ความทรงจำวัยเด็ก- ที่โรงเรียนคุณมีกิจกรรมอะไรที่ทำให้คุณประทับใจและจำได้จนถึงวันนี้บ้าง (แม้จะเลือน ๆ ก็เถอะ)

ชวนมาเล่าถึงความทรงจำวัยเด็ก ว่าที่โรงเรียนคุณมีกิจกรรมอะไรที่คุณจำได้ถึงทุกวันนี้บ้างครับ

สำหรับจขกท. ตอนเด็ก สมัยประถม (พ.ศ. 2520~2525) เรียนอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนไม่ใหญ่ไม่เล็ก จำได้ว่า ระดับอนุบาลมี 2 ห้อง และระดับประถม มีชั้นปีละ 4 ห้อง (เรียกเป็นห้อง ก ข ค ง) ส่วนชั้นมัธยมนั้น มีถึง ม. 3 แต่ที่โรงเรียนนี้ไม่เน้นชั้นมัธยม คือ ตอนป. 6 ครูก็จะพยายามยุยงส่งเสริม (ใช้คำแปลก ๆ นะ ๕๕๕) ให้นักเรียนทุกคนไปสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลกันให้ได้ ซึ่ง ไม่น่าเชื่อว่า พวกเราไปสอบกันได้จริง ๆ ราว 3 ใน 4 (ก็เลือกไปสอบโรงเรียนที่มั่นใจว่าสอบติดกันแน่ ๆ หรืออย่างน้อยก็มีลุ้นว่าได้มากกว่าไม่ได้แหละนะ อย่างรุ่นผม มีสอบติดสวนกุหลาบแค่ 2 คน ที่เหลือก็ไปที่อื่นกันหมด) ทำให้ที่โรงเรียนนี้ พอขึ้นเป็นชั้นม.ต้น จะเหลือแค่ชั้นปีละห้องเดียว ประมาณว่า เอาไว้รองรับคนที่สอบไม่ติดนั่นเอง

เกริ่นมานานล่ะ เข้าเรื่อง
ความทรงจำในวัยเด็ก

- รถไมโล (ตั้งกระทู้มาจะเขียนเรื่องนี้แหละ ๕๕๕) วันดีคืนดี ตอนเช้าครูใหญ่ก็มีประกาศ วันนี้จะมีไมโลมาแจกนะนักเรียน พวกเราก็ตื่นเต้นกันใหญ่เลยสิ แล้วพอสาย ๆ รถไมโลก็มาตามนัด โรงเรียนก็จะจัดให้แต่ละชั้น ทยอยเดินเข้าแถวลงมารับไมโลเย็น ๆ หวานเจี๊ยบ ชื่นใจ คนละหนึ่งแก้ว แล้วก็เดินประคอง กลับไปนั่งดื่มกันในห้อง กิจกรรมนี้จะพิเศษอีกหนึ่งเรื่องคือ ปกติที่โรงเรียนจะเข้มงวดว่า ห้ามกินขนม/ดื่มเครื่องดื่มระหว่างเรียน แต่วันนี้ พิเศษ ยอมให้เอาไมโลที่ได้รับแจก มาดื่มในห้องได้ โดยที่ครูก็สอนต่อหลังจากที่กลับเข้าห้องมาหมดแล้ว แต่นั่นแหละ เด็ก ๆ อะนะ แปบเดียวก็ดื่มกันหมดล่ะ ความประทับใจอีกเรื่องคือ ไมโลที่แจกมา ทำไมมันอร่อยมากวะ? ชงเองไม่เคยชงได้อร่อยแบบนี้เลย ๕๕๕ อ้อ แล้วก็แน่นอนว่าวันนั้น ตอนแม่มารับกลับบ้าน ก็คุยแต่เรื่องนี้ ยาวไปจนถึงที่บ้าน ไปคุยให้พ่อฟังต่ออีกรอบ แต่จำไม่ได้แล้ว ว่าคุยอะไรได้ยาวขนาดนั้น

- ฉีดยา วันดีคืนดี ก็จะมีแจ้งไปที่ผู้ปกครอง (ฝากจดหมายไปกับพวกเรา) ว่า จะมีฉีดวัคซีน (ป้องกันอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่า มีฉีดกันทุกปี -- ตรงนี้น่าจะมีแบบฟอร์มยินยอมให้ผู้ปกครองเซ็นกลับมาด้วยแหละนะ แต่ในฐานะเด็ก ไม่ได้สนใจตรงนั้นเท่าไร ครูฝากจดหมายมาก็เอามา พอแม่ฝากจดหมายกลับก็เอากลับ) แล้วถึงวันฉีด ก็เหมือนกิจกรรมไมโลข้างบน นักเรียนก็จะถูกจัดให้ทยอยเข้าแถว เดินลงมาจากห้องเรียน มารับการฉีดเป็นห้อง ๆ คนที่ฉีดแล้วร้องไห้ก็มีให้เห็นเป็นปกติ ส่วนพวกผม อืม ตอนอยู่ป. เล็ก ๆ จำไม่ได้แฮะ แต่จำได้แม่นว่า พอขึ้น ป. 5 ป. 6 จะแข่งกันไม่ร้องไห้ ใครร้องนี่โดนล้อไปเป็นสัปดาห์ว่าใจเสาะ แล้วก็จำได้แม่นว่า เพื่อนผู้ชายคนนึง.... พยาบาลต้องเอาสำลีเช็ดแขนสามรอบ เพราะ พอเช็ดแล้ว สำลีดำปี๋เลย เพื่อนคนที่ต่อคิวหันไปมองกัน แล้วหัวเราะกันคิกคัก ไอ้หมอนี่ มองไม่รู้แฮะว่า ซกมก ๕๕๕ สงสัยอาบน้ำไม่ถูตัว

- วันดีคืนดี จะมีครูแสนใจดี จากกระทรวงศึกษาธิการ มาสอนชั่วโมงพิเศษ บางครั้งก็มาสอนศิลปะ บางครั้งก็มาสอนวิชาการบ้านการเรือน (พวกเย็บปักถักร้อยน่ะแหละ ซึ่งสมัยนั้น พวกผมมีเรียนกันอยู่แล้วในแต่ละชั้นปี จำได้ว่า มีปีที่เรียนร้อยพวงมาลัยด้วย) จำได้ว่า มีมาทุกปี (ทุกชั้นปี) ปีละครั้ง-สองครั้งต่อห้องเรียน แต่มาคิดดูตอนนี้ เข้าใจว่า ที่มีครูมาสอน น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานจากกระทรวงที่มาตรวจโรงเรียนซะมากกว่า (โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเอกชน) กล่าวคือ ในทีม คงมีคนที่มาตรวจโน่นนี่นั่นกับครูใหญ่และครูคนอื่น ๆ แล้วก็มีคนที่มาสอนชั่วโมงพิเศษ เพื่อสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนไปด้วย (มั้งนะ เดาล้วน ๆ)

- ข้อสอบสมัยนั้น เป็นข้อสอบส่วนกลาง ส่งมาจากกระทรวงฯ พอสอบเสร็จ บางทีครูที่โรงเรียนก็จะมารับผิดกับพวกผมว่า ข้อนั้นข้อนี้ครูไม่ได้สอน ขอโทษด้วย (อันนี้เป็นข้อดีของครูที่นี่แฮะ ยอมรับผิดกันตรง ๆ จำได้ว่า ครูที่โรงเรียนผมนิสัยดีกันทุกคนเลยแหละ มีคนที่แก่ ๆ อาจจะเหวี่ยงไปบ้าง แต่ไม่ว่ากันอะ) ซึ่งพวกนักเรียนก็ไม่ว่าอะไรนะ เพราะว่า ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบไง ทุกคนก็ไม่ได้เรียนข้อนั้นเหมือนกันหมด แต่ข้อสอบข้อที่ครูไม่ได้สอน มีไม่เยอะหรอกนะ แค่ข้อสองข้อต่อครั้งที่สอบ แต่มันก็มีทุกครั้งสิน่า

- ป. 6 มีกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เป็นคืนเดียวในชีวิตการเรียนในโรงเรียนนี้ ที่จะได้นอนค้างคืนที่โรงเรียน ซึ่งก็คือ นอนที่ห้องเรียนนั่นแหละ (เอาโต๊ะ-เก้าอี้ออกหมด แล้วกางมุ้ง ปูเสื่อ) และเป็นสองวันที่อยู่ที่โรงเรียนเพื่อทำกิจกรรมค่ายลูกเสือทั้งวันเลย (วันที่สอง กลับบ้านตามเวลาปกติ คือ เวลาเลิกเรียน 4 โมงเย็น)

- วันดีคืนดี มีบรรยายพิเศษจากวิทยากรภายนอก ซึ่งบอกชื่อมา พวกผมก็ไม่รู้จักหรอกว่า ลุง/พี่ชาย/พี่สาวคนนี้ใคร สำหรับที่โรงเรียนนี้ จะให้นักเรียนชั้นที่เกี่ยวข้อง (พิจารณาแล้วว่าฟังบรรยายนั้นรู้เรื่อง หรือ เป็นกลุ่มเป้าหมาย) ลงมานั่งกับพื้นที่ใต้อาคารเรียน (โรงเรียนไม่มีห้องประชุม เวลาประชุม หรือ มีกิจกรรมแบบนี้ ก็จัดกันใต้อาคารเรียนนั่นแหละ) นั่งรวมกันหลายห้อง แล้ววิทยากร ก็ยืนบรรยายอยู่ข้างหน้า สำหรับจขกท. จำได้อยู่ครั้งเดียว ว่าเขามาบรรยายเรื่อง การแต่งกลอน ส่วนครั้งอื่น ๆ จำได้แต่ว่า มี แต่จำเรื่องไม่ได้เลย ๕๕๕ (ถ้าให้เดา- เพราะผมจำไม่ได้จริง ๆ- น่าจะมีมาบรรยายเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ กับเรื่องยาเสพติดแน่ ๆ สองเรื่องนี้ล่ะ แต่ทำไมจำไม่ได้เลย ๕๕๕)

แค่นี้ละกัน เอาที่เด่น ๆ ที่ยังจำได้อยู่ เรื่องอื่นก็เลือนลางไปหมดแล้ว หลายเรื่องก็จำสับสน จำเรื่องนั้นเป็นเรื่องนี้ ฯลฯ

แล้วคุณล่ะ? ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยเล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่