ถ้าหมาเพื่อนบ้านเห่ามาก จนเรารู้สึกรำคาญทุกวัน เราควรบอกเจ้าของหมาเอง หรือ แจ้งนิติให้แจ้งเจ้าของหมา ดี

หมาของเพื่อนบ้านเห่าเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีอะไรผ่านหน้าบ้าน 
เช่นรถขับผ่าน มอเตอร์ไซค์ขับผ่าน คนเดินผ่าน มันจะเห่าทุกครั้ง แล้วเห่าเสียงดังด้วย 
บางวันได้ยินมันเห่าเกือบตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็น เจ้าของก้ไม่ค่อยจะแคร์ว่ามันเห่ารบกวนเพื่อนบ้าน 

ตอนนี้เครียดมาก สุขภาพจิตเสีย เมื่อรู้สึกว่าต้องตื่นมาเจอกับเสียงเห่าตลอดทั้งวัน 
แต่เราก็ไม่กล้าไปคุยกับเจ้าของหมาโดยตรง เพราะว่า กลัวจะมีปัญหากัน 

จึงฝากเรื่องไปยังนิติ แต่ถึงตอนนี้นิติ ก็ได้แต่ให้คำตอบว่ายังติดต่อเจ้าของหมาไม่ได้

เราเครียดเหลือเกิน แค่อยากอยู่อย่างสงบๆ อย่างที่เคยเป็นมา เพราะบ้านที่เลี้ยงหมานี้เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อช่วงปีใหม่นี่เอง 
แล้วดูเหมือนเค้าจะอยู่ยาวด้วย หมาก็คงอยู่ยาวด้วย เราคงทนอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แน่ๆ ถ้าเจ้าของหมาไม่คิดจะแก้ไขอะไรเลย 

คนที่เลี้ยงหมาเค้าไม่คิดบ้างหรอ ว่าเสียงเห่าของหมาตัวเองมันดังรบกวนเพื่อนบ้านอย่างนี้ 
ตอนนี้รู้สึกอิจฉาคนที่ไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้านจัง เพราะเวลามีปัญหากับเพื่อนบ้านทีสุขภาพจิตเสียไปหมด 
รู้สึกเครียด ทำไมคนเลี้ยงหมาไม่เข้าใจบ้างเลยนะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
แจ้งนิติเถอะค่ะ ถ้าเขาไม่กระตือรือร้นก็ถามเป็นระยะได้ว่าคุยให้รึยัง

อันนี้อาจเป็นความเห็นที่ไม่ถูกใจนัก แต่ฉันให้ไว้เผื่อพิจารณา ฉันไม่ได้กล่าวหาว่าคุณผิดหรืออะไรเลยนะคะ แค่ให้ข้อมูลเฉยๆ หวังว่าอาจมีส่วนหนึ่งส่วนใดทำประโยชน์ให้คุณได้ หรือทำให้คุณคิดหลบเลี่ยงหรือให้คำตอบที่เด็ดขาดในบางสถานการณ์ได้ ด้วยความปรารถนาดีค่ะ

เรื่องเสียงรบกวนในหมวดเสียงหมาเห่า ค่อนข้างจัดการยากกว่าเสียงรบกวนแบบอื่น
ข้อแรก เสียงหมาเห่าถูกมองว่าเบาเมื่อเทียบกับเสียงรถขับผ่าน หมาก็เหนื่อยเป็น มันจึงไม่ได้เห่าตลอดเวลา แต่เห่าเป็นช่วงสั้นๆ (ฉันเคยคุยกับตำรวจตัวเป็นๆ เรื่องเสียงรบกวนค่ะ) เสียงหมาเห่ามักถูกเปรียบเทียบกับเสียงรถ รถขับทั้งวันยังรับได้ ทำไมหมาเห่าจึงรับไม่ได้
ข้อสอง แม้เจ้าของหมาต้องการแก้ปัญหาให้คุณอย่างสุดพลัง แต่การห้ามหมาไม่ให้เห่าทั้งวันก็เหมือนห้ามคนไม่ให้พูดทั้งวัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าของหมามีทางเลือกอยู่นิดหน่อย เช่น การเก็บหมาเข้าบ้าน (แล้วแต่ขนาดหมา มีแต่หมากระเป๋าที่อยู่ในบ้านตลอดเวลาได้) การฝึกให้อดทนต่อสิ่งเร้า (ยากมาก ส่งไปโรงเรียนสอนหมาก็แทบเอาไม่อยู่ ทำได้แค่เจ้าของอยู่ด้วยแล้วไม่เห่า ค่าใช้จ่ายสูง และรับเฉพาะหมาอายุน้อยเท่านั้น) ใช้กำแพงหรือประตูรั้วทึบ (หมาส่วนใหญ่ถึงมองไม่เห็นแต่ก็ยังตอบสนองต่อเสียง)(อันนี้หมาร็อตไวเลอร์ซอยตรงข้ามบ้านฉันเป็น แค่ย่องผ่านกำแพงก็ไล่เห่าแล้ว...ย่องแล้วนะ ยังจะรู้อีก) การส่งหมาไปอยู่ที่อื่น (เขาอาจมีหรือไม่มีที่ใหม่ให้หมาก็ได้) หรือทางที่คนจิตปกติดีไม่คิดทำกัน...นั่นคือเอาหมาไปทิ้งซะ แม้เขาเต็มใจแก้หมาให้คุณแล้ว แต่ทางเลือกของเขาก็มีจำกัดอยู่ดี เราคงคาดหวังไม่ได้ว่าเขาจะย้ายไปอยู่ที่อื่น
ข้อสาม ด้วยความที่ถือกันว่า เจ้าของหมาต้องมีความรับผิดชอบว่ารับดูแลแล้วจะไม่ทอดทิ้งหมาให้เป็นภาระคนอื่น ตบตีกับความรับผิดชอบที่ว่าไม่ควรทำเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน อาจถูกมองว่าแก้ที่คนง่ายและสมเหตุสมผลมากกว่าแก้ที่หมา หมามันพูดไม่รู้เรื่องนี่นา เรื่องจึงมักจบที่ให้คนหนวกหูช่วยประนีประนอมให้หมาหน่อย ประโยคคลาสสิคคือ "เจ้าของบ้านเขาเต็มที่แล้วและทำให้ได้แค่นี้จริงๆ"
ข้อสี่ ความไวต่อเสียง คนเราไวต่อเสียงไม่เท่ากัน บางคนต้องการให้เงียบสนิท แค่พัดลมแอร์ดังก็ไม่ไหว แต่บางคนนอนในห้องติดกับผับก็ยังได้ การไวต่อเสียงไม่เคยทำให้ใครมีความผิด แต่ก็มีคนคิดว่าถ้าตัวเองไวต่อเสียงมากกว่าคนทั่วไปก็ควรช่วยตัวเอง หาที่อุดหู ทำห้องกันเสียง หรือทำใจซะ อย่าบอกให้คนอื่นปรับตามตัวเองคนเดียว โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเสียงใหม่ อาจถูกมองว่าตอนนี้แค่ยังไม่ชิน เอาใจไปจับจ้องจึงรู้สึกว่าดัง (พูดหยาบๆ คือเราคิดไปเองว่ามันดัง)(อาจลามเลยไปถึงว่า "แล้วบ้านอื่นเขารำคาญเสียงหมาเหมือนคุณไหม" ให้เราหัวร้อนเล่นๆ)

ข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อใน 4 อย่างนี้อาจทำให้นิติหรือแม้แต่ตำรวจไม่มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นที่มาว่าทำไมเสียงหมาเห่าจึงได้รับการสนใจน้อย ทั้งที่เสียงหมาก็เป็นเสียงเหมือนกัน อยู่ในหมวดเสียงรบกวนเหมือนกัน แต่ดันแตกต่างจากเสียงเพื่อนบ้านโหวกเหวก (ร้านขายของ/เอาบ้านไปทำโรงงาน/ซ้อมดนตรี/ไลฟ์สด ฯลฯ ที่มาจากคนเป็นผู้ทำเสียง)

ฉันกำลังรบกับเพื่อนบ้านหลังติดกันเรื่องปาร์ตี้เมาโหวกเหวกเลิกตีสี่ไม่เว้นแม้แต่วันทำงาน นี่ขอแค่เวลานอนของคนทั่วไปนะ กลางวันไม่ยุ่ง บอกเลยว่าโคตรเข้าใจคุณเจ้าของกระทู้ว่าเสียงรบกวนมันชวนประสาทแตกแค่ไหน เสียงคนเมาก็เหมือนเสียงหมาเห่า แต่แม่*เห่าต่อเนื่องหลายชั่วโมงพร้อมลำโพงด้วย ฉันเชื่อว่าคุณอาจเจอ 1 ใน 4 ข้อที่บอกไปนั่นแหละ เตรียมรับมือไว้ค่ะ ฉันทะเลาะกับคน ฉันยังโดนไอ้สี่ข้อนั่นเลย โดนในขณะที่ตำรวจก็ยืนอยู่ข้างๆ กันนี่แหละ ตำรวจก็ยอมรับว่าควรประนีประนอม มันเป็นลหุโทษ อีกฝ่ายลดเสียงให้ ส่วนฉันก็รับเสียงนั้นให้ได้ อย่าถึงขั้นให้เขาเงียบกริบ

แต่มันจะดีขึ้นนะถ้าคุณมีแนวร่วม หากหาบ้านอื่นที่หนวกหูเสียงหมาเหมือนกันได้ คุณจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า แต่ควรจะคิดไว้ก่อนล่ะค่ะว่าต้องการให้เจ้าของหมาทำยังไง ถ้าคุยแล้วตันว่าไม่มีทางออก คุณอาจถูกบีบให้ยอมรับเสียงหมาน่ะแหละ

ก็ทำนองนี้ค่ะ
บีบมือให้กำลังใจนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่