนเท่าไหร่
ทันทีที่กลับมาที่ทำงานผมรวมรวบสติ ก่อนที่จะบอกกับตัวเองว่าต้องลงมือทันที ไม่งั้นเสร็จคนอื่นแน่ๆ พนักงานร้านสะดวกซื้อวันนึงต้องเจอผู้คนมากมาย น่ารักขนาดนั้นต้องมีชายอื่นหมายปองแน่นอน
งานกองที่ไว้โต๊ะจำนวนนึงถูกวางไว้แบบนั้น เนื่องจากไม่มีสมาธิทำ จนถึงเวลาเบรคช่วงบ่าย ปกติแล้วผมจะไม่ออกไปไหน จะใช้เวลางีบหลับที่ทำงาน หรืออย่างมากก็กินน้ำ ขนม ที่ซื้อตุนไว้ช่วงเที่ยง
แต่วันนี้ต่างไป ผมรีบเดินกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อร้านนั้น เพื่อที่จะไปเฝ้ามองน้องคนนั้นอีก แค่ขอให้ได้มองตอนนี้มันก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
เมื่อเข้าไปที่ร้านก็สุขใจที่ได้เจอกับน้องคนเดิม แต่ไม่ทันไร บรรยากาศมันก็ต่างไป ทำไมอยู่ๆมีลูกค้าผู้ชายมาพูดคุยกับ P ทำไมรู้จักชื่อเล่นกันด้วย ทำไมคุยกันอย่างสนิทสนมกันจัง (ต่อไปนี้จะใช้ชื่อย่อ P.แทนน้องนะครับ)
ไม่ได้การแล้ว หน้าตาไอนั้นมันดูไม่ปลอดภัยสุดๆ น้องยังเด็ก มีหวังได้ถูกไอเจ้านั่นหลอกเอาแน่ๆ อย่างน้อยถ้าจะโดนหลอกก็ขอให้เป็นคนดีๆหน่อยไม่ได้เหรอ ช่วยไม่ได้ มีแค่ทางเดียวต้องลงไปไฟท์กับศึกนี้สินะ ต้องลงเลยด้วย ช้าไม่ได้แล้ว
จะทำยังไงละ ??? จีบสาว...จีบเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเอง 1 รอบเนี้ยนะ แล้วตอนนั้นจีบแฟนคนแรกยังไงวะ อะไรที่ควรทำ ไม่ควรทำสิ่งที่ผู้หญิงชอบ ไม่ชอบ ?? เริ่มยังไงดี ??
สมัยวัยรุ่นๆ ก็ไม่เคยทักผู้หญิงก่อน ต้องบอกทั้งชีวิตเลยดีกว่า ไม่เคยจะเดินเข้าไปคุยแบบโต่งๆกับผู้หญิง เดินไปขอเบอร์ ขอเฟสนี่เลิกหวังไปได้เลย คนขี้อายแบบผมบางทีก็สงสัยตัวเองว่าเคยมีแฟนกับเขาได้อย่างไงนะ
อะจริงสิ ยุคนี้มันยุคแห่งโซเชียลเน็ตเวิร์กนิ อย่างน้อยแค่รวบรวมความกล้าแล้วไปขอเฟส บุ๊คมาก่อนก็ได้ มาคุยผ่านแชทคงอายน้อยกว่าคุยต่อหน้าจริงๆนั้นแหละ
นั้นแหละ...สิ่งที่ยากที่สุด
เวลาผ่านไป 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาด้วยความง่วงเพราะมัวแต่คิดเรื่องของ P ถึงเวลาเที่ยง ผมรีบไปร้านเธอทันที หลังจากคิดมาอย่างดี เตรียมประโยคมาเรียยร้อยว่าต้องพูอะไร กะพอรับเงินทอนเสร็จนี่แหละ ต้องขอเฟสบุ๊คให้ได้ แต่พอแค่ยืนจ้องหน้าเธอเท่านั้นแหละ เวลาหยุดเดิน ทุกอย่างที่คิดและเตรียมมา หายวับ... จบสิ้นแล้ว ผมคงทำได้แค่เฝ้ามองเธอไปแบบนี้แหละ
แต่...ก่อนที่จะถอดใจ ผมเหลือบไปเห็นป้ายประจำตัวพนักงานฝึกงาน "น.ส.คัทลียา สวยสด" (นามสมมุติ) ลายมืออ่านยากพอสมควร องศาก็ไม่ได้ พลาสติกป้ายก็สะท้อนแสงไฟ แถมจ้องนานๆ อาจจะดูคุกคามทางเพศ (ป้ายติดที่หน้าอก) ไม่เป็นไร ค่อยๆสังเกตุ ทีละคำ ใช้เวลาไป 3 วัน มาร้านนี้ 6 รอบ ในที่สุดก็ได้ชื่อ P มาแล้ว
เดี๋ยวนะ...ถ้าเฟสบุ๊ค P ไม่ได้ใช้ชื่อนามสกุลจริงตั้งเป็นชื่อเฟสละ...