แอบชอบเพื่อนผู้ชายด้วยกันและมีความสับสนในความรู้สึกบางอย่างครับ

สวัสดีครับผมมีเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกของตัวผมเองมาเล่าให้ทุกคนฟังครับ คือผมกำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ตอนนี้ได้แยกจากกันไปคนละที่เพราะต้องไปต่อมหาลัยครับ ผมเองได้มาเรียนที่สถาบันชายล้วนแห่งนึงครับ เพราะเป็นสถาบันรัฐ ทำให้เรียนฟรี แบ่งเบาภาระของครอบครัวและมีอาชีพมั่นคง จบมาเป็นราชการกลับมาที่เรื่องราวครับ เมื่อผมกับรุ่นพี่ผู้หญิงที่สนิทกันแยกย้ายกันไปเรียนต่อ เราก็ยังคงติดต่อกันทางโซเชียลอยู่เสมอ แต่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ เป็นสถานะของคนคุยกัน และเราต่างรู้สึกดีมากครับ เวลาได้คุยกัน เราต่างคนต่างคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยให้กำลังใจให้อยู่ห่างๆ ผมเองรอวันที่เรียนจบ มีอนาคต มีความมั่นคง ว่าจะขอพี่เค้าเป็นแฟนครับ แต่แล้วมันก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในตัวเองผม เรื่องมีอยู่ว่าผมเรียนโรงเรียนชายล้วน เป็นรร.ประจำ กินนอนครับ จริงๆต้องได้กลับบ้านวันเสาร์ อาทิตย์ แต่เพราะโควิดเลยโดนสั่งต้องกักตัวที่รร.ครับ ผมเองเป็นคนขยันเรียน เป็นคนอารมณ์ดี ชอบยิ้มแย้มกับเพื่อน เล่นกับเพื่อนทั่วๆไปครับ แต่บางทีก็เป็นคนเงียบๆ บางทีคนเราก็มีความต้องการโลกส่วนตัวครับ ก็ดูปกติไม่มีอะไร ด้วยความที่ผมมีทักษะในด้านการนวด เวลาปวดกล้ามเนื้อ เส้นยึด การรักษาดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น เคยนวดให้คนในครอบครัวตอนเด็กๆเลยมีทักษะติดตัวมาครับ วันหนึ่งเพื่อนคนที่นอนข้างเตียงผม ซึ่งเราก็สนิทกันมาตั้งแต่รู้จักกันแรกๆแล้วครับ ก็หยอกล้อเล่นกันตามประสาเพื่อนปกติ ไม่ได้คิดอะไร แต่ด้วยนิสัยผมที่จะค่อนข้างเรื่องมากในบางอย่าง ผมก็จะด่าว่ามันบ้าง มันก็จะด่าผมกลับบ้าง ก็จะห้าวๆหน่อยครับ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งมันบอกว่า "บ่นอยู่ได้ เป็นแม่กุหรอ" ผมเองก็เลยมีความคิดผุดขึ้นมานิดนึงว่า หรือว่าตัวเราจะขี้บ่นมากไป นิสัยอาจจะดูออกหญิงๆหน่อยครับ ผมอาจจะนิสัยคล้ายๆแม่ผมที่เรื่องมากครับ จากคำพูดของเพื่อนนี้ทำให้ผมคิดว่า ผมจะพยายามพูดน้อยลง เพราะบางทีก็รู้สึกผิดที่ผมเยอะเกินไป เลยไม่บ่นอะไรมันอีกเลยครับ ผมเองก็เก็บๆเอาไว้ แต่มันก็มีความน้อยใจอยู่เล็กๆครับ ซึ่งก็อาจจะปกติ เพราะใครๆเวลาโดนด่าก็คงจะปรับปรุงให้ไม่เป็นแบบเดิมอยู่แล้ว หลังจากนั้นเวลามันมาเล่นอะไรกับผม ผมก็จะพูดกับมันน้อยๆครับ แค่แบบยิ้มๆหัวเราะเบาๆครับ ต่างจากเมื่อก่อนที่ด่าเลย คือเอาจริงผมว่าที่มันพูดมันอาจจะไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ ว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร เพราะเห็นเป็นเพื่อนผู้ชายด้วยกัน ผู้ชายด้วยกันไม่ค่อยคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว จริงๆผมเคยเจอสถานการณ์คล้ายๆอย่างนี้กับเพื่อนคนอื่นนะครับ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเท่ากับเพื่อนคนนี้ครับ มีอยู่วันหนึ่งมันเล่นฟุตบอลมาทำให้มันรู้สึกเมื่อย คืนวันนั้นมันก็มาให้ผมนวดทั้งตัวให้ จริงๆผมเคยนวดให้เพื่อนหลายคนแล้ว แต่เวลานวดให้เพื่อนคนนี้ ผมจะมีความรู้สึกตรงที่ว่า ทำไมมันใจสั่นแปลกๆ เหมือนมีอารมณ์ทางเพศนิดๆด้วยครับ รู้สึกเหมือนคล้ายๆกับที่เรารู้สึกกับรุ่นพี่ผู้หญิงที่เรากำลังคุยเพื่อจะคบอยู่ครับ ความรู้สึกที่ผมมีต่อรุ่นพี่ผู้หญิงคือ คิดถึง รัก อยากอยู่ด้วย อยากคุยด้วย อยากมีอนาคต ร่วมสร้างไปด้วยกัน แต่กับเพื่อนคนนี้กลับรู้สึกว่า เราอยากทำอะไรเพื่อเค้า อยากดูแล อยากช่วยเหลือ รู้สึกห่วงใย และเวลามองหน้ามันแล้วรู้สึกแบบใจสั่นๆด้วยครับ ที่ชัดเจนมากๆรู้สึกว่าจะเป็นสถานการณ์ต่อไปก็คือ วันนั้นมันดูอ่อนเพลีย เพราะคิดว่าน่านอนดึกมาตลอด มันสูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วย และที่สำคัญคือมันมีแฟนอยู่แล้ว คบกันมานานมากแล้วด้วย คอลกับแฟนทุกคืน ผมเองก็คุยกับรุ่นพี่ทุกคืนเหมือนกันครับ แต่ผมอนามัยจะนอนเร็วหน่อย แต่วันนั้นช่วงบ่ายมันบอกว่าปวดหัวแล้วก็นอนแบบกระสับกระส่าย ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ผมเลยดูอาการมัน ลองถามมันว่าเป็นอะไร มันก็ปวดหัว กุน่าจะเป็นไข้วะ ผมเลยลองจับตัวมัน ปรากฏว่าตัวร้อนจริง เลยเอาปรอทวัดไข้มาวัด อุณหภูมิประมาณเกือบ 38 ได้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ยังไม่อยากพามันไปส่งโรงพยาบาลของสถาบัน เพราะมันต้องเดินไปเอง ไม่มีคนพาไป ไม่มีรถด้วย ด้วยความที่มีทักษะการดูแลผู้ป่วย เลยเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มัน ทั้งๆที่ตอนบ่ายผมจะนอนสักงีบทุกๆวันอยู่แล้ว เพื่อให้มีแรงออกกำลังกายในตอนเย็น แต่ผมกลับเลือกที่จะไม่นอนแล้วคอยเช็ดตัวให้มันเป็นระยะๆ แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของผมเองชุบน้ำคอยแป้ะหน้าผากมันเอาไว้ คอยบิดน้ำเช็ดหน้าให้มันด้วย สุดท้ายก็ไม่ไหว ผมเลยต้องพามันไปส่งที่โรงพยาบาลของสถาบัน ช่วยมันแบกของเพื่อไปนอนค้างคืน หลังจากนั้นพอผมกลับมาถึงอาคารนอนก็เริ่มมีความรู้สึกต่างๆที่มีต่อมันเปลี่ยนไปอย่างมากขึ้น เหมือนรู้สึกคิดถึง อยากอยู่ด้วย ใจสั่น ความรู้สึกมันเหมือนๆกับที่ผมรู้สึกกับรุ่นพี่ผู้หญิงที่ผมกำลังคุยมากๆครับ แต่ผมเองก็ไม่กล้าที่จะมองหน้ามันเท่าไร พยายามเลี่ยงการสนทนาด้วยครับ หลังจากมันหายป่วยกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว มันก็ขอบคุณผมที่คอยช่วยดูแล ผมรู้สึกดีมากๆเลยครับ ที่ได้ทำให้อะไรเพื่อมัน แล้วมันก็ให้แฟนมันสั่งของกินมาแบ่งผม ผมบอกไม่เป็นไร แต่มันก็สั่งมาครับ มันบอกว่าตอบแทนที่ช่วยดูแล ผมก็ขอบคุณมันครับ หลังจากวันนั้นมาผมกลับรู้สึกต่อมันเปลี่ยนไปจากแรกๆโดยสิ้นเชิง อยากดูแลมัน อยากทำให้มันมีความสุข แต่ตัวผมเองกลับรู้สึกเศร้าที่ต้องอยู่กับความสับสนนี้ รู้สึกเหมือนหึงหวง ทำไมกันก็ไม่รู้ครับ เวลาเห็นมันยิ้มก็ใจแทบละลายครับ หลายๆวันเวลาออกกำลังกายตอนเย็นผมจะชอบไปวิ่งที่สนาม แล้วมันก็จะไปเตะฟุตบอลครับ ลู่วิ่งจะอยู่รอบๆสนามฟุตบอล ผมก็จะชอบแอบมองมันอยู่ข้างๆสนามตลอด คอยมองเห็นมันมีความสุขกับสิ่งที่มันชอบ คอยเทคแคร์หลายๆเรื่อง โดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรทั้งนั้น แต่ผมยังรู้สึกกับรุ่นพี่ผู้หญิงเหมือนเดิมทุกอย่างครับ ผมรู้สึกสับสนกับตัวเองมากครับว่า ผมกำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกแบบนี้ไปได้ยังไง มันทรมานเหลือเกินครับ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ครับ กลัวว่าจะเสียอนาคตกับรุ่นพี่ผู้หญิงที่ผมคุย ถ้ารุ่นพี่รู้ว่าผมรู้สึกแบบนี้กับเพื่อนคนนี้คงจะจบความสัมพันธ์แน่ๆครับ แต่ผมก็ไม่อยากเสียเพื่อนเพราะความรู้สึกผมเหมือนกัน ไม่อยากให้เพื่อนเสียความสัมพันธ์กับแฟนด้วยครับ 
เรื่องที่อยากขอคำปรึกษาครับ:
1.ถ้าทุกคนได้มาเป็นผมจะมีแนวทางแก้ไขจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงบ้างครับ
2.ผมควรบอกเพื่อนหรือรุ่นพี่มั้ยว่าผมรู้สึกแบบนี้กับเพื่อน ถ้าจะบอกควรจะบอกใคร หรือบอกทั้งสองคนครับ
3.จากข้อ 2. มันจะเป็นอย่างไรต่อจากนั้นหลังจากบอกไปแล้ว แล้วผมต้องทำยังไงต่อหลังจากบอก
4.สรุปแล้วผมเป็นไบหรือเกย์หรือเพศไหนกันแน่ครับ เหมือนผมมีอารมณ์ทางเพศกับเพื่อนคนนี้ซึ่งเป็นผู้ชาย (เป็นแค่คนนี้คนเดียวที่เป็นผู้ชาย) แล้วถ้าผมอยากจะเป็นผู้ชายแท้ปกติควรทำอย่างไร
5.อยากให้คำแนะนำอะไรผมเพิ่มเติมสามารถบอกมาได้เลยครับ