เอาไงต่อดีกับทางเลือกที่จะต้องมีผลกับชีวิตต่อจากนี้

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ ขอเกริ่นก่อนว่ากระทู้นี้คือกระทู้ที่ขอความคิดเห็นจากทุกคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันมา
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้เองหรือคนที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันกับเจ้าของกระทู้นะคะ 
หากใช้คำผิดพลาดประการใดหรือมีข้อความที่ยืดเยื้อมากเกินไปต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

   ถ้าเพื่อนๆเป็นเราเพื่อนๆจะตัดสินใจแบบไหนดี??
   คือก่อนหน้านี้บ้านเราประสบปัญหาทางการเงินหนักถึงขั้นคุณตาคุณยายขายบ้าน(อาคารพาณิชย์)ให้กับญาติไปเมื่อประมาณ10ปีก่อน แต่ญาติสงสารให้ครอบครัวเราอาศัยต่อมาตลอด เพราะทางญาติเห็นคุณตาเรามีภาระเยอะต้องส่งเสียลูกหลานหลายคนซึ่งอยู่ในวัยเรียนรวมถึงตัวเราด้วย 
ซึ่งลูกๆก็พึ่งไม่ได้สักคนเลย แถมมีภาระเป็นหลานๆอีก คุณตาจึงเป็นเสาหลักให้กับทุกคนในบ้าน       
   ต่อมาเราเรียนจบ เราเป็นหลานคนโต ตัวเราเองอายุ 24 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่เพิ่งทำงานมาได้ประมาณปีกว่า เงินเดือนสุทธิ รวมโอที+สวัสดิการอยู่ที่ประมาณ 34K แรกๆที่เราเพิ่งได้งานเราเริ่มจากการติดลบทางการเงินเพราะเราต้องกู้เงินมาหาห้องเช่าใกล้ที่ทำงาน + ช่วยที่บ้านใช้หนี้บางส่วน ทำให้เราไม่ได้มีเงินเก็บมากนัก
   จนไม่นานมานี้ที่เราเริ่มเคลียร์หนี้ได้หมดและเริ่มมีเงินเก็บส่วนนึงและตั้งใจว่าจะทำงานเพื่อซื้อบ้านคืนให้กับคุณตาคุณยาย เราจึงบอกพวกเขา
ตายายเราดีใจมากกกกก เราเห็นท่านมีความสุขสดใสขึ้นแบบที่เราไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกมีไฟสุดๆคิดแค่ว่าเราต้องซื้อบ้านหลังนี้คืนให้ได้
ตากับยายเรารักบ้านหลังนี้มาก ท่านเก็บเงินทั้งชีวิตเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ คุณตาเราทำธุรกิจที่นี่ บ้านหลังนี้คือที่พักพิงของพี่น้องทุกคน 
    เราจึงไปคุยกับญาติ ญาติเราบอกขายต่อที่ราคา 3.5 ล้าน ณ ตอนนั้น เราเองที่ไม่รู้ว่าตัวเราเองจะสามารถกู้ได้เยอะขนาดนั้นรึเปล่า ก็เลยบอกญาติว่างั้นเราขอเก็บเงินไปเรื่อยๆทำStatement ไปก่อน ญาติเราก็ให้โอกาส
   และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคุณตาของเราเสียชีวิตลงเป็นวันที่เราเสียใจมากที่สุดในชีวิต ความรู้สึกทุกอย่างมันติดค้างอยู่ในใจของเรา...

   หลังจากนั้นเรากับญาติก็มาคุยเรื่องการซื้อขายบ้านหลังนี้อีกครั้ง จะบอกว่าก่อนหน้านี้ที่ญาติให้เราอาศัยอยู่เพราะญาติค่อนข้างมีฐานะที่ดี แต่ช่วงหลังๆที่ผ่านมา การเงินของญาติเราก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เริ่มขายที่ออกไปเยอะมาก กิจการที่มีก็เริ่มปิดตัวลงไปเกือบหมด ญาติก็ยังพยายามช่วยเราลดราคาค่าอาคารให้หากเราต้องการที่จะซื้อมัน ญาติลดให้เราเหลือ 3 ล้าน แต่อาคารหลังนี้มีอายุเกือบๆ30ปีแล้ว โครงสร้างยังดีอยู่แต่ภายในคือเก่าหมด เราปรึกษากับญาติ ด้วยความหวังดีญาติเราบอกว่าทำไมเราไม่ไปซื้อหมู่บ้านดีๆใหม่ๆอยู่ไปเลย คุณยายก็แก่แล้วน่าจะไปพักที่ดีๆกว่านี้...
ในใจเราก็เคยคิดแบบนั้นเราเคยเสนอตั้งแต่ตอนที่คุณตายังอยู่ จริงๆเขาก็บอกว่าเขาตามใจเรา แต่ในใจลึกๆเรารู้เลยว่าเขาต้องเสียใจมากแน่นอน   

เราจึงมีทางเลือก 2 ทางซึ่งจิตใจเรามันตีกันว่าเราควรตัดสินใจแบบไหนดี

1.  ซื้อบ้านจัดสรร บ้านที่ราคาพอๆกับราคาอาคาร
ข้อดี สิ่งแวดล้อมดีมีพื้นที่ธรรมชาติ
        ได้บ้านใหม่ซื้อแค่เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งนิดหน่อยก็คืออยู่ได้เลย             
ข้อเสีย   รายจ่ายตายตัว มีค่าส่วนกลาง
              พื้นที่น้อยกว่าที่อยู่เดิม
2. ซื้ออาคารเก่า
ข้อดี  มีผู้เช่าพื้นที่อาคาร ผู้เช่าเป็นบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ชื่อดัง รายรับประมาณ 100,000/ปี
         สามารถใช้พื้นที่ด้านล่างเปิดธุรกิจได้
         มีพื้นที่ห้องเยอะพี่น้องสามารถมาอยู่ด้วยกันได้
ข้อเสีย  รายรับไม่มั่นคงผู้เช่าอาจเลิกเช่าได้
          ภายในอาคารค่อนข้างเก่าถ้ารีโนเวทต้องเสียเงินอีกเยอะ
          ไม่มีที่จอดรถ จอดรถได้แค่หน้าบ้านได้2คันโดยไม่มีรั้วอะไรกั้น

***ซึ่งทั้งนี้ยังไม่รวมกับการที่ต้องไปยื่นกู้กับธนาคารอีกว่าจะได้หรือไม่ได้ 
หากท่านไหนที่เข้ามาอ่านและพอมีความรู้เรื่องการกู้ซื้อ เราขอคำแนะนำด้วยนะคะ 
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ หากมีคำถามเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการแสดงความคิดเห็นถามเราได้เลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่