เรื่องสั้น : ลังเล

กระทู้สนทนา



                  เรื่องสั้น “ลังเล” เป็นส่วนหนึ่งของเกมชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่องค่ะ เป็นสำนวนและภาษาของบอสเอง ใครที่มีจิตใจดี มีศิลธรรมสูงไม่ควรอ่านค่ะ
***********************************************

                 ตั้งแต่พารถคู่ใจล้มคราวก่อนวารินทร์ก็ลังเลมาโดยตลอดว่า จะขับรถไปทำงานเองหรือนั่งวินไปดี สุดท้ายความเข็ดขยาดก็มีมากกว่าความประหยัด ซึ่งทุก ๆ วันวารินทร์ต้องจ่ายค่าวินไปกลับถึงวันละหกสิบบาท พนักงานต๊อกต๋อย เงินเดือนหมื่นต้น ๆ แบบเธอต้องประคับประคองตัวเองให้ถึงที่สุด

                    พอนึกถึงเรื่องนี้ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ช่างมันเถอะ ความปลอดภัยต้องมาก่อน พอคิดได้แบบนี้เธอก็ก้าวขาออกจากอพาร์ตเมนต์ เพื่อไปเรียกวินนั่งไปทำงาน

                     เป็นแบบนี้มาเกือบเดือนได้ วารินทร์นั่งวินไปทำงาน เพราะลูกระนาดแท้ ๆ ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ ดีที่ล้มในซอยไม่ใช่ถนนใหญ่มีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะแยะ ดีที่เป็นแค่ซอยเข้าหอพักจึงไม่เจ็บตัวมาก แค่ช้ำและถลอกนิดหน่อย โชคดีสองต่อคือวันนั้นใส่ชุดกางเกงไปทำงาน ถ้าเป็นกระโปรงคงเจ็บตัวมากกว่านี้

                  อันที่จริงจะว่าเข็ดก็ไม่เท่าไหร่ เพราะความห่วงใยของแฟนวารินทร์จึงไม่อยากขัดคำสั่ง นั่งวินไปทำงานตามคำสั่งของเขาเพื่อความสบายใจ

                    ขากลับก็นั่งวินกลับอยู่อย่างนั้น ระยะเวลาเกือบเดือนทำให้วารินทร์กับวินคนหนึ่งสนิทกันมากกว่าที่ควรจะเป็น เป็นวินหน้าที่ทำงานของเธอเอง ปกติรู้จักกันอยู่แล้วเพราะที่ทำงานใกล้กันนี่แหละ  พึ่งจะมาคุยกันและใช้บริการก็ช่วงนี้

                   “ลุงซอย 45 ไปเลยจ้า” วารินทร์บอกพิกัดอพาร์ตเมนต์ให้วินวัยหกสิบคนหนึ่ง หน้าตาเกลี้ยงเกลาสดใสไม่เหมือนคนวัยหกสิบเลย วารินทร์แอบสงสัยว่าแก่แล้วทำไมยังต้องมาขับวินอีก ทำไมไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้านเลี้ยงหลาน ก็แค่สงสัยไม่คิดที่จะถามอยู่แล้ว

                     “โอเคหลาน !” แล้ววินก็พาเธอขับออกไป วินคนอื่น ๆ มองตาม เธอแอบสงสัยในบางครั้งว่า ตอนเลิกงานเธอแค่เรียกวินไปส่งทำไมต้องมองกันขนาดนั้น และเธอก็ไม่เคยสงสัยเลยว่าทุก ๆ วันหลังเลิกงานเรียกวินกลับบ้าน จะเป็นลุงวินคนนี้เสมอ ๆ ที่มารับ ไม่เอะใจและไม่คิดสงสัยอะไรเลย

                  ระยะเวลาเกือบเดือนทำให้วารินทร์กับลุงวินสนิทกัน สนิทแบบลูกค้าขาประจำ วารินทร์ไม่เคยถามชื่อลุงวินคนนี้เลยว่าชื่ออะไร มีข้อผิดสังเกตอยู่อีกเรื่องคือ ทุกเช้าที่วารินทร์นั่งวินมาจากอพาร์ตเมนต์ ลุงวินคนนี้จะมองด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจ ฟึดฟัดพิกล และตอนเลิกงานก็จะมารอที่หน้าตึกเลย วารินทร์ก็ไม่ได้เอะใจมากมาย เพราะชีวิตการทำงานแต่ละวันก็ชวนปวดหัวมากพออยู่แล้ว จึงไม่อยากเก็บอะไรที่ไม่สำคัญมาใส่ใจนัก เรื่องวินคนนี้ก็เหมือนกัน

                “ลุงวันนี้ไม่ต้องไปส่งหนูที่อพาร์ตเมนต์นา หนูจะลงตลาดข้างเซนทรัลเนี่ย พอดีแฟนอยากกินยำอ่ะ” วารินทร์บอกพิกัดให้ลุงวินมาส่งในวันนี้

                 “ให้ลุงรอมั้ยหลาน ลุงรอได้นา “ ลุงวินบอก วารินทร์ทำหน้าฉงน สงสัยว่าลุงวินจะไม่เสียเวลาเหรอ

                    “แน่นะลุง ! ไม่ไปวิ่งวินต่อเหรอ” วารินทร์พูดและยิ้มให้ “หนูเดินนานนะ”

                 “ไม่เป็นไร ! เดินตามสบายเลย เดี๋ยวลุงรออยู่ตรงนี้แหละ ! อีกอย่างลุงจะกลับแล้วไม่ได้ไปวิ่งต่อ”

                  “ก็ได้ค่ะ งั้นหนูขอไปซื้อยำแป๊บนึงนะ” พูดจบวารินทร์ก็รีบเดินหายเข้าไปในตลาด เป็นตลาดเปิดท้ายข้างห้างเซ็นทรัล วารินทร์นึกตลกที่ลุงวินอยากรอตน เคยแอบคิดว่าลุงวินคนนี้ชอบเธอหรือเปล่า แค่คิดก็ขนลุก ! สเปกเธอไม่ใช่แบบนั้น

                   ลุงวินก็รู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว เคยเห็นก็บ่อย บางวันแฟนของเธอก็มาส่งทำงาน ไม่น่าจะคิดไปในเรื่องชู้สาว อีกอย่างในความรู้สึกนึกคิดของเธอ มองลุงวินคนนี้เป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ชื่นชมที่หกสิบกว่าแล้วยังมาทำงาน ไม่ได้อยู่เป็นภาระของลูก ๆ

                  ลุงวินเคยบอกกับเธอว่าอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ตังค์ มาขับวินยังพอได้ใช้ไปวัน ๆ ทำให้เธออดยิ้มและชื่นชมไม่ได้เลยทุกทีที่ลุงวินเล่าให้ฟัง ระหว่างนั่งรถกลับบ้านลุงวินชอบเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟัง อวดลูก ๆ บ้าง ว่าได้ทำงานดี ๆ กันหมด ก็ยิ่งทำให้เธอชื่นชมไปอีก ลุงเลี้ยงลูกอบรมสั่งสอนดี ไม่เคยแม้แต่จะคิดเป็นอย่างอื่นไปเลยนอกจากวินคนหนึ่งและคนรู้จักคนหนึ่งเท่านั้น เท่านั้นจริง ๆ

                วารินทร์คิดเรื่องลุงวินก่อนจะสลัดทิ้งแล้วเดินเลือกซื้อของกิน ถ้าแกรอจริง ๆ นะ สุดยอดมาก ! แปลว่าแกอาจจะคิดอะไรกับตัวเองจริงก็ได้ วารินทร์ห้ามความคิดของใครไม่ได้ แค่ตัวเองรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ก็พอ ระหว่างเดินเจอร้านยำพอดี วารินทร์ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเอายำอะไรดี ลังเลเลือกอยู่นานระหว่างยำลูกชิ้นกับยำขาไก่ ยืนคิดจ้ำจี้มะเขือเปราะแปะในใจก่อนจะตัดสินใจซื้อไปทั้งสองอย่างเลยก็แล้วกัน

                    พอได้ยำมาแล้ววารินทร์จึงรีบกลับ เดินมาดูว่าลุงวินยังรออยู่ไหม ผลปรากฏว่าลุงวินรอเธอจริง ๆ ด้วย หรือว่าลุงวินจะแอบชอบเธอจริง ๆ ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ภายในใจ

                “อ้าวลุง ! ยังรอหนูอีกเหรอ “ ทันทีที่มาถึงก็ทักทายปกติ

                  “รอสิ ! เสร็จยัง กลับได้ยังซอย 45 น่ะ”

                   “กลับได้แล้วค่า ไปโลด” วารินทร์ขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซค์ลุงวิน สวมหมวกกันน็อกเรียบร้อย จากนั้นลุงวินก็ไปส่งถึงที่

                   “ตอนเช้าให้ลุงขับไปรับมั้ย”

                  “ไม่เป็นไรค่า หนูนั่งวินหน้าหอมาได้ เสียเวลาลุงเปล่า ๆ บ้านลุงอยู่ฝั่งทางนี้นะ”

                   “โอเคเอางั้นก็ได้ วันนี้ลุงคิดเท่าเดิมจ้ะ 30 บาท “

                   “ขอบคุณค่า” วารินทร์กล่าวขอบคุณ

                    วันเวลาผ่านไป วารินทร์ก็ยังนั่งวินไปทำงานทุกวัน แม้จะยืนยันกับแฟนว่าขับรถได้ จะระมัดระวังกว่าเดิมก็ไม่เป็นผล จำใจนั่งวินต่อไป หลัง ๆ มาวารินทร์รู้สึกไม่ชอบมาพากลแปลก ๆ กับลุงวิน

                     เนื่องจากมีวินหลายคนพูดเข้าหูว่า ลุงวินชมเธอว่าสวยบ้าง น่ารักอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง และที่สำคัญทุก ๆ มื้อเที่ยงลุงวินจะซื้อกับข้าวมาฝากเธอเสมอ อีกทั้งรู้สึกแปลก ๆ ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ลุงวินทำ ซื้อข้าวซื้อขนมมาให้เธอทำไม แต่ก็ต้องรับไว้เพื่อถนอมน้ำใจซึ่งกันและกัน พอรับมาแล้วก็นำไปฝากเพื่อน ๆ ที่ทำงานทาน พูดถึงก็สบายไปอีก ประหยัดตังค์แถมเพื่อนร่วมงานได้อิ่มด้วย

                     ทุก ๆ เย็นหลังเลิกงาน ลุงวินก็จะมารอที่หน้าตึกก่อนแล้ว เป็นที่คุ้นตาของคนละแวกนี้ และในช่วงเช้าลุงวินก็จะมองค้อนให้เธอเมื่อเห็นเธอนั่งวินมากับคนอื่น เป็นแบบนี้ประจำทำให้เธอแอบอดคิดไม่ได้ว่าลุงวินชอบเธอจริง

                       สุดท้ายความสัมพันธ์ของเธอกับลุงวินก็ขาดสะบั้น ไม่รู้เพราะความสนิทหรือเพราะอะไรทำให้ลุงวินทำแบบนั้น ซึ่งเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก เป็นแค่วินรับส่งโดยสารไม่ควรจะทำแบบนี้กับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะคนไหน ๆ ก็ตาม การกระทำของลุงวินทำให้เธอโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกอย่างเธอคิดว่าลุงวินชอบเธออยู่แล้วด้วย พอลุงวินทำแบบจึงทำให้เธอหมดความศรัทธาไปเลย

                     วันนี้กางเกงของเธอมันดันมีเส้นผมของเธอติดมาด้วยที่ขา หลังเลิกงานลุงวินก็มารอรับปกติ ทว่าเมื่อลุงวินเห็นเส้นผมมันติดที่ขากางเกงของเธอ ตรงต้นขาจึงใช้มือปัดเส้นผมออกให้ “เฮ้ยลุงทำอะไรอ่ะ เอามือมาปัดขาหนูทำไม”

                  “ก็ลุงเห็นเส้นผมมันติดที่ขากางเกงหลาน ลุงก็เลยจะปัดออกให้”

                  “ไม่ต้อง ! “ วารินทร์ไม่พอใจมาก ทว่าก็เก็บอาการเอาไว้ ทนนั่งรถไปกับลุงวินจนถึงอพาร์ตเมนต์ พรุ่งนี้เธอตัดสินใจอย่างไม่ต้องลังเลแล้วว่าจะขับรถมาทำงานเองเหมือนเดิม ไม่อยากนั่งวินกับวินคนนี้อีกต่อไปแล้ว ละลาบละล้วงเก่ง !

                   วารินทร์เล่าให้แฟนฟังเขาก็ไม่ขัด ยอมให้ขับรถมาทำงานเช่นเดิม ด้วยความที่ไม่ชอบใจลุงวินแล้วนั่นแหละ จึงยอมให้ขับรถมาทำงานตามเดิม และสั่งว่าไม่ต้องรับอะไรอีก เป็นคำสั่งเด็ดขาด ถึงไม่เด็ดขาดจากนี้ไปวารินทร์ก็คงไม่รับของจากลุงวินอีกแล้ว เพื่อกันการคิดไปไกลของลุงวินนั่นเอง

                    หลังจากที่เธอนำรถมาทำงานเอง ลุงวินก็ไม่ได้มารับอีก ทว่าเที่ยวแอบชะเง้อมองเธอทุกวัน ซื้อข้าวซื้อขนมมาให้เธอทุกวัน ถึงแม้ว่าเธอจะปฏิเสธทุกวันก็ตาม ลุงวินยังยัดเยียดเสมอ พอลุงวินซื้อมาเธอก็นำไปแจกคนอื่นตนเองไม่กิน ไม่แตะต้องเลย

                   “วาพี่ว่าชัวร์ว่ะ ตาลุงวินคนนั้นชอบแกชัวร์ “ ผู้จัดการของเธอเดินเข้ามาคุยด้วย สายตาจับจ้องไปที่วินฝั่งตรงข้าม

                    “วารู้ตั้งนานแล้วพี่ ! เฮ้อ ! คิดไปได้นะคนเรา “ วารินทร์ถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธที่ลุงวินชอบเธอ ทว่าก็ไม่ได้เอาด้วยหรอก ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดเลย

                   “มีลูกมีเมียมั้ย” ผู้จัดการของเธอถามด้วยความอยากรู้

                    “มีค่ะ แกชอบเล่าให้ฟังทุกวัน ชอบอวดลูกเหมือนพี่อ็อดนั่นล่ะ รายนั้นก็อวดเก่งเหลือเกิน” วารินทร์พูดกลั้วหัวเราะถึงหัวหน้า “ลุงวินเค้าก็แค่เล่าให้ฟังเฉย ๆ “

                    “เอ้า โอปป้าอ็อดเด้ บ่จักบ่ “

                   “ก็เพราะหล่อไงถึงให้อภัย อวดลูกอวดมาเถอะจะนั่งฟังทั้งวันเลย แต่รำคาญนิด ๆ นะพี่ ฮา” พวกเธอนินทาลุงวินอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนมานินทาหัวหน้าแทน ทว่าสายตาก็ยังจับจ้องไปที่วิน และลุงวินก็มองมาที่พวกเธอ

                 และแล้ววันที่ทุกอย่างต้องจบสิ้นลงก็มาถึง เมื่อวารินทร์ตัดสินใจลาออกจากงานโดยไม่ต้องลังเล

                    วันนี้รู้สึกขี้เกียจขับรถแปลก ๆ จึงเรียกวินหน้าหอให้ไปส่งที่ทำงาน ลุงวินก็เห็นว่าเธอนั่งวินมา ทว่าเธอก็ไม่ใส่ใจ คุยกับผู้จัดการไว้แล้วว่าถ้าเกิดลุงวินมารอรับเธอจะขอให้ผู้จัดการไปส่ง ถ้าเป็นวินคนอื่นก็ไม่ต้อง จนมาถึงเวลาเลิกงาน ผิดคาด ! ลุงวินไม่มารอเธอ วารินทร์ยิ้ม ! ดีเสียอีกโล่งใจกลัวว่าลุงวินจะมารอเหมือนเดิม แต่ก็ไม่เห็นคงไปส่งผู้โดยสารคนอื่น วารินทร์จึงเรียกวินคันอื่นให้ไปส่งกลับห้อง

                    หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ผ่านไปปกติ ด้วยความที่วินอยู่หน้าที่ทำงานของเธอพอดี จึงทำให้พอจำหน้าได้เกือบทุกคน วารินทร์ไม่เห็นลุงวินมาสองสามวันแล้ว ส่วนวินคนที่ไปส่งเธอวันนั้นก็ไม่เห็น วารินทร์แปลกใจอยู่ในทีแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนมาถามหาเธอ

                   “คนไหนชื่อวารินทร์คะ” มีผู้หญิงวัยกลางคนมาถามหาเธอ ประเมินด้วยสายตาคร่าว ๆ อายุน่าจะอยู่ราว ๆ ห้าสิบปี แก่พอ ๆ กันกับลุงวินเลย ไม่ได้แต่งตัวหรูหราอะไรมาก เดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานของผู้จัดการ

                  “ทำไมคะ !” ผู้จัดการของเธอตอบ

                  “อ้อ เปล่าค่ะ แค่อยากรู้จักว่าหน้าตาเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง เห็นตาศรเที่ยวไปส่งทุกวัน วินเบอร์ 6 น่ะ”

                   พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอจึงแสดงตัว ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ถ้าจะมาหาว่าเธอเป็นเมียน้อยก็จะได้เถียงและไขข้อข้องใจไปเลย อีกอย่างลุงวินจะได้เลิกคิดเอาเองเสียที “หนูค่ะ วารินทร์” เธอยืนประจันหน้ากับผู้หญิงคนนั้นและยิ้มให้ เธอสังเกตเห็นว่าวินที่นั่งอยู่ด้านนอกมองมายังพวกเธอเกือบทุกคน

                    “อ่อ คนนี้เองเหรอที่ชื่อวารินทร์”

                    “ค่ะ หนูเอง !”

                  พอเธอแสดงตัวผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มให้เช่นกัน ไม่ได้ต่อว่าอะไรจากนั้นก็เดินนกลับออกไป เธอและผู้จัดการทำหน้างงงวยไม่เข้าใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่

                 “เฮ้ยวาพี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วนะเนี่ย เมียถึงกะมาขอดูหน้าแกแบบนี้ ตาลุงวินไปพูดอะไรหรือเปล่าวะ”

                  “นั่นดิพี่ ! แต่ก็ช่างเถอะ หนูบริสุทธิ์ใจ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่