EXPO 2002 MANILA ฝันที่หลุดลอยของรัฐบาลฟิลิปปินส์ กับความพยายามในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมระดับโลกรายแรกในอาเซียน

เมื่อพูดถึงงาน EXPO หรือมหกรรมจัดแสดงนิทรรศการนานาชาติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการจัดอีเวนท์นานาชาติที่ใหญ่สุดในโลก รองๆการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หรือ ฟุตบอลโลกเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นการแสดงศักยภาพและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศเจ้าภาพ ยังเป็นหนึ่งในอีเวนท์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างปักจุดหมายปลายทางเพื่อมาท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

ในทางประวัติศาสตร์ EXPO ถือเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกยุคสมัยใหม่เลย เมื่อการจัดงานนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1851 ณ คริสตัลพาเลซ กรุงลอนดอน ของอังกฤษ​ในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย เป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งของการปฏิวัติอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ เพราะในงานนี้มีการจัดแสดงนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆจากประเทศเจ้าภาพ และจากนานาประเทศที่เข้าร่วม นอกจากนี้แล้วสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆทั่วโลกอย่างหอไอเฟล และ Space Needle Tower ที่ซีแอตเทิล ก็เป็นสิ่งก่อสร้างที่เนรมิตขึ้นในการจัดงาน EXPO ในอดีตอีกด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ครั้งหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
เคยจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน EXPO ซะด้วย และสามารถเอาชนะประเทศที่เจริญกว่าอีกหลายประเทศ
แต่ EXPO ครั้งนั้น กลับไม่ได้จัดขึ้น

ใช่ครับ เรากำลังจะพูดถึง EXPO 2002 MANILA งานเอ็กซ์โป ที่ไม่เคยได้จัด


ย้อนไปเมื่อทศวรรษ 1990 เป็นช่วงที่หลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เศรษฐกิจเฟื่องฟู สำหรับบ้านเราก็คือยุค "เศรษฐกิจฟองสบู่" หรือ "เสือเศรษฐกิจตัวที่ห้าของเอเชีย" เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ ประเทศพันเกาะอันเป็นหนึ่งในเพื่อนบ้านอาเซียนของเรา ก็เป็นช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาเติบโต ในสมัยรัฐบาลฟิเดล รามอส ประธานธิบดีในสมัยนั้น ในยุคนี้เอง หน่วยงานการท่องเที่ยวบ้านเขา มีแพลนจะจัดอีเวนท์ใหญ่ๆเพื่อดึงเม็ดเงินและนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเยอะๆ ซึ่งหนึ่งในงานที่เขาสามารถจัดได้คือ Miss Universe 1994 หรือการประกวดนางงามจักรวาล เมื่อปี 2537 นั่นเอง (ปีที่ป็อป อารียา เข้าประกวดในนามนางสาวไทย)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

และในปีนั้นเอง รัฐบาลฟิลิปปินส์ก็ได้มีแผนที่จะจัดงาน EXPO ในปี 2002 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว 20 ปี โดยตั้งเป้าหมายว่า ปี 2010 จะต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในบ้านเขาเกินห้าล้านคน โดยใช้งานนี้เป็นตัวเร่งให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น และในที่สุด ปี 1998 รัฐบาลฟิลิปปินส์ก็ได้เป็นเจ้าภาพสมใจ ภายหลังจากที่องค์การนิทรรศการนานาชาติ หรือ Bureau International des Expositions ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ได้เลืองมะนิลาให้เป็นเมืองเจ้าภาพงาน EXPO 2002 เฉือนชนะประเทศออสเตรเลียที่ชิงเจ้าภาพเช่นเดียวกัน ทั้งๆที่ออสเตรเลียมีความพร้อมมากกว่า และยังเคยเป็นเจ้าภาพงานนี้ในอดีต แต่ทำไมฟิลิปปินส์ที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาถึงเฉือนชนะไปได้?

ในสมัยนั้น บ้านเขาถือว่าฮือฮาพอสมควร เพราะเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างออสเตรเลียจนได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในปีที่ครบรอบ 100 ปีที่บ้านเขาปลดแอกจากสเปน แถมงานที่ได้จัดยังอยู่ในระดับ WORLD EXPO ที่สเกลงานจะใหญ่เทียบเท่ากับ EXPO 2020 ที่เซี่ยงไฮ้ จีน และ EXPO 2020 ที่จะจัดขึ้นที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งสื่อมวลชนฟิลิปปินส์ต่างตีข่าวว่าประเทศเราจะได้เป็นชาติแรกในเอเชียที่ได้จัด WORLD EXPO

(ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ประเทศแรกในเอเชียที่ได้จัด WORLD EXPO คือญี่ปุ่น ในปี 1970 ที่โอซาก้า ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูน 20th Century Boy จะคุ้นๆกับหอคอยพระอาทิตย์ในเรื่อง ซึ่งหอคอยดังกล่าวมาจากการจัดงานนี้ครับ และเป็นสาเหตุที่ญี่ปุ่นโยนการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์มาให้ไทยจัดเพื่อที่จะได้โฟกัสงานเดียว ก่อนหน้านั้นในปี 1993 เกาหลีใต้ก็ได้จัดงาน EXPO 1993 ที่เมืองแทจอน)

โลโก้งานที่จะจัดในครั้งนั้น
แผนผังการจัดงาน
Ninoy Aquino Parks and Wildlife Center และ Quezon Memorial Circle สถานที่ๆรัฐบาลวางแผนที่จะจัดงาน

งานนี้ทำเอาชาวตากาล็อกปลื้มใจได้ไม่นาน ภายหลังจากที่ประธานธิบดีคนใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาคือ โจเซฟ เอสตราด้า ก็เกิดการแฉขึ้นมาในรัฐบาลใหม่ว่า โครงการจัดงาน EXPO 2002 ไม่คุ้มค่าพอที่จะพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แถมซ้ำร้าย ตอนที่มีการชิงเมืองเจ้าภาพ รัฐบาลชุดก่อนทุ่มเงินกว่าล้านเหรียญสหรัฐในการล็อบบี้ให้องค์การ BIE เลือกมะนิลาเป็นเมืองเจ้าภาพ รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนภายในต่างๆ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ที่ดิ่งลงเหวเนื่องจากวิกฤตต้มยำกุ้งที่ส่งผลมาจากประเทศไทย งาน EXPO เลยกลายเป็นความฝันที่หลุดลอยของชาวฟิลิปปินส์ไปโดยปริยาย เมื่อรัฐบาลเอสตราด้ามีคำสั่งยกเลิกการจัดงาน ทำให้งานนิทรรศการนานาชาติครั้งนี้กลายเป็นแผนโครงการที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ฟิลิปปินส์หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง ก็เผชิญปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองอีกครั้ง
ในปี 2001 ประธานธิบดีโจเซฟ เอสตราด้าลาออกจากตำแหน่งก่อนการไต่สวนประธานธิบดี
ภายหลังจากเกิดการชุมนุมประท้วงใหญ่ในกรุงมะนิลาอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1986 

แน่นอนว่าการจัดงานอีเวนท์ใหญ่ๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬา การประชุมระหว่างประเทศ การจัดนิทรรศการนานาชาติ
หรือแม้กระทั่งเทศกาลภาพยนตร์ ดนตรี หรือการประกวดนางงามและอื่นๆ นอกจากจะดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว
ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศนั้นๆอีกด้วย อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือจีน เมื่อครั้งจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หรือ EXPO มาแล้ว

แต่การจัดงานแต่ละครั้ง ไม่ได้ใช้เงินจำนวนน้อยๆ หากนำเงินภาษีของประชาชนมาลงทุนแล้วไม่เกิดผลประโยชน์มากเท่าที่ควรจะเป็น
ก็ไม่ต่างอะไรกับการนำเงินประชาชนมาผลาญเล่น แถมยังจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดอีก ดังที่เคยเกิดขึ้นในกรีซและบราซิลมาแล้ว

ดังนั้น การที่จะลงทุนสิ่งใดๆที่จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อประชาชน ราษฎรเดินดิน
ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรที่จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและรับฟังเสียงของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของประเทศก่อนที่จะตัดสินลงมือทำ

ปล.ประเทศไทย เคยเป็นเจ้าภาพการจัดงาน EXPO มาแล้วครั้งหนึ่ง คืองานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549
หรือ EXPO Chiangmai 2006 - 2007 Royal Flora Ratchapruek 
ทำให้ไทยเป็นประเทศที่สี่ในเอเชียที่องค์การนิทรรศการนานาชาติรับรองให้จัดงานต่อจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน

ที่มา
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่