รีวิวประสบการณ์ “ขลิบ”

สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การขลิบหนังหุ้มปลาย หลังจากที่ศึกษาหาข้อมูลมานาน ก็ตัดสินใจไปขลิบที่โรงพยาบาลรัชดา-ท่าพระ เพราะเห็นว่าคนรีวิวเยอะ และคุณหมอค่อนข้างเก่ง แถมราคาไม่แพงมาก ตอนแรกตั้งใจจะขลิบแบบไร้เลือด แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงนี้จึงต้องเซฟค่าใช้จ่ายด้วย  

เริ่มต้นจากการโทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อน เรื่องค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นก็นัดผ่าตัดอีก 1 อาทิตย์ วันที่นัดเป็นวันอังคารที่ 27 เมษา 64 เวลา 14:00 น.
ที่ผมตัดสินใจขลิบ เพราะว่าของผมเวลาอ่อนตัวก็รูดหนังหุ้มเปิดได้ปกติ แต่เวลาแข็งตัว จะรูดยาก ต้องใช้เจลช่วย แต่ถึงรูดได้แต่หนังหุ้มก็จะรัดบริเวณส่วนหัว จึงทำให้ทำความสะอาดลำบาก

ณ วันนัด เราเดินทางโดย BTS มาลงที่สถานีตลาดพลูแล้วต่อวิน หลังจากถึงที่โรงพยาบาลก็ทำประวัติคนไข้แล้วเข้าพบคุณหมอ เพื่อสอบถามปัญหา คุยประมาณ 10 น. ก็ออกมานั่งรอเรียกเพื่อเข้าห้องผ่าตัด

พอถึงเวลา พยาบาลก็มาเรียกเข้าห้องผ่าตัดครับ ห้องผ่าตัดขนาดไม่ใหญ่มาก จะเป็นห้องรวม ประมาณ 3 เตียง แต่มีม่านกั้น

พอเข้าไปถึงห้องผ่าตัด จะมีเตียงตรงกลางซึ่งมีคนไข้อีกท่านนึงกำลังผ่าตัด แต่เราไม่เห็นทั้งหมดนะครับ เห็นแค่ปลายเท้า เพราะมีผ้าม่านกั้นอยู่ แต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงพยาบาลกับคุณหมอคุยกันก็พอทราบว่ามาขลิบเหมือนกัน

เราเดินมาถึงเตียงด้านขวา พยาบาลก็บอกให้เราวางกระเป๋าและถอดกางเกงออกแล้ววางไว้ข้างเตียง ถอดเฉพาะกางเกงข้างนอก ส่วนกางเกงในถกลงมาไว้ที่หัวเข่าแล้วนอนบนเตียง ณ วินาทีนั้นก็แอบอายพยาบาลนิดๆ แต่ก็คิดในใจ ถ้ามัวแต่อายก็ไม่ได้ขลิบสักที

หลังจากนอนลงบนเตียงได้สักพัก คุณหมอกับพยาบาลก็เดินมา พร้อมกับเข็มฉีดยาชา เริ่มต้นจากการฉีดลงไปที่รอบๆโคนน้องชายทั้ง 4 ด้าน ซึ่งบอกเลยว่าเจ็บ น้ำตาไหลเลย แต่เป็นเจ็บที่ทนได้ (นอนกำมือแน่น) หลับตาปี๋เลย 😖

หลังจากนั้นก็นอนรอให้ยาชาออกฤทธิ์ ส่วนคุณหมอกับพยาบาลก็เดินไปเตียงข้างๆ เพื่อขลิบให้กับคนไข้อีกคน

แต่ระหว่างที่นอนรอนี่แหละ ความคิดต่างๆเข้ามาในหัวเต็มไปหมด เพราะเราได้ยินเสียงเตียงข้างบนเจ็บอยู่เป็นระยะๆ

ผ่านไปประมาณ 30 น. (ไม่แน่ใจ)
พยาบาลก็เดินมาเช็คเราว่ายาชาที่ฉีดให้ออกฤทธิ์หรือยัง โดยการลองหยิกที่หนังหุ้มปลาย ซึ่งเรายังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ไม่ได้เจ็บมาก แต่ก็ยังเจ็บ พยาบาลก็เลยนวดๆตรงโคนที่โดนฉีด ไม่รู้เพื่ออะไรเหมือนกัน ซึ่งพยาบาลก็ชวนเราคุยพร้อมกับลองหยิกที่หนังหุ้มปลายเหมือนเดิม หลายๆครั้ง แต่เราก็ยังเจ็บทุกครั้ง
พยาบาลจึงให้นอนรออีกแปปนึง

ผ่านไป 10 น. คุณหมอเดินมาเช็ค เราจึงบอกว่ายังเจ็บอยู่ ไม่รู้สึกชา คุณหมอเลยเตรียมยาชาฉีดให้อีกเข็ม ครั้งนี้ฉีดไปที่โคนด้านบนกับโดนด้านล่าง หลังจากฉีดเสร็จ รู้สึกร้อนๆอุ่นๆ ไม่เกิน 5 น. พยาบาลเดินมาเช็คโดยการหยิกที่ปลายหุ้มเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เราไม่รู้สึกเจ็บแล้ว รู้สึกแค่ว่ามีอะไรมาสัมผัสที่ปลายเท่านั้น

หลังจากนั้นพยาบาลก็ไปตามคุณหมอมาเตรียมผ่าตัด
ตอนผ่าตัดเราไม่เห็น เพราะพยาบาลเอาผ้ามาปิดตาไว้ แค่รู้สึกว่ามีเครื่องมืออะไรมาโดนตรงปลายเท่านั้น

ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเป็นการขลิบธรรมดา แต่มารู้ทีหลังว่าขลิบโดยใช้เครื่องมือ

ขณะผ่าตัดก็มีบางจังหวะที่เจ็บเล็กๆ ซึ่งเราก็เลยถามคุณหมอว่าเริ่มผ่าตัดแล้วใช่ไหม คุณหมอตอบใช่ อีกนิดเดียวใกล้เสร็จแล้ว หลังจากนั้นมารู้สึกตอนสุดท้ายตอนคุณหมอเย็บ เพราะเรารู้สึกแสบและเริ่มเจ็บ
หลังจากเย็บและพันแผลเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 30 น. พยาบาลก็ถามว่าอยากดูไหม ตอนนั้นคิดในใจ เอาไว้ดูตอนแผลเริ่มดีขี้นดีกว่า

หลังจากพยาบาลเช็ดเบตาดีดและทำแผลเสร็จ เราก็ลุกขึ้นใส่กางเกง ตาก็แอบเหลือบไปดู ห่อไว้เป็นแหนมตุ้มเลย พอใส่กางเกงเรารู้สึกว่ามันแสบๆปนปวดนิดๆ เลยถามพยาบาลว่ากินยาแก้ปวดเลยได้ไหม พยาบาลก็บอกว่าทานได้เลย

หลังจากออกจากห้องผ่าตัดก็มานั่งรอจ่ายยา พร้อมกับค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 6,420 บาท หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรารู้สึกว่ากางกางที่ใส่ไปเดินไม่สะดวกเพราะเป็นกางเกงสแลค เลยไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นที่เตรียมมา หลังเดินออกจากโรงพยาบาลเราก็กินยาแก้ปวดไปเลย แล้วเรียกวินมาขึ้น BTS กลับ

ส่วนการล้างแผลคุณหมอนัดเป็นวันเว้นวันเพราะที่พักเราอยู่ค่อนข้างไกล

ชั่วโมงแรกหลังออกจากห้องผ่าตัด บอกเลยว่าสุดๆ ทั้งแสบทั้งปวด น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาชาหมด บวกกับยาแก้ปวดยังไม่ออกฤทธิ์ ระหว่างเดินทางกลับเดินเหมือนคนไม่มีแรง เดินช้ามากๆ มีแต่คนมอง ตลกตัวเองสุดๆ หลังจากถึงห้อง รีบเปลี่ยนกางกางเป็นกางเกง boxer ที่ใส่สบายๆ แล้วนอนพัก

ผ่านมา 3 ชั่วโมงหลังผ่าตัด อาการปวดเริ่มเบาลง ส่วนเวลาฉี่เราใช้ขวดน้ำตัดเหลือส่วนบนประมาณ 2 นิ้ว เอาไว้ครอบตรงหัวเพื่อไม่ให้เลอะผ้าพันแผล การฉี่ครั้งแรกพุ่งแรงมาก เพราะไม่มีหนังหุ้มปลายมาปิด ส่วนการอาบน้ำเราใช้วิธีการเช็ดตัวเอา เพราะแผลจะได้ไม่โดนน้ำ

เดี๋ยวมาต่อครับ…
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่