คลั่งรักข้ามทวีป ฟินค้าง ลงคาน เจอโควิด ชีวิตบรรลัย

ขอเปิดพื้นที่นี้ ให้คนคลั่งรักโดยเฉพาะค่ะ ใครมีเรื่องราวที่พีคๆ ว่าเจอแฟนของคุณกันยังไง
เล่าสู้กันฟังได้เลย —ปล—ยาวมากกกกกก  อ่านไม่ไหวอย่าฝืนอย่าดราม่า อิอิ
เข้าเรื่องข้ามไปตรงดอกจันทร์เลยค่ะ ***_______***

เนื่องด้วยช่วงนี้สถานการณ์ตึงเครียดมันเยอะ เลยจัดกระทู้มุ้งมิ้งกุ้งกิ้งให้ซะหน่อย
เราว่า ทุกคนน่าจะเคยมีโมเม้นประสบการณ์ หรือสตอรี่ที่เหมือนพล้อตหลุด
ออกมาจากหนังรักกันซักคนละหนึ่งเรื่อง  ไม่ว่าจะดราม่าหรือจะโรแมนติก
จบดีไม่ดียังไง วันนึงมันก็จะเป็นอีกประสบการณ์และบทเรียนนึงของเราแหละค่ะ

วันนี้เลยจะมาเม้าเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตในเชิงนิยายโรแมนติกคอมดี้
อยากแชร์จริงๆ เพราะมันเป็นการเปิดมุมมองความรัก 
การงานในฝันครั้งแรก อิสระครั้งแรก มีโอกาสได้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศครั้งแรก  
และผลกระทบจากโควิดครั้งแรกพร้อมคนทั่วโลก

ทุกการแชร์อะไรในโลกโซเซี่ยลมักมีดราม่า
ดังนั้น เราเตรียมรับมือดราม่าไว้แล้วค่ะ
เราเลยตั้งใจเขียนแบบยาวยิบให้กระแทกตากระอักเลือดไปเลย
เพราะมันเป็นพื้นที่ให้เขียน ชั้นก็จะเขียนง๊ายยย

(ป.ล. ใครที่เคยติดตามเราสมัยประมานห้าปีที่แล้ว ใช่ค่ะ เราเองที่เคยมีนามปากกาว่าทาชี่กระทู้เด็กใสๆที่มีป้อบปี้เลิฟครั้งแรก 
ในตอนนั้น เรายกบัญชีพันทิปให้เพื่อนไป  หลังจากที่เคยเขียนนิยายรักคี่ชี่ไว้และก็เลิกเขียนไปเลยตอนนั้น เพราะมีดราม่าเยอะ 
และคนมาสืบ มาตามเยอะ จนเราไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนตัวเลยเงียบไปพักนึงเลย   แต่ตอนนี้เราโอเคแล้ว  
และเรื่องราวนี้คือเรื่องปัจจุบันในฉบับที่ตัวเองโตขึ้น  ใครสงสัยเรื่องระหว่างเรากับคอคึ่ 
ในกระทู้นี้จะมีบอกหมดเลยว่าเกิดอะไรขึ้น อิอิ ขอบคุณที่มีคนยังติดตาม เข้ามาในชีวิต ได้รู้จัก 
และได้เป็นเพื่อนและยังส่งอินบ้อกซ์มาจนวันนี้ มาเปิดเจอแล้วตกใจเหมือนกัน ขอบคุณจริงๆค่ะ เชิญอ่านเรื่องราวปัจจุบันของเราได้เล้ยย )

เตรียมป้อบคอร์นให้พร้อม และมาเริ่มกันเลย
***__________________***

Let’s say it’s a romantic comedy. 

เรื่องราวพรมลิเขียดชะตากรรมความรักของเรา
รักข้ามขอบฟ้า รักข้ามฟาก ข้ามประเทศ ข้ามชาติ
มันเกิดขึ้นแบบงงๆ ด้วยความเกลียดชัง......

เมื่ออยู่ๆตอนเรียนจบ เราก็มีความดีด ไม่อยากอยู่ประเทศไทย
อยากไปเรื่อยๆรอบโลก ไม่อยากอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมๆ
และงานที่คิดว่าเหมาะกับเราที่สุด ก็คือการเป็นแอร์โฮสเตส

และเราก็ไปสอบแอร์สายหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก
เป็นสายการบินที่ สาวคนไทยส่วนมาก อยากเข้ามากกกก
ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้ เพราะรู้สึกว่ามันไกลเกินเอื้อม

และแล้วอยู่ๆก็สอบติดแบบงงๆ
คือชีวิตเรามีเรื่องราวงงๆให้งงตลอดจริงๆ

ช่วงที่สัมภาษณ์ผ่าน กว่าจะผ่านแต่ละขั้นแต่ละตอนก็รอจนเหงือกแห้ง
กว่าจะได้เดินทางไปจริงๆ จนไปถึงที่นั่น ทางบริษัทก็ดูแลเราอย่างดี
ประดึ่งรูกกกกกสาว  ไปถึงก็คือเริ่มเทรนเลยจ่ะ
และใช้เวลาทั้งหมดสองเดือนในขุมนรก เอ้ย ในการเทร๊น 555

โอเค มาถึงตรงนี้ จุดเริ่มเรื่องมันก็คือ วันเทรนจบนี่แหละ
ขอเกริ่นก่อนว่า ในระยะเวลาสองเดือนในการเทรนแอร์ที่ผ่านมา
เค้าเทรนแยกกับปู้ชายนะจ้ะ ไม่ควรสนทนา ถ้าไม่จำเป็น
ส่วนความลนของเรานั้น ก็ลนจนเกินไป กลัวโดนไล่ออกก็ว่าได้

เดินผ่านผู้ชายเวลาเปลี่ยนคลาสนี่ นี่ก็คือ ก้มหน้ามองเท้าพวกเค้า
แบบไม่มองหน้าเลย เอาจริง เพิ่งรู้ตอนเทรนจบว่าทักทายได้
แต่แค่ไม่เหมาะ เพราะเค้ากลัวมีการจีบกันหม้อกันนัดยิ้มกัน
สมาธิเทรนก็จะไม่มี.  สรุปก็ ถ้ามีเดตช่วงเทรน ก็เรียนไม่รู้เรื่องแน่แหละ

และแล้ว เมื่อเป็นเยี่ยงนี่ ความเก็บกดของทั้งสองฝ่าย
ก็หมดลง ในวันที่เทรนจบ เค้าจับทั้งสองรุ่น ของฝ่ายชายและหญิง
มารับเกียรติบัตร พร้อมกัน ที่ห้องเดียวกัน ด้วยกัน

------- Ep.1 --------
ณ ห้องรับเกียรติบัตร
โอ้พระเจ้า ดูสายตาของเจ้าพวกเสือที่จับจ้องเหยืออย่างพวกชั้นสิ่
สัญชาตญาณหนุ่มสาว มันก็ฟ้องแล้ว ว่าทุกคนเริ่มเล็ง เริ่มจอง
สายตาเจ้าพวกเสือนั้น คือขาดของมาสองเดือน 5555

หลังจากที่ได้ออกไปรับเกียรติบัตรเสร็จ เราก็อยากจะหายไปจากตรงนั้น
ไม่ได้เจอผู้ชายนาน มันรู้สึกแปลกๆ ทำตัวไม่ถูก จริงๆนะ
พวกคุณลองไม่ได้เดทนานๆ อยู่แต่กับเพศเดียวกัน เหมือน รร ญล้วน
มาเจอหนุ่มๆที ก็รู้สึกแปลกๆบ้างละ

เราและแก๊งสาวไทยใจงาม ก็เกาะกลุ่มกันเอง ไม่สนใคร
ส่วนเพื่อนต่างชาติเรา เอาแล้ววว นางโดนรุมล้อม
คนนั้น คนนี้ คนนู้น เข้ามาประดึ่งทินเด้อในชีวิตจริงและใช้มือจริงปัดออก กรักๆๆ

ชอบใครก็คุย ไม่ชอบก็แค่เดินผ่านไปในที่ที่ชอบ
เรามองไปที่เพื่อนซี้เราคนนึงเพราะคนนี้หนุ่มตอมเยอะเหลือเกินตั้งแต่เข้าห้องมา
นางเป็นชาติอินตาราเดียจ่ะนายจ๋าา นางสวยยยย สูงงงงง หุ่นดี หน้าคม สะโพกแม่พันธ์ 
เป็นที่หมายปองของชายๆ นางคือนั่งอยู่คนเดียว และมีคนเข้ามาคุยด้วยเรื่อยๆ
และล่าสุด ก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง นั่งคุยกับนางอยู่
และที่นางนั่งคือฝั่งผู้หญิง แสดงว่า ไอหนุ่มนั่น มันเดินมาจีบเพื่อนชั้นชัว

เราเป็นคนชอบสังเกตุ (หรือจะเรียกว่าเผือกก็ได้แหละไม่ติด)
เรามองรอบห้อง สายตาเราก็ดันตกไปที่ ไอ้หนุ่มนั่น
ที่เหมือนจะมาแอ่วเพื่อนเรา ว่าเป็นใครกันนะ
คือเราก็ไม่ได้รู้จักหรอก แต่แค่คุ้นหน้า อิผู้ชายคนนี้เราเห็นบ่อย
เวลาเดินลงรถเข้าตึกที่จะเทรนตอนเช้าๆ มันเป็นคนที่สูงที่สุดในรุ่น
เราเลยเห็นมันในฝูงชนตลอด สูง ประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบได้ 
สงสัยรับทานผีเปรตเป็นกับ และแคลเซี่ยมเป็นข้าว 555
ลักษณะเค้าก็หน้าออกยุโรป ด้วยความขาวออร่า
แต่รายละเอียดหน้าดูเป็นแขกเพราะตาคมและขนตาปังกว่าผู้หญิง
เค้าดูผสมไปหมด ดูไม่ออกว่าชาติไหน
เราเดาตอนแรกไว้ ว่าอาจจะฝรั่งเศส หรืออิตาเลี่ยน หรือดัช

เราไม่รู้เป็นอะไร เค้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้เรา แต่เราไม่ชอบขี้หน้าเค้า
พอพวกนางคุยกันเสร็จ เพื่อนอินเดียเราเดินมา
เราก็สายแซวจ้า แซวเลยจ้า ว่า แหม่ เนื้อหอมนะรูกกก 
นางก็ทำเขิน บอกเราว่า ไม่ได้มีอาราย ก็แค่คุยกันเรื่องนาฬิกาเฉยๆ
เราก็เอ็นดูความใสๆของนาง ที่ไม่รู้ว่าไอ้หนุ่มนั่นมันกำลังหม้อแหละ

หลังจากนั้น ทางฝั่งแบชผู้ชาย ก็ประกาศและเชิญชวนว่า
จะมีปาร์ตี้ที่นี้ๆ จะจองห้องใหญ่ไว้ ให้พวกเราไปกันให้ได้
เป็นปาร์ตี้คอนแกรทกันเอง ที่เทรนจบ และรอดชีวิตจากการเทรน
ต่อมา ทุกคนก็แยกกันเตรียมกลับที่พัก
เวลาไปไหน แบชผู้หญิงก็จะไปพร้อมกัน กุ้กกิเกคุ้กคิกน่ารัก
คุยกันแบบใสใส บี1บี2 เธอคิดเหมือนฉันรึเป่าา

รถบัสรับส่งจะมารับตามรหัสแบชที่เทรน
พวกเราก็เดินลงมารอรถกันหน้าตึกเทรนตามปกติ
ในขณะที่เรายืนๆรอรถกันอยู่ พวกผู้ชายก็ทยอยกันลงมาเหมือนกัน
ก็เลยมายืนข้างๆแบชเรา
(ก่อนที่ใครจะงงว่าแบชคือออะไร ก็คือ ในการเทรน
พวกเราใช้เรียกเป็นกลุ่มเรียนนะคะเผื่องง เช่น กลุ่ม A123 B134 รหัสสมมุติงี้ )

ต่อค่ะ เราก็ยืนอยู่กับเพื่อนสองนางที่ประกบข้าง ส่วนเรายืนตรงกลางสวยๆ
ข้างซ้ายคือแฟลทเมทที่อยู่ห้องด้วยกัน นางเป็นอิหร่านเนี่ยนเกริลล (สาวอิหร่าน)
ข้างขวาคือเพื่อนชาติญี่ปุ่ง โออิชิ คิโมจิ

ความเพาเว่อร์พัฟเกริล คิ้วๆ ก็ยืนรอรถไปคุยไปจ่ะ
ทันใดนั้นนน ไอ้หนุ่มหน้าคมที่ตัวสูงๆ ที่ชั้นไม่รู้สึกถูกชะตาด้วย
คนที่เพิ่งเข้าไปแอ่วเพื่อนอินเดียเราตอนอยู่บนห้องนั่นอ่ะ
ก็เดินเข้ามาทักพวกเราาาาา

ชอตนี้ อยากให้ทุกคนนึกภาพตามนะคะ
ว่าเรายืน กันอยู่ สามคนนนนน ซึ่งเราอยู่ตรงกลางงง
ย้ำว่าตรงกลาง    แต่มันทักแค่เพื่อนเรา ที่ยืนประกบข้าง
เซอไพร้สไปกว่านั้นคือ คนแรก มันทักเพื่อนอิหร่าน ฝั่งซ้าย
คนที่สอง มันข้ามหัวเรา ไปทักเจ้าเพื่อนญี่ปุ่น
ยืนเรียงกันแบบนี้ ญี่ปุ่น ไทย อิหร่าน >>> (O.o)/ (-_-) (o.o)/

ใครหล่ะเป็นอากาศ ชั้นละสิ่ ชั้นละสิ่ ยืนหัวโด่อยู่ตรงกลาง แต่ไม่ทักตู
ที่พีคคือออออ มันพูดภาษาฟาซีได้ (คือภาษาที่คนอิหร่านใช้)
พีคสองคือออ มันพูดภาษาญี่ปุ่นได้อีกด้วย จนเพื่อนญี่ปุ่นบอกว่า
ต้ายยย มันพูดญี่ปุ่นเก่งกว่าชั้นอี้กกกกก สุภาพมาก

เพื่อนเรากรี้ดกร้าด ตกใจยืนหน้าเหวอกันทั้งสองคน
เหมียนไม่เคยเจอคนพูดสลับภาษาได้
ส่วนเราหรอ ยืนนิ่งๆมองด้วยใบหน้าคนไร้ความรู้สึก แบบนี้ (-_-)
และแสยะยิ้มไปตามน้ำกับเพื่อนๆ แต่เป็นยิ้มเพชรฆาตแบบไฟลุก
ยิ้มแสยะ แบบเลขาคิมในเรื่อง What’s wrong with secretary Kim แบบนั้นเลย
ใครอยากนึกภาพออกแนะนำให้ไปเปิดหาในกูเกิ้ลเพื่ออรรถรสในการอ่าน 555

ละก็นะ จะทักกันให้เป็นมารยาทหน่อยก็ด้าย  ทำไมต้องยัดเหยียดคเป็น หมา ธาตุ อากาศมาให้ช้านนน
และมาหาจังหวะโชว์ออฟได้โคตรสมูธมาก  มาแบบ เล่นสองข้าง สองชาติ สตั้นเลย
จังหวะคนมันจะได้ซีนอะเนาะ และยังเว้นเราไว้ได้แบบอ้อกเวิ้ดสุดๆ
ส่วนสายตามันนั้น มีเหลือบมามองเราแค่สองวิ  คือแค่มองผ่านจริงๆ
ทำไมวะ ชั้นก็ไม่สวยพอที่จะมองหรอยะ ชั้นว่าชั้นก็ใช้ได้อยู่นะ
(ตอนนั้นความมั่นใจลดไปฮวบนึงแบบงงๆ)

หลังจากนั้นเค้าก็เดินไป เพราะรถแบชเค้ามาแล้ว
ส่วนเพื่อนอิหร่านชั้นก็ดี๊ด๋า ใหญ่ว่า
งุ้ยยย ฮีอิสโซกู้ดหล่าาาา อย่างงั้นหล่าาา อย่างงี้หล่า
สรุปก็เลยรู้ว่า เค้าเป็นลูกครึ่งโคลอมเบีย+อิหร่าน แต่โตญี่ปุ่น
เลยพ่นภาษาซะเป็นดิกชั่นนารี่เลย
เราตอนนั้นก็เออๆออๆกะเพื่อน แต่หัวนี่ร้อนแหละ
เหมือนโดยเหยียบย้ำ ชั้นก็สวยอยู่นะเว้ย(มโนเอง) ข้ามหัวซะเป็นแห้วเน่าเลย

หลังจากนั้น เราก็กลับที่พัก นัดของพวกเราคือประมานสองทุ่มมั้งถ้าจำไม่ผิด
เราเริ่มขี้เกียจไป เพื่อนจะรู้นิสัยนี้ ว่าเราติดห้องและติดการนอนมากๆ
จนเพื่อนคนไทย มันต้องจิกตาม บอกว่านานๆที เทรนจบทั้งที มุงจะเทมิด้ายยย
ไปตี้กันเถิดดดด เพราะทุกคนเป็นไทแล้ววววววววววววววว

เราก็เออเครๆ ไปก็ไป แต่งตัวไปไงกันอ่ะ
เพื่อนๆก็บอกว่า ก็ปกติอ่ะ  อ่าเคร เราก็ตามนั้น เราก็ปกติจริงๆ
เสื้อคร้อบสีดำ เกงยีนเอวสูง แว่นวินเทจ หมวกวินเทจ รองเท้าผ้าใบ
คาแรคเต้อเราจะแนวสตรีทวินเทจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ละยิ่งตอนนั้นตัดผมสั้นแบบนักเรียนเลยค่ะ 
ยิ่งดูแมนไปใหญ่ ทั้งหัวจรดเท้าเราไม่หวือหวาอะไรเลย
เพราะมีแต่ชุดสีดำในกรุ (กรุเซตงานศพเลยก็ว่าได้)

แต่แล้ว เมื่อถึงเวลาลงไป สิ่งที่อิเพื่อนๆบอกว่าธรรมดา
ให้ต้ายยยยยย ทุกคนคะ มันมากันแบบส้นสูง
เสื้อสายเดี่ยวบ้าง แหวกบ้าง สั้นจุ้ดบ้าง คือเตรียมออกล่า
ตะไมไม่บอกกันบ้างละ คืนนี้ตูแมนอยู่คนเดียวจริงๆ
เพื่อนๆแย่งซีนกันไปเรียบร้อย ขำทั้งน้ำตา นี่มันธรรมดาของพวกแกรหรอ
ส่วนเรา เหมือนไปเป็นบอดี้กาดให้เหล่านางฟ้างี้

เมื่อถึงโรงแรมพวกเราก็ขึ้นไปชั้นบนสุดที่มีบาร์
เหล่าคุณผู้ชายว่าที่สจ้วต ก็ได้จองห้อง vip ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จุได้ประมาณ 30 คน

ทุกคนก็ค่อยๆทยอยกันมา เป็นบุฟเฟ่นานาชาติเลย เพราะสายการบินเรามีแทบทุกชาติ
ส่วนแก้งพี่ไทยตัวน้อยอย่างพวกเรา ไปถึงก็เปิดฟลอท่าสอยดาว
ให้ต่างชาติมันรู้ไปเลย ว่าสอยดาวอ่ะ ไทยแลนonly
นอกจากท่าสอยดาว ท่าดึงดาว ท่าหมอรำ เราก็ขนกันมาหมด
ถ้าเปรียบเทียบเหตุการณ์ตอนนี้  ก็น่าจะคล้ายๆหนังเรื่อง step up ที่แบ่งฝ่ายชาย หญิง
ส่งมาดวลทีละคนประมานนั้นได้ ไปๆมาๆ ชายหนุ่มก็เริ่มเข้ามากัน
คนเริ่มมากันเกือบครบ และเยอะขึ้น

จากนั้น เราคอแห้งแหละ เลยว้าบไปหน้าบาร์ที่มีเครื่องดื่มขาย
เราไปเดินไปถึง คนก็ยืนรอเยอะ ดูท่าจะนาน
เราก็ไปอีกฝั่ง ตรงที่มีคนยืนรออยู่แค่คนเดียว
แต่!!!! อิคนเดียวนั้น คือ ไอลิ้นหลายภาษา ไอขี้เก็ก ไอโชว์ออฟ
เราแบบ ไม่อยากจะมองหน้ามันเลย หน้าเรายังชาตอนที่มันไม่ได้ทักเราอยู่เล้ยยย

*ต่ออันล่างนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่