สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงส่วนนี้ระบายความในใจหน่อยนะค่ะ
เราเองเป็นคนต่างจังหวัดที่สอบและได้บรรจุทำงานราชการของหน่วยงานหนึ่งและไม่สามารถเลือกที่ลงใกล้ๆบ้านได้ก็ต้องจำใจทำงานที่ กทม. (ต้องฝืนใจมากๆ) โดยส่วนตัว พ่อแม่เสียหมดแล้ว ปัจจุบันอยู่กับครอบครัวของแฟน เราเพิ่งจบ ปวส และได้พ่อแม่แฟนส่งให้เรียนต่อปริญญาตรีซึ่งเราก็เรียนไปด้วยกันกับแฟนแต่ว่าเพราะด้วยพ่อแม่แฟนอยากให้เรามีงานทำเราเลยสอบงานราชการให้แต่คิดว่าถ้าสอบได้คงไม่มีปัญหาเรื่องเรียนน่าจะโอนย้ายได้ เราสอบบรรจุได้ก่อนแฟน แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังสักอย่าง คิดว่าจะได้บรรจุใกล้บ้านจะได้เรียนด้วยทำงานด้วย แต่ทุกอย่างแย่หมด ไม่โอเคตั้งแต่เลือกที่บรรจุแต่สงสารพ่อแม่แฟนที่ท่านส่งเสียให้มาสอบค่าใช้จ่ายท่านออกให้หมด ท่านภูมิใจที่เราสอบบรรจุให้ท่านได้ ไปพูดคุยกับคนอื่นได้เต็มปากว่าเราสอบบรรจุได้ แต่ทุกสิ่งมันไม่ได้เป็นดั่งที่คิด ตอนแรกคิดว่าหน่วยงานนี้คงดีแต่ไม่เลย งานหนักเราไม่เกี่ยงเลยแต่นี่หนักใจกับคนมากๆ เราได้บรรจุพร้อมกันกับคนเก่าที่เขาเคยเป็นลูกจ้างที่นั้นมาก่อนและต้องทำงานด้วยกัน เรารู้ว่าเขาไม่ชอบเราตั้งแต่ต้น แต่เราก็คิดแค่ว่าไปทำงานเย็นก็กลับห้องแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันทำให้เราไม่มีความสุขกับงาน หน้าที่ก็ไม่ชัดเจน หัวหน้าก็เห็นดีเห็นงามกับคนๆนั้นกดดันเราทุกอย่างที่ทำได้ เรากลับมาร้องไห้ที่ห้องกับแฟนทุกวันจนแฟนเราก็เครียดไปตามๆกัน ตอนนี้เราทำงานมาจะเกือบเดือนแล้วต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกข์ใจทุกวันร้องไห้ทุกวันเครียดกินข้าวไม่ได้ เป็นไมเกรนต้องกินยาทุกวัน อยากกลับบ้านมาก ค่าครองชีพก็สูง ค่าใช้จ่ายไม่พอก็ต้องให้พ่อแม่แฟนส่งมาให้อีก (สงสารท่าน)
เราคิดว่าเราจะขอลาออกเพื่อกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อจะได้สอบบรรจุที่ใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เราได้สมัครสอบของหน่วยงานอื่นไว้และถ้าสอบได้ก็ได้ทำงานใกล้บ้าน ได้สานต่อเรื่องเรียนด้วย คุยกับพ่อแม่แฟนแล้วนะเรื่องบรรจุที่ใหม่แกก็โอเคกับเราด้วยเพราะแกก็เห็นว่าเราทุกข์ใจมากกับสิ่งที่เจออยู่ทุกวัน แต่ไม่กล้าบอกเรื่องอยากขอลาออก ก็เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆนะค่ะว่าถ้าเกิดเราจะขอลาออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลยเพื่อจะได้กลับบ้านไปตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเพื่อสอบบรรจุที่ใหม่ตามที่พูดไว้กับพ่อแม่แฟน มันจะดีกว่ามั้ยคะกับการที่ต้องทนฝืนใจตัวเองอยู่ทุกวันตอนนี้ เราเองกลับห้องมาใช่ว่าจะไม่อ่านนะค่ะ แต่ทุกครั้งที่อ่านมันไม่เข้าหัวเลยมีแต่ความทุกข์ใจมากๆ ไม่รู้จะฝืนไ้ด้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้อยากกลับไปตั้งหลักใหม่มากๆค่ะ😥 แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังงัยเรื่องลาออกกับพ่อแม่แฟน
ใครพอจะมีแนวคิดหรือแนวทางอะไรช่วยแนะนำกันหน่อยนะค่ะ ทุกข์ใจจริงๆค่ะตอนนี้
อยากลาออกจากงานราชการ
เราเองเป็นคนต่างจังหวัดที่สอบและได้บรรจุทำงานราชการของหน่วยงานหนึ่งและไม่สามารถเลือกที่ลงใกล้ๆบ้านได้ก็ต้องจำใจทำงานที่ กทม. (ต้องฝืนใจมากๆ) โดยส่วนตัว พ่อแม่เสียหมดแล้ว ปัจจุบันอยู่กับครอบครัวของแฟน เราเพิ่งจบ ปวส และได้พ่อแม่แฟนส่งให้เรียนต่อปริญญาตรีซึ่งเราก็เรียนไปด้วยกันกับแฟนแต่ว่าเพราะด้วยพ่อแม่แฟนอยากให้เรามีงานทำเราเลยสอบงานราชการให้แต่คิดว่าถ้าสอบได้คงไม่มีปัญหาเรื่องเรียนน่าจะโอนย้ายได้ เราสอบบรรจุได้ก่อนแฟน แต่สุดท้ายมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังสักอย่าง คิดว่าจะได้บรรจุใกล้บ้านจะได้เรียนด้วยทำงานด้วย แต่ทุกอย่างแย่หมด ไม่โอเคตั้งแต่เลือกที่บรรจุแต่สงสารพ่อแม่แฟนที่ท่านส่งเสียให้มาสอบค่าใช้จ่ายท่านออกให้หมด ท่านภูมิใจที่เราสอบบรรจุให้ท่านได้ ไปพูดคุยกับคนอื่นได้เต็มปากว่าเราสอบบรรจุได้ แต่ทุกสิ่งมันไม่ได้เป็นดั่งที่คิด ตอนแรกคิดว่าหน่วยงานนี้คงดีแต่ไม่เลย งานหนักเราไม่เกี่ยงเลยแต่นี่หนักใจกับคนมากๆ เราได้บรรจุพร้อมกันกับคนเก่าที่เขาเคยเป็นลูกจ้างที่นั้นมาก่อนและต้องทำงานด้วยกัน เรารู้ว่าเขาไม่ชอบเราตั้งแต่ต้น แต่เราก็คิดแค่ว่าไปทำงานเย็นก็กลับห้องแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันทำให้เราไม่มีความสุขกับงาน หน้าที่ก็ไม่ชัดเจน หัวหน้าก็เห็นดีเห็นงามกับคนๆนั้นกดดันเราทุกอย่างที่ทำได้ เรากลับมาร้องไห้ที่ห้องกับแฟนทุกวันจนแฟนเราก็เครียดไปตามๆกัน ตอนนี้เราทำงานมาจะเกือบเดือนแล้วต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกข์ใจทุกวันร้องไห้ทุกวันเครียดกินข้าวไม่ได้ เป็นไมเกรนต้องกินยาทุกวัน อยากกลับบ้านมาก ค่าครองชีพก็สูง ค่าใช้จ่ายไม่พอก็ต้องให้พ่อแม่แฟนส่งมาให้อีก (สงสารท่าน)
เราคิดว่าเราจะขอลาออกเพื่อกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อจะได้สอบบรรจุที่ใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เราได้สมัครสอบของหน่วยงานอื่นไว้และถ้าสอบได้ก็ได้ทำงานใกล้บ้าน ได้สานต่อเรื่องเรียนด้วย คุยกับพ่อแม่แฟนแล้วนะเรื่องบรรจุที่ใหม่แกก็โอเคกับเราด้วยเพราะแกก็เห็นว่าเราทุกข์ใจมากกับสิ่งที่เจออยู่ทุกวัน แต่ไม่กล้าบอกเรื่องอยากขอลาออก ก็เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆนะค่ะว่าถ้าเกิดเราจะขอลาออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลยเพื่อจะได้กลับบ้านไปตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเพื่อสอบบรรจุที่ใหม่ตามที่พูดไว้กับพ่อแม่แฟน มันจะดีกว่ามั้ยคะกับการที่ต้องทนฝืนใจตัวเองอยู่ทุกวันตอนนี้ เราเองกลับห้องมาใช่ว่าจะไม่อ่านนะค่ะ แต่ทุกครั้งที่อ่านมันไม่เข้าหัวเลยมีแต่ความทุกข์ใจมากๆ ไม่รู้จะฝืนไ้ด้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้อยากกลับไปตั้งหลักใหม่มากๆค่ะ😥 แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังงัยเรื่องลาออกกับพ่อแม่แฟน
ใครพอจะมีแนวคิดหรือแนวทางอะไรช่วยแนะนำกันหน่อยนะค่ะ ทุกข์ใจจริงๆค่ะตอนนี้