สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
- การฝึกสมาธิจนได้ผลไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความเพียรความอดทนมากๆๆ มากกว่าทุกๆเรื่องที่คุณเคยทำมาตลอดชีวิต คุณต้องไม่ใจเร็วรีบด่วนหวังผล เพราะจิตที่มีสมาธิเป็นจิตที่มั่นคงมีกำลังมากมายมหาศาล จึงต้องรู้จักอดทนรอไปนานๆกว่าผลจะค่อยๆเริ่มปรากฏ คล้ายๆเอามีดมาขุดก้อนหินใหญ่ ย่อมไม่ง่ายเหมือนเอามีดตัดต้นกล้วย
- ปัญหาของคุณคือปัญหาเดียวกับที่นักฝึกมือใหม่ทุกๆคนเจอกัน
- บางคนดูเหมือนฝึกได้ง่าย ได้ผลไว นั่นเพราะเขาเคยสะสมบุญบารมีมาอย่างแน่นหนาแล้ว จากอดีตชาติ เมื่อมาฝึกในชาตินี้ ก็จะฝึกง่าย เห็นผลไว..ซึ่งคุณไม่ต้องไปนึกท้อใจในเรื่องนี้ ฝึกไปเรื่อยๆๆ บางทีไม่นานนักคุณอาจจะได้ผล
- การฝึกกำหนดลมหายใจ เป็นเรื่องยากมากๆ ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือ คนที่กำลังใจน้อยหรือมีบุญบารมีน้อย ควรกำหนดบริกรรม พุทโธๆๆ อย่างเดียว ไม่ต้องเกี่ยวกับลม ...ตอนนึก พุทโธๆๆ...ให้นึกเป็นเสียงอยู่ในใจ อย่านึกเป็นมโนภาพตัวอักษร " พุทโธ " แต่นึกเป็นมโนเสียง คล้ายๆคุณเป็นทารกน้อยเพิ่งคลอดออกจากท้องแม่ไม่กี่วินาที ยังไม่ลืมตา ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่มีความจำอะไรเลย แล้วมีคนกระซิบใส่ในหูว่า พุทโธๆๆ... เด็กทารกนั้น ก็กำหนดเอาเสียง พุทโธๆ...นั้นมาท่องไว้ในใจ การบริกรรม พุทโธๆๆ ต้องพยายามอดทนต่อสู้กับความฟุ้งซ่านและอื่นๆที่มารบกวน แล้วกำหนดบริกรรมไปเรื่อยๆๆๆ อย่าให้มีอะไร หรือ ความนึกคิดใดๆแม้นิดเดียวแทรกเข้ามาในระหว่างคำ พุทโธๆๆ..แต่ละคำๆๆ และอย่าให้คำพุทโธๆๆ หลุดแม้คำเดียว..ถ้าคุณทำได้ตามเงื่อนไขนี้ ติดต่อประมาณ 4000 คำ (ประมาณ 75-80 นาที) จิตคุณจะดิ่งสงบลงเต็มที่ เข้าถึงอัปปนาสมาธิแน่ๆ ...โดยทำความรู้สึกเมื่อตอนเริ่มฝึก คล้ายๆว่า ทุกๆอย่างหายไปหมด โลกนี้และจักรวาลหายไปหมด ตัวคุณก็หายไป ความรู้สึกนึกคิดต่างๆก็หายไป เหลือแต่ตัวจิตซึ่งเป็นตัวรู้ที่กำลังปรุงแต่งคำพุทโธๆๆ เท่านั้น ...แล้วพยายามวางจิตนั้นให้มั่นแน่วนิ่ง สงบรู้ เป็นกลาง วางเฉย ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
- พยายามหมั่นสะสมการทำบุญทำกุศลต่างๆไว้บ่อยๆ เพราะจะเป็นเสมือนการสะสมกำลังใจไว้ให้เพิ่มๆมากๆขึ้น ซึ่งจะมาสนับสนุนการภาวนาโดยตรง
- ผลที่ถูกต้อง จะค่อยๆปรากฏออกมาทีละนิดๆตามลำดับ เมื่อเวลาผ่านไปนานระยะหนึ่ง คือ จิตค่อยๆสงบลงๆ มีความเย็นลงๆเรื่อยๆ กิเลสน้อยลงเรื่อยๆ ความสุขสบายใจสดชื่นแจ่มใสค่อยๆเพิ่มๆมากๆขึ้น สะสมมากขึ้นทีละนิดๆเรื่อยๆๆ...จนกระทั่งวันใดวันหนึ่ง เมื่อคุณสะสมบารมีได้แน่นหนาพอเพียงแล้ว จิตคุณจะรวมลงสู่อัปปนาสมาธิ สว่างไสว มีความปีติ สุข อย่างมหัศจรรย์มากๆ...ใครจะเอาทองเท่าภูเขามาแลกก็ไม่ยอม
เรื่องสำคัญที่คุณต้องเข้าใจคือ...
- การฝึกสมาธิจนได้ผลไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความเพียรความอดทนมากๆๆ มากกว่าทุกๆเรื่องที่คุณเคยทำมาตลอดชีวิต คุณต้องไม่ใจเร็วรีบด่วนหวังผล เพราะจิตที่มีสมาธิเป็นจิตที่มั่นคงมีกำลังมากมายมหาศาล จึงต้องรู้จักอดทนรอไปนานๆกว่าผลจะค่อยๆเริ่มปรากฏ คล้ายๆเอามีดมาขุดก้อนหินใหญ่ ย่อมไม่ง่ายเหมือนเอามีดตัดต้นกล้วย
- ปัญหาของคุณคือปัญหาเดียวกับที่นักฝึกมือใหม่ทุกๆคนเจอกัน
- บางคนดูเหมือนฝึกได้ง่าย ได้ผลไว นั่นเพราะเขาเคยสะสมบุญบารมีมาอย่างแน่นหนาแล้ว จากอดีตชาติ เมื่อมาฝึกในชาตินี้ ก็จะฝึกง่าย เห็นผลไว..ซึ่งคุณไม่ต้องไปนึกท้อใจในเรื่องนี้ ฝึกไปเรื่อยๆๆ บางทีไม่นานนักคุณอาจจะได้ผล
- การฝึกกำหนดลมหายใจ เป็นเรื่องยากมากๆ ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือ คนที่กำลังใจน้อยหรือมีบุญบารมีน้อย ควรกำหนดบริกรรม พุทโธๆๆ อย่างเดียว ไม่ต้องเกี่ยวกับลม ...ตอนนึก พุทโธๆๆ...ให้นึกเป็นเสียงอยู่ในใจ อย่านึกเป็นมโนภาพตัวอักษร " พุทโธ " แต่นึกเป็นมโนเสียง คล้ายๆคุณเป็นทารกน้อยเพิ่งคลอดออกจากท้องแม่ไม่กี่วินาที ยังไม่ลืมตา ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่มีความจำอะไรเลย แล้วมีคนกระซิบใส่ในหูว่า พุทโธๆๆ... เด็กทารกนั้น ก็กำหนดเอาเสียง พุทโธๆ...นั้นมาท่องไว้ในใจ การบริกรรม พุทโธๆๆ ต้องพยายามอดทนต่อสู้กับความฟุ้งซ่านและอื่นๆที่มารบกวน แล้วกำหนดบริกรรมไปเรื่อยๆๆๆ อย่าให้มีอะไร หรือ ความนึกคิดใดๆแม้นิดเดียวแทรกเข้ามาในระหว่างคำ พุทโธๆๆ..แต่ละคำๆๆ และอย่าให้คำพุทโธๆๆ หลุดแม้คำเดียว..ถ้าคุณทำได้ตามเงื่อนไขนี้ ติดต่อประมาณ 4000 คำ (ประมาณ 75-80 นาที) จิตคุณจะดิ่งสงบลงเต็มที่ เข้าถึงอัปปนาสมาธิแน่ๆ ...โดยทำความรู้สึกเมื่อตอนเริ่มฝึก คล้ายๆว่า ทุกๆอย่างหายไปหมด โลกนี้และจักรวาลหายไปหมด ตัวคุณก็หายไป ความรู้สึกนึกคิดต่างๆก็หายไป เหลือแต่ตัวจิตซึ่งเป็นตัวรู้ที่กำลังปรุงแต่งคำพุทโธๆๆ เท่านั้น ...แล้วพยายามวางจิตนั้นให้มั่นแน่วนิ่ง สงบรู้ เป็นกลาง วางเฉย ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
- พยายามหมั่นสะสมการทำบุญทำกุศลต่างๆไว้บ่อยๆ เพราะจะเป็นเสมือนการสะสมกำลังใจไว้ให้เพิ่มๆมากๆขึ้น ซึ่งจะมาสนับสนุนการภาวนาโดยตรง
เรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องตระหนักคือ อย่าไปคาดหวังผลใดๆล่วงหน้าว่าผลจะเป็นยังไง
เพราะการคาดหวังผลล่วงหน้าหรือมีมโนภาพล่วงหน้า จะเป็นตัวขัดขวางในจิตที่แก้ยากที่สุด
- ผลที่ถูกต้อง จะค่อยๆปรากฏออกมาทีละนิดๆตามลำดับ เมื่อเวลาผ่านไปนานระยะหนึ่ง คือ จิตค่อยๆสงบลงๆ มีความเย็นลงๆเรื่อยๆ กิเลสน้อยลงเรื่อยๆ ความสุขสบายใจสดชื่นแจ่มใสค่อยๆเพิ่มๆมากๆขึ้น สะสมมากขึ้นทีละนิดๆเรื่อยๆๆ...จนกระทั่งวันใดวันหนึ่ง เมื่อคุณสะสมบารมีได้แน่นหนาพอเพียงแล้ว จิตคุณจะรวมลงสู่อัปปนาสมาธิ สว่างไสว มีความปีติ สุข อย่างมหัศจรรย์มากๆ...ใครจะเอาทองเท่าภูเขามาแลกก็ไม่ยอม
แสดงความคิดเห็น
นั่งสมาธิยังไง ให้มีสมาธิ
เลยอยากจะรบกวนสอบถามว่า มีวิธีไหนที่สมารถให้เข้าถึงสมาธิ จิตนิ่งบ้างคะ และภาวะที่ร่างกายเข้าสู่สมาธิจะมีอาการอย่างไรหรือรู้สึกอย่างไรคะ ( อันนี้สงสัยและอยากเข้าถึงสมาธิบ้างค่ะ)