เรื่องมันมีอยู่ว่าแม่เราทิ้งเราไปกับผู้ชายตอน2ขวบกว่าๆ แล้วพออายุ4ขวบพ่อก็มาป่วยเสียชีวิต ตอนนั้นคุณยายบอกว่าพามางานศพเพื่อนของพ่อ และเราก็ถามไปว่าพ่อเราอยู่ไหน ยายก็ตอบว่าพ่อไปหาเงินที่ต่างประเทศเราเองก็ยอมเชื่อง่ายๆเพราะเป็นเด็ก แต่พอตอนพระสวดเราก็ออกมาเดินข้างนอกแล้วเดินไปริมระเบียงศาลา ตอนนั้นเราร้องไห้แบบไม่อายใครเลย(แน่ล่ะตรงนั้นมีเราอยู่คนเดียวนี่)ร้องไห้แบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่แบบร้องออกมาเฉยๆเหมือนรู้อยู่แล้วว่าพ่อจะเสีย พอร้องไห้เสร็จก็เดินกลับมาในงานต่อ แล้วผ่านไปจนเราอายุ7ขวบ ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแม่มากับสามีใหม่ เข้ามาถามว่าจำแม่ได้มั้ย เราเองก็งงพร้อมกับกระชากมือหนีแต่ก็สู้ไม่ไหวหรอก คุณยายเห็นเลยมาช่วยไว้ พร้อมกับบอกให้เราไปเล่นบ้านเพื่อนก่อน ตอนนั้นเราก็ไปหาเพื่อนซักพัก แม่ของเราจู๋ก็หยิบกระเป๋าดินสออันนึงมา มันเป็นลายที่เราชอบมาก พอนางกลับไปเราก็หยิบมาดูซักพักก็วางทิ้งไปเฉยๆ แล้วนางก็ไม่ได้มาหาเราเลยจนเราอายุ10ขวบ เราไปเข้ารับอาหารที่โรงทานแล้วเจอแม่ของแม่เราพอดี แล้วนางมาบอกว่าแม่เราเสียแล้ว ให้ทายเรารู้สึกยังไง? เฉยๆอ่ะ แต่ภายนอกต้องบีบน้ำตาไว้จนนางกลับไปค่อยมาทำสีหน้าปกติ แล้วก็เดินไปหาของกินต่อ ตอนอายุ13 มาที่บ้านเกิดตาญาติๆก็ดูถูกเรากับคุณยายสารพัด แล้วพออายุ15จบม.3แล้ว ก็เริ่มเฉยชามากขึ้นกว่าเดิม คิดอยู่เสมอว่าคนรอบข้างที่มาหวังดีล้วนต้องการผลตอบแทนเสมอ ทำให้ใครที่มาบ้านเรา เราก็ไม่เคยออกมาพบปะหน้าใครเลย อีกอย่างคือเวลาอยู่กับครอบครัวเรามักจะไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยชอบทำตัวตลกๆ บ้าๆบอๆแต่จริงเเล้วเฉยชากับครอบครัวเรามากขึ้นทุกวันด้วยเหมือนหน้าสวมหน้ากากตลอดเวลาเลยอึดอัดมาก เราจะทำไงดี? ควรไปปรึกษาจิตแพทย์มั้ย? ใครก็ได้ช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะ (นี่ไม่ใช่พลอตนิยายนะ เรื่องจริงค่ะ!!!)
เราควรไปพบจิตแพทย์ดีมั้ย?