⚽❤️🏆🎊✼✼✼ แชมป์หญ้าสวย : รางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คน ✼✼✼🎊🏆❤️⚽

พอดีไปอ่านเจอบทความนึงมา เขาบรรยายรายละเอียดและเขียนข้อมูลไว้ดีมาก ๆ เห็นแล้วคิดว่าน่าสนใจ เผื่อท่านใดที่ยังไม่เคยทราบรายละเอียดมาก่อน พอได้ทราบข้อมูลตรงนี้แล้ว อาจจะทำให้มีมุมมองที่เปลี่ยนไปก็ได้ค่ะ ^ ___ ^

สาระล้วน ๆ นะคะ เตือนไว้ก่อนว่ายาวมากกกก หากใครใช้โควต้าอ่านเกิน 8 บรรทัดหมดแล้ว กดข้ามไปได้เลยค่ะ 

นานาเรียน

"แชมป์หญ้าสวย" อาจจะเป็นคำที่ใครหลายคนใช้ล้อเลียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยามที่สโมสรแห่งนี้ร้างราความสำเร็จมานานหลายปี ...
 
อย่างไรก็ตามในความตลกของใครหลายคนนี้เอง คือความภาคภูมิใจของคนทำงาน ... นี่คือเรื่องราวของสนามที่สวยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018-19 และยังถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้ กับการเป็นสนามที่สวยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-21 หญ้าสีสวย ๆ ลวดลายดูมีมิติเหล่านี้ เกิดจากความใส่ใจของคนเบื้องหลังที่พยายามอย่างหนักตลอดทั้งปี 

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ::

สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นขึ้นชื่อในเรื่องความยิ่งใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและแฟนบอลจากทั่วโลก ทำเงินให้กับสโมสรมากมายจากรายได้ ณ จุดนี้
 
เมื่อมีความต้องการของแฟน ๆ ที่อยากจะให้สนามแห่งนี้มีส่วนร่วมในหลาย ๆ กิจกรรม โอลด์ แทรฟฟอร์ด จึงมักถูกใช้ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งจัดการรื่นรมย์ งานคอนเสิร์ต หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่แวะเวียนเข้ามาเช่าพื้นที่สนามแห่งนี้ จนทำให้เจ้าของสนามจริงรู้สึกว่าหลายสิ่งกำลังถูกใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์

คนที่เริ่มตั้งคำถามและคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังคือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในระหว่างฤดูกาล 2012-13 ซึ่งเป็นฤดูกาลล่าสุดที่ทีมปีศาจแดงไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก เฟอร์กี้ เริ่มคัดค้านการให้เช่าสนามและให้คนภายนอกเข้ามาเหยียบหญ้าในสนามแห่งนี้แบบมากเกินพอดี เพราะมันส่งผลต่อการแข่งขันจริง ที่ ยูไนเต็ด จะต้องลงเล่นในรังเหย้าทั้งในลีกและในฟุตบอลถ้วยตลอดปีกว่า 30 เกม ... เมื่อการเล่นในบ้านคือหัวใจสำคัญที่สุดในการตัดสินแชมป์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องการถนอมร่างกายของผู้เล่นในทีม ให้ห่างไกลจากอาการบาดเจ็บมากที่สุด ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงต้องเกิดขึ้น  

แม้ในโลกทุนนิยมจะหนีความจริงไม่ได้ว่าสนามแห่งนี้อาจจะต้องเปิดให้เช่าเพื่องานรื่นรมย์และอีเวนท์ต่าง ๆ บ้างตามโอกาส การตัดข้อนี้ทิ้งไปคงไม่ดีแน่ เพราะเงินรายได้ก็จะหายไปด้วย ดังนั้นเหตุผลด้านฟุตบอล ต้องเจอกับเหตุผลด้านธุรกิจ และต้องหาตรงกลางของกันและกันให้เจอ พวกเขาจึงต้องเปลี่ยนพื้นสนามใหม่ที่สามารถรับมือกับทั้ง 2 สถานการณ์ได้ 

คุณภาพที่เงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ::

ทีมงานบอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด สั่งเปลี่ยนพื้นสนามเพื่อเข้าสู่เชิงพาณิชย์เต็มระบบด้วยการสั่งหญ้าที่เรียกว่า "ไฮบริด" (Hybrid Turf) ซึ่งเป็นส่วนผสมของหญ้าจริงและหญ้าสังเคราะห์จากบริษัท Desso ที่เป็นบริษัทเดียวกับที่วางหญ้าให้กับ นิว เวมบลีย์ สนามแห่งความภูมิใจของชาวอังกฤษนั่นเอง

เหนือสิ่งอื่นใดคือการซื้อหญ้าอย่างเดียวยังไม่จบ ยูไนเต็ด จ่ายเงินจ้างพนักงานที่ดูแลด้านพื้นสนามโดยเฉพาะ เพราะยังมีสนามบางส่วนที่ทำมาจากหญ้าแท้ และคนที่เป็นคีย์แมนสำคัญนี้คือ โทนี่ ซินแคลร์ ที่มีประสบการณ์ทำงานเรื่องนี้มานานหลายปี โดยซินแคลร์นั้นรักหญ้าเหมือนลูกเลยทีเดียว เขาเชี่ยวชาญด้านนี้สุด ๆ แทบจะทุกตารางนิ้วของสนาม

"สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของเราประกอบด้วยวัสดุคล้าย ๆ ไนลอนเย็บติดกันประมาณ 20 ล้านชิ้น มีรากลึกประมาณ 20 เซนติเมตรโดยวางระยะห่างกันไว้ที่ 1.5 เซนติเมตร โดยรวมแล้วส่วนที่เป็นไนลอนนี้คิดเป็น 3% ของตัวสนามทั้งหมด ซึ่งเราไม่เคยหยุดดูแลพวกมัน"

"เราเอาชิ้นส่วนของสนามบางจุดไปตรวจวสอบทุกสัปดาห์ สำหรับหญ้าจริงเราจะเอาไปหาดูว่ามันได้รับอาหารที่เหมาะสมหรือไม่ (น้ำและแสงแดด) ถ้าไม่ปกติเราก็ต้องรีบแก้ไข ส่วนเรื่องแสงแดดนั้นเราสามารถใช้แสงไฟประดิษฐ์เข้ามาช่วยทดแทนพระอาทิตย์จริง ๆ ได้ (เมืองแมนเชสเตอร์มักมีสภาพอากาศแปรปรวนและฝนตก) ด้วยไฟประดิษฐ์เหล่านี้ พวกหญ้าทั้งหลายก็จะสามารถเติบโตได้ดีเลยทีเดียว" 

รางวัลแห่งความภูมิใจ ::


"โลกเรานี้มันมีปรสิตสายพันธุ์ต่าง ๆ เป็นล้าน ๆ ชนิด ถ้าคุณมองข้ามพวกมันไปรับรองมันเอาเรื่องแน่ มันจะเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของต้นหญ้าได้" ซินแคลร์ กล่าว

"เราทำการฉีดพ่นสารสกัดจากกระเทียมฉีดลงไป ในพื้นสนามทุกตารางนิ้ว เมื่อฉีดไปแล้วการเจริญเติบโตของปรสิตจะหยุดทันที เหมือนไข่ที่กำลังจะฟักแต่เราไปหยุดมันนั่นแหละ"

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น แม้รางวัลจะโดนเอามาล้อเลียนในเชิงที่ว่าทีมตกต่ำจนเหลือแค่แชมป์สนามหญ้า แต่หากเรามองกันตามความจริง เรื่องนี้มีความจริงอีกด้าน นั่นคือการสมควรได้รับความชื่นชมในฐานะคนเบื้องหลังที่ทำหน้าที่ที่ใครหลายคนไม่เห็น แต่เป็นสิ่งสำคัญและเป็นหน้าเป็นตาของสโมสรแห่งนี้ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ทีมสนามหญ้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงภาคภูมิใจเสมอ ที่สุดท้ายแล้วงานที่พวกเขาตั้งใจทำ ได้รับการยกย่องว่า "เป็นงานคุณภาพ"

"นี่คือรางวัลที่เหลือเชื่อนะ การได้รับการยกย่องครั้งนี้เป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างมากในฐานะของทีม" ซินแคลร์ กล่าวกับเว็บไซต์หลักของสโมสร
 
"สภาพสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วง 5-6 ปีหลังมานี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีเป็นอย่างมาก มันคือความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมงานผู้ดูแลสนามทุกคน เราจะรับรางวัลนี้ในฐานะผู้มีส่วนดูแลสนามทุกคน คุณจำเป็นจะต้องมีทีมที่ดีอยู่เคียงข้าง และแน่นอนผมมีเพื่อน ๆ ผู้ร่วมงานที่สุดยอดจริง ๆ" เขากล่าวอย่างภูมิใจในฐานะตัวแทนของผู้ดูแลสนามทุก ๆ คน 


รางวัลนี้อาจจะเป็นรางวัลเล็ก ๆ และน่าตลกขบขันของใครหลาย ๆ คนนะคะ แต่ในมุมมองฐานะคนทำงาน คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน รางวัลนี้คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ของเขาเลยค่ะ ในการเล่นฟุตบอลนั้น ปฎิเสธไม่ได้ว่ากว่า 90 นาทีที่อยู่ในสนามหญ้าแห่งนี้ พวกนักกีฬาเหล่านั้นจะต้องพบเจออะไรต่าง ๆ มากมาย ล้มลุกคลุกคลานไปไม่รู้กี่รอบ นี่ยังไม่นับรวมตลอดเวลาที่ฝึกซ้อมด้วยนะคะ ส่วนตัวมองว่าสนามหญ้ามีผลต่อการฝึกซ้อมมาก ๆ เลยค่ะ และถ้าหากใครรู้จักประเทศอังกฤษดี คงจะพอทราบว่าสภาพภูมิอากาศที่นั่นค่อนข้างแปรปรวนและฝนตกบ่อยมาก บางทีวันเดียวมี 3 ฤดู การดูแลสนามก็ยากขึ้นไปอีกเท่าตัว

ครั้งนึงสมัยเด็ก ๆ เคยเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล มุมมองของนักกีฬาต่อสนามยาง สนามหญ้า สนามปูน สนามดิน ยังให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันเลยค่ะ คงไม่ต้องบอกนะคะว่าสนามไหนน่าเล่น สนามไหนน่าทิ้งตัวลงไปรับลูก สนามไหนรู้สึกปลอดภัยต่อชีวิตมากกว่ากัน 

หนูในฐานะที่เป็นแฟนบอลทีมแมนยู หากมีโอกาสซักครั้งในชีวิตก็อยากไปที่สนามหญ้าแห่งนี้ค่ะ สนามแห่งความภาคภูมิใจของเด็กผีและใครต่อใครอีกหลายคน อยากขอบคุณผู้ดูแลสนามทุกคนมาก ๆ ที่ดูแลสนามบอลของสโมสรที่เรารักแห่งนี้ให้ได้มีคุณภาพและได้รับรางวัลมาแบบไม่อายใครเลย

นานาเยี่ยม

ขอขอบคุณที่มาและอ่านฉบับเต็มได้ที่ :: https://www.mainstand.co.th/catalog/1-FEATURE/2007
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่