อยากถามความเห็นเพื่อนๆชาวพันทิปค่ะ

เราเรียนอยู่คณะที่เรียน 6 ปีค่ะ เรียนใกล้จะจบแล้ว เราคบกับแฟนมา 6 ปีตั้งแต่อยู่ ม.5ค่ะ จะขอเล่าเรื่องราวชีวิตของเราก่อน 

เราเป็นเด็กมอปลายทั่วไปค่ะ ยังเลือกผช.ไม่เป็น เจอกับแฟนในเฟสเห็นว่าเขาน่าตาโอเคประมานนึงก็เลยเริ่มคุย จนคบกัน เขาเรียนปวช.ค่ะไม่ได้เรียนมอปลายแบบเรา ช่วงแรกก็คบมาเรื่อยๆค่ะ ด้วยความที่เรายังเด็ก ไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะ คุยแล้วสบายใจ ไปเที่ยวหลังเลิกเรียนได้บ้างให้เราผ่อนคลายจากการเรียนพิเศษหรือว่าอ่านหนังสือ (เราตั้งใจเรียนเพื่อที่จะสอบมหาลัยมากค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าเราเคยไปสอบโรงเรียนเตรียมอุดมแล้วไม่ติด ก็เลยมีคติว่าไม่เห็นต้องเรียนเตรียมก็จะสอบเข้าที่ๆอยากเข้าได้เหมือนกัน) เราก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาค่ะ พึ่งมารู้ซัก 2-3 เดือนแรกที่คบกันว่าเขาติดบุหรี่มาก ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ก็คบต่อไปด้วยความคิดที่ว่า เดี๋ยวก็เลิกได้ เขาคงยังเป็นวัยรุ่นอยู่ พอคบไปซักพักความจริงๆหลายๆอย่างก็เริ่มเผยขึ้นมา เขาติดเพื่อน ติดยาแก้ไอ เราก็ยังคบต่อด้วยความคิดของเด็กที่ว่า เราเคยลองมาทุกอย่างแล้วแต่เราก็ไม่ติดเลยซักอย่าง ซักวันเขาก็คงเปลี่ยนตัวเองได้เพราะเขารักเรามากพอ แต่ก็ทะเลาะกันหลายรอบค่ะเพราะเรื่องพวกนี้ เขาสัญญาว่าถ้าเรียนจบปวช.แยกย้ายกับเพื่อน ก็จะเลิกขาดให้ เราก็เชื่อค่ะ ด้วยความที่เราไม่ได้คุยกับใครเลยเพราะมีแฟนก็คิดจะซื่อสัตย์กับแฟน แล้วเวลาเพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ค่อยไป เพราะอยากอ่านหนังสือ เรียนพิเศษ แล้วเก็บเวลาที่เหลือไปเที่ยวกับแฟน เราก็เลยติดเขามาก กลายเป็นที่ระบาย เป็นคนที่ทำให้ผ่อนคลายของเราไปแล้วค่ะ
          ผ่านไป 6 เดือน เราก็จับได้ค่ะว่าเขาคุยกับผู้หญิงที่เขาไปเจอในผับตอนไปเที่ยวกับเพื่อน เราก็เลิกกันค่ะ แต่พอผ่านไปเดือนนึง ก็ได้กลับมาคุยกัน ความรู้สึกดีๆมันก็กลับมา และใช่ค่ะเราก็กลับไปคบกับเขาต่อ คุยกันทุกวันเหมือนเดิม เขาก็อยู่กับเพื่อนทุกวันแต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเขาสัญญาว่าถ้าถึงเวลาจะเลิกให้ แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ทำแบบเดิมอีก เราก็เชื่อค่ะ (หลังจากนี้คนที่เข้ามาอ่านอาจจะคิดในใจว่าทำไมคำว่าสัญญามันเยอะจัง ใช่ค่ะ เราเชื่อแล้วก็ให้โอกาสเขาทุกรอบเลยค่ะ)
            จนเราสอบเข้าคณะที่ต้องเรียน 6 ปีได้ เราก็ดีใจมาก เวลาที่จะได้อยู่กับเขาในช่วงเวลาว่างระหว่างรอเปิดเรียนมันก็นานขึ้น ใช่ค่ะเราก็ไปเที่ยว เจอกันบ่อยขึ้น จนวันหนึ่งเราไปบ้านเขาค่ะ เขาอยากมีอะไรกับเรา แต่เราก็ไม่ให้ จริงๆเขาขอมาตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแล้วค่ะ เขาก็คอยตื้อ คอยหาเหตุผลสารพัดมาอ้าง พอเราไม่ให้ก็จะเป็นการทะเลาะกัน ซ้ำๆเรื่องเดิมๆ ทะเลาะกันไปเรื่อยๆจนถึงขั้นขอเราเลิกก็มีค่ะ จนสุดท้ายพอช่วงก่อนเปิดเรียนคณะ เราก็ได้มีอะไรกับเขาเป็นครั้งแรกค่ะ เขาก็เหมือนจะรักเรามากขึ้นนะคะ ทำให้เราเริ่มมั่นใจอีกครั้งว่ารักทางไกล ก็คงได้ไปกันรอด และเขายังบอกว่าเขารักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเราได้แล้ว คือเลิกกัญชา ยา แต่บุหรี่ยังขอนานๆครั้ง เราก็ยอมค่ะ เพราะเห็นว่าอย่างน้อยยาเสพติดก็เลิกได้แล้ว อีกทั้งเขายังคอยอยู่ข้างๆเรามาตลอด (อันนี้ไม่พูดถึงครอบครัวนะคะ ครอบครัวเราดีมากอยู่ข้างๆเรามาตลอด แต่เราไม่กล้าบอกครอบครัวเลยด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนยังไง บอกไปแค่ว่าเขาก็คนดี) 
            พอเราเริ่มปี1 เขาก็เข้าเรียนปวส.ค่ะ เขาก็มีเพื่อนกลุ่มเดิมๆและกลุ่มใหม่มาร่วมผสม เราจับได้ว่าเขาโกหกเราค่ะ ใช่ค่ะเขายังเลิกไม่ได้ และไม่หนำซ้ำยังติดกัญชาเพิ่มด้วยอีก จิตใจของเราก็ถูกบั่นทอนมาเรื่อยๆ และด้วยความที่ว่าเราเรียนไกล มันทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว แม้จะมีเพื่อนสนิทในคณะ แต่ความรู้สึกเราก็ยังรู้สึกว่ายังไงก็คงไม่มีใครที่เข้าใจเราจริงๆนอกจากเขา เราทะเลาะกันหนักอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมด้วยคำสัญญาว่า จบปวส.ก็จะเลิกได้แน่นอน เมื่อเข้าสู่มหาลัยและเจอสังคมใหม่ๆ ใช่ค่ะเราก็เชื่อเขาอีกครั้ง แต่ระหว่างคบกันเราก็ทะเลาะกันบ่อยมากค่ะ ทั้งหาเหตุผล หาข้อมูลสารพัด หรือโทรไปคุยกับแม่เขา ทำยังไงเขาก็เลิกไม่ได้เลยค่ะ แต่พอทะเลาะกันก็คืนดีกันด้วยเหตุผลเดิมๆคือ ตอนนี้เราเริ่มอยู่คนเดียวไม่ไหว พอจะใช้ชีวิตแบบไม่มีเขา พอตื่นมามันก็ทรมานมากค่ะ แต่นี่ยังเป็นเพียงการเริ่มต้น..
            เวลาผ่านไปจนเราจบปีสอง เขาก็จบปวส.จากสถาบันเดิม เราก็ดีใจมากค่ะ ที่ในที่สุดเขาจะได้หลุดพ้นกับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ และกลับมาเป็นคนปกติ ไม่ยุ่งกับยาเสพติดได้ซักที เราเริ่มมีความคิดอยากให้เขาได้เรียนที่ดีๆ จบมาจะได้ไม่ต้องโดนคนอื่นว่าและหากเขาเข้าม.ตรงสาย ก็จะได้เรียนอีกแค่2ปี ก็สามารถจบปริญญาตรีได้ ใช่ค่ะเราได้แนะนำให้เขาไปเรียนที่ม.เอกชนย่านรังสิต 
            เราปี3 เขาอยู่ปี1 เวลาผ่านไปครึ่งเทอม ในสายตาเราคือเขาตั้งใจเรียนดี นอนไว ไม่ค่อยออกไปไหน แต่พอช่วงวันเกิดเรา(มกรา) ความจริงก็ปรากฎ เราจับได้ว่าเขาไปมีอะไรกับคนอื่นในช่วงวันลอยกระทง (ตอนนี้เรากลายเป็นเกลียดวันลอยกระทงมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไง พอนึกถึงก็จิตตกแล้วก็เศร้าอยู่ในใจมาตลอด อยากจะลืมแต่ลืมไม่ได้เลยค่ะ) และที่ผ่านมาที่เขาบอกนอนเร็วคือไม่จริง เขาออกไปหาเพื่อน ไปนั่งเล่น สูบกัญชา สร้างเฟสขึ้นมาใหม่ตัวตนใหม่ที่มีแต่ผู้หญิง คุยกับผู้หญิง เอาเฟสนั้นบล็อกเฟสเรา นั่นคือให้เราเสียใจมาก แล้วเราจับได้เพราะเพื่อนผญ.ของเขาบอกให้เขาทักมาบอกเราว่าเขาไปมีอะไรกับอีกคนแล้ว เขาเอาเฟสใหม่ที่สร้างมา ปลดบล็อกเราแล้วก็ทักเรามาตอนวันเกิดค่ะ(เฟสเปลี่ยนรูปโปรเป็นรูปการ์ตูนและเป็นชื่ออื่นที่ไม่ใช่ชื่อเขา) แล้วก็ยกเลิกข้อความ ช่วงเย็นเขาอ้างว่ามาเซอไพร้เราที่มหาลัย เขากับเพื่อนผู้ชายกลุ่มเขามานั่งเล่นแถวมหาลัยเราค่ะ จริงๆคือไกลกันกว่า100+กิโลค่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะเพราะเห็นว่าเป็นวันเกิด เขาเลยอาจจะอยากเซอไพร้จริงๆ วันต่อมาเราก็ติดใจว่ามันแปลกๆ เลยเอาเฟสจริงของเขาเข้ารหัส ปรากฏว่าเจอผู้หญิงที่เขาใช้เฟสจริงบล็อกไปจำนวนมาก เราก็ตัดสินใจไล่ทักผู้หญิงที่เขาบล็อกไปทีละคน จนสุดท้ายก็ได้รู้ความจริงว่าเขามีอะไรกับคนอื่นแล้วก็มีโลกใบที่สอง และข้อความที่ยกเลิกไปคือข้อความที่พิมว่า 'เราเลิกกันเถอะ เรามีอะไรกับคนอื่น'เราเจ็บมากค่ะ หลังจากนั้นเราก็เรียนไม่ได้เลยค่ะ ร้องไห้ทั้งวัน เข้าไปในห้องเรียนก็นั่งร้องไห้ ไม่ได้เรียนอะไรเลยค่ะ เราก็บอกเลิกเขาไป พอช่วงดึกเขาก็มาหาเราที่มหาลัยค่ะ มาง้อ เคลียกันเป็นชั่วโมงค่ะ (ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะไม่ไปเจอแล้วใช่มั้ยคะ) แต่เราก็ยังดันไปเจอ ไปเชื่อคำพูดของเขาว่ารู้สึกผิด ไม่ได้ตั้งใจ จะไม่ทำอีก สัญญา บลาๆๆ... ด้วยความที่เราคิดว่า ช่วงนั้นก็ปี3 เรียนก็หนัก แถมยังไม่มีใครที่เข้าใจเรามากกว่าเขา เราก็เลยกลับไป (เพื่อนเรามีอยู่2คนที่รู้เรื่อง ก็ห้ามเราสารพัดเลยค่ะ) พอกลับไปคบมันก็กระท่อนกระแท่น กลายเป็นเหมือนเราเป็นของตายไปเลยค่ะ แต่เราก็ต้องยอมค่ะเพราะว่าถ้าไม่มีเขาก็กลายเป็นว่าเราอยู่ไม่ได้ไปแล้ว
            จริงๆเขาก็ยังติดเพื่อน ติดกัญชาอยู่เหมือนเดิม ไปทำงานพาตไทม์ที่ร้านสเต็ก (เขาว่ามางี้ค่ะ) แต่ความจริงก็คือเป็นกลุ่มพนักงานและเจ้าของร้านดูดกัญชากัน เราก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องมานั่งระแวงอยู่ตลอดเวลา นอนก็นอนไม่หลับ บางทีคิดมากว่าเขาจะไปอยู่ไหน ทำอะไร ก็โทรไปค่ะ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นสิ้นสุดที่ว่า เรางี่เง่าแล้วก็ทะเลาะกัน หลังจากนั้นประมานสามเดือยเราจับได้ว่าเขายังเล่นแอพหาคู่และแอบคุยกับผู้หญิงอยู่ ทุกครั้งที่เขาถูกจับได้ก็จะโยนความผิดมาให้เราค่ะ ว่าเป็นเพราะเราไม่มีเวลา เรางี่เง่า ไม่ให้อิสระเขา (ซึ่งในใจเราคิดว่าที่ทุกอย่างหล่อหลอมให้เรากลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเขา) จนสุดท้ายเราทนไม่ได้ก็ไปบอกความจริงพ่อแม่เขาทุกอย่าง และให้เขาออกจากมหาลัยนั้น เพราะเรียนไปก็ไม่รอดค่ะ เขาไม่ไปเรียน ตื่นสาย อ้างว่าไม่มีเรียน พอดึกก็ไปอยู่กับเพื่อน สูบกัญชา เล่นเกม มีความสุขกัน ต่างจากเราที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น ตอนนี้มันกลายเป็นว่าเราต้องยอมรับที่เขากลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว 
             จนสุดท้ายเราใกล้ขึ้นปี4 เขาออกจากมหาลัยย่านรังสิตแล้ว กลับไปอยู่บ้าน ก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ เขาพยายามจะเลิกทุกอย่าง(อีกแล้ว)ให้เรา โดยการไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาใช้แทน
ตอนนี้ผ่านมาประมาณ 1ปีกว่าๆหลังจากเกิดเรื่องนั้นกับเรา เราก็เริ่มมีความหวังว่าเขาจะกลับเป็นคนเดิม คนที่เข้าใจ คอยอยู่ข้างๆเรามาตลอด และเขาก็บอกเราไว้ว่าเดี๋ยวเขาจะเรียนมหาลัยใหม่(เรียน2ปีเหมือนกัน) โดยจะเรียนใกล้บ้านแทน ไม่อยู่หอแบบเดิม ตอนนี้เขาบอกว่ากำลังพยายามเลิกบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ เราก็เชียร์เต็มที่ค่ะ ถึงทุกวันนี้เราก็ยังเหมือนจะมีความหวังลมๆแล้งๆของเขา แต่ความไม่เชื่อใจมันก็ยากที่จะทำให้หายไปค่ะ เราก็ยังคงระแวงอยู่ จนทำให้มีทะเลาะกันบ้าง เขาก็สัญญาว่าไปไหนจะบอกเรา ไม่โกหกเราแล้ว ซึ่งเราเคยโทรเช็คกับแม่เขาว่าจริงมั้ยก็คือจริงค่ะ แต่ทุกวันนี้เราก็ยังอยู่แบบระแวงตลอดเวลา รักก็รัก ขาดก็ไม่ได้ แต่จะให้เชื่อใจเต็ม100 แบบเดิมมันก็ยาก บางทีนอนๆอยู่เรื่องราวที่เขาเคยทำไว้มันก็ไหลผ่านความทรงจำมา คิดวนๆอยู่แบบนั้น หนีไปไม่ได้ซักที มีความคิดที่ว่าจะเลิกแล้วหาแฟนใหม่ดีๆไปเลย แต่พอจะทำมันก็เศร้า แล้วรู้สึกอยู่ไม่ได้ตลอดเลยค่ะ

อยากถามความเห็นเพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงดีค่ะ
ปล.เรารู้ว่าเราโง่มากค่ะ จริงๆถ้าย้อนเวลาได้ก็อยากจะบอกกับตัวเองในอดีตว่าอย่าไปคุยกับเขาเลยTT
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่