ใครชอบอะไรก็ตามสบายเลยฮะ...




📌สรุปงบ 4 หุ้นจำนำทะเบียน
โค้งแรกปี 64 ใครมาแรงสุด!
.
ในช่วงที่ผ่านมานอกจากหุ้น กลุ่มเหล็ก เรือ หุ้นที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนก็คงไม่พ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียน เพราะการเข้ามาของหุ้นน้องใหม่อย่างเงินติดล้อ (TIDLOR)
.
ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ทั้งหมดประกาศงบไตรมาส 1/64 ออกมาจนครบแล้ว โดยที่งบไตรมาสนี้น่าจะพอบอกแนวโน้มการเติบโตของทั้งปี 64 ของแต่ละตัวได้เหมือนกัน
.
งบของแต่ละตัวเป็นยังไง น่าสนใจแค่ไหน มาดูกัน
.
📌SAWAD บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
.
หุ้นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเป็นตัวแรก ในไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,360.95 ล้านบาท โต 31.76% จากช่วงเดียวกันปีก่อน(YoY) ถือเป็นหุ้นที่กำไรสุทธิโต YoY มากที่สุดในกลุ่ม
.
สาเหตุที่กำไรสุทธิโตมาจาก SAWAD มีการปรับเปลี่ยนประเภทของเงินลงทุนในบริษัทย่อย ( บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) เป็นบริษัทร่วม ทำให้มีรายได้อื่น 905.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.40% ทำให้รายได้รวมในไตรมาสนี้ทรงตัว YoY แม้รายได้ดอกเบี้ยจะปรับตัวลง
.
มีการโอนกลับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 174.15 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -194 ล้านบาท ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง 37.58% YoY
.
ปัจจุบัน SAWAD มี P/E ต่ำสุดในกลุ่มที่ 20.87 เท่า จากกำไรสุทธิ 12 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 4,836 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น(EPS)ที่ 3.52 บาทต่อหุ้น
.
.
📌TIDLOR บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
.
หุ้นสินเชื่อจำนำทะเบียนน้องใหม่ นี่คืองบไตรมาสแรกของ TIDLOR ตั้งแต่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ ทำกำไรสุทธิไปได้ที่ 783 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
.
สาเหตุของการเติบโตมาจาก รายได้ค่านายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิตเติบโตขึ้น ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยเติบโตสูงถึง 47.2% YoY ทำให้รายได้รวมในไตรมาสนี้ ออกมาทรงตัว YoY
.
แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทำให้กำไรจากการดำเนินงาน(EBIT) ลดลง 5.5% YoY อย่างไรก็ดีในไตรมาสนี้มีการกลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่า 150.85 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิออกมาเติบโต
.
ปัจจุบัน TIDLOR มี P/E อยู่ที่ 38.53 เท่า  จากกำไรสุทธิ 12 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 2,498 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น(EPS)ที่ 1.08 บาทต่อหุ้น
.
.
📌MTC บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
.
หุ้นสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เข้าตลาดมาไล่เลี่ยกับ SAWAD และทำผลงานได้ดีมากในช่วงที่ผ่านมา ในไตรมาสนี้ MTC ทำกำไรสุทธิไปได้ที่ 1,374 ล้านบาท มีกำไรมากที่สุดในกลุ่ม แต่การเติบโตถือว่าทำได้น้อยสุดในกลุ่มที่ 11.05% YoY
.
สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิเติบโตคือ รายได้รวมที่เติบโต 9.17% YoY โตทั้งจากรายได้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 0.67% เท่านั้น อย่างไรก็ดีไตรมาสนี้มีขาดทุนด้านเครดิตอยู่ที่ 155 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 93 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิออกมาเติบโตต่ำกว่ากลุ่มนั่นเอง
.
ปัจจุบัน MTC มี P/E อยู่ที่ 22.59 เท่า จากกำไรสุทธิ 12 เดือนล่าสุดที่ 5,349 ล้านบาท หรือมี EPS อยู่ที่ 2.52 บาทต่อหุ้น
.
.
📌SAK บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
.
หุ้นจำนำทะเบียนที่มีขนาดเล็กสุดในกลุ่ม ไตรมาสแรกทำกำไรสุทธิไปได้ที่ 118 ล้านบาท โต 14.56% YoY
.
ในไตรมาสนี้ SAK มีรายได้รวมลดลง 5.3% YoY แต่ว่ากำไรสุทธิเติบโตเพราะ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 38% YoY และผลขาดทุนด้อยค่าด้านเครดิตลดลง 88.2% YoY
.
ปัจจุบัน SAK มี P/E สูงที่สุดในบรรดาหุ้นทั้ง 4 ตัว ที่ 41.39 เท่า จากกำไรสุทธิ 12 เดือนล่าสุดที่ 577.3 ล้านบาท คิดเป็น EPS อยู่ที่ 0.28 บาทต่อหุ้น
.
.

ในไตรมาสนี้มีเพียง MTC ที่รายได้จากธุรกิจหลักเติบโต แต่กำไรสุทธิออกมาเติบโตต่ำสุดในกลุ่มเพราะมีการขาดทุนด้านเครดิตเพิ่มขึ้น

ขณะที่รายอื่นๆ มีรายได้จากธุรกิจหลักลดลง แต่มีการกลับสำรองขาดทุนด้านเครดิต ขณะที่ SAK เองก็มีขาดทุนด้อยค่าด้านเครดิตลดลง 88.2% YoY

.
.
ผู้อ่านชอบหุ้นตัวไหน หรืออยากแชร์มุมมองที่แอดมินไม่ได้ใส่ไว้ มาคุยกันได้เลยครับ
#วอวิดเอง
<<══════════════════════════════════════>>
อีไฟแนนซ์ไทย สำนักข่าวหุ้น-การเงิน-การลงทุน อันดับหนึ่งของไทย
ที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์กว่า 1 ล้านคน/เดือน 
อ่านข่าวสารการลงทุนเพื่อหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆได้ตลอดวัน
อีไฟแนนซ์ไทย “มีข่าวมีโอกาส” www.efinancethai.com
<<══════════════════════════════════════>>
#SAWAD #TIDLOR #MTC #SAK