JJNY : 4in1 ส.ภัตตาคารไทยรับ จะอดตายอยู่แล้ว│ชุมชนบ่อนไก่โอดขาดรายได้│อันวาร์จี้ปชป.ต้องถอนตัว│เมียนมาเผชิญวิกฤติเงินสด

สมาคมภัตตาคารไทย จับตาผ่อนคลายนั่งกินในร้าน รับตรงๆ จะอดตายอยู่แล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6398956

 
สมาคมภัตตาคารไทย จับตาผ่อนคลายพื้นที่นั่งกินในร้าน รับตรงๆ จะอดตายอยู่แล้ว ขอรัฐบาลจัดวัคซีนฉีดให้ผู้ประกอบการ้านอาหารด้วย

วันที่ 14 พ.ค.64 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) พิจารณาร่างผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่ โดยปรับมาตรการในพื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% และเปิดให้นั่งได้ถึง 21.00 น.นั้น คงต้องรอผลสรุปของรัฐบาลก่อนว่าจะจัดจังหวัดใดอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งสัดส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีจำนวนมากที่สุดอยู่ในพื้นที่กทม.
 
การอนุญาตให้กลับมานั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ ตามที่รัฐบาลกำหนดออกมาทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยินดีทำตามทั้งหมด ขอเพียงให้กลับมาเปิดขายอาหารแบบนั่งทานที่ร้านได้ก็พอ เพราะเป็นเพียงทางออกเดียวที่จะสามารถทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ร้านอาหารขนาดเล็กก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แม้จะยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม และเชื่อว่าผู้ที่มานั่งทานที่ร้านจะเป็นผู้ที่มีความจำเป็นต้องออกจากบ้านจริงๆ ไม่ได้เป็นกลุ่มที่มานั่งกินเพื่อพบปะสังสรรค์กันเหมือนที่ผ่านมาแน่นอน เป็นห่วงคนตัวเล็กตัวน้อย อาทิ ร้านข้าวแกง ต้มเลือดหมู อาหารตามสั่งต่างๆ
 
ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรายย่อยรายได้หายไปเหลือเพียง 20% ต้องยอมรับตรงๆ ว่าแทบจะอดตายกันอยู่แล้วนับตั้งแต่การประกาศมาตรการควบคุมของรัฐบาล ที่ห้ามไม่ให้นั่งทานอาหารที่ร้าน เฉพาะกาม.ยอดขายเหลือวันละ300 ล้านบาท จากปกติขายได้วันละ 1,400 ล้านบาท
 
นางฐนิวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้ยื่นเรื่องไปยังรัฐบาล ขอรับวัคซีนต้านโควิด ฉีดให้กับคนในอุตสาหกรรมร้านอาหารก่อน โดยได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เพื่อแสดงความต้องการรับวัคซีน ซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 100,000 คน จึงมองว่ารัฐบาลควรใช้โอกาสในช่วงที่ธุรกิจร้านอาหารยังไม่สามารถเปิดนั่งทานที่ร้านได้ตามปกติ เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มคนเหล่านี้ก่อน เพื่อทยอยลดจำนวนผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ลดลง เพราะต้องยอมรับว่า คนในร้านอาหารมีความเสี่ยงมาก ตั้งแต่เจ้าของร้าน พนักงาน คนส่งของ รวมถึงลูกค้าด้วย
 


‘ชาวบ้านชุมชนบ่อนไก่’ โอด ขาดรายได้ช่วงโควิดระบาด วอน รบ.พักชำระหนี้ 6 เดือน ต่อลมหายใจให้คนจน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2723714

‘ชาวบ้านชุมชนบ่อนไก่’ โอด ขาดรายได้ช่วงโควิดระบาด วอน รบ.พักชำระหนี้ 6 เดือน ต่อลมหายใจให้คนจน
 
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายใจพิชญ์ สุขุมาลจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตปทุมวัน พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่
พรรค พท. ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจพรรคเพื่อไทย ให้ชาวชุมชนบ้านมั่นคง และชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กรุงเทพ พบว่าในชุมชนทั้งสองแห่งดังกล่าวตั้งอยู่ในที่เดียวกันมีบ้านเรือนอาศัยอยู่รวม 508 หลังคาเรือน มีประชาชนทั้งหมดประมาณ 3 พันคน โดยชุมชนบ่อนไก่แห่งนี้เป็นคลัสเตอร์หนึ่งที่กรุงเทพมหานครเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด โดยจัดหน่วยรถเคลื่อนที่เข้ามาระดมตรวจเชื้อผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว
 
ข้อมูลล่าสุดพบว่า ชุมชนบ้านมั่นคง พบผู้ติดเชื้อ 36 คน ผู้กักตัว 61 คน และเสียชีวิต 1 คน ส่วนชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ พบผู้ติดเชื้อ 14 คน ผู้กักตัว 35 คน และเสียชีวิต 1 คน ทีมงาน ส.ก.พรรคเพื่อไทย โดยนายใจพิชญ์ ได้นำถุงปันน้ำใจพรรค พท.ไปมอบให้ผู้กักตัวในบ้านในชุมชนบ้านมั่นคงและชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ พร้อมให้กำลังใจแก่ผู้ติดเชื้อและผู้อยู่ในชุมชน
 
ทั้งนี้ ระหว่างการเดินมอบถุงปันน้ำใจ พบชาวบ่อนไก่จำนวนมากร้องเรียนความเดือดร้อนเรื่องการทำมาหากินฝืดเคืองในช่วงการระบาดโควิด โดยนายใจพิชญ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าโควิดระบาดรอบนี้รุนแรง ชาวบ้านต้องกักตัวในบ้าน แต่ชาวบ้าวต้องกินข้าว มีลูกเมียต้องดูแล มีหนี้สินต้องจ่าย มีหนี้ธนาคารต้องชำระ เมื่อรายได้ไม่มี ขายของไม่ได้ ถูกสั่งห้ามนั่งกินข้าวในร้าน ลงทะเบียนเยียวยาก็ไม่ได้ รัฐบาลมีคำสั่งเพื่อควบคุมโควิดแต่ไม่เคยมีคำสั่งควบคุมดอกเบี้ยธนาคารที่เดินหน้าไม่หยุด
 
จึงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการระยะสั้นพักชำระหนี้ให้คนจน เพื่อให้คนจนหยุดชำระต้นและดอกเบี้ยสักประมาณ 6 เดือน แล้วพอวิกฤตผ่านพ้นไปค่อยกลับมาเริ่มต้นชำระหนี้สินกันใหม่ ก็จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนรากหญ้าได้ทั้งประเทศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่