ลำนำแห่งนกร้องเพลงและอสรพิษ : The Ballad of songbirds and snakes
รีวิวหลังอ่านจบ
...
เขากลัว ดร.กอล กลัวแคปิตอล กลัวทุกอย่าง ถ้าคนที่ควรจะปกป้องเรากลับทำเหมือนชีวิตเราเป็นเรื่องตลก...แล้วเราจะมีชีวิตรอดไปได้อย่างไร เราคงไว้ใจคนแบบนี้ไม่ได้แล้วแน่ๆ และถ้าเราไม่ไว้ใจพวกเขา เราจะไว้ใจใครได้อีก ไม่มีทางเดาได้เลย...
ประโยคข้างบนคือสิ่งที่อยู่ในความคิดของคอริโอเลนัส สโนว์ เด็กชายอายุ 18 ผู้กำลังหวาดกลัวและสิ้นหวังกับสถานการณ์ทั้งที่บ้านและการปกครองของแคปิตอล หลังจากการที่กบฏเขตปกครองทั้ง 13 เขตพ่ายแพ้ และเพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าผู้แพ้จะต้องชดใช้อย่างสาสม จึงเกิด 'เกมล่าชีวิต' ที่ต้องให้เขตปกครองส่งเด็กๆ บรรณาการจากทั้ง 12 เขตมาฟาดฟันกันจนเหลือผู้ชนะคนสุดท้ายในสนามประลอง
นี่คือ The Hunger Games ครั้งที่ 10
เล่มนี้คือภาคก่อนที่เราจะได้รู้จักกับแคตนิต เอเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟในเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 64 ปีก่อน
ขณะที่คอริโอเลนัส สโนว์ยังเป็นเด็กนักเรียนม.ปลาย ยากจนแต่ยังคงปกปิดความตกต่ำของตัวเองด้วยการสร้างภาพ Snow lands on top สโนว์อยู่เหนือสุด แม้จะต้องอดมื้อกินมื้อ แต่การเป็นที่ปรึกษาให้บรรณาการในเกมล่าชีวิตครั้งนี้กลับเป็นบันไดพลิกสถานการณ์ย่ำแย่ หากบรรณาการเขาชนะ ทุนการศึกษาเต็มจำนวนจะช่วยส่งให้เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มภาคภูมิ และเขาจะได้สานฝันการเป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่แห่งพาเน็มต่อไป
...เว้นแต่บรรณาการหญิงของเขา 'ลูซี่ เกรย์ แบร์ด' จะมาจากเขต 12 เขตที่ยากจนและอ่อนแอที่สุด
'ทุกการตัดสินใจของเขาอาจนำไปสู่ชัยชนะหรือหายนะ' (โปรยปกหลัง)
และทุกหมากที่เขาวาง ทุกตาที่เขาเดิน นอกจากจะทำไปเพราะเริ่มผูกพันกับลูซี่ เกรย์ ทั้งใจแล้ว เขาอาจจะต้องทบทวนว่าที่แท้แล้วเขารักเธอ...หรือรักตัวเองมากกว่า
นอกจากจะพาเราหวนกลับไปดูช่วงวัยรุ่นอันว้าวุ่น และความรัก (ที่ทำให้เขาดูโง่และอ่อนแอ ตามคำบอกกล่าวของเขาเอง) ของคอริโอเลนัส ว่าเหตุใดหรืออะไรที่หล่อหลอมเขามาเป็น 'ประธานาธิบดีสโนว์' ตัวร้ายที่แคตนิต เอเวอร์ดีนสาบานว่าจะสังหารให้ได้ คนที่แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกต่อต้านหรือแม้แต่เห็นใจเหล่าบรรณาการ แต่เขาก็คือหนึ่งในผู้ที่สามารถหาข้อดีของการมี 'เกมล่าชีวิต' ออกมาได้ และยินดีที่จะสานต่อมันไปเรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่ด้านชาลงเช่นกัน เรื่องนี้ผู้เขียนสามารถทำให้เราเห็นใจ ทั้งยังถึงกับเอาใจช่วยคอริโอให้เขาสมหวังในการพาบรรณาการของตนไปสู่ชัยชนะ
พาร์ทความรักทำให้เราได้เห็นว่าจริงๆ แล้วนี่คือเด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีหัวใจรักและพยายามทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก
แล้วอะไรพาเขามาถึงจุดเปลี่ยน?
คนเขียนเก่งนะ ตอนอ่านแม้เราจะเห็นใจ เข้าใจ เอาใจช่วย แต่คอริโอก็เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว เราจะลุ้นไปพร้อมๆ กับเกิดความตะขีดตะขวงใจไปด้วยว่าสิ่งที่เขาคิด...มันถูกต้องแล้วหรือ เขาเป็นคนที่หากมีทางเลือกสองทาง หนึ่งดีกับคนที่รัก สองดีกับตัวเขาเอง เขาจะเลือกทางที่สอง และแม้บางครั้งเขาจะ 'ทุ่ม' ตัวเองลงไปเพื่อคนอื่น แต่มุกการกระทำนั้นจะมี 'ตัวเขาเอง' ที่ได้ประโยชน์ หรืออย่างน้อยก็ไม่เสียอะไร
เขารักลูซี่ เกรย์ จริงๆ เขารักซีเจนัสในฐานะเพื่อนเช่นกัน แต่นั่นแหละ
Snow lands on top - สโนว์อยู่เหนือสุด
นอกจากการพาไปสำรวจเบื้องลึกจิตใจของทรราชย์ที่รู้ตัวเองว่าจะเป็นทรราชย์ในอนาคตเป็นประเด็นหลักแล้ว คนที่เป็นแฟนหนังสือหรือหนัง The Hunger games ก็จะฟินกับ easter egg ที่จะอยู่ในช่วงของแคตนิต การที่เกมล่าชีวิตเป็นเหมือนครั้งล่าสุด หรือแม้แต่เรื่องในเขต 12 ก็ตาม
ถือเป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
"...คุณไม่มีสิทธิ์ขังพวกเขาแล้วให้อดอาหาร หรือลงโทษพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย คุณไม่มีสิทธิ์ไปพรากชีวิตหรืออิสรภาพของพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่เราทุกคนเกิดมามีเหมือนกัน และมันไม่ใช่ของที่คุณจะมาพรากไปเสมือนว่านั่นเป็นของของคุณ การเป็นผู้ชนะในสงครามไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น การมีอาวุธมากกว่าไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น การเป็นพลเมืองของแคปิตอลก็ไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น ไม่มีอะไรทำให้คุณมีสิทธิ์นั้นได้..."
-ซีเจนัส พรินท์-
รีวิว ลำนำแห่งนกร้องเพลงและอสรพิษ The hunger games 0
รีวิวหลังอ่านจบ
...เขากลัว ดร.กอล กลัวแคปิตอล กลัวทุกอย่าง ถ้าคนที่ควรจะปกป้องเรากลับทำเหมือนชีวิตเราเป็นเรื่องตลก...แล้วเราจะมีชีวิตรอดไปได้อย่างไร เราคงไว้ใจคนแบบนี้ไม่ได้แล้วแน่ๆ และถ้าเราไม่ไว้ใจพวกเขา เราจะไว้ใจใครได้อีก ไม่มีทางเดาได้เลย...
ประโยคข้างบนคือสิ่งที่อยู่ในความคิดของคอริโอเลนัส สโนว์ เด็กชายอายุ 18 ผู้กำลังหวาดกลัวและสิ้นหวังกับสถานการณ์ทั้งที่บ้านและการปกครองของแคปิตอล หลังจากการที่กบฏเขตปกครองทั้ง 13 เขตพ่ายแพ้ และเพื่อตอกย้ำให้รู้ว่าผู้แพ้จะต้องชดใช้อย่างสาสม จึงเกิด 'เกมล่าชีวิต' ที่ต้องให้เขตปกครองส่งเด็กๆ บรรณาการจากทั้ง 12 เขตมาฟาดฟันกันจนเหลือผู้ชนะคนสุดท้ายในสนามประลอง
นี่คือ The Hunger Games ครั้งที่ 10
เล่มนี้คือภาคก่อนที่เราจะได้รู้จักกับแคตนิต เอเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟในเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 64 ปีก่อน
ขณะที่คอริโอเลนัส สโนว์ยังเป็นเด็กนักเรียนม.ปลาย ยากจนแต่ยังคงปกปิดความตกต่ำของตัวเองด้วยการสร้างภาพ Snow lands on top สโนว์อยู่เหนือสุด แม้จะต้องอดมื้อกินมื้อ แต่การเป็นที่ปรึกษาให้บรรณาการในเกมล่าชีวิตครั้งนี้กลับเป็นบันไดพลิกสถานการณ์ย่ำแย่ หากบรรณาการเขาชนะ ทุนการศึกษาเต็มจำนวนจะช่วยส่งให้เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มภาคภูมิ และเขาจะได้สานฝันการเป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่แห่งพาเน็มต่อไป
...เว้นแต่บรรณาการหญิงของเขา 'ลูซี่ เกรย์ แบร์ด' จะมาจากเขต 12 เขตที่ยากจนและอ่อนแอที่สุด
'ทุกการตัดสินใจของเขาอาจนำไปสู่ชัยชนะหรือหายนะ' (โปรยปกหลัง)
และทุกหมากที่เขาวาง ทุกตาที่เขาเดิน นอกจากจะทำไปเพราะเริ่มผูกพันกับลูซี่ เกรย์ ทั้งใจแล้ว เขาอาจจะต้องทบทวนว่าที่แท้แล้วเขารักเธอ...หรือรักตัวเองมากกว่า
นอกจากจะพาเราหวนกลับไปดูช่วงวัยรุ่นอันว้าวุ่น และความรัก (ที่ทำให้เขาดูโง่และอ่อนแอ ตามคำบอกกล่าวของเขาเอง) ของคอริโอเลนัส ว่าเหตุใดหรืออะไรที่หล่อหลอมเขามาเป็น 'ประธานาธิบดีสโนว์' ตัวร้ายที่แคตนิต เอเวอร์ดีนสาบานว่าจะสังหารให้ได้ คนที่แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกต่อต้านหรือแม้แต่เห็นใจเหล่าบรรณาการ แต่เขาก็คือหนึ่งในผู้ที่สามารถหาข้อดีของการมี 'เกมล่าชีวิต' ออกมาได้ และยินดีที่จะสานต่อมันไปเรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่ด้านชาลงเช่นกัน เรื่องนี้ผู้เขียนสามารถทำให้เราเห็นใจ ทั้งยังถึงกับเอาใจช่วยคอริโอให้เขาสมหวังในการพาบรรณาการของตนไปสู่ชัยชนะ
พาร์ทความรักทำให้เราได้เห็นว่าจริงๆ แล้วนี่คือเด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มีหัวใจรักและพยายามทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก
แล้วอะไรพาเขามาถึงจุดเปลี่ยน?
คนเขียนเก่งนะ ตอนอ่านแม้เราจะเห็นใจ เข้าใจ เอาใจช่วย แต่คอริโอก็เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว เราจะลุ้นไปพร้อมๆ กับเกิดความตะขีดตะขวงใจไปด้วยว่าสิ่งที่เขาคิด...มันถูกต้องแล้วหรือ เขาเป็นคนที่หากมีทางเลือกสองทาง หนึ่งดีกับคนที่รัก สองดีกับตัวเขาเอง เขาจะเลือกทางที่สอง และแม้บางครั้งเขาจะ 'ทุ่ม' ตัวเองลงไปเพื่อคนอื่น แต่มุกการกระทำนั้นจะมี 'ตัวเขาเอง' ที่ได้ประโยชน์ หรืออย่างน้อยก็ไม่เสียอะไร
เขารักลูซี่ เกรย์ จริงๆ เขารักซีเจนัสในฐานะเพื่อนเช่นกัน แต่นั่นแหละ
Snow lands on top - สโนว์อยู่เหนือสุด
นอกจากการพาไปสำรวจเบื้องลึกจิตใจของทรราชย์ที่รู้ตัวเองว่าจะเป็นทรราชย์ในอนาคตเป็นประเด็นหลักแล้ว คนที่เป็นแฟนหนังสือหรือหนัง The Hunger games ก็จะฟินกับ easter egg ที่จะอยู่ในช่วงของแคตนิต การที่เกมล่าชีวิตเป็นเหมือนครั้งล่าสุด หรือแม้แต่เรื่องในเขต 12 ก็ตาม
ถือเป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
"...คุณไม่มีสิทธิ์ขังพวกเขาแล้วให้อดอาหาร หรือลงโทษพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย คุณไม่มีสิทธิ์ไปพรากชีวิตหรืออิสรภาพของพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่เราทุกคนเกิดมามีเหมือนกัน และมันไม่ใช่ของที่คุณจะมาพรากไปเสมือนว่านั่นเป็นของของคุณ การเป็นผู้ชนะในสงครามไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น การมีอาวุธมากกว่าไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น การเป็นพลเมืองของแคปิตอลก็ไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์นั้น ไม่มีอะไรทำให้คุณมีสิทธิ์นั้นได้..."
-ซีเจนัส พรินท์-