สวัสดีทุกท่านในกลุ่มห้องชายคาอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปนานครับ ตามสัญญาที่ว่าจะกลับมารีวิวเรื่องบ้านต่อให้จบหลังจากที่ภาคแรกได้เล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่ช่วงหาข้อมูลซื้อบ้าน ไปดูบ้านเปรียบเทียบกันหลายโครงการ ทำการจอง กู้แบงค์ จนถึงช่วงต่อเติมหลังคาหน้าและหลังบ้านครับ (หากท่านใดยังไม่ได้อ่าน สามารถกลับไปอ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ https://pantip.com/topic/40473338)

กระทู้นี้จะเล่าถึงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งบ้าน จะพยายามสอดแทรกข้อมูลเท่าที่หาได้ก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าทำไมถึงจัดสินใจเลือกของชิ้นนี้ตามสเปคนี้ครับ และขอออกตัวก่อนว่าผมก็เพิ่งมีบ้านหลังแรก ยังเป็นมือใหม่ ข้อมูลที่หามาได้อาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% แต่ก็พยายามจะเช็คข้อมูลให้ดีก่อนแชร์นะครับ อะไรที่ไม่ชัวร์จะพยายามเขียนบอกในแต่ละกรณีละกันครับ และจะขอไล่เรียงจากสิ่งที่จำเป็นหรือควรทำก่อน ในมุมของการเข้าอยู่บ้าน ไว้เป็นหัวข้อแรกนะครับ และต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า เนื่องจากกาลเวลาล่วงเลยจากช่วงที่ไปหาซื้อของมานานแล้ว สิ่งที่คิดไว้ตอนนั้นว่าจะเขียน หลายๆอย่างมันลืมไปหมดเลยครับ เพราะฉะนั้นการเขียนในรอบนี้อาจจะลงดีเทลได้ไม่ละเอียดมากเหมือนกระทู้ที่แล้ว ต้องขอออภัยจริงๆครับ

ตัวละครหลัก
1. ผู้เขียน - มีความรู้เกี่ยวกับการซื้อ ต่อเติมบ้าน และแต่งบ้าน แทบจะเป็นศูนย์เลยครับ ทำบ้านครั้งนี้ได้รู้ใหม่หมดเลย
2. แฟนผม - (กู้ร่วมกัน) มีพ่อเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด (งานนี้เลยได้พึ่งแฟนเต็มๆ)
3. น้องสาวผม - เป็นเซลล์ขายบ้านของอีกเจ้าหนึ่ง ก็ถือว่ารู้มากกว่าผมครับ
4. แฟนน้อง - น่าจะมือใหม่พอๆกับผมครับ (แต่ขยันหาข้อมูลกว่าผมเยอะ 55+)

ต่อไปเป็นสรุปข้อมูลของที่ซื้อทั้งหมด แบ่งเป็นเรียงลำดับจากสิ่งที่จำมากเป็นที่สุดหรือเร่งด่วนที่สุดก่อน ในมุมของการเข้าไปอยู่บ้านนะครับ

1. เครื่องสูบน้ำ และ ถังพักน้ำ

เนื่องจากระบบน้ำประปาปกติน้ำไหลเบามาก แบบพอใช้งานได้แต่ไหลเอื่อยมาก จากปกติอาบน้ำ 10 นาที จะใช้เวลาเพิ่มเป็น 20 นาที อารมณ์แบบว่าล้างสบู่ไม่หมดซะทีครับ และสามารถใช้ห้องน้ำได้แค่ชั้นล่างเท่านั้น ชั้นบนถึงกับอาบน้ำไม่ได้เลย ยิ่งถ้าเผลอถ่ายหนักที่ชั้นบน หึหึ อาจจะกดชักโครกไม่ลงเลยนะครับ แถมถ้าเป็นช่วงเวลาพีคไทม์ เช่น ตอนเช้าตรู่หรือตอนค่ำซึ่งปกติจะมีการใช้น้ำประปาเยอะ ช่วงนั้นแทบจะอาบน้ำไม่ได้เลยแม้จะอยู่ชั้นล่างครับ ต่อให้เอาฝักบัวลงมาวางที่พื้นน้ำก็แทบไม่ไหลเลย จึงเป็นที่มาว่าปั๊มน้ำกับถังน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นอันดับ 1 สำหรับบ้านผมครับ

หลักการทำงานของเครื่องสูบน้ำและถังพักน้ำ (ต่อไปขอใช้คำว่าปั๊มกับถังนะครับ) ก็คือ เราจะรับน้ำประปาจากระบบปกติมาเก็บใส่ถังให้เต็มอยู่เสมอ เสร็จแล้วปั๊มจะทำหน้าที่ปั๊มน้ำจากถังไปสู่ระบบน้ำภายในบ้านเรารอการใช้งาน เมื่อมีการเปิดน้ำใช้งานจากอุปกรณ์ในภายบ้าน เช่น เปิดน้ำล้างผักในครัว หรือเปิดน้ำอาบจากฝักบัว พอน้ำในระบบบ้านพร่องลง ปั๊มน้ำก็จะทำงานเติมน้ำเข้าไปในระบบเหมือนเดิม และพอน้ำในถังพร่องลง น้ำที่มาจากระบบสาธารณูปโภคแบบปกติก็จะเติมลงถังอีกทอดนั่นเองครับ นอกจากนี้หากน้ำประปาระบบสาธารณูปโภคปกติไม่ไหลชั่งคราว แต่เรายังมีน้ำสำรองอยู่ในถัง เราก็ยังสามารถใช้น้ำจนกว่าในถังนั้นจะหมดครับ

- ถังน้ำ
ขอเริ่มที่ถังน้ำก่อนนะครับ ถังน้ำผลิตจากวัสดุที่นิยมหลักๆ 4 ชนิดคือ
1. สเตนเลส - ข้อดีคือ ไม่เกิดตะไคร่น้ำเพราะทึบแสง เป็น Food grade ทนทานใช้ได้นานหลายสิบปี ข้อเสีย ราคาแพง และหากโดนแดดน้ำจะร้อนมาก
2-3. โพลิเมอร์ทึบแสง (Elixir, Polyethylene) - ข้อดีคือ ไม่เกิดตะไคร่น้ำเพราะทึบแสง เป็น Food grade ทนทานรองลงมา ใช้ได้ 15-20 ปี ราคาระดับกลาง
4. โพลิเมอร์ไม่ทึบแสง (PE) - ข้อดีคือ ราคาถูกกว่าเพื่อนมาก แต่ข้อเสียคือต้องตั้งไว้ในบ้านเท่านั้น หากโดนแดดอาจจะเกิดตะไคร่น้ำได้

สูตรคำนวณในการเลือกซื้อขนาดถังน้ำ คือ 1 คนจะใช้น้ำประมาณ 200 ลิตรต่อวัน หมายถึงว่าหากน้ำประปาไม่ไหลเราควรจะมีน้ำสำรองไว้ใช้ 200 ลิตรต่อคนต่อวันครับ บ้านผมมีสมาชิก 3-4 คน (ผม แฟน แม่ น้องสาว) ก็จะต้องซื้อถังประมาณ 600-800 ลิตรครับ (ผมสืบมาแล้วว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีปัญหาประปาไม่ไหล ถ้ามีก็แค่ช่วงสั้นๆไม่กี่ ชม. แต่ก็น๊านนานครั้งนึงครับ เป็นการปิดเพื่อปรับปรุงระบบน้ำประจำหมู่บ้านมากกว่า) ส่วนยี่ห้อถังน้ำนั้นก็มีให้เลือกมากมาย ยี่ห้อที่นิยมก็จะเป็นพวกๆ DOS WAVE Safe Chang อะไรพวกนี้นะครับ อาจจะต้องเลือกซื้อร้านที่ดูน่าไว้ใจหน่อยครับ (ดูยากอีกนั่นแหละ) เพราะถ้งน้ำมีปลอมบ้างเหมือนกัน อาจจะลองสืบราคาจากหลายๆร้านหากยี่ห้อเดียวกันขนาดเท่ากันแต่ถูกเกินไปก็แนะนำให้เลี่ยงครับ

รูป - ตัวอย่างถังน้ำยี่ห้อต่างๆ

รูปจาก: shorturl.at/hipqS

- ปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำมัน 2 ชนิดคือ
(1) แบบถังความดัน จะมีราคาถูก แต่แรงดันจะไม่สม่ำเสมอ โดยที่แรงดันช่วงแรกจะดี และค่อยๆลดลงเรื่อยๆพอถึงรอบปั๊มใหม่ก็จะแรงใหม่และค่อยๆลดลงเรื่อยๆครับ
(2) แบบแรงดันคงที่ ราคาจะแพงกว่านิด แต่ได้แรงดันที่ (เกือบ) คงที่ครับ ผมขอโฟกัสไปที่แบบที่ 2 นี้นะครับ

เท่าที่หาข้อมูลพบว่า ปั๊มน้ำส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องเสียงดัง หากมีการอาบน้ำตอนดึกๆ ชาวบ้านจะรู้กันทั้งซอยเลยว่าบ้านนี้อาบน้ำครับ หากวางปั๊มไว้นอกบ้านนะครับ ผมเลยพยายามหาข้อมูลปั๊มน้ำที่เสียงเงียบๆหน่อย พอดีไปซื้อของอย่างอื่นที่โฮมโปรพนักงานเลยพาไปชมการทำงานของปั๊ม Hitachi รุ่น XX Series ซึ่งเงียบมากจริงๆครับ เสียงน้ำที่ไหลจ๊อกๆลงจากฝักบัวลงไปยังภาชนะด้านล่างยังดังกว่า ประทับใจครับ

สำหรับการเลือกซื้อปั๊มน้ำมีข้อแนะนำคือ หากเป็นบ้าน 2 ชั้น 2 ห้องน้ำแบบผม ร้านแนะนำว่าควรใช้ปั๊มน้ำประมาณ 200-250 วัตต์ หากใช้วัตต์ต่ำๆแบบ 150 วัตต์ อาจเกิดปัญหาน้ำแรงดรอบลงหากเปิดใช้น้ำพร้อมกัน 2 จุด (แต่ ณ ตอนนั้น ไม่มีร้านไหนบอกว่าใช้ปั๊มน้ำแรงเกิน 250 วัตต์จะมีปัญหาอะไรไหม)
 
สเตปต่อมาเลยคิดว่าไปหาร้านมาติดตั้งที่มีพร้อมทั้งปั๊ม ถัง และติดตั้งให้เลยดีกว่า หลายๆร้านแนะนำยี่ห้อ Hitachi (ญี่ปุ่น) กับ Kikawa (ไต้หวัน) เพราะ Mitsubishi จะมีปัญหาเรื่องเสียงดัง บางร้านแนะนำแต่ Kikawa เลยด้วยซ้ำครับ ไม่รู้เพราะมันดีจริงๆหรือว่าส่วนต่างได้เยอะนะครับ ด้วยความที่เวลาตัดสินใจมีไม่มาก พอไปถึงหน้าร้านจริง มีตัวเลือกอยู่ 2 ตัวคือ
1. Hitachi XX Series 300 วัตต์ ราคา 8,000 บาท
2. Kikawa 400 วัตต์ ราคา 7,500 บาท

รูป - ปั๊มน้ำ Hitachi XX Series 150 วัตต์ จากโฮมโปร (ถ้าจำไม่ผิด) และปั๊มน้ำ Kikawa


ทางร้านแนะนำว่า Kikawa ค่อนข้างนิยม อะไหล่ซ่อมถูกและหาง่าย ด้วยความที่เวลาตัดสินใจน้อยเลยหลับตาจิ้มมาเป็น Kikawa ครับ ส่วนถังน้ำร้านเลือกถังน้ำยี่ห้อ Safe แบบทึบแสง (กันตะไคร่น้ำและแบคทีเรีย) ร้านแนะนำ 1000 ลิตร แต่ผมดื้อเอาแค่ 750 ลิตรครับ ราคา 3,300 บาท พาช่างมาดูบ้านที่ตอนนี้กำลังต่อเติมเค้าเตอร์ครัว ช่าง (เจ้าของร้าน) ประเมินแล้วว่าไม่ต้องเจาะพื้นเพื่อฝังท่อน้ำ (แต่แฟนผมบอกผมว่ายังไงก็ต้องเจาะแต่ก็ไม่ได้เถียงช่าง) ก็คิดตามราคาปกติคือค่าติดตั้ง 3,000 บาท รวมทั้งสิ้นสำหรับบ้านผมจะตก 13,800 บาท (ตรงนี้แนะนำว่าหากจะติดปั๊มและถังน้ำ ให้ท่านลองถามช่างประจำโครงการก่อนว่ารับทำไหม เพราะผมเพิ่งทราบจากเพื่อนบ้านภายหลังว่าช่างโครงการคิดค่าติดตั้งแค่ 1,800 บาทเองครับ โดยที่เราซื้อปั๊มกับถังมาเอง ท่อข้อต่อช่างหามาให้เอง รู้สึกเสียดายมากที่ไม่เช็คก่อน)

ปัญหามันมาเกิดขึ้นตอนที่ช่างมาติดตั้งจริงครับ ก่อนหน้าช่างแจ้งว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แต่พอมาหน้างาน ช่าง (ลูกน้อง) มาดูแล้วบอกว่าวางท่อไม่ได้ ต้องเจาะ โทรปรึกษากับช่าง (เจ้าของร้าน) สุดท้ายก็แจ้งว่าต้องเจาะครับ ณ ตอนนั้นไม่ได้แจ้งว่าจะคิดค่าแรงเพิ่มเท่าไร แต่อีกผลกระทบคือ ช่างที่มาต่อเติมบ้านไม่สามารถทำงานได้ ต้องนั่งว่างๆรอให้ช่างติดตั้งปั๊มน้ำทำงานไปค่อนวันเสร็จเอาบ่าย 2 คนงานจึงสามารถทำเค้าเตอร์ต่อได้ และก็ไม่มีการเก็บกวาดงานอะไรเลย ทำเสร็จแล้วปล่อยให้ช่างต่อเติมบ้านเก็บกวาดเอาเองครับ

รูป - งานเจาะพื้นเพื่อวางท่อ ส่วนหนึ่งในงานติดตั้งปั๊มน้ำและถังน้ำบ้านผม

ส่วนงานติดตั้งอีกหลังเป็นบ้านของน้องผม ใช้อุปกรณ์เดียวกันเป๊ะ แต่บ้านน้องยังไม่ได้ต่อเติมเลยไม่ต้องเจาะ งานค่อนข้างเรียบง่ายกว่าครับ แต่ก็ยังเดินท่อลอยๆไว้ จะชมว่างานสวยก็เหมือนสวยไม่เสร็จ ดีนะที่หลังจากนั้นช่างต่อเติมบ้านเอาขอบบัวมาครอบให้ดูเรียบร้อยครับ

รูป - งานติดตั้งปั๊มน้ำและถังน้ำบ้านน้อง (ยังไม่ได้ครอบขอบบัว)


หลังจากติดตั้งเรียบร้อย บ้านน้องคิดราคาตามที่แจ้ง แต่บ้านผมเนื่องจากมีงานเจาะพื้นเพื่อวางท่อเพิ่ม จึงคิดเพิ่มจาก 3,000 เป็น 4,500 ก็คือคิดค่าเจาะพื้น ประมาณ 5-6 เมตร 1,500 ครับ ถามช่างต่อเติมบ้านที่เป็นญาติกันว่าราคานี้ปกติไหม เขาบอกว่าปกติเค้าคิดกันเมตรละ 100 เท่านั้นแหละ ผมนี่เงินเลย ต่อไปใครจะติดตั้งปั๊มและถังน้ำ ร้านนี้ผมจะแนะนำเลยครับ แนะนำเลย ว่าอย่าเอา 55+

รีวิวหลังจากการใช้งานปั๊มและถังนะครับ หลังใช้งานมา 4 เดือน ปั๊มเสียงเงียบดีจริงๆ แต่ตอนใหม่ๆจะเงียบมาก หลังผ่านไปสัก 1-2 สัปดาห์มีเสียงขึ้นมาหน่อย แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ดังขึ้นครับ ยังถือว่าเงียบถูกใจอยู่ครับ ส่วนเรื่องกำลังวัตต์ที่เลือกมาตั้ง 400 วัตต์ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวไหม รู้สึกว่ามันแรงเกินไป มีสายยางรั่วตรงขอบยางหัวฉีด สายยางหลุดบ่อยทั้งๆที่พยายามไขแน่นมาก และมีพี่อีกบ้านบอกว่า พี่เขาที่เป็นช่างก็บอก ถ้าใช้แรงดันน้ำแรงเกินไป หัวที่ฉีดก้นในห้องน้ำจะพังไว แต่ใช้มาถึงตอนนี้ของผผมและของบ้านน้องก็ยังไม่เสียครับ ส่วนถังมีช่วงหนึ่งที่มีประกาศน้ำประปาจะหยุดไหล 1 วัน อาจจะด้วยความที่พยายามใช้น้ำประหยัดด้วย ก็เลยไม่ถึงกับใช้จนหมดครับ แต่เหลือเท่าไรของถังไม่ทราบนะครับ

2. เครื่องปรับอากาศ

อาจจะมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยมากกว่าเรื่องจำเป็น แต่ผมให้เหตุผลแบบนี้นะครับ หากซื้อบ้านใหม่และยังไม่ได้ติดมุ้งลวด (กว่าจะติดได้ต้องให้ร้านมาวัด และกลับไปสร้างมุ้งตามขนาดและกลับมาติดให้ รวมรอคิวว่างตรงกันอาจจะรอนานถึง 1-2 สัปดาห์ครับ) บ้านไม่เหมือนคอนโดชั้นสูงๆที่สามารถเปิดหน้าต่างรับลมนอนได้ ยุงเข้าบ้านเพียบเลย หากไม่มีแอร์แปลว่าต้องยิมปิดประตูหน้าต่างนอน หากมีพัดลมก็พอบรรเทาความร้อนได้ แต่การนอนหายใจในที่ๆอากาศไม่ถ่ายเท 8 ชม. คาร์บอนไดออกไซด์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และออกซิเจนก็น้อยลงเรื่อยๆครับ อาจไม่ถึงตายแต่ก็มีผลต่อสุขภาพไม่มากก็น้อยครับ ผมเลยขอแนะนำติดแอร์ก่อนอยู่จะดีที่สุดครับ

ผมได้แอร์ฟรีจากโครงการจำนวน 3 ตัว เป็นยี่ห้อ Panasonic 12,000 BTU 1 ตัว และ 9,000 BTU 2 ตัว จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่มาก่อนบอกว่าตัว 12,000 เพียงพอสำหรับห้องนอนห้องใหญ่ เลยนำตัวนี้ไปติดห้องนอนใหญ่ และอีก 2 ตัวติดห้องนอนเล็กกับห้องรับแขก (แพลนว่าจะหาฉากกั้นมาติดตรงห้องรับแขกเพื่อประหยัดแอร์อีกที) โดยมีซับของซับคอนแทคของโครงการมาติดตั้งให้ครับ หลังจากติดแล้วก็ถือว่าคิดถูกครับ ติดได้ถูกที่ ได้ใช้งานจริง และขนาด BTU เหมาะสมครับ