Ice Breaking คือ กิจกรรมละลายพฤติกรรมที่มีจุดประสงค์ให้ผู้เข้าร่วม
เรียนรู้ที่จะเปิดเผยความเป็นตัวเองต่อคนแปลกหน้าและกล้าแสดงออกมากขึ้น
เนื้อเรื่อง ตัวละคร นักแสดง ผู้ผลิต และคนดู
กำลังโดนละลายพฤติกรรมร่วมกันกับงานละครเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ
ได้เห็นเนื้อหาความต้องการ ความในใจของตัวละคร ตัวตนของนักแสดง
ความต้องการของผู้ผลิต และความคาดหวังของคนดู
เรื่องราวของการทำภารกิจเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ของพระเอกเป็นเพียงฉากหน้า
ที่ครอบครัวอยากจะให้เขียวได้อยู่ที่นี่ให้ได้นานที่สุดเพื่อพาเธอกลับบ้าน
นั้นคือเป้าหมายหลักของละครเรื่องนี้ ที่ผู้สร้างต้องการพาคนดูไปถึงตรงนั้น
นอกเหนือจากความบันเทิง และสาระการเกษตรที่มาเต็มในหน้าจอ
ถ้าใครได้เอาสิ่งเหล่านั้นไปทำประโยชน์ได้ก็เป็นเรื่องที่ประโยชน์กับคนที่ดู
แต่ในทุกภารกิจมี hidden message ซ่อนอยู่
ตัวละครเขียวได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเลือก
แต่ต้องทำเพื่อเป้าหมายที่ต้องการโดยไม่ได้บอกใคร แต่กำลังหลงไหลในสิ่งเหล่านั้น
ถ้าเป็นตัวละครที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกลับสิ่งเหล่านี้ คงจะไม่มีคนเชื่อว่ายังมีใครจะหลงไอดินกลิ่นนา
จนกลายเป็นละครที่สร้าง romanticize ไปหรือเปล่าตามมุมมองที่เปลี่ยนไปของคนดู
แต่เพราะว่า เขียวคือคนของบ้านหนองกะแยง เขาเคยอยู่ที่นี่
ไม่ได้ลืมที่นี่ แค่ตั้งกำแพงปฏิเสธในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่กำแพงที่เหมือนน้ำแข็งกำลังเริ่มละลาย
ทุกภารกิจที่ต้องทำการเกษตร คือการเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่ในชีวิตที่ล้มเหลวกลับคืนมา
การกลับมาอย่าง loser (ผู้แพ้) ทั้งความรัก การงานที่ล้มเหลว การกลับบ้านมาตั้งหลักก็เป็นตัวเลือกที่ดี
โชคดีที่เขากลับมาเขามีเป้าหมายใหม่ คือ เขามีที่ถ้าขายได้ จะได้กลับไปปังในเมืองหลวงแน่
แต่ต้องแลกกับการทำภารกิจมากมาย ที่เขาไม่อยากจะทำ ฝืนทำและไม่ตั้งใจ
จนภารกิจเหล่านั้นได้ละลายกำแพงให้ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ
ผู้กำกับไฟแรงให้ทำนามันไม่น่าได้ เขาก็ไม่ตั้งใจทำจนมีเรื่องมากมาย
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ง่าย แต่เขาเริ่มตั้งใจทำอาจจะด้วยความอยากเอาชนะ
มันก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนอกจากที่ภารกิจเดินหน้าไป หัวใจของเขาก็เปลี่ยน
เขาเข้าใจว่าการกลับมาหนองกะแยง กลับบ้านมาหาครอบครัว แต่เขาคิดว่าไม่มีใคร
ไม่คิดจะรู้จักใคร ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ แต่เขาเหล่านั้นก็อยู่ในทุกภารกิจที่เขียวต้องทำ
จนเมื่ออยู่ไปนาน ๆ เขาเริ่มทำความรู้จัก เห็นอกเห็นใจเพื่อนเก่าในฐานะของคนถูกทิ้งเหมือนกัน
และช่วยเหลือกันในเวลาคับขัน ทำให้เขาเริ่มมีหัวใจที่เปิดรับอะไรมากขึ้น และกำลังเปิดใจกับใครบางคน
ชมพู่ สำหรับเขียว คือเพื่อนวัยเด็กของเขา
แต่สำหรับเธอ เขียวอาจเป็นรักแรกและเป็นรักเดียว
เธอจำเขาได้ไม่ว่าเด็กหรือโตแล้ว ชอบในผลงานที่เขาทำ
การกลับมาเจอกันอีกครั้ง และได้รับหน้าที่ดูแลเขียวในการทำภารกิจ
และเธอคือความหวังของหมู่บ้าน ที่พาเขียวกลับบ้าน
เธอต้องเข้มแข็งและคงต้องใช้แรงกายและแรงใจพาเขากลับมา
การกลับมาเจอกันครั้งนี้ เธอทำได้เพียงเป็นเพื่อนวัยเด็กในสายตาของเขา
ความสัมพันธ์จึงเหมือนดูเด็กโข่ง เป็นผู้ใหญ่ที่ทำอะไรแบบเด็ก ๆ เผื่อเขาจะยังจำเธอได้
ความผูกพันวัยเด็กกำลังเริ่มละลายระยะห่างที่ไกลกันให้กลับมาใกล้ชิดกัน
ในแง่ของนักแสดงส่วนของเขียวที่รับบทโดย ณเดชน์
ได้เสนอไปเยอะแล้ว บทนี้เป็นการละลายบทบาทที่ผ่านตามากมายกับคนดูที่ผ่านมา 10 ปี
ให้ได้เห็นตัวตนของเขาในวันนี้ ที่ไม่ใช่สิ่งที่คุณเห็นในตอนแรก
ส่วน ชมพู่ กับการต้อนรับนักแสดงในสังกัดใหม่ของ โบว์ เมลดา
บทนี้ไม่ได้แปลกประหลาดหรือท้าทาย สำหรับนักแสดงที่มีผลงานมากมาย
แต่บทนี้เหมือนการละลายความสัมพันธ์ของดูระหว่างสังกัดเดิมและสังกัดใหม่
ที่อาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ผลตอบรับต้องไม่น่าเกลียด
ตอนที่รู้ว่าค่ายนี้จะทำแนวนี้ ก็ได้คิดว่ามันจะเป็นแบบไหน เพราะผลงานล่าสุด
แนวนี้ก็ตั้งแต่รักเกิดในตลาดสดที่มันเหมือนไม่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังมีมุมแบบนี้บ้าง
แต่ดีที่เรื่องนี้ไม่ใช่รีเมค แต่มีภาพไปคล้ายในหลายเรื่องในโครงเรื่องใหญ่
ก็ยิ่งทำให้จะทำเรื่องนี้ไปในทางไหน และไม่ถูกว่าหากินเรื่องกับเรื่องเดิม ๆ เกินไป
และการกลับมากำกับละครเต็มตัวของคุณพงษ์พัฒน์อีกครั้ง ทำให้เรื่องนี้มีสีสันกว่าตอนกรงกรรม
อะไรที่คิดว่าสนุกถูกประโคมเข้ามาซึ่งก็เป็นไปตามคิด คือ ก็มีเฮฮาบ้าง หรือ หึหึบ้างบางที
แต่ได้เห็นพลังงานความตั้งใจในผลงานเรื่องนี้ ที่เริ่มละลายอะไรที่ไม่เป็นใจเพื่อกลับมาเต็มที่
เป็นการรับผิดชอบในฐานะของผู้จัด อย่างคุณบีบี เอกนรี
แม้จะช่วยงานในหลายส่วนจากตอนกรงกรรม แต่ครั้งนี้ต้องมารับผิดชอบช่วงต่องานทั้งหมด
ในงานผลิตครั้งแรก เป็นการเริ่มบทบาทใหม่ที่เขากำลังจะต้องรับมือต่อไป
และหลายคนที่ได้ดูละครเรื่องนี้ นอกจากจะได้ความบันเทิงในช่วงทุกข์ยากในชีวิต
สาระที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นประโยชน์กับคนดู และเริ่มติดตามเรื่องราวในตอนต่อไป
โดยเฉพาะเขียว ที่กำลังโดนละลายพฤติกรรมไปเรื่อย ๆ ไปพร้อม ๆ กับคนดู
มนต์รักหนองผักกะแยง ice breaking ของผู้สร้างและผู้ดู
เรียนรู้ที่จะเปิดเผยความเป็นตัวเองต่อคนแปลกหน้าและกล้าแสดงออกมากขึ้น
เนื้อเรื่อง ตัวละคร นักแสดง ผู้ผลิต และคนดู
กำลังโดนละลายพฤติกรรมร่วมกันกับงานละครเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ
ได้เห็นเนื้อหาความต้องการ ความในใจของตัวละคร ตัวตนของนักแสดง
ความต้องการของผู้ผลิต และความคาดหวังของคนดู
เรื่องราวของการทำภารกิจเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ของพระเอกเป็นเพียงฉากหน้า
ที่ครอบครัวอยากจะให้เขียวได้อยู่ที่นี่ให้ได้นานที่สุดเพื่อพาเธอกลับบ้าน
นั้นคือเป้าหมายหลักของละครเรื่องนี้ ที่ผู้สร้างต้องการพาคนดูไปถึงตรงนั้น
นอกเหนือจากความบันเทิง และสาระการเกษตรที่มาเต็มในหน้าจอ
ถ้าใครได้เอาสิ่งเหล่านั้นไปทำประโยชน์ได้ก็เป็นเรื่องที่ประโยชน์กับคนที่ดู
แต่ในทุกภารกิจมี hidden message ซ่อนอยู่
ตัวละครเขียวได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากเลือก
แต่ต้องทำเพื่อเป้าหมายที่ต้องการโดยไม่ได้บอกใคร แต่กำลังหลงไหลในสิ่งเหล่านั้น
ถ้าเป็นตัวละครที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกลับสิ่งเหล่านี้ คงจะไม่มีคนเชื่อว่ายังมีใครจะหลงไอดินกลิ่นนา
จนกลายเป็นละครที่สร้าง romanticize ไปหรือเปล่าตามมุมมองที่เปลี่ยนไปของคนดู
แต่เพราะว่า เขียวคือคนของบ้านหนองกะแยง เขาเคยอยู่ที่นี่
ไม่ได้ลืมที่นี่ แค่ตั้งกำแพงปฏิเสธในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่กำแพงที่เหมือนน้ำแข็งกำลังเริ่มละลาย
ทุกภารกิจที่ต้องทำการเกษตร คือการเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่ในชีวิตที่ล้มเหลวกลับคืนมา
การกลับมาอย่าง loser (ผู้แพ้) ทั้งความรัก การงานที่ล้มเหลว การกลับบ้านมาตั้งหลักก็เป็นตัวเลือกที่ดี
โชคดีที่เขากลับมาเขามีเป้าหมายใหม่ คือ เขามีที่ถ้าขายได้ จะได้กลับไปปังในเมืองหลวงแน่
แต่ต้องแลกกับการทำภารกิจมากมาย ที่เขาไม่อยากจะทำ ฝืนทำและไม่ตั้งใจ
จนภารกิจเหล่านั้นได้ละลายกำแพงให้ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ
ผู้กำกับไฟแรงให้ทำนามันไม่น่าได้ เขาก็ไม่ตั้งใจทำจนมีเรื่องมากมาย
การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ง่าย แต่เขาเริ่มตั้งใจทำอาจจะด้วยความอยากเอาชนะ
มันก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนอกจากที่ภารกิจเดินหน้าไป หัวใจของเขาก็เปลี่ยน
เขาเข้าใจว่าการกลับมาหนองกะแยง กลับบ้านมาหาครอบครัว แต่เขาคิดว่าไม่มีใคร
ไม่คิดจะรู้จักใคร ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ แต่เขาเหล่านั้นก็อยู่ในทุกภารกิจที่เขียวต้องทำ
จนเมื่ออยู่ไปนาน ๆ เขาเริ่มทำความรู้จัก เห็นอกเห็นใจเพื่อนเก่าในฐานะของคนถูกทิ้งเหมือนกัน
และช่วยเหลือกันในเวลาคับขัน ทำให้เขาเริ่มมีหัวใจที่เปิดรับอะไรมากขึ้น และกำลังเปิดใจกับใครบางคน
ชมพู่ สำหรับเขียว คือเพื่อนวัยเด็กของเขา
แต่สำหรับเธอ เขียวอาจเป็นรักแรกและเป็นรักเดียว
เธอจำเขาได้ไม่ว่าเด็กหรือโตแล้ว ชอบในผลงานที่เขาทำ
การกลับมาเจอกันอีกครั้ง และได้รับหน้าที่ดูแลเขียวในการทำภารกิจ
และเธอคือความหวังของหมู่บ้าน ที่พาเขียวกลับบ้าน
เธอต้องเข้มแข็งและคงต้องใช้แรงกายและแรงใจพาเขากลับมา
การกลับมาเจอกันครั้งนี้ เธอทำได้เพียงเป็นเพื่อนวัยเด็กในสายตาของเขา
ความสัมพันธ์จึงเหมือนดูเด็กโข่ง เป็นผู้ใหญ่ที่ทำอะไรแบบเด็ก ๆ เผื่อเขาจะยังจำเธอได้
ความผูกพันวัยเด็กกำลังเริ่มละลายระยะห่างที่ไกลกันให้กลับมาใกล้ชิดกัน
ในแง่ของนักแสดงส่วนของเขียวที่รับบทโดย ณเดชน์
ได้เสนอไปเยอะแล้ว บทนี้เป็นการละลายบทบาทที่ผ่านตามากมายกับคนดูที่ผ่านมา 10 ปี
ให้ได้เห็นตัวตนของเขาในวันนี้ ที่ไม่ใช่สิ่งที่คุณเห็นในตอนแรก
ส่วน ชมพู่ กับการต้อนรับนักแสดงในสังกัดใหม่ของ โบว์ เมลดา
บทนี้ไม่ได้แปลกประหลาดหรือท้าทาย สำหรับนักแสดงที่มีผลงานมากมาย
แต่บทนี้เหมือนการละลายความสัมพันธ์ของดูระหว่างสังกัดเดิมและสังกัดใหม่
ที่อาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ผลตอบรับต้องไม่น่าเกลียด
ตอนที่รู้ว่าค่ายนี้จะทำแนวนี้ ก็ได้คิดว่ามันจะเป็นแบบไหน เพราะผลงานล่าสุด
แนวนี้ก็ตั้งแต่รักเกิดในตลาดสดที่มันเหมือนไม่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังมีมุมแบบนี้บ้าง
แต่ดีที่เรื่องนี้ไม่ใช่รีเมค แต่มีภาพไปคล้ายในหลายเรื่องในโครงเรื่องใหญ่
ก็ยิ่งทำให้จะทำเรื่องนี้ไปในทางไหน และไม่ถูกว่าหากินเรื่องกับเรื่องเดิม ๆ เกินไป
และการกลับมากำกับละครเต็มตัวของคุณพงษ์พัฒน์อีกครั้ง ทำให้เรื่องนี้มีสีสันกว่าตอนกรงกรรม
อะไรที่คิดว่าสนุกถูกประโคมเข้ามาซึ่งก็เป็นไปตามคิด คือ ก็มีเฮฮาบ้าง หรือ หึหึบ้างบางที
แต่ได้เห็นพลังงานความตั้งใจในผลงานเรื่องนี้ ที่เริ่มละลายอะไรที่ไม่เป็นใจเพื่อกลับมาเต็มที่
เป็นการรับผิดชอบในฐานะของผู้จัด อย่างคุณบีบี เอกนรี
แม้จะช่วยงานในหลายส่วนจากตอนกรงกรรม แต่ครั้งนี้ต้องมารับผิดชอบช่วงต่องานทั้งหมด
ในงานผลิตครั้งแรก เป็นการเริ่มบทบาทใหม่ที่เขากำลังจะต้องรับมือต่อไป
และหลายคนที่ได้ดูละครเรื่องนี้ นอกจากจะได้ความบันเทิงในช่วงทุกข์ยากในชีวิต
สาระที่เกิดขึ้นก็อาจจะเป็นประโยชน์กับคนดู และเริ่มติดตามเรื่องราวในตอนต่อไป
โดยเฉพาะเขียว ที่กำลังโดนละลายพฤติกรรมไปเรื่อย ๆ ไปพร้อม ๆ กับคนดู