ขอเกริ่นก่อนว่าเราทำงานในโรงพยาบาลค่ะ เราเคยรู้สึกฝังใจกับการรับบริการแย่ๆจากรพ.ตั้งแต่เด็ก ทั้งรอนาน เจ้าหน้าที่มาสาย เห็นเจ้าหน้าที่พูดจาไม่ดีกับตาของเรา เราเลยบอกกับตัวเองไว้ว่าถ้าเราโตขึ้น เราจะทำงานในรพ.และเราจะให้การบริการกับคนไข้และญาติให้ดี จะไม่ให้คนไข้คนไหนต้องเจอแบบเราและตา พอเรียนจบเราได้บรรจุที่รพ.ประจำจังหวัดแห่งหนึ่งเราทำแบบที่เราตั้งใจไว้จริงๆ เราบริการคนไข้ทุกคนด้วยความจริงใจ และความห่วงใยจริงๆ เราไม่เคยมาสาย เพราะกลัวคนไข้จะรอนาน เราไม่เคยถือตัวกับคนไข้ เพราะคิดว่าเขาคือตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ของเราจริงๆ เคยโดนคนไข้โวยวาย ต่อว่าในระบบการทำงานหรือแม้แต่เรื่องบางเรื่องที่ไม่ใช่ความผิดเรา เราไม่เคยใช้อารมณ์โต้กลับมีแต่ขอโทษ และชี้แจงเหตุผลดีๆ เพื่อให้คนไข้เข้าใจ หลายครั้งที่เรามาทำงานในวันหยุดเพื่ออำนวยความสะดวกหลายๆอย่างให้คนไข้ ซึ่งเราเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำแบบนี้
แต่เมื่อสามเดือนก่อน เราตรวจสุขภาพประจำปี พบว่าเราติดเชื้อวัณโรค ด้วยวัย 20ต้นๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากว่าเราจะติดจากคนไข้ เพราะที่บ้านไม่มีใครเคยเป็นโรคนี้มาก่อน เราต้องกินยาเป็นกำๆเป็นระยะเวลาหลายเดือน เรารู้สึกน้อยใจเมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ตัวเองทุ่มเทเพื่อคนไข้ ทำไมต้องเป็นเราที่เป็นโรคที่ใครๆก็รังเกียจ เรารู้สึกท้อ จริงๆที่เราทำทุกอย่างเราไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ แค่ได้ทำเพื่อคนไข้เราก็สุขใจ และทำทุกอย่างด้วยหัวใจจริงๆ แต่เราแค่น้อยใจในโชคชะตา ว่าทำไมต้องเป็นเรานะ
เคยคิดว่าโลกมันไม่ยุติธรรมกับเราไหม?
แต่เมื่อสามเดือนก่อน เราตรวจสุขภาพประจำปี พบว่าเราติดเชื้อวัณโรค ด้วยวัย 20ต้นๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากว่าเราจะติดจากคนไข้ เพราะที่บ้านไม่มีใครเคยเป็นโรคนี้มาก่อน เราต้องกินยาเป็นกำๆเป็นระยะเวลาหลายเดือน เรารู้สึกน้อยใจเมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ตัวเองทุ่มเทเพื่อคนไข้ ทำไมต้องเป็นเราที่เป็นโรคที่ใครๆก็รังเกียจ เรารู้สึกท้อ จริงๆที่เราทำทุกอย่างเราไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ แค่ได้ทำเพื่อคนไข้เราก็สุขใจ และทำทุกอย่างด้วยหัวใจจริงๆ แต่เราแค่น้อยใจในโชคชะตา ว่าทำไมต้องเป็นเรานะ