อยากผิวดีต้องมีครีมกี่ขวด แยกหลายขวด VS ครบจบในขวดเดียว
.
อยากผิวดีต้องมีครีมกี่ขวด
เป็นคำถามจากทางบ้านที่ไม่แน่ใจว่า
ใช้เยอะๆ #แบบแยกขวด ดีกว่า
หรือใช้น้อยๆ #แบบครบจบในขวดเดียวดีกว่า

ซึ่งเป็นคำถามที่ดีมากๆๆๆ เพราะ
คนถามเริ่มสงสัยเรื่องของการตลาด
คนถามอยากจะลงทุนกับสกินแคร์ที่เห็นผลจริงๆ
แบบที่คุ้มค่าทั้งผลที่ได้และตัวเงิน
คนถามสนใจที่สนใจที่ประโยชน์และหน้าที่แท้ๆของสูตร
ทำให้การอธิบายของรักในวันนี้
สามารถอธิบายเชิงหน้าที่และตัดข้อมูลการตลาดออกไปได้
จึงขอตอบชัดๆเลยว่า
🔸ความเห็นผลไม่ได้ขึ้นกับจำนวนขวด🔸
ถ้ามีสารที่จำเป็นต่อผิวครบถ้วน
Moisturiser คงความชุ่มชื้น
Whitening ให้ผิวดูใสสุขภาพดี
antiaging ให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่แก่ดูแก่กว่าวัย
และที่สำคัญใช้แล้วตอบโจทย์ปัญหาผิวและไลฟ์สไตล์ คือ จบ
.
🔸แล้วแบบไหนเหมาะกับใคร 🔸
#แบบครบจบในขวดเดียว
มีทุกอย่างที่ผิวต้องการ
เหมาะกับคนที่ไม่ชอบยุ่งยากหลายขั้นตอน
ผิวแข็งแรง สุขภาพดีได้จากการทาครั้งเดียว
อยากเอาเวลาทาครีมเยอะๆไปทำอย่างอื่น
#แบบแยกขวด
แยกแต่ละคุณสมบัติการบำรุงผิวออกเป็นหลายๆขวด
เหมาะกับคนชื่นชอบที่จะใช้เวลาในการดูแลผิว
ชอบทดลองอะไรใหม่ ๆ
มีความสุขกับการใช้เนื้อทีแตกต่างกันออกไป
💛 ทั้งสองแบบเหมาะกับไลฟสไตล์คนละแบบ
แต่ไม่ว่าจะแบบไหนต้องเห็นผลและมีคุณสมบัติครบตามที่ผิวต้องการ💛
.
ดัวนั้น
🔸ถ้าอยากซื้อสกินแคร์แบบเน้นเห็นผลและคุ้มค่า🔸
จงเช็กตามนี้
1. เช็กว่าตอนนี้อยากให้ผิวตัวเองเป็นแบบไหน
2. เช็กว่าปัญหาของผิวที่ทำให้เราไปไม่ถึงสิ่งที่หวังไว้คืออะไร (แห้ง เหี่ยว หมอง ย่น สิว แพ้ง่ายเกินไป)
3. เช็กการเคลมของ Skin care ว่ามีครบตามที่ต้องการมั้ย
4. เช็กส่วนผสมว่ามีสารที่ช่วยให้ผิวเราดีขึ้นและปัยหาผิวของเราลดลงมั้ย
5. เช็กสตอรี่ของแบรนด์
🔆🔆ข้อนี้สำคัญมาก 🔆🔆
เพราะสตอรี่และวิธีคิดของแบรนด์จะทำให้รู้เลยว่า
✅วิธีคิดในการพัฒนาแต่ละสูตรมาจากพื้นฐานทางความคิดอะไร
✅มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการเลือกสารที่ใช้มั้ย
✅กลไกการดูแลผิว ครบหรือไม่ครบ
✅ใส่สารออกฤทธิ์ไปมากหรือน้อยเพราะ บางคนก็ใส่เต็มที่ บางคนก็ใส่น้อย
เมื่อเราเข้าใจ 5ข้อนี้+กับรู้ว่าตัวเองใช้ครีมสไตล์ไหน
เราจะรู้ได้ทันทีว่าครีมขวดนี้
แบรนด์นี้เหมาะกับเรามั้ยตอบโจทย์ผิวเรามั้ย
และตัดสินใจได้เลยว่าตกลงเราจะใช้ #แยกขวด หรือ #ครบจบในขวดเดียว
#เภสัชกรรัก
#RUKSKIN
#WeCareYouWithLove
อยากผิวดีต้องมีครีมกี่ขวด แยกหลายขวด VS ครบจบในขวดเดียว+++
.
อยากผิวดีต้องมีครีมกี่ขวด
เป็นคำถามจากทางบ้านที่ไม่แน่ใจว่า
ใช้เยอะๆ #แบบแยกขวด ดีกว่า
หรือใช้น้อยๆ #แบบครบจบในขวดเดียวดีกว่า
ซึ่งเป็นคำถามที่ดีมากๆๆๆ เพราะ
คนถามเริ่มสงสัยเรื่องของการตลาด
คนถามอยากจะลงทุนกับสกินแคร์ที่เห็นผลจริงๆ
แบบที่คุ้มค่าทั้งผลที่ได้และตัวเงิน
คนถามสนใจที่สนใจที่ประโยชน์และหน้าที่แท้ๆของสูตร
ทำให้การอธิบายของรักในวันนี้
สามารถอธิบายเชิงหน้าที่และตัดข้อมูลการตลาดออกไปได้
จึงขอตอบชัดๆเลยว่า
🔸ความเห็นผลไม่ได้ขึ้นกับจำนวนขวด🔸
ถ้ามีสารที่จำเป็นต่อผิวครบถ้วน
Moisturiser คงความชุ่มชื้น
Whitening ให้ผิวดูใสสุขภาพดี
antiaging ให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น ไม่แก่ดูแก่กว่าวัย
และที่สำคัญใช้แล้วตอบโจทย์ปัญหาผิวและไลฟ์สไตล์ คือ จบ
.
🔸แล้วแบบไหนเหมาะกับใคร 🔸
#แบบครบจบในขวดเดียว
มีทุกอย่างที่ผิวต้องการ
เหมาะกับคนที่ไม่ชอบยุ่งยากหลายขั้นตอน
ผิวแข็งแรง สุขภาพดีได้จากการทาครั้งเดียว
อยากเอาเวลาทาครีมเยอะๆไปทำอย่างอื่น
#แบบแยกขวด
แยกแต่ละคุณสมบัติการบำรุงผิวออกเป็นหลายๆขวด
เหมาะกับคนชื่นชอบที่จะใช้เวลาในการดูแลผิว
ชอบทดลองอะไรใหม่ ๆ
มีความสุขกับการใช้เนื้อทีแตกต่างกันออกไป
💛 ทั้งสองแบบเหมาะกับไลฟสไตล์คนละแบบ
แต่ไม่ว่าจะแบบไหนต้องเห็นผลและมีคุณสมบัติครบตามที่ผิวต้องการ💛
.
ดัวนั้น
🔸ถ้าอยากซื้อสกินแคร์แบบเน้นเห็นผลและคุ้มค่า🔸
จงเช็กตามนี้
1. เช็กว่าตอนนี้อยากให้ผิวตัวเองเป็นแบบไหน
2. เช็กว่าปัญหาของผิวที่ทำให้เราไปไม่ถึงสิ่งที่หวังไว้คืออะไร (แห้ง เหี่ยว หมอง ย่น สิว แพ้ง่ายเกินไป)
3. เช็กการเคลมของ Skin care ว่ามีครบตามที่ต้องการมั้ย
4. เช็กส่วนผสมว่ามีสารที่ช่วยให้ผิวเราดีขึ้นและปัยหาผิวของเราลดลงมั้ย
5. เช็กสตอรี่ของแบรนด์
🔆🔆ข้อนี้สำคัญมาก 🔆🔆
เพราะสตอรี่และวิธีคิดของแบรนด์จะทำให้รู้เลยว่า
✅วิธีคิดในการพัฒนาแต่ละสูตรมาจากพื้นฐานทางความคิดอะไร
✅มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการเลือกสารที่ใช้มั้ย
✅กลไกการดูแลผิว ครบหรือไม่ครบ
✅ใส่สารออกฤทธิ์ไปมากหรือน้อยเพราะ บางคนก็ใส่เต็มที่ บางคนก็ใส่น้อย
เมื่อเราเข้าใจ 5ข้อนี้+กับรู้ว่าตัวเองใช้ครีมสไตล์ไหน
เราจะรู้ได้ทันทีว่าครีมขวดนี้
แบรนด์นี้เหมาะกับเรามั้ยตอบโจทย์ผิวเรามั้ย
และตัดสินใจได้เลยว่าตกลงเราจะใช้ #แยกขวด หรือ #ครบจบในขวดเดียว
#เภสัชกรรัก
#RUKSKIN
#WeCareYouWithLove