เวลาเราเริ่มต้นฝึกอะไรใหม่สักอย่าง มันต้องใช้ความพยายามมาก เพราะแรงเสียดทานเยอะ ทุกอย่างเป็นอุปสรรคไปหมด
แต่พอได้ทำไปสักหน่อย มันก็จะง่ายขึ้น เพราะแรงเสียดทานน้อยลง มาจากความคุ้นชินปรับตัว และพัฒนาการไปตามระดับ
เมื่อก่อน ตอนอินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย แม้ข้อเสียคือหาข้อมูลเรียนรู้ได้ยาก แต่ข้อดีคือตัวเทียบก็น้อยตาม
ปัจจุบัน คนหลายพันล้านเชื่อมถึงกันหมด พรมแดนทางภูมิศาสตร์ไม่มีผล แม้ข้อดีคือจะหาข้อมูลเรียนรู้อะไรๆได้ง่ายมาก แต่ข้อเสียคือตัวเทียบก็มากตาม
‘ตัวเทียบ’มี 2 ระดับ คือระดับที่ให้ความรู้เรา กับ ระดับที่ทำให้เราท้อใจ
เวลาฝึกจากคนที่เก่งกว่าเราไม่มาก เค้าอธิบายแล้วเราฟังรู้เรื่อง พอจะเอาไปปฏิบัติจริงได้ อย่างนี้คือระดับที่ให้ความรู้เรา เพราะเราศึกษาจากเขา แล้วเอาความรู้จากเขาไปฝึกฝน ก็จะเก่งขึ้นตามลำดับ
สมมติทำอาหาร ก็แม่บ้านสอนทำอาหารเบื้องต้น เมนูทั่วไป
กีฬา ครูสอนเลเวลพื้นฐาน เทคนิคการเล่นตามกติกา
ดนตรี ก็อ.สอนดนตรีคอร์สเริ่มต้น เบสิคทฤษฎีดนตรี
เก่งขึ้นก็ขยับหาคนใหม่ไปตามระดับ
แต่บางทีเราไม่รู้ อยากฝึกจากเทพเลย
สมมติทำอาหาร เปลี่ยนไปฝึกตามเชฟระดับโลก รายละเอียดยิบทุกขั้นตอน ทั้งวัตถุดิบ เตรียม ทำ จัด เสิร์ฟ แยกแยะคุณภาพได้ครบ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส --> สุดท้ายได้แต่ท่องจำครับ ทำจริงงง สับสนไปหมด เสียหายวุ่นวาย
กีฬา ไปฝึกตามโค้ชโอลิมปิค สอนเทคนิคยากสุดๆ เวลาฝึกตาม ใจเราไปทางตัวไปทาง มันชัดไปหมด สุดท้ายเดวก็เลิก เสียเวลาเปล่าๆ
ดนตรี สมมติไปฝึกตามวงโปรดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ยังไงก็เล่นไม่ได้ และจะพาลท้อเลยครับ ดีไม่ดีโทษว่าเราไม่มีพรสวรรค์ได้เลย
เราไม่รู้ที่มาครับ ว่าคนเหล่านั้นกว่าจะมาถึงจุดที่โชว์ได้แบบนี้ เค้าก็อาจไม่ต่างจากเรา เริ่มจากไม่รู้เรื่อง มีถูกผิด และเคยล้มเหลว
แต่เวลาฝึก เขาทำทีละก้าวครับ มีเป้าก็ตั้งไป แต่ระหว่างทางควรมองเท้าเราเองก้าวไปทีละก้าว
..เป้าหมายคือยอดเขา ใช่ แต่ไม่ได้แปลว่าต้องไปถึงให้ได้ในเวลาเดี๋ยวนี้ มันจะกลายเป็นฝืนกำลังหรือรีบเกินไปแบบหละหลวม
ที่แย่สุด คือเกิดท้อขึ้นมา เลิกทำไปเลย อันนี้น่าเสียดายที่สุด!
เราอยู่ตรงไหน พยายามที่ตรงนั้น ฝึกฝนไปซ้ำๆ อย่าหยุด อย่าถอย และอย่าฝืนไปข้างหน้าเร็วเกินไป
การฝึกตามคนที่เก่งมากๆเกินกำลังของเรา อาจเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ครับ
http://neopositive.wordpress.com
ยังไม่เก่ง อย่าพึ่งไปดูคนเก่งมากๆ
เวลาเราเริ่มต้นฝึกอะไรใหม่สักอย่าง มันต้องใช้ความพยายามมาก เพราะแรงเสียดทานเยอะ ทุกอย่างเป็นอุปสรรคไปหมด
แต่พอได้ทำไปสักหน่อย มันก็จะง่ายขึ้น เพราะแรงเสียดทานน้อยลง มาจากความคุ้นชินปรับตัว และพัฒนาการไปตามระดับ
เมื่อก่อน ตอนอินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย แม้ข้อเสียคือหาข้อมูลเรียนรู้ได้ยาก แต่ข้อดีคือตัวเทียบก็น้อยตาม
ปัจจุบัน คนหลายพันล้านเชื่อมถึงกันหมด พรมแดนทางภูมิศาสตร์ไม่มีผล แม้ข้อดีคือจะหาข้อมูลเรียนรู้อะไรๆได้ง่ายมาก แต่ข้อเสียคือตัวเทียบก็มากตาม
‘ตัวเทียบ’มี 2 ระดับ คือระดับที่ให้ความรู้เรา กับ ระดับที่ทำให้เราท้อใจ
เวลาฝึกจากคนที่เก่งกว่าเราไม่มาก เค้าอธิบายแล้วเราฟังรู้เรื่อง พอจะเอาไปปฏิบัติจริงได้ อย่างนี้คือระดับที่ให้ความรู้เรา เพราะเราศึกษาจากเขา แล้วเอาความรู้จากเขาไปฝึกฝน ก็จะเก่งขึ้นตามลำดับ
สมมติทำอาหาร ก็แม่บ้านสอนทำอาหารเบื้องต้น เมนูทั่วไป
กีฬา ครูสอนเลเวลพื้นฐาน เทคนิคการเล่นตามกติกา
ดนตรี ก็อ.สอนดนตรีคอร์สเริ่มต้น เบสิคทฤษฎีดนตรี
เก่งขึ้นก็ขยับหาคนใหม่ไปตามระดับ
แต่บางทีเราไม่รู้ อยากฝึกจากเทพเลย
สมมติทำอาหาร เปลี่ยนไปฝึกตามเชฟระดับโลก รายละเอียดยิบทุกขั้นตอน ทั้งวัตถุดิบ เตรียม ทำ จัด เสิร์ฟ แยกแยะคุณภาพได้ครบ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส --> สุดท้ายได้แต่ท่องจำครับ ทำจริงงง สับสนไปหมด เสียหายวุ่นวาย
กีฬา ไปฝึกตามโค้ชโอลิมปิค สอนเทคนิคยากสุดๆ เวลาฝึกตาม ใจเราไปทางตัวไปทาง มันชัดไปหมด สุดท้ายเดวก็เลิก เสียเวลาเปล่าๆ
ดนตรี สมมติไปฝึกตามวงโปรดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ยังไงก็เล่นไม่ได้ และจะพาลท้อเลยครับ ดีไม่ดีโทษว่าเราไม่มีพรสวรรค์ได้เลย
เราไม่รู้ที่มาครับ ว่าคนเหล่านั้นกว่าจะมาถึงจุดที่โชว์ได้แบบนี้ เค้าก็อาจไม่ต่างจากเรา เริ่มจากไม่รู้เรื่อง มีถูกผิด และเคยล้มเหลว
แต่เวลาฝึก เขาทำทีละก้าวครับ มีเป้าก็ตั้งไป แต่ระหว่างทางควรมองเท้าเราเองก้าวไปทีละก้าว
..เป้าหมายคือยอดเขา ใช่ แต่ไม่ได้แปลว่าต้องไปถึงให้ได้ในเวลาเดี๋ยวนี้ มันจะกลายเป็นฝืนกำลังหรือรีบเกินไปแบบหละหลวม
ที่แย่สุด คือเกิดท้อขึ้นมา เลิกทำไปเลย อันนี้น่าเสียดายที่สุด!
เราอยู่ตรงไหน พยายามที่ตรงนั้น ฝึกฝนไปซ้ำๆ อย่าหยุด อย่าถอย และอย่าฝืนไปข้างหน้าเร็วเกินไป
การฝึกตามคนที่เก่งมากๆเกินกำลังของเรา อาจเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ครับ
http://neopositive.wordpress.com