พลังในการเห็นอนาคตหรือเดจาวูมีจริงงั้นหรอ?

ผมรู้สึกว่าการที่ตัวเองเห็นภาพในฝันหรือจู่ๆก็แว๊บเข้ามาในหัว แล้วมันเกิดขึ้นในไม่กี่ชั่วโมงหรืออีกไม่กี่ปี มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นมา6-7รอบ (รวมทั้งเล็กๆน้อยๆกับเป็นเรื่องราว)

   โดยหลังๆ พยายามที่จะจับจุดว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่จะเป็นการเดจาวู หรือเป็นเพียงความเพ้อฝัน ทุกครั้งที่ผมรู้สึกว่าเป็นการมองเห็นอนาคต ผมจะจดโน๊ตลงทุกครั้ง โดยยกตัวอย่างปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับผม โดยตอนนี้ผมอยู่ม.2 และผมเคยฝันเห็นทั้งเสียง  ทั้งภาพ ตอนอยู่ป.5-6 แล้วในม.1 ตอนที่ผมไปเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ ตอนนั้น ภาพตอนที่ทำกิจกรรม และเสียงทุกอย่าง เหมือนเคยประสบมาแล้ว ผมจำได้ว่าตอนผมตื่นขึ้นจากฝันตอนป.5-6 ผมยังนึกอยุ่เลย กุฝันถึงใครวะ คือ มันเป็นเพื่อนที่ยังไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักกันสักนิด นี่คือเหตุการณ์แรก

    เหตุการณ์อีกอันนึง คือ ผมเคยฝันเห็นตอนป.4 มั้งครับ  แล้วมันเกิดในช่วงเดือนเมษายน 2021 ซึ่งมันฝันเกี่ยวกับว่า ผมไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนที่ผมรู้จักแถวที่ๆเพื่อนทำงาน เหมือนเดิมครับ มาทั้งภาพทั้งเสียง โดยฝันนี้ ตอนนั้น ผมยังไม่รู้จักสเก็ตบอร์ดเลยครับ ไม่รู้ด้วยว่าเพื่อนทำงานที่ไหน แต่มันประสบอีกแล้ว

   ตอนเรื่องแรกที่ผมเล่าไปเนี่ย ผมยังรู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ครั้งที่ 2 มันก็แปลกๆไปนิด หลังจากนั้นผมก็เริ่มคิดถึง จักรวาลคู่ขนานก่อนเป็นอันดับแรก ผมเป็นคนที่เชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์มาก แต่เรื่องโลกคู่ขนาน มัน
รู้สึกว่ามันมีโอกาสมีสูง เนื่องจาก รู้สึกว่าตัวเองเคยใช้ชีวิตในชีวิตนี้มาหลายครั้ง และบางทีก็แว้บเห็นภาพว่าถ้าเลือกทำอย่างนี้แทนจะเป็นยังไง และสิ่งที่แน่นอน ไม่ว่าผมจะรู้เรื่องเยอะแค่ไหนก็เถอะ อนาคตน่ะมันเปลี่ยนไม่ได้ถ้าหากเราเกิดปรากฎการณ์เดจาวูขึ้นมา ผมพยายามเปลี่ยนหลายครั้ง ในสิ่งเล็กๆน้อยๆ มันก็เหมือนภาพในการเดจาวู หรือบางคนเรียกว่า "โชคชะตา" นั่นเองครับ

   เรามาต่อเรื่องโลกคู่ขนาน เมื่อผมนึกถึงอดีตแล้วลองเรียบเรียงไทม์ไลน์ต่างๆ มันก็จะรู้สึกถึงโลกคู่ขนานที่มันเหมือนจะเคยเกิดขึ้นในสิ่งที่ไม่ได้เลือก ไม่แน่อาจจะหลอนไปเอง และผมพยายามที่อยากจะลองติดต่อกับจักรวาลคู่ขนานแบบส่งเดชไป โดยคิดถึงภาพในอดีตที่เคยเกิดขึ้นแล้วส่งไปโดยรู้สึกถึงคลื่น แล้วรู้สึกถึงสมองที่ประสาททั้งหมดไหลไปที่ก้านสมอง พร้อมระเบิดกระจายไปรอบๆอวกาศและดูดเข้าไปในตัวมันเอง แน่นอนมันไม่มีสิ่งตอบรับ แต่ที่ผมทำอย่างนี้มันอาจจะเหมือนกับการที่ผมในอีกโลกส่งปรากฏการณ์เดจาวูมาให้ ไม่แน่ ผมอาจจะส่งไปในตอนป.5-6 เพราะผมคิดถึงเหตุการณ์ที่1 ถ้าเกิดว่าผมส่งคลื่นความคิดไปได้ มันจะคือการวนลูป เหมือนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับผมนั่นเอง

    ตอนนี้ผมคิดอยากจะลองวิธีคิดถึงเหตุการณ์ที่มันจะเป็นไปได้ต่อไป โดยใช้ความน่าจะเป็น ถึงบางอย่างมันจะมีโอกาสมากกว่า แต่ สิ่งที่รู้สึกได้มันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะผมรู้สึกอะไร มันจะเป็นอย่างนั้น ลองมาหลายรอบเหมือนกัน ถ้าเกิดว่ามันเป็นพลังจริงๆ มันจะขัดกับย่อหน้าก่อนที่ โลกคู่ขนาน ตัวผมในโลกอื่นส่งมาให้ แต่ผมรู้สึกว่ามันใช้ร่วมกันได้ โดยเราไปชิงความทรงจำนั้นมาแทนที่จะรับ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถึงผมจะรู้อนาคตในบางเรื่อง แต่บางอย่างก็ไม่ควรรับรู้ อย่างเช่นช่วงเวลาตายของคนที่รัก ซึ่งถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ผมจะมาเขียนใหม่นะครับ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ โชคชะตา ที่มันเปลี่ยนไม่ได้นั่นเอง

   ท้ายสุด ผมอยากจะถามคนที่อ่านมานี้ ว่าทฤษฎีที่ผมคิด มันมีโอกาสความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เท่านั้น หรือใครเคยประสบ ก็บอกเล่าได้ ไม่ต้องกลัวถูกมองว่าปัญญาอ่อน งมงาย เพราะโอกาสความเป็นไปได้ มันไม่ใช่ศูนย์ หรือมันก็คือ ยังมีความเป็นไปได้ ไม่ใช่มีแค่เราที่เคยเจอ แต่มีคนนับล้านที่เคยเจอเหมือนกัน ใครอยากจะบอกเล่า หรือเสริมทฤษฎีของผมก็ คอมเม้นท์ไว้เลยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่