คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ผมอยากให้ข้อสังเกตไว้แบบนี้
ในสมัยพุทธกาล ยังไม่มีแม่ชีหรือสำนักแม่ชีต่างๆ ปัจจุบันเรามีสถานที่เหล่านี้ ทั้งนี้ เพื่อรองรับผู้หญิงที่อยากหลีกหนีออกจากทางโลก มุ่งสู่ทางธรรม
ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่ภิกษุณีก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นอุบาสิกา เป็นหนึ่งในพุทธบริษัท 4 สามารถปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นได้เช่นเดียวกับพุทธบริษัทอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับทางโลก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพระภิกษุ
ความต้องการที่จะเป็นภิกษุณี ทั้งๆ ที่ในประเทศไทยเราก็ถือว่าหมดไปแล้ว อีกทั้งเรามีสำนักแม่ชีต่างๆ จึงมีเพียงจุดประสงค์เดียวคือ หวังในลาภ ยศ สรรเสริญ ไม่มีจุดประสงค์อื่น
ยกตัวอย่างบุคคลที่อ้างว่าเป็นภิกษุณี ผมเข้าไปดูที่เฟซบุ้คที่อ้างมา มีการแต่งหน้า ทาปาก เขียนคิ้ว ดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ไม่รวมถึงเรื่องสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
ผมขอให้เป็นข้อสังเกตไว้ เพราะทุกวันนี้ พระที่เล่นตลก ออกทีวี ไปดูฟุตบอล หรือพระที่ทำตัวเหมือนเด็กกะโปโลแม้จะเป็นพระมหา (ขออภัยที่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) ยังมีคนให้ความเคารพ ศรัทธา นับประสาอะไรกับภิกษุณี
เพราะฉะนั้น เราอย่าไปให้ความสำคัญมากเกินไป เพราะคงห้ามคนที่เชื่อถือศรัทธาบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ที่สำคัญ คงมีไม่มากนัก หรือต่อให้มีเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ 100-200 คน ชาวพุทธส่วนใหญ่คงไม่ให้ความศรัทธาอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ส่วนเรื่องการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์นั้น ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบไป
ในสมัยพุทธกาล ยังไม่มีแม่ชีหรือสำนักแม่ชีต่างๆ ปัจจุบันเรามีสถานที่เหล่านี้ ทั้งนี้ เพื่อรองรับผู้หญิงที่อยากหลีกหนีออกจากทางโลก มุ่งสู่ทางธรรม
ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่ภิกษุณีก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นอุบาสิกา เป็นหนึ่งในพุทธบริษัท 4 สามารถปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นได้เช่นเดียวกับพุทธบริษัทอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับทางโลก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกับพระภิกษุ
ความต้องการที่จะเป็นภิกษุณี ทั้งๆ ที่ในประเทศไทยเราก็ถือว่าหมดไปแล้ว อีกทั้งเรามีสำนักแม่ชีต่างๆ จึงมีเพียงจุดประสงค์เดียวคือ หวังในลาภ ยศ สรรเสริญ ไม่มีจุดประสงค์อื่น
ยกตัวอย่างบุคคลที่อ้างว่าเป็นภิกษุณี ผมเข้าไปดูที่เฟซบุ้คที่อ้างมา มีการแต่งหน้า ทาปาก เขียนคิ้ว ดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ไม่รวมถึงเรื่องสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
ผมขอให้เป็นข้อสังเกตไว้ เพราะทุกวันนี้ พระที่เล่นตลก ออกทีวี ไปดูฟุตบอล หรือพระที่ทำตัวเหมือนเด็กกะโปโลแม้จะเป็นพระมหา (ขออภัยที่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) ยังมีคนให้ความเคารพ ศรัทธา นับประสาอะไรกับภิกษุณี
เพราะฉะนั้น เราอย่าไปให้ความสำคัญมากเกินไป เพราะคงห้ามคนที่เชื่อถือศรัทธาบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ ที่สำคัญ คงมีไม่มากนัก หรือต่อให้มีเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ 100-200 คน ชาวพุทธส่วนใหญ่คงไม่ให้ความศรัทธาอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ส่วนเรื่องการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์นั้น ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบไป
แสดงความคิดเห็น
มหาเถรสมาคม ทราบหรือยัง ?
https://www.facebook.com/100056171245765/posts/248792313669808/