ย้อนไปนานตั้งแต่ละครเรื่อง เงารักลวงใจ
ในฐานะที่เป็นเมนของ เตชิต (หมาก ปริญ) ในเรื่องตอนนั้น
แต่ยอมรับว่าตัวละคร นาวา ที่ณเดชน์เล่นแสดงออกมาดี
แม้ตอนนั้นจะไม่พอใจที่คนชอบเอานาวาและเตชิต
มาเปรียบเทียบทั้งบทบาทยันการแสดงจนไหลไปถึงสี่หัวใจแห่งขุนเขา
และใน 4 หัวใจ ณเดชน์ สร้างตัวละครอัคนี (ไอ้ไฟ) ไปอยู่ในใจหลายคน
เพราะตัวละครนี้มีคาแรคเตอร์แข็งแรงและมีเสน่ห์ และคนที่สวมบาททำได้ดี
จนเป็นละครที่มีตัวละครที่ยังอยู่ในใจของคนหลายคน
จากนั้น ณเดชน์ ก็เริ่มเข้าสู่เส้นทางที่เข้มข้นแบบไม่ทันตั้งตัว
เขาเป็นหนูทดลองตัวแรก ๆ ของโลกบันเทิงในยุคอนาลอคตอนปลาย
ที่ถูกทดสอบทั้งความสามารถ และความคาดหวังจากหลายส่วนในหลายบทบาท
มีหลายคนอยากเห็นเขาเล่นบทบาทแบบนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้เต็มไปหมด (กระทู้เก่าในพันทิปมีให้ค้นได้)
หลายบทบาทก็เป็นที่ประทับใจ บางบทบาทก็อาจจะไม่ถึงฝั่งฝัน
และสิ่งที่เริ่มหายไปในผลงานการแสดงของ ณเดชน์ คือความมีชีวิตชีวิา
หลังจากดวงใจอัคนี ผลงานการแสดงณเดชน์ แทบจะเรียกว่าคัดแล้วคัดอีก คิดแล้วคิดอีก
เขาถูกท้าทายในหลายบทบาท ที่พันทิปในตอนนั้นก็คาดหวัง สถานีก็คาดหวัง
บทบาทตัวละครต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี จนไร้ความมีชีวิตขีวา
อาจจะมีบางช่วงที่เขาได้รับบทผ่อนคลาย แบบลมซ่อนรักและตามรักคืนใจ
แต่นั่นก็นานไปจนผลงานช่วงหลังของ ณเดชน์ มีการแสดงที่แข็งแรงขึ้น
แต่ตัวละครที่มีชิวิตชีวาน้อยลงไปทุกที จนมันไม่ถึงใจคนดู
จนมาถึง มนต์รักหนองผักกะแยง
ละครเรื่องนี้ พอประกาศออกมาก็สร้างความตื่นเต้นในหลายมิติ
ทั้งมิติแนวละครที่น่าจะมีในสถานี ทั้งการต้องรับนางเอกใหม่
และทำให้คนที่ติดตามอยากรู้ว่าละครเรื่องนี้มันเป็นแบบไหน
แม้สุดท้ายมันก็ยังเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่คนดูคุ้นเคยแต่เปลี่ยนวิถีในเรื่อง
แต่มีตัวละครที่สำคัญคือ เขียว เป็นตัวเดินเรื่องที่จะต่อต้านหรือยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง
เป็นงานละครของผู้ผลิตที่รอคอยนักแสดงคนนี้มาเล่นละครของบริษัท
ไม่นับที่ร่วมงานในภาพยนตร์เกือบ 10 ปี ตามที่เคยถูกวางตัวจากเรื่องรักเกิดในตลาดสด
เรื่องนี้ด้วยความคุ้นเคยกันทำให้ตัวละครเขียว มีสีสัน มีดราม่า มีเรื่องราวมากมาย
และปล่อยให้ ณเดชน์ ใช้ละครเรื่องนี้เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นในงานแสดง
ตัวละครตัวนี้น่ารัก น่าสงสาร และน่าถีบไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
สิ่งที่มีในเรื่องนี้ คือ ให้คนที่ดูเรื่องนี้มีความสุข ที่เห็นตัวละครนี้โลดแล่นไป
และเป็นบทบาทที่น่าจะผ่อนคลายที่สุดของเขา ที่จะได้ทำอะไรสนุก ๆ ให้คนดู
โดยส่วนตัวสิ่งที่เคยคิดกับ ณเดชน์
คืออยากเห็นละครที่เขาได้ผ่อนคลายบ้าง และไม่จำเป็นต้องเป็นละครตลก
หลายคนบอกว่านักแสดงคนนี้ถนัดบทแบบนี้อยู่แล้วก็ตาม ซึ่งโดยส่วนตัวไม่สำคัญ
เพราะสิ่งที่อยากได้คือ ความมีชีวิตชีวาที่เคยมีจากนักแสดงคนนี้กลับมา
ที่มันถูกกลืนไปด้วยบทบาทต่าง ๆ ความคาดหวัง ผลงานที่ต้องมีรางวัล
จนเราแทบจะตัดขาดทั้งในบทบาทในละครและตัวตนของเขา
ใน 3 วันที่ผ่านมาของละครเรื่องนี้ เริ่มรู้สึกเห็นความชีวิตชีวาของเขาแล้ว
ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ตอนที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
และเมื่อละครเรื่องนี้ผ่านไป ก็อาจทำให้เราและเขาสบายใจ
และไม่ต้องคาดหวังและยินดีในสิ่งที่เป็นไปของนักแสดงคนนี้
ในทุกมิติทั้งผลงานการแสดง ชีวิตส่วนตัวและความรักของเขา
เพราะตอนนี้ชีวิตชีวาที่เคยมีมันเริ่มกลับมาแล้ว
3 วัน มนต์รักหนองผักกะแยง ละครที่มีชีวิตชีวาของ ณเดชน์ คูกิมิยะ
ในฐานะที่เป็นเมนของ เตชิต (หมาก ปริญ) ในเรื่องตอนนั้น
แต่ยอมรับว่าตัวละคร นาวา ที่ณเดชน์เล่นแสดงออกมาดี
แม้ตอนนั้นจะไม่พอใจที่คนชอบเอานาวาและเตชิต
มาเปรียบเทียบทั้งบทบาทยันการแสดงจนไหลไปถึงสี่หัวใจแห่งขุนเขา
และใน 4 หัวใจ ณเดชน์ สร้างตัวละครอัคนี (ไอ้ไฟ) ไปอยู่ในใจหลายคน
เพราะตัวละครนี้มีคาแรคเตอร์แข็งแรงและมีเสน่ห์ และคนที่สวมบาททำได้ดี
จนเป็นละครที่มีตัวละครที่ยังอยู่ในใจของคนหลายคน
จากนั้น ณเดชน์ ก็เริ่มเข้าสู่เส้นทางที่เข้มข้นแบบไม่ทันตั้งตัว
เขาเป็นหนูทดลองตัวแรก ๆ ของโลกบันเทิงในยุคอนาลอคตอนปลาย
ที่ถูกทดสอบทั้งความสามารถ และความคาดหวังจากหลายส่วนในหลายบทบาท
มีหลายคนอยากเห็นเขาเล่นบทบาทแบบนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้เต็มไปหมด (กระทู้เก่าในพันทิปมีให้ค้นได้)
หลายบทบาทก็เป็นที่ประทับใจ บางบทบาทก็อาจจะไม่ถึงฝั่งฝัน
และสิ่งที่เริ่มหายไปในผลงานการแสดงของ ณเดชน์ คือความมีชีวิตชีวิา
หลังจากดวงใจอัคนี ผลงานการแสดงณเดชน์ แทบจะเรียกว่าคัดแล้วคัดอีก คิดแล้วคิดอีก
เขาถูกท้าทายในหลายบทบาท ที่พันทิปในตอนนั้นก็คาดหวัง สถานีก็คาดหวัง
บทบาทตัวละครต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี จนไร้ความมีชีวิตขีวา
อาจจะมีบางช่วงที่เขาได้รับบทผ่อนคลาย แบบลมซ่อนรักและตามรักคืนใจ
แต่นั่นก็นานไปจนผลงานช่วงหลังของ ณเดชน์ มีการแสดงที่แข็งแรงขึ้น
แต่ตัวละครที่มีชิวิตชีวาน้อยลงไปทุกที จนมันไม่ถึงใจคนดู
จนมาถึง มนต์รักหนองผักกะแยง
ละครเรื่องนี้ พอประกาศออกมาก็สร้างความตื่นเต้นในหลายมิติ
ทั้งมิติแนวละครที่น่าจะมีในสถานี ทั้งการต้องรับนางเอกใหม่
และทำให้คนที่ติดตามอยากรู้ว่าละครเรื่องนี้มันเป็นแบบไหน
แม้สุดท้ายมันก็ยังเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่คนดูคุ้นเคยแต่เปลี่ยนวิถีในเรื่อง
แต่มีตัวละครที่สำคัญคือ เขียว เป็นตัวเดินเรื่องที่จะต่อต้านหรือยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง
เป็นงานละครของผู้ผลิตที่รอคอยนักแสดงคนนี้มาเล่นละครของบริษัท
ไม่นับที่ร่วมงานในภาพยนตร์เกือบ 10 ปี ตามที่เคยถูกวางตัวจากเรื่องรักเกิดในตลาดสด
เรื่องนี้ด้วยความคุ้นเคยกันทำให้ตัวละครเขียว มีสีสัน มีดราม่า มีเรื่องราวมากมาย
และปล่อยให้ ณเดชน์ ใช้ละครเรื่องนี้เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นในงานแสดง
ตัวละครตัวนี้น่ารัก น่าสงสาร และน่าถีบไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
สิ่งที่มีในเรื่องนี้ คือ ให้คนที่ดูเรื่องนี้มีความสุข ที่เห็นตัวละครนี้โลดแล่นไป
และเป็นบทบาทที่น่าจะผ่อนคลายที่สุดของเขา ที่จะได้ทำอะไรสนุก ๆ ให้คนดู
โดยส่วนตัวสิ่งที่เคยคิดกับ ณเดชน์
คืออยากเห็นละครที่เขาได้ผ่อนคลายบ้าง และไม่จำเป็นต้องเป็นละครตลก
หลายคนบอกว่านักแสดงคนนี้ถนัดบทแบบนี้อยู่แล้วก็ตาม ซึ่งโดยส่วนตัวไม่สำคัญ
เพราะสิ่งที่อยากได้คือ ความมีชีวิตชีวาที่เคยมีจากนักแสดงคนนี้กลับมา
ที่มันถูกกลืนไปด้วยบทบาทต่าง ๆ ความคาดหวัง ผลงานที่ต้องมีรางวัล
จนเราแทบจะตัดขาดทั้งในบทบาทในละครและตัวตนของเขา
ใน 3 วันที่ผ่านมาของละครเรื่องนี้ เริ่มรู้สึกเห็นความชีวิตชีวาของเขาแล้ว
ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหน ก็แล้วแต่ตอนที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
และเมื่อละครเรื่องนี้ผ่านไป ก็อาจทำให้เราและเขาสบายใจ
และไม่ต้องคาดหวังและยินดีในสิ่งที่เป็นไปของนักแสดงคนนี้
ในทุกมิติทั้งผลงานการแสดง ชีวิตส่วนตัวและความรักของเขา
เพราะตอนนี้ชีวิตชีวาที่เคยมีมันเริ่มกลับมาแล้ว