คือเราสมัครเข้าไปเล่น เว็บไซด์นี้เพราะอยากใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆอ่ะค่ะ เรียนมาไม่ใช้กลัวลืม รู้จักมาจากโพสหนึ่งในเฟซบุ๊ค ที่คนเขาแนะนำกัน นั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนฝึกภาษาแรกๆ ไม่เล่นอะไรแบบนี้เลย เพราะกลัวโรคจิตมาก เป็นคนใจบางสุดๆ แต่โพสนั้นที่รีวิว เขาก็เจอคนดีดีนี่นา ไอ้เราก็เลยเปิดใจดู วันแรกก็เจอคนโรคจิตเลยจริงๆนั่นแหละค่ะ ทั้งๆที่เขียนโปรไฟล์ทุกอย่างแบบชัดเจนแล้ว ว่าไม่คุยFlirt อะไรแบบนั้น
อย่างที่บอกเราเป็นคนใจบางมากก วันนั้นก็ตั้งใจว่าจะลบแอคเคาน์ออกเลย เพราะไม่มั่นใจที่จะปรากฎตัวต่อชาวโลกขนาดนั้นมาตั้งแต่แรก แถมมาเจออะไรหยาบคายแบบนี้อีก แต่ลบไม่ได้ต้องรอ 7 วัน เราก็คิดว่า เอาน่า ลองเล่นต่อ มาตอนนี้รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆค่ะ ได้เพื่อนดีดีมาหลายคน
คนแรก เป็นหนุ่มแคนาดา อายุ29 เขาทักเรามาก่อนเลยค่ะ เฟลนลี่มาก ตั้งใจมาช่วยเราพัฒนาภาษาอังกฤษจริงๆ ไม่คุยวอกแวกส่อไปในทางไม่ดีเลย แถมเป็นคนฉลาดมากๆ เราไม่ชอบคุยเรื่องทั่วไปอ่ะค่ะ จะมีก็ตอนทักเกริ่น เพื่อชวนคุย อย่างเช่น ถามอากาศบ้าง ถามเวลาบ้าง แล้วจึงโยงเข้าหาเรื่องที่เราสนใจ อย่างเช่น หนังสือ หรือ discuss เรื่องศาสนา การเมือง ปรัชญา วิทยาศาสตร์ หรือถามเขาเกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษในเรื่องที่เราไม่เข้าใจ เขาสามารถคุยกับเราได้อย่างลื่นไหล และ ตั้งใจตอบแชทมากค่ะ มีวันนึงที่คนใกล้ตัวเรา พวกเขาเป็นคริสเตียน แล้วเถียงกันว่า ควรเคร่งครัดไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์หรือไม่ เราเลยนำเรื่องนี้ไปถามเขา เขามีความเห็นที่ดี แม่จะไม่นับถือศาสนา อธิบายยืดยาว ขนาดไปยกคำในพระคัมภี มาตอบเลยเชียว แล้วก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เราคุยกับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์แล้ว ได้รู้จักคำศัพท์ภาษาตากาล็อก "Kilig" ที่อารมณ์ประมาณว่า รู้สึกอิ้วววจนมวลท้อง เวลาใครทำดีด้วย หรือดูหนังแล้วพระนางแสนจะน่ารัก อะไรแบบนั้นอ่ะค่ะ เราก็เลยนึกสงสัยว่า ในภาษาอังกฤษ จะมีคำที่อารมณ์ประมาณนี้ไหม เพราะในภาษาไทยเห็นจะไม่มี เลยทักไปถามเขา เขาก็พยายามหาคำมาแมทช์ให้เราจริงๆอ่ะค่ะ จนเขาก็ไปเสิร์ชเจอข่าวว่า Oxford Dictionary เพิ่มคำว่า Kilig ในพจนานุกรมเช่นกัน English speakers สามารถใช้ได้ อะไรประมาณนี้ค่ะ คุยดีมากจริงๆ polite และใจดีมาก ตอนนี้เขาขอไลน์ เพื่อ to be in contact easier
คนที่สอง เป็นคนฟิลิปปินส์ค่ะ คนนี้อายุ21 ปีค่ะ เราทักเขาไปก่อน เพราะเราตั้งใจจะฝึกภาษาตากาล็อกเป็นภาษาที่สามค่ะ แล้วเห็นหน้าโปรไฟล์เขาเขียนว่าฝึกภาษาไทยอยู่ ด้วยความที่เราเป็นคนไทย เราก็ดีใจที่มีคนอยากฝึกภาษาตัวเองค่ะ ก็เลยทักเขาไป เขาเป็นนักศึกษาคณะจิตวิทยาค่ะ ชอบประเทศเรามาก ทั้งซีรีย์เอย ต่างๆ คุยสนุกมากๆเลยค่ะ คนปินส์มีอารมณ์ขันมาก ขำง่าย และใจดีด้วยค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะได้คุยสัพเพเหระ แต่เขาก็เป็นคนเนิร์ดเหมือนกัน เขาอ่านหนังสือเยอะมากก รู้อะไรเยอะมากกว่าเราเยอะเลย เราแลกเปลี่ยนภาษา และวัฒนธรรม กันส่วนใหญ่ค่ะ เช่น มีวันนึงเขาถามเราว่า เราเป็นคริสเตียนรึป่าว ต้องเกริ่นก่อนว่าเรื่องที่คุยกันวันนั้นคือ เราบอกเขาว่าเราชอบประเทศเขา เรารู้สึกว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เสียสละ เพราะเวลามีพายุ ไต้ฝุ่นใดๆจะโดนประเทศเขาก่อนตลอดเลย เราบอกเขาว่า I pray for your country always เขาเลยถามเราแบบนั้น เพราะไม่เคยเห็นชาวพุทธpray มั้งค่ะ หลังจากนั้น เขาก็ชวนเราdiscuss เรื่องศาสนาเนี้ยแหละ คุยไปเรื่อยๆ มีคำถามนึงว่า พระ ไม่ทำงานแล้วกินข้าวยังไง น่ารักดีค่ะ เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ที่คุยกัน มันช่วยเสริมความรู้รอบตัวไปเนียนๆจริงๆทั้งเขาและทั้งเรา ตอนนี้ย้ายมาคุยใน Facebook ค่ะ
คนที่สาม เป็นหนุ่มออสเตรเลียค่ะ เราเห็นในโปรไฟล์เขาเขียนแนะนำตัวไว้ดีค่ะ น่ารักดี มีประโยคนึงที่เขียนว่า เขามีรอยยิ้มที่ทำให้เมืองทั้งเมืองสดใส เราเคยอ่านคำแนะนำในนี้มาบ้าง ว่าฝรั่งไม่ชอบให้ทักแค่ Hi หรือ Hello เราเลยทักไป ถามเขาว่า ยูมีรอยยิ้มที่ทำให้เมืองทั้งเมืองสดใสจริงไหม หลังจากนั้นเขาก้ตอบแชทค่ะ คนนี้เนิร์ดประวัติศาสตร์ค่ะ เขาชวนเราถกประเด็นศาสนาก็บ่อย มีวันนึง เรามีความเห็นต่างจากเขา ในเรื่องการวางรากฐานทางวัฒนธรรมของประเทศไทยนี่แหละ เขายกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศเรามาตอบ ตอนนั้นประทับใจมาก เลยชมเขาไป ประมาณว่า Shame on me, you knows a lot about these things more than me that being thais for now. You know? you impress me อะไรประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาตอบว่า เพราะมาจากประเทศที่ไม่มีประวัติศาสตร์ให้ศึกษา จึงต้องศึกษาของประเทศอื่น ยูควรภูมิใจกับสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้นะ ตอนนั้นหงอยเลยค่ะ แต่เขาคงไม่ได้คิดมากอะไร สนุกมากจริงๆค่ะ เขาฉลาดมากๆ ไม่เฉพาะเรื่องจริงจัง บางทีเราก็คุยกันเรื่องหนัง เรื่องสัพเพค่ะ เขาชอบชวนเราดูหนังด้วยกันผ่าน Netflix Party ค่ะ แต่เขาชอบแนวHorror มันไม่ใช่typeเราเลย เขาก็ขำๆค่ะเวลาเราบอกว่ากลัวผี หรือมอนเตอรในหนัง สำหรับคนนี้เราก็คุยในไลน์ค่ะ
คนสุดท้าย เป็นหนุ่มUSA ค่ะ เขาเป็นคนแม็กซิกัน โดยเชื้อชาติ แต่เขาเกิดและเติบโดที่อเมริกาค่ะ คนนี้ตอนแรกที่เขาทักมา เราแอบกลัวค่ะ เพราะเขาพูดจาหวานเกินไป เราเลยระแวงว่าจะมาทำนองจีบรึป่าว เขาชมว่าเราสวยจนเป็นModelได้เลย เราเลยตอบอย่างระวังว่า thanks for nice words but no need to be so sweet. อะไรงี้ค่ะ เราบอกเขาต่อว่า เราไม่ได้คิดมากไป เราแค่ระวังตัว เพราะเราใจบ๊างงงบาง ฮ่าฮ่า เขาก็บอกว่าเขาเข้าใจ สงสัยเราจะเจอมาเยอะ ถ้าเราไม่สบายใจ เขาจะไม่ชมอะไรแบบนี้ พอเราเข้าไปส่องโปรไฟล์เขา เขาก็ดูวางใจได้ในเบื้องต้นจริงๆแหละค่ะ ไม่ได้ดูเป็นพิษอะไร แถมเขียนว่าอยากเรียนภาษาไทยด้วย มิน่าล่ะ ถึงทักเรามา คุยกันไปเรื่อยๆ เขาก็ถามหา whatsapp ค่ะ แต่เราไม่เล่น หลังจากนั้นเขาหายไปพักหนึ่งเลย ทั้งๆที่ดีลกันแล้วว่าจะเป็นเพื่อนกัน เราก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่ทักเรามาเลย วันนึงเราเลยทักไปถามก่อนค่ะ เขาบอกว่า นึกว่าเราไม่อยากคุยกับเขา เพราะเขาไม่หล่อ เขาบอกว่าเห็นผู้หญิงไทยชอบ White guy เราก็เลยรู้สึกผิดเลย ไม่รู้ว่าไปคุยให้เขาเข้าใจว่าตัดรอนกันช่วงไหน เราก็เลยบอกเขาว่า เราไม่ได้คบเพื่อนหรือชอบใครที่หน้าตา but thier behave and thier mind เขาก็เลยกลับมาคุยกัน คนนี้เราจะคุยเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐค่ะ เขาเป็นนักประชาธิปไตยตัวยง ฮ่าฮ่า แถมเขาชอบวาดรูปเหมือนเราด้วย คุยมาสักพัก ตอนนี้วางใจแล้วค่ะ ว่าเขาเป็นมิตรที่ดีจริงๆ
การหาเพื่อนต่างชาติทางอินเทอร์เน็ตนี้ ให้อะไรดีดีกับจขกท.มากจริงๆค่ะ ไม่ได้น่ากลัว หรือมีแต่โรคจิตอย่างที่คิดไว้ตอนแรก อยู่ที่เราจะเลือกสรร ทั้งนั้น
คำแนะนำ คือ การเขียนแนะนำตัวในหน้าโปรไฟล์มีความสำคัญมากค่ะ นั่นเป็นด่านนึงให้เราคัดครองคนที่สติปัญญาเทียมกัน หรือมีไลฟ์สไตล์เหมือนกันค่ะ
เขียนกระทู้นี้ขึ้น เพราะรู้สึกประทับใจและมีประสบการณ์การแชทที่ดีมากค่ะ ภาษาก็ได้ใช้อย่างสม่ำเสมอด้วย และที่สำคัญได้มิตรภาพทางไกล ที่คอยรับฟัง แลกเปลี่ยนเรื่องราวให้กันและกัน ใครมีประสบการณ์ดีดี ที่ได้จาก Interpals หรือแอปหาเพื่อนต่างชาติอื่นๆ สามารถมาแบ่งปันกันได้นะคะ
ประสบการณ์ดีดีจาก Interpals
อย่างที่บอกเราเป็นคนใจบางมากก วันนั้นก็ตั้งใจว่าจะลบแอคเคาน์ออกเลย เพราะไม่มั่นใจที่จะปรากฎตัวต่อชาวโลกขนาดนั้นมาตั้งแต่แรก แถมมาเจออะไรหยาบคายแบบนี้อีก แต่ลบไม่ได้ต้องรอ 7 วัน เราก็คิดว่า เอาน่า ลองเล่นต่อ มาตอนนี้รู้สึกว่าคิดไม่ผิดจริงๆค่ะ ได้เพื่อนดีดีมาหลายคน
คนแรก เป็นหนุ่มแคนาดา อายุ29 เขาทักเรามาก่อนเลยค่ะ เฟลนลี่มาก ตั้งใจมาช่วยเราพัฒนาภาษาอังกฤษจริงๆ ไม่คุยวอกแวกส่อไปในทางไม่ดีเลย แถมเป็นคนฉลาดมากๆ เราไม่ชอบคุยเรื่องทั่วไปอ่ะค่ะ จะมีก็ตอนทักเกริ่น เพื่อชวนคุย อย่างเช่น ถามอากาศบ้าง ถามเวลาบ้าง แล้วจึงโยงเข้าหาเรื่องที่เราสนใจ อย่างเช่น หนังสือ หรือ discuss เรื่องศาสนา การเมือง ปรัชญา วิทยาศาสตร์ หรือถามเขาเกี่ยวกับ ภาษาอังกฤษในเรื่องที่เราไม่เข้าใจ เขาสามารถคุยกับเราได้อย่างลื่นไหล และ ตั้งใจตอบแชทมากค่ะ มีวันนึงที่คนใกล้ตัวเรา พวกเขาเป็นคริสเตียน แล้วเถียงกันว่า ควรเคร่งครัดไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์หรือไม่ เราเลยนำเรื่องนี้ไปถามเขา เขามีความเห็นที่ดี แม่จะไม่นับถือศาสนา อธิบายยืดยาว ขนาดไปยกคำในพระคัมภี มาตอบเลยเชียว แล้วก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เราคุยกับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์แล้ว ได้รู้จักคำศัพท์ภาษาตากาล็อก "Kilig" ที่อารมณ์ประมาณว่า รู้สึกอิ้วววจนมวลท้อง เวลาใครทำดีด้วย หรือดูหนังแล้วพระนางแสนจะน่ารัก อะไรแบบนั้นอ่ะค่ะ เราก็เลยนึกสงสัยว่า ในภาษาอังกฤษ จะมีคำที่อารมณ์ประมาณนี้ไหม เพราะในภาษาไทยเห็นจะไม่มี เลยทักไปถามเขา เขาก็พยายามหาคำมาแมทช์ให้เราจริงๆอ่ะค่ะ จนเขาก็ไปเสิร์ชเจอข่าวว่า Oxford Dictionary เพิ่มคำว่า Kilig ในพจนานุกรมเช่นกัน English speakers สามารถใช้ได้ อะไรประมาณนี้ค่ะ คุยดีมากจริงๆ polite และใจดีมาก ตอนนี้เขาขอไลน์ เพื่อ to be in contact easier
คนที่สอง เป็นคนฟิลิปปินส์ค่ะ คนนี้อายุ21 ปีค่ะ เราทักเขาไปก่อน เพราะเราตั้งใจจะฝึกภาษาตากาล็อกเป็นภาษาที่สามค่ะ แล้วเห็นหน้าโปรไฟล์เขาเขียนว่าฝึกภาษาไทยอยู่ ด้วยความที่เราเป็นคนไทย เราก็ดีใจที่มีคนอยากฝึกภาษาตัวเองค่ะ ก็เลยทักเขาไป เขาเป็นนักศึกษาคณะจิตวิทยาค่ะ ชอบประเทศเรามาก ทั้งซีรีย์เอย ต่างๆ คุยสนุกมากๆเลยค่ะ คนปินส์มีอารมณ์ขันมาก ขำง่าย และใจดีด้วยค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะได้คุยสัพเพเหระ แต่เขาก็เป็นคนเนิร์ดเหมือนกัน เขาอ่านหนังสือเยอะมากก รู้อะไรเยอะมากกว่าเราเยอะเลย เราแลกเปลี่ยนภาษา และวัฒนธรรม กันส่วนใหญ่ค่ะ เช่น มีวันนึงเขาถามเราว่า เราเป็นคริสเตียนรึป่าว ต้องเกริ่นก่อนว่าเรื่องที่คุยกันวันนั้นคือ เราบอกเขาว่าเราชอบประเทศเขา เรารู้สึกว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เสียสละ เพราะเวลามีพายุ ไต้ฝุ่นใดๆจะโดนประเทศเขาก่อนตลอดเลย เราบอกเขาว่า I pray for your country always เขาเลยถามเราแบบนั้น เพราะไม่เคยเห็นชาวพุทธpray มั้งค่ะ หลังจากนั้น เขาก็ชวนเราdiscuss เรื่องศาสนาเนี้ยแหละ คุยไปเรื่อยๆ มีคำถามนึงว่า พระ ไม่ทำงานแล้วกินข้าวยังไง น่ารักดีค่ะ เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ที่คุยกัน มันช่วยเสริมความรู้รอบตัวไปเนียนๆจริงๆทั้งเขาและทั้งเรา ตอนนี้ย้ายมาคุยใน Facebook ค่ะ
คนที่สาม เป็นหนุ่มออสเตรเลียค่ะ เราเห็นในโปรไฟล์เขาเขียนแนะนำตัวไว้ดีค่ะ น่ารักดี มีประโยคนึงที่เขียนว่า เขามีรอยยิ้มที่ทำให้เมืองทั้งเมืองสดใส เราเคยอ่านคำแนะนำในนี้มาบ้าง ว่าฝรั่งไม่ชอบให้ทักแค่ Hi หรือ Hello เราเลยทักไป ถามเขาว่า ยูมีรอยยิ้มที่ทำให้เมืองทั้งเมืองสดใสจริงไหม หลังจากนั้นเขาก้ตอบแชทค่ะ คนนี้เนิร์ดประวัติศาสตร์ค่ะ เขาชวนเราถกประเด็นศาสนาก็บ่อย มีวันนึง เรามีความเห็นต่างจากเขา ในเรื่องการวางรากฐานทางวัฒนธรรมของประเทศไทยนี่แหละ เขายกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศเรามาตอบ ตอนนั้นประทับใจมาก เลยชมเขาไป ประมาณว่า Shame on me, you knows a lot about these things more than me that being thais for now. You know? you impress me อะไรประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาตอบว่า เพราะมาจากประเทศที่ไม่มีประวัติศาสตร์ให้ศึกษา จึงต้องศึกษาของประเทศอื่น ยูควรภูมิใจกับสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้นะ ตอนนั้นหงอยเลยค่ะ แต่เขาคงไม่ได้คิดมากอะไร สนุกมากจริงๆค่ะ เขาฉลาดมากๆ ไม่เฉพาะเรื่องจริงจัง บางทีเราก็คุยกันเรื่องหนัง เรื่องสัพเพค่ะ เขาชอบชวนเราดูหนังด้วยกันผ่าน Netflix Party ค่ะ แต่เขาชอบแนวHorror มันไม่ใช่typeเราเลย เขาก็ขำๆค่ะเวลาเราบอกว่ากลัวผี หรือมอนเตอรในหนัง สำหรับคนนี้เราก็คุยในไลน์ค่ะ
คนสุดท้าย เป็นหนุ่มUSA ค่ะ เขาเป็นคนแม็กซิกัน โดยเชื้อชาติ แต่เขาเกิดและเติบโดที่อเมริกาค่ะ คนนี้ตอนแรกที่เขาทักมา เราแอบกลัวค่ะ เพราะเขาพูดจาหวานเกินไป เราเลยระแวงว่าจะมาทำนองจีบรึป่าว เขาชมว่าเราสวยจนเป็นModelได้เลย เราเลยตอบอย่างระวังว่า thanks for nice words but no need to be so sweet. อะไรงี้ค่ะ เราบอกเขาต่อว่า เราไม่ได้คิดมากไป เราแค่ระวังตัว เพราะเราใจบ๊างงงบาง ฮ่าฮ่า เขาก็บอกว่าเขาเข้าใจ สงสัยเราจะเจอมาเยอะ ถ้าเราไม่สบายใจ เขาจะไม่ชมอะไรแบบนี้ พอเราเข้าไปส่องโปรไฟล์เขา เขาก็ดูวางใจได้ในเบื้องต้นจริงๆแหละค่ะ ไม่ได้ดูเป็นพิษอะไร แถมเขียนว่าอยากเรียนภาษาไทยด้วย มิน่าล่ะ ถึงทักเรามา คุยกันไปเรื่อยๆ เขาก็ถามหา whatsapp ค่ะ แต่เราไม่เล่น หลังจากนั้นเขาหายไปพักหนึ่งเลย ทั้งๆที่ดีลกันแล้วว่าจะเป็นเพื่อนกัน เราก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่ทักเรามาเลย วันนึงเราเลยทักไปถามก่อนค่ะ เขาบอกว่า นึกว่าเราไม่อยากคุยกับเขา เพราะเขาไม่หล่อ เขาบอกว่าเห็นผู้หญิงไทยชอบ White guy เราก็เลยรู้สึกผิดเลย ไม่รู้ว่าไปคุยให้เขาเข้าใจว่าตัดรอนกันช่วงไหน เราก็เลยบอกเขาว่า เราไม่ได้คบเพื่อนหรือชอบใครที่หน้าตา but thier behave and thier mind เขาก็เลยกลับมาคุยกัน คนนี้เราจะคุยเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐค่ะ เขาเป็นนักประชาธิปไตยตัวยง ฮ่าฮ่า แถมเขาชอบวาดรูปเหมือนเราด้วย คุยมาสักพัก ตอนนี้วางใจแล้วค่ะ ว่าเขาเป็นมิตรที่ดีจริงๆ
การหาเพื่อนต่างชาติทางอินเทอร์เน็ตนี้ ให้อะไรดีดีกับจขกท.มากจริงๆค่ะ ไม่ได้น่ากลัว หรือมีแต่โรคจิตอย่างที่คิดไว้ตอนแรก อยู่ที่เราจะเลือกสรร ทั้งนั้น
คำแนะนำ คือ การเขียนแนะนำตัวในหน้าโปรไฟล์มีความสำคัญมากค่ะ นั่นเป็นด่านนึงให้เราคัดครองคนที่สติปัญญาเทียมกัน หรือมีไลฟ์สไตล์เหมือนกันค่ะ
เขียนกระทู้นี้ขึ้น เพราะรู้สึกประทับใจและมีประสบการณ์การแชทที่ดีมากค่ะ ภาษาก็ได้ใช้อย่างสม่ำเสมอด้วย และที่สำคัญได้มิตรภาพทางไกล ที่คอยรับฟัง แลกเปลี่ยนเรื่องราวให้กันและกัน ใครมีประสบการณ์ดีดี ที่ได้จาก Interpals หรือแอปหาเพื่อนต่างชาติอื่นๆ สามารถมาแบ่งปันกันได้นะคะ