เมื่อประมาณที 2018 ปลายปีผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนนึ่งผ่านโลกออนไลน์
เราได้คุยกันไประยะนึงผมก็รู้สึกว่าชอบเค้ามาก ผมเลยขอเค้าคบเป็นแฟน
ซึ่งในตอนแรกผมไม่เคยเห็นหน้าเค้าเลยและเค้าใช้รูปปลอมบนเฟสบุค เค้าให้เหตุผลว่ามันเป็นอันตรายต่อกิจการของครอบครัว เค้าจึงไม่สามารถใช้รูปเฟสจริงๆได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดอะไรเพราะผมอยากคบเค้าจริงๆ เค้าเป็นผู้หญิงที่เอาใจใส่มาก ผมโอเค ไม่เป็นไรไม่เห็นหน้าไม่เป็นไร เพราะสักวันนึงผมก็คงได้เจอเค้าอยู่แล้ว ผมอยากพิสูจน์ว่าผมก็รักใครสักคนนึงโดยที่ยังไม่ได้เจอกันได้
เราคุยกันทุกวันจากเดือนเป็นปี จากปีเป็น 3 ปีโดยที่ยังไม่ได้เจอกันเลย แม้แต่ VDO call ก็ไม่ได้ ผมบอกตรงๆว่าผมจำหน้าแฟนผมไม่ได้
ชื่อนามสกุล ผมก็ไม่รู้ เคยเห็นรูปครั้งเดียว เพราะว่าเพื่อนเค้าแอบถ่ายเค้ามาให้ผมตอนที่เค้าป่วย
ผมเคยไปหน้าหมู่บ้านเค้าครั้งเดียว แล้วก็เป็นเรื่องใหญ่โตมากจนแทบจะเลิกคบกับผม
เราสื่อสารกันผ่านไลน์และไลน์แมน ผมซื้อของให้เค้า ส่งผ่านไลน์แมน เค้าทำกับข้าวส่งกลับมาให้ผม เรามีความสุขบนการสื่อสารแบบนี้
เราไม่ได้อยู่กันเหมือนคู่อื่นๆ ถ้าถามว่าผมรักเค้ามั้ย ผมบอกได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่า รักมาก และมีความสุขมากๆ
แล้ววันหนึ่งผมก็ได้โอกาสมาทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อต้องการที่จะยกระดับความสามารถให้เข้าใกล้ครอบครัวเค้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากฐานะครอบครัวเราต่างกันมาก ซึ่งก่อนที่ผมจะมาทำงานเค้าทำแหวนให้ผมโดยที่ครอบครัวของเราสองคนรับรู้ว่าเรากำลังดูใจกันอยู่ และเมื่อผมกลับมา เราอาจจะได้เจอกัน
วันเดินทางผมก็แอบหวังในใจว่าเค้าจะมาส่งผมที่สนามบินวันที่ผมเดินทาง แต่ก็ไม่ ผมก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับบ้านผมว่าทำไมเค้าไม่มา ผมมาทำงานที่ต่างประเทศจะได้ 2 ปี เราก็คุยกันทุกวันมีทะเลาะกันบ้างมีงอนกันบ้าง เค้าดูแลครอบครัวผมดีมาก มีส่งของขวัญ ส่งผลไม้ไปให้ที่บ้านผมบ่อยๆ ถึงแม้ว่าเราจะห่างกันด้วยระยะทาง มันก็ไม่เป็นอุปสรรคกับความรักของเรา เราก็มีความสุขเพราะเป้าหมายของเรานั้นยิ่งใหญ่กว่านี้ เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเมื่อผมกลับไปอยู่ไทย
แต่แล้วเมื่อตอนต้นปีนี้ก็เริ่มมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น แฟนผมเค้าตรวจเจอก้อนอะไรบางอย่างในเต้านม แล้วก็ไป follow up จนรู้แน่ชัดว่าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่ 1-2 ผมเสียใจมาก ผมไม่ได้อยู่ข้างๆเค้าเวลาที่เค้าต้องการผมมากที่สุด ผมก็บอกว่าผมขอกลับไปเจอได้มั้ยเค้าก็ยืนยันว่ายังไม่ได้ พ่อแม่ยังไม่อนุญาติให้เจอกัน
แล้วอยู่มาวันนึงเค้าก็ทะเลาะกับพ่อซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการรักษา พ่อเค้าอยากให้ไปรักษากับอาจารย์หมอที่อยู่ในโรงพยาบาลรัฐ แต่เค้าอยากรักษาเอกชน ซึ่งมันมีค้าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก และถ้าอยากรักษาที่ เอกชนก็ไปหาเงินส่วนต่างเอง พ่อเค้าจะไม่ช่วยออกให้ พอผมฟังแล้วผมก็ช่วยเค้าหาทางออกว่าควรทำอย่างไร เช่นปรึกษา น้าของเค้าน่าจะขอยืมเงินสดไปใช้ก่อนได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็สามารถเบิกจากประกันได้(เค้ามีประกันมะเร็งอยู่)
หรือไม่ก็กู้พ่อไปก่อน หลังจากผมแนะนำไปอย่างนั้น เค้ารีบตอบกลับมาอย่างเร็วเลยว่า จะไปขอกู้พ่อได้ยังไง ก็นี่เค้าไล่ให้มาหาเงินเอง แล้วมีทางอื่นแนะนำอีกมั้ย?
ผมก็บอกว่าพี่อาจจะช่วยได้นะ แต่จำนวนเงินมันก็เยอะอยู่พี่ขอให้ทำเป็นสัญญาเงินกู้กับพี่ได้มั้ย เพราะเราก็ยังไม่ได้เจอกันเลย พี่ว่าเงินจำนวนนี้มันเยอะนะ(ประมาณ4แสน) หลังจากผมพูดจบ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเงียบไปหมด จนผมรู้แล้วว่าเค้าไม่โอเคที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น
ผ่านไปพักนึงเค้าก็พูดว่า ขอบคุณนะคะทำให้หนูได้รับรู้อะไรบางอย่าง ความรู้สึกของหนูถ้ามีแฟนแล้วต้องกู้แฟน มันไม่ใช่แล้ว
อันที่จริงหนูกำลังมาปรึกษาพี่เพื่อว่าจะเอาเงินในบัญชีของหนูที่มีโอนไปที่บัญชีพี่ แล้วให้พี่โอนกลับเพื่อให้พ่อเห็นว่าพี่ช่วยหนูแม้ว่าพ่อไม่ช่วยก็ตาม หนูต้องการมาปรึกษาพี่ ไม่ได้ต้องการมาขอยืมเงินพี่นะ พี่เก็บเงินพี่ไว้เถอะคะ วันนี้หนูเจอเรื่องแย่ๆมามาก ทั้งทะเลาะกับพ่อ แล้วนี่มาเจอแฟนพูดแบบนี้อีก หนูผิดหวังมาก แล้วแบบนี้หนูจะฝากชีวิตหนูไว้กับพี่ได้อย่างไร โลกของหนูคือพี่มาโดยตลอด พี่คือความสุข พี่เข้าใจหนู แต่วันนี้หนูได้รับรู้อะไรบางอย่างแล้วคะ
พี่ก้าวข้ามมันไม่ได้จริงๆ ก่อนเราคบกันเรารู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์เรามันมีเงื่อนไขอะไร ในตอนที่พี่ไปทำงานต่างประเทศหนูก็ติดว่าพี่ก้าวข้ามทุกๆอย่างมาได้แล้ว ส่วนหนูนั้นรักพี่อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทุกอย่างคือพี่หมด แต่วันนี้มันทำให้หนูได้รู้อะไรมากขึ้นจริงๆ
ถ้าหนูกำลังจะตายจริงๆ พี่ก็คงไม่ให้ยืมเงินพี่หรอก เพราะว่าเรายังไม่ได้เจอกัน พี่ยังก้าวข้ามมันไม่ได้ แต่หนูบอกเลยนะว่า หนูไม่อยากได้เงินของพี่หรอก
ถ้าหนูย้อนเวลาได้ หนูจะขอเอาเงินไปซื้อคำพูดที่พี่พูดว่ากู้เงินพี่ก็ได้นะ หนูผิดหวังมาก
หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะง้อเธอยังไงก็ตาม แฟนผมก็ไม่ยอมคุยกับผมเลย ส่งข้อความไป อ่านแต่ไม่ตอบ
และวันที่ 24-5-2021 จะเป็นวันที่แฟนผมต้องเข้ารับการผ่าตัด ถึงเวลาตอนนี้ผมก็ได้แต่ส่งข้อความให้กำลังใจ และบอกว่าไม่ต้องกังวล
มันต้องผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าหนูจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรหลังการผ่าตัด พี่ก็ยังคงรักหนูเข้าใจหนูไม่ต่างกับวันแรกที่เราได้คบกัน และพี่ก็ยังรอคอยการใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันดูแลกันต่อไป
แบบนี้เรียกว่าผมเห็นแก่ตัวหรือป่าวครับ?
เราได้คุยกันไประยะนึงผมก็รู้สึกว่าชอบเค้ามาก ผมเลยขอเค้าคบเป็นแฟน
ซึ่งในตอนแรกผมไม่เคยเห็นหน้าเค้าเลยและเค้าใช้รูปปลอมบนเฟสบุค เค้าให้เหตุผลว่ามันเป็นอันตรายต่อกิจการของครอบครัว เค้าจึงไม่สามารถใช้รูปเฟสจริงๆได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดอะไรเพราะผมอยากคบเค้าจริงๆ เค้าเป็นผู้หญิงที่เอาใจใส่มาก ผมโอเค ไม่เป็นไรไม่เห็นหน้าไม่เป็นไร เพราะสักวันนึงผมก็คงได้เจอเค้าอยู่แล้ว ผมอยากพิสูจน์ว่าผมก็รักใครสักคนนึงโดยที่ยังไม่ได้เจอกันได้
เราคุยกันทุกวันจากเดือนเป็นปี จากปีเป็น 3 ปีโดยที่ยังไม่ได้เจอกันเลย แม้แต่ VDO call ก็ไม่ได้ ผมบอกตรงๆว่าผมจำหน้าแฟนผมไม่ได้
ชื่อนามสกุล ผมก็ไม่รู้ เคยเห็นรูปครั้งเดียว เพราะว่าเพื่อนเค้าแอบถ่ายเค้ามาให้ผมตอนที่เค้าป่วย
ผมเคยไปหน้าหมู่บ้านเค้าครั้งเดียว แล้วก็เป็นเรื่องใหญ่โตมากจนแทบจะเลิกคบกับผม
เราสื่อสารกันผ่านไลน์และไลน์แมน ผมซื้อของให้เค้า ส่งผ่านไลน์แมน เค้าทำกับข้าวส่งกลับมาให้ผม เรามีความสุขบนการสื่อสารแบบนี้
เราไม่ได้อยู่กันเหมือนคู่อื่นๆ ถ้าถามว่าผมรักเค้ามั้ย ผมบอกได้อย่างไม่ต้องคิดเลยว่า รักมาก และมีความสุขมากๆ
แล้ววันหนึ่งผมก็ได้โอกาสมาทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อต้องการที่จะยกระดับความสามารถให้เข้าใกล้ครอบครัวเค้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากฐานะครอบครัวเราต่างกันมาก ซึ่งก่อนที่ผมจะมาทำงานเค้าทำแหวนให้ผมโดยที่ครอบครัวของเราสองคนรับรู้ว่าเรากำลังดูใจกันอยู่ และเมื่อผมกลับมา เราอาจจะได้เจอกัน
วันเดินทางผมก็แอบหวังในใจว่าเค้าจะมาส่งผมที่สนามบินวันที่ผมเดินทาง แต่ก็ไม่ ผมก็ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับบ้านผมว่าทำไมเค้าไม่มา ผมมาทำงานที่ต่างประเทศจะได้ 2 ปี เราก็คุยกันทุกวันมีทะเลาะกันบ้างมีงอนกันบ้าง เค้าดูแลครอบครัวผมดีมาก มีส่งของขวัญ ส่งผลไม้ไปให้ที่บ้านผมบ่อยๆ ถึงแม้ว่าเราจะห่างกันด้วยระยะทาง มันก็ไม่เป็นอุปสรรคกับความรักของเรา เราก็มีความสุขเพราะเป้าหมายของเรานั้นยิ่งใหญ่กว่านี้ เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเมื่อผมกลับไปอยู่ไทย
แต่แล้วเมื่อตอนต้นปีนี้ก็เริ่มมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น แฟนผมเค้าตรวจเจอก้อนอะไรบางอย่างในเต้านม แล้วก็ไป follow up จนรู้แน่ชัดว่าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่ 1-2 ผมเสียใจมาก ผมไม่ได้อยู่ข้างๆเค้าเวลาที่เค้าต้องการผมมากที่สุด ผมก็บอกว่าผมขอกลับไปเจอได้มั้ยเค้าก็ยืนยันว่ายังไม่ได้ พ่อแม่ยังไม่อนุญาติให้เจอกัน
แล้วอยู่มาวันนึงเค้าก็ทะเลาะกับพ่อซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการรักษา พ่อเค้าอยากให้ไปรักษากับอาจารย์หมอที่อยู่ในโรงพยาบาลรัฐ แต่เค้าอยากรักษาเอกชน ซึ่งมันมีค้าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก และถ้าอยากรักษาที่ เอกชนก็ไปหาเงินส่วนต่างเอง พ่อเค้าจะไม่ช่วยออกให้ พอผมฟังแล้วผมก็ช่วยเค้าหาทางออกว่าควรทำอย่างไร เช่นปรึกษา น้าของเค้าน่าจะขอยืมเงินสดไปใช้ก่อนได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็สามารถเบิกจากประกันได้(เค้ามีประกันมะเร็งอยู่)
หรือไม่ก็กู้พ่อไปก่อน หลังจากผมแนะนำไปอย่างนั้น เค้ารีบตอบกลับมาอย่างเร็วเลยว่า จะไปขอกู้พ่อได้ยังไง ก็นี่เค้าไล่ให้มาหาเงินเอง แล้วมีทางอื่นแนะนำอีกมั้ย?
ผมก็บอกว่าพี่อาจจะช่วยได้นะ แต่จำนวนเงินมันก็เยอะอยู่พี่ขอให้ทำเป็นสัญญาเงินกู้กับพี่ได้มั้ย เพราะเราก็ยังไม่ได้เจอกันเลย พี่ว่าเงินจำนวนนี้มันเยอะนะ(ประมาณ4แสน) หลังจากผมพูดจบ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเงียบไปหมด จนผมรู้แล้วว่าเค้าไม่โอเคที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น
ผ่านไปพักนึงเค้าก็พูดว่า ขอบคุณนะคะทำให้หนูได้รับรู้อะไรบางอย่าง ความรู้สึกของหนูถ้ามีแฟนแล้วต้องกู้แฟน มันไม่ใช่แล้ว
อันที่จริงหนูกำลังมาปรึกษาพี่เพื่อว่าจะเอาเงินในบัญชีของหนูที่มีโอนไปที่บัญชีพี่ แล้วให้พี่โอนกลับเพื่อให้พ่อเห็นว่าพี่ช่วยหนูแม้ว่าพ่อไม่ช่วยก็ตาม หนูต้องการมาปรึกษาพี่ ไม่ได้ต้องการมาขอยืมเงินพี่นะ พี่เก็บเงินพี่ไว้เถอะคะ วันนี้หนูเจอเรื่องแย่ๆมามาก ทั้งทะเลาะกับพ่อ แล้วนี่มาเจอแฟนพูดแบบนี้อีก หนูผิดหวังมาก แล้วแบบนี้หนูจะฝากชีวิตหนูไว้กับพี่ได้อย่างไร โลกของหนูคือพี่มาโดยตลอด พี่คือความสุข พี่เข้าใจหนู แต่วันนี้หนูได้รับรู้อะไรบางอย่างแล้วคะ
พี่ก้าวข้ามมันไม่ได้จริงๆ ก่อนเราคบกันเรารู้อยู่แล้วว่าความสัมพันธ์เรามันมีเงื่อนไขอะไร ในตอนที่พี่ไปทำงานต่างประเทศหนูก็ติดว่าพี่ก้าวข้ามทุกๆอย่างมาได้แล้ว ส่วนหนูนั้นรักพี่อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทุกอย่างคือพี่หมด แต่วันนี้มันทำให้หนูได้รู้อะไรมากขึ้นจริงๆ
ถ้าหนูกำลังจะตายจริงๆ พี่ก็คงไม่ให้ยืมเงินพี่หรอก เพราะว่าเรายังไม่ได้เจอกัน พี่ยังก้าวข้ามมันไม่ได้ แต่หนูบอกเลยนะว่า หนูไม่อยากได้เงินของพี่หรอก
ถ้าหนูย้อนเวลาได้ หนูจะขอเอาเงินไปซื้อคำพูดที่พี่พูดว่ากู้เงินพี่ก็ได้นะ หนูผิดหวังมาก
หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะง้อเธอยังไงก็ตาม แฟนผมก็ไม่ยอมคุยกับผมเลย ส่งข้อความไป อ่านแต่ไม่ตอบ
และวันที่ 24-5-2021 จะเป็นวันที่แฟนผมต้องเข้ารับการผ่าตัด ถึงเวลาตอนนี้ผมก็ได้แต่ส่งข้อความให้กำลังใจ และบอกว่าไม่ต้องกังวล
มันต้องผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าหนูจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรหลังการผ่าตัด พี่ก็ยังคงรักหนูเข้าใจหนูไม่ต่างกับวันแรกที่เราได้คบกัน และพี่ก็ยังรอคอยการใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันดูแลกันต่อไป