ขอปรึกษาจากใจจริงๆทุกอย่างที่ผมเล่าเป็นความจริงจากใจ
เรื่องราวมีอยู่ว่า
พฤติการณ์
ข้าพเจ้า รู้จักกับนาย ก. ด้วยการแนะนำจากเพื่อนในทวิตเตอร์ ในวันที่ 22 กุมภาพันธฺ์ 2564 ครั้งแรกที่เราเจอกัน นาย ก ชวนข้าพเจ้าไปเสพยาไอซ์ด้วยการฉีดเข้าเส้นเลือด เรามั่วสุมกันอยู่ 2 วันในห้องพักของนาย ก ข้าพเจ้ามิได้มียาเสพติดใดๆพกติดตัวไปเลยใน 2 วันดังกล่าว นาย ้ กเป็นผู้จัดหาและมีครอบครองในห้องพักอยู่แล้ว นาย ก บอกข้าพเจ้างว่าตั้งใจใช้ห้องนี้เป็นฮาเรมโลกีส่วนตัว อยากใช้ห้องตนเองเป็นสถานที่เสพยาและมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ยาเสพติดเป็นเครื่องกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ นายทีทำให้ข้าพเจ้าเชื่อใจและไว้ใจ ด้วยคำพูกที่เขาอาจจะเป็นผู้ใหญ่กว่า มีมุมมองที่ชัดกว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกว่านายทีเป็นคนใจดีคนหนึ่ง เป็นพี่ที่รักน้องๆ นายทีเป็นคนพูดจาดี และมีหน้าที่การงานที่ดี ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพี่คนนี้น่าจะจริงใจ และเราควรจะจรืงใจกับพี่เขาด้วย
ข้าพเจ้าถูกชักชวนไปอีกครั้งตามคำชวนเหมือนเดิม หลังบอกนาย ก ว่า ข้าพเจ้าจริงๆแล้วเป็นผู้พิการ ซึ้งพี่เขารับได้ และเราได้มั่วสุมกันเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือข้าพเจ้าไว้ใจและเชื่อใจพี่มากขึ้น และก่อนจากกัน ข้าพเจ้าได้ให้คำมั่นว่า ครั้งหน้า ข้าพเจ้าจะเตรียมยาไอซ์มาเองให้ผมนำมันมาแชร์บ้าง ผมรู้สึกไม่ดีที่มาใช้ของพี่ฝ่ายเดียว เพราะพี่ทีเลี้ยงข้าพเจ้ามา 2 รอบแล้ว และข้าพเจ้าไม่อยากเอาเปรียบ และอยากตอบแทนบ้างเท่านั้น ครั้งนั้นผมได้เห็นยาไอซ์ที่นายทีนำออกมาจากตู้นิรภัย ทำให้ข้าพเจ้าตกตะลึง เพราะมันมีมากกว่า 10 g นาย ก ยอมรับว่ามีเก็บไว้ที่อื่นอีก
ข้าพเจ้า กลับไปยังคอนโดu ในอาทิตย์ถัดมาข้าพเจ้าเตรียมยาไอซ์ไป ไม่ได้มากเท่าไหร่ ข้าพเจ้าซื้อไปแค่เพียง 400 บาท ตามกำลังทรัพย์/ ในวันนั้นนาย ก บอกข้าพเจ้าว่า ตนนั้นซื้อยาไอซ์มา 10 กรัม แต่ไม่ใช่ยาไอซ์ เป็นเพียงน้ำตาลกรวดนายทีให่ข้าพเจ้าชิมรสชาติและมันเป็นเพียงน่ำตาลจริง ๆ ข้าพเจ้าตกใจทำไมถึงกล้าซื้อยาเสพติเยอะขนาดนี้ และทำไมไม่เช็คให้ดีก่อนว่าชัวร์ / วันนั้นเองนายทีเปิดตู้เก็บยาเสพติดอีกครั้ง และข้าพเจ้าถึงกับชะงัก เพราะยาไอซ์ที่ข้าพเจ้าเห็นไม่ใช่น้ำตาลกรวด แต่เป็นคนละถุงกัน และมันน่าจะไม่ต่ำกว่า 20 กรัม วันนั้นเรามั่วสุมกันตามปกติ ……… ด้วยความที่ไว้ใจ เชื่อใจ ข้าพเจ้าถามนาย ก ว่าไปรับมาจากไหน กรัมละเท่าไหร่ นายทีบอกสั่งจากเพื่อน โดนโกงบ้างแล้วแต่ดวง กรัมละ 1000 ,1200 บาท แล้วแต่ ข้าพเจ้าจึงแนะนำว่าลองไปซื้อกับที่ข้าพเจ้ารับมาไหมไปด้วยกันก็ได้แต่เขาไม่ยอมไประหว่างให้ข้าพเจ้าไป รับให้โดยนไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ แค่ผมขออยู่เล่นด้วย และที่ข้าพเจ้าหาได้เขาขายกรัมละ 600 บาทเท่านั้น และนั้นเป็นที่มาที่ทำให้นาย ก สนใจ ข้าพเจ้าชวนนาย ด ไปด้วย แต่นายก บ่ายเบี่ยง และยืนยันวานให้ข้าพเจ้าไปรับยาไอซ์เองลำพัง
วันที่ 26 เมษายน 2564 ข้าพเจ้า สอบถามนาย ก ว่าสรุปจะเอาไหม เพราะส่วนตัวข้าพเจ้าจะไปซื้อเพื่อใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว จึงถามว่ายังอยากได้ยาหรือไม่ นาย ก ทำเป็นไม่สนใจเพราะตนเองยังเหลืองานเยอะมาก ข้าพเจ้ามิได้บังคับและขู่เข็ญแต่อย่างใด แค่ถามเผื่อจะสนใจเท่านั้น
วันที่ 27 เมษายน 2564 นาย ก บอกข้าพเจ้า ถ้าไปรับงานให้เอาเผื่อด้วย 5 กรัม นายทีโอนเงินมาให้ข้าพเจ้า 3,000 บาท ข้าพเจ้าแถลงและยอมรับตรงๆ กับนาย ก ว่าข้าพเจ้าได้อนิสงจากการสั่งงานของนายทีนิดหน่อยนะ พ่อค้าแถมยาไอซ์ให้ข้าพเจ้าเป็นการตอบแทนบางส่วน จากส่วนที่นายทีสั่ง 5 กรัม และในส่วนของข้าพเจ้าที่ใช้เองส่วนตัว ครึ่งจี และในส่วนของแถมที่ได้อานิสงจากการสั่งยาไอซ์ของนายที 1 ถุงเล็ก วันนั้นเองฝนตก รถติด น้ำท่วม ข้าพเจ้าเข้าไปเอายาไอซ์ย่านตลาดมหานาค แต่ในส่วนของนาย ก ข้าพเจ้ายังไม่ได้เอาไปให้ในทันที ข้าพเข้าเปิดห้องพักเพื่อทำการเล่นส่วนตัวอยู่2 วัน และในระหว่างนั้นนาย ก ก็ถวงถามถึงยาไอซ์ที่ตนสั่ง ในใจขณะนั้นข้าพเจ้าเองนัะความคิดตั้งใจจะเก็บยาไอซ์ดังกล่าวไว้ใช้เอง และเพื่อเป็นการตัดความสัมพันธ์กับนายทีด้วย แต่อีกใจเราก็ควรนำไปให้เขาเพราะเราก็บอกกับตัวเราเองอยู่ตลอดหรือเปล่าว่าเราต้องทำให้พี่เข้าไว้ใจ และเชื่อมั่นสิ แต่มันก็กล้าๆกลัวๆ จนกระทั้งถูกจับกุมและเจอยาไอซ์ดังกล่าวจำนวน 5 ถุงที่ตัวข้าพเจ้า ในรถยนต์ส่วนบุคคลของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าถูกฝากขังที่สถานีตำรวจส่งเข้าเรือนจำแม่ประกันตัวออกมาด้วยหลักทรัพย์ 50 บาท 500000 บาท
ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบ มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวข้าพเจ้ามากสิ่งที่ข้าพเจ้าทำเพื่อไว้เสพกันเล่นๆแต่กลับกลายเป็นข้าพเจ้ามีไว้เพื่อจำหน่ายมันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่แม่ข้าพเจ้าก็ไม่ทิ้งข้าพเจ้า เธอต่อสู้เคียงข้างข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าพยายามนัดคุยกับเจ้าหน้าที่สืบสวนในส่วนของการลดโทษหรืออะไรก็แล้วแต่อยากให้ผู้มีประสบการณ์แนะนำข้าพเจ้าไม่อยากเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แต่ถ้าติดก็คงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำแต่พอจะมีทางใหม
ล่าสุด ตร. ให้ข้าพเจ้าเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ่ ข้าพเจ้าหูหนวกไม่ได้ยิน เขาคุยกับแม่ข้าพเจ้าว่าอยาไอซ์ เหลือแค่ 3G.........? ผมอยากรู้ว่าทำไมงนเหลือแค่ 3g. ???????
และบอกให้ข้าพเจ้ายอมรับสารภาพและได้แนะนำทนายให้ด้วย เขาบอกว่าสงสารข้าพเจ้า อาจจะเหลือแค่ 6 เดือน สู้ไปสู้มาอาจจะเหลือแค่ 2 เดือนและยิ่งมาติดช่วงโควิดก็อาจจะได้ใส่ EM คุมประพฤติคือตอนนี้ข้าพเจ้าสับสนมากเพราะว่าตัวข้าพเจ้าเองก็ได้ศึกษาข้อมูลจากเพื่อนและผู้มีประสบการณ์ว่าอย่าอายที่จะครอบครองมันติดคุกนานตอนนี้ข้าพเจ้าสับสนมากจะต้องทำยังไงดี
...ในก.มีส่วนรับผิดชอบไหมครับสาวขอย้ำว่าข้าพเจ้าไม่ใช่เด็กเดินยาแต่เป็นเพียงการทำเอาหน้าเพื่อให้พี่เขาไว้ใจเท่านั้น
ถ้าอยากด่าข้าพเจ้าเชิญได้เต็มที่ข้าพเจ้าน้อมรับ
ขอปรึกษาครับโดนจับคดียาไอซ์ 5จี กับโทษครั้งแรก
เรื่องราวมีอยู่ว่า
พฤติการณ์
ข้าพเจ้า รู้จักกับนาย ก. ด้วยการแนะนำจากเพื่อนในทวิตเตอร์ ในวันที่ 22 กุมภาพันธฺ์ 2564 ครั้งแรกที่เราเจอกัน นาย ก ชวนข้าพเจ้าไปเสพยาไอซ์ด้วยการฉีดเข้าเส้นเลือด เรามั่วสุมกันอยู่ 2 วันในห้องพักของนาย ก ข้าพเจ้ามิได้มียาเสพติดใดๆพกติดตัวไปเลยใน 2 วันดังกล่าว นาย ้ กเป็นผู้จัดหาและมีครอบครองในห้องพักอยู่แล้ว นาย ก บอกข้าพเจ้างว่าตั้งใจใช้ห้องนี้เป็นฮาเรมโลกีส่วนตัว อยากใช้ห้องตนเองเป็นสถานที่เสพยาและมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ยาเสพติดเป็นเครื่องกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ นายทีทำให้ข้าพเจ้าเชื่อใจและไว้ใจ ด้วยคำพูกที่เขาอาจจะเป็นผู้ใหญ่กว่า มีมุมมองที่ชัดกว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้านึกว่านายทีเป็นคนใจดีคนหนึ่ง เป็นพี่ที่รักน้องๆ นายทีเป็นคนพูดจาดี และมีหน้าที่การงานที่ดี ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพี่คนนี้น่าจะจริงใจ และเราควรจะจรืงใจกับพี่เขาด้วย
ข้าพเจ้าถูกชักชวนไปอีกครั้งตามคำชวนเหมือนเดิม หลังบอกนาย ก ว่า ข้าพเจ้าจริงๆแล้วเป็นผู้พิการ ซึ้งพี่เขารับได้ และเราได้มั่วสุมกันเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือข้าพเจ้าไว้ใจและเชื่อใจพี่มากขึ้น และก่อนจากกัน ข้าพเจ้าได้ให้คำมั่นว่า ครั้งหน้า ข้าพเจ้าจะเตรียมยาไอซ์มาเองให้ผมนำมันมาแชร์บ้าง ผมรู้สึกไม่ดีที่มาใช้ของพี่ฝ่ายเดียว เพราะพี่ทีเลี้ยงข้าพเจ้ามา 2 รอบแล้ว และข้าพเจ้าไม่อยากเอาเปรียบ และอยากตอบแทนบ้างเท่านั้น ครั้งนั้นผมได้เห็นยาไอซ์ที่นายทีนำออกมาจากตู้นิรภัย ทำให้ข้าพเจ้าตกตะลึง เพราะมันมีมากกว่า 10 g นาย ก ยอมรับว่ามีเก็บไว้ที่อื่นอีก
ข้าพเจ้า กลับไปยังคอนโดu ในอาทิตย์ถัดมาข้าพเจ้าเตรียมยาไอซ์ไป ไม่ได้มากเท่าไหร่ ข้าพเจ้าซื้อไปแค่เพียง 400 บาท ตามกำลังทรัพย์/ ในวันนั้นนาย ก บอกข้าพเจ้าว่า ตนนั้นซื้อยาไอซ์มา 10 กรัม แต่ไม่ใช่ยาไอซ์ เป็นเพียงน้ำตาลกรวดนายทีให่ข้าพเจ้าชิมรสชาติและมันเป็นเพียงน่ำตาลจริง ๆ ข้าพเจ้าตกใจทำไมถึงกล้าซื้อยาเสพติเยอะขนาดนี้ และทำไมไม่เช็คให้ดีก่อนว่าชัวร์ / วันนั้นเองนายทีเปิดตู้เก็บยาเสพติดอีกครั้ง และข้าพเจ้าถึงกับชะงัก เพราะยาไอซ์ที่ข้าพเจ้าเห็นไม่ใช่น้ำตาลกรวด แต่เป็นคนละถุงกัน และมันน่าจะไม่ต่ำกว่า 20 กรัม วันนั้นเรามั่วสุมกันตามปกติ ……… ด้วยความที่ไว้ใจ เชื่อใจ ข้าพเจ้าถามนาย ก ว่าไปรับมาจากไหน กรัมละเท่าไหร่ นายทีบอกสั่งจากเพื่อน โดนโกงบ้างแล้วแต่ดวง กรัมละ 1000 ,1200 บาท แล้วแต่ ข้าพเจ้าจึงแนะนำว่าลองไปซื้อกับที่ข้าพเจ้ารับมาไหมไปด้วยกันก็ได้แต่เขาไม่ยอมไประหว่างให้ข้าพเจ้าไป รับให้โดยนไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ แค่ผมขออยู่เล่นด้วย และที่ข้าพเจ้าหาได้เขาขายกรัมละ 600 บาทเท่านั้น และนั้นเป็นที่มาที่ทำให้นาย ก สนใจ ข้าพเจ้าชวนนาย ด ไปด้วย แต่นายก บ่ายเบี่ยง และยืนยันวานให้ข้าพเจ้าไปรับยาไอซ์เองลำพัง
วันที่ 26 เมษายน 2564 ข้าพเจ้า สอบถามนาย ก ว่าสรุปจะเอาไหม เพราะส่วนตัวข้าพเจ้าจะไปซื้อเพื่อใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว จึงถามว่ายังอยากได้ยาหรือไม่ นาย ก ทำเป็นไม่สนใจเพราะตนเองยังเหลืองานเยอะมาก ข้าพเจ้ามิได้บังคับและขู่เข็ญแต่อย่างใด แค่ถามเผื่อจะสนใจเท่านั้น
วันที่ 27 เมษายน 2564 นาย ก บอกข้าพเจ้า ถ้าไปรับงานให้เอาเผื่อด้วย 5 กรัม นายทีโอนเงินมาให้ข้าพเจ้า 3,000 บาท ข้าพเจ้าแถลงและยอมรับตรงๆ กับนาย ก ว่าข้าพเจ้าได้อนิสงจากการสั่งงานของนายทีนิดหน่อยนะ พ่อค้าแถมยาไอซ์ให้ข้าพเจ้าเป็นการตอบแทนบางส่วน จากส่วนที่นายทีสั่ง 5 กรัม และในส่วนของข้าพเจ้าที่ใช้เองส่วนตัว ครึ่งจี และในส่วนของแถมที่ได้อานิสงจากการสั่งยาไอซ์ของนายที 1 ถุงเล็ก วันนั้นเองฝนตก รถติด น้ำท่วม ข้าพเจ้าเข้าไปเอายาไอซ์ย่านตลาดมหานาค แต่ในส่วนของนาย ก ข้าพเจ้ายังไม่ได้เอาไปให้ในทันที ข้าพเข้าเปิดห้องพักเพื่อทำการเล่นส่วนตัวอยู่2 วัน และในระหว่างนั้นนาย ก ก็ถวงถามถึงยาไอซ์ที่ตนสั่ง ในใจขณะนั้นข้าพเจ้าเองนัะความคิดตั้งใจจะเก็บยาไอซ์ดังกล่าวไว้ใช้เอง และเพื่อเป็นการตัดความสัมพันธ์กับนายทีด้วย แต่อีกใจเราก็ควรนำไปให้เขาเพราะเราก็บอกกับตัวเราเองอยู่ตลอดหรือเปล่าว่าเราต้องทำให้พี่เข้าไว้ใจ และเชื่อมั่นสิ แต่มันก็กล้าๆกลัวๆ จนกระทั้งถูกจับกุมและเจอยาไอซ์ดังกล่าวจำนวน 5 ถุงที่ตัวข้าพเจ้า ในรถยนต์ส่วนบุคคลของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าถูกฝากขังที่สถานีตำรวจส่งเข้าเรือนจำแม่ประกันตัวออกมาด้วยหลักทรัพย์ 50 บาท 500000 บาท
ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบ มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวข้าพเจ้ามากสิ่งที่ข้าพเจ้าทำเพื่อไว้เสพกันเล่นๆแต่กลับกลายเป็นข้าพเจ้ามีไว้เพื่อจำหน่ายมันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่แม่ข้าพเจ้าก็ไม่ทิ้งข้าพเจ้า เธอต่อสู้เคียงข้างข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าพยายามนัดคุยกับเจ้าหน้าที่สืบสวนในส่วนของการลดโทษหรืออะไรก็แล้วแต่อยากให้ผู้มีประสบการณ์แนะนำข้าพเจ้าไม่อยากเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แต่ถ้าติดก็คงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำแต่พอจะมีทางใหม
ล่าสุด ตร. ให้ข้าพเจ้าเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ่ ข้าพเจ้าหูหนวกไม่ได้ยิน เขาคุยกับแม่ข้าพเจ้าว่าอยาไอซ์ เหลือแค่ 3G.........? ผมอยากรู้ว่าทำไมงนเหลือแค่ 3g. ???????
และบอกให้ข้าพเจ้ายอมรับสารภาพและได้แนะนำทนายให้ด้วย เขาบอกว่าสงสารข้าพเจ้า อาจจะเหลือแค่ 6 เดือน สู้ไปสู้มาอาจจะเหลือแค่ 2 เดือนและยิ่งมาติดช่วงโควิดก็อาจจะได้ใส่ EM คุมประพฤติคือตอนนี้ข้าพเจ้าสับสนมากเพราะว่าตัวข้าพเจ้าเองก็ได้ศึกษาข้อมูลจากเพื่อนและผู้มีประสบการณ์ว่าอย่าอายที่จะครอบครองมันติดคุกนานตอนนี้ข้าพเจ้าสับสนมากจะต้องทำยังไงดี
...ในก.มีส่วนรับผิดชอบไหมครับสาวขอย้ำว่าข้าพเจ้าไม่ใช่เด็กเดินยาแต่เป็นเพียงการทำเอาหน้าเพื่อให้พี่เขาไว้ใจเท่านั้น
ถ้าอยากด่าข้าพเจ้าเชิญได้เต็มที่ข้าพเจ้าน้อมรับ