บางครั้งคำกล่าวที่ว่า “ที่ๆอันตรายที่สุด คือที่ๆปลอดภัยที่สุด” ก็มาในรูปแบบของสายการบินแห่งชาติ ซึ่ง EL AL ISRAEL AIRLINES ก็ได้ยืนยันคำกล่าวนี้ด้วยการกระทำ
ทุกวันนี้สายการบินต่างๆพยายามจะทำให้การขึ้นเครื่องบินเป็นเรื่องง่าย ลดขั้นตอนยุ่งยากต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สิ่งนี้ใช้ไม่ได้กับสายการบินแห่งชาติที่ได้ชื่อว่ารายล้อมไปด้วยศัตรูที่พร้อมจะถล่มตนให้พังพินาศเป็นผุยผง และถ้าคุณต้องการจะบินกับ EL AL นี่คือสิ่งที่คุณจะต้องรู้และพบเจออย่างแน่นอน
1) EL AL เป็นเพียงสายการบินเดียวในโลก ที่มีการติดตั้งระบบป้องกันความปลอดภัยจากขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ (IRCM - Flight Guard) ซึ่งถูกติดตั้งขึ้นในปี 2004 ภายหลังเหตุการณ์กราดยิง ณ สนามบิน LAX ในปี 2002 โดยระบบจะทำงานตรวจจับขีปนาวุธ ซึ่งเมื่อเครื่องบินถูกโจมตี ระบบจะตอบสนองโดยการยิงพลุที่ออกแบบมาเพื่อเบี่ยงเบนระบบตรวจจับความร้อนของขีปนาวุธ นอกจากนั้นแล้วเครื่องบินได้ติดตั้งระบบเรดาร์ที่ใช้เอฟเฟกต์ Doppler เพื่อคำนวนข้อมูลความเร็วของวัตถุในระยะไกล ระบบเรดาร์นี้ประกอบด้วยเสาอากาศสี่เสา หนึ่งตัวที่ด้านหน้า สองตัวที่ด้านข้าง และอีกตัวที่ด้านหลัง ซึ่งระบบเรดาร์จะให้การครอบคลุม 360 องศา รอบตัวเครื่องบิน
ระบบป้องกันความปลอดภัยนี้มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนในปัจจุบันได้ใช้ระบบที่เรียกว่า C-Music system ซึ่งเปลี่ยนจากการยิงพลุไฟ มาเป็นการยิงเลเซอร์ความร้อนเพื่อเบี่ยงเบนเส้นทางของขีปนาวุธแทน แต่ไม่ว่าจะ Version ไหน ระบบความปลอดภัยนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ โดยนักบินจะไม่มีความเกี่ยวข้องหรือสามารถควบคุมสั่งการระบบนี้ได้เองเลย
2) นักบินของ EL AL ทุกคนจะถูกคัดเลือกมาจากนักบินของกองทัพอากาศอิสราเอลเท่านั้น และแน่นอนสายการบินนี้ไม่มีนักบินต่างชาติ ดังคำขวัญที่ว่า “Our best men for the Air Force and the best girls for the pilots”
3) เครื่องบินทุกลำของ EL AL ได้ติดตั้งประตูห้องนักบิน 2 ชั้น เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด และนอกจากใส่รหัสลับเฉพาะในการเปิดประตูแล้ว ประตูบานที่สองจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อประตูบานที่หนึ่งถูกปิดลงแล้ว โดยกัปตันหรือผู้ช่วยนักบินจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ใครเข้ามาได้ รวมทั้งผู้ที่เข้ามาจะต้องถูกตรวจค้นจากกัปตันหรือผู้ช่วยนักบินอีกครั้งด้วย
4) เครื่องบินมีการเสริมพื้นห้องโดยสารด้วยวัสดุที่สามารถต้านทานแรงระเบิดระหว่างพื้นที่เก็บสัมภาระและสินค้าใต้ท้องเครื่องกับห้องโดยสารด้านบน
5) ทุกเที่ยวบินของ EL AL จะมี Armed Sky Marshals หรือเจ้าหน้าที่ติดอาวุธนอกเครื่องแบบอย่างน้อย 2 คน ที่จะทำหน้าคุ้มครองความปลอดภัย รวมทั้งสอดส่องผู้โดยสารและเหตุการณ์ที่มีความผิดปกติบนเที่ยวบิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนั่งปะปนไปกับผู้โดยสารโดยไม่มีใครรู้
6) เครื่องบินทุกลำของ EL AL จะได้รับการคุ้มครองตลอดเวลาที่เครื่องบินอยู่บนพื้น โดยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธเป็นการพิเศษเฉพาะ ในทุกเมือง ทุกสนามบินที่สายการบินไปลง
7) เคาน์เตอร์เช็คอินท์ของ EL AL ในทุกสนามบินจะมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สอดส่องผู้ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย รวมทั้งวัตถุและสัมภาระที่ถูกวางทิ้งไว้หรือผิดสังเกตุบริเวณใกล้ๆเคาน์เตอร์เช็คอินท์ โดยในบางสนามบิน EL AL จะมีพื้นที่หรือเคาน์เตอร์เช็คอินท์แยกเฉพาะของตัวเองไม่รวมกับสายการบินอื่นๆออกไป
8) ผู้โดยสารทุกคนของ EL AL จะต้องเตรียมตัวมาเช็คอินท์ก่อนเวลาอย่างน้อย 3 - 4 ชั่วโมง และจะต้องถูกตรวจสอบและสัมภาษณ์ระหว่างทำการเช็คอินท์ทุกคน ซึ่งคำถามจะเป็นการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Security Questions) เช่น คุณแพ็คสัมภาระของคุณเองหรือไม่, ภายในสัมภาระของคุณใส่อะไรมาบ้าง, คุณได้วางกระเป๋าไว้ที่อื่นนอกสายตาบ้างหรือไม่, คุณได้รับของฝากจากคนอื่นมาใส่ในกระเป๋าบ้างไหม, มีของมีคม สิ่งเทียมอาวุธใดๆ หรือของที่คล้ายอาวุธในกระเป๋าหรือไม่, คุณเคยเดินทางเข้าประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางบ้างไหม, คุณมีแนวโน้มจะเดินทางเข้าไปใน West Bank บ้างไหม ฯลฯ
หากมีสัมภาระที่มีปัญหาจะต้องถูกนำเข้าไปตรวจสอบยังห้องปรับความดัน เพื่อทดสอบหาระเบิดแสวงเครื่องที่ทำงานโดยอาศัยหลักความกดอากาศหรือความดันขณะบินเป็นพิเศษ
9) รายชื่อและพาสปอร์ตของผู้โดยสาร EL AL ทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของ FBI, INTERPOL, SCOTLAND YARD, SHIN BET (The Israel Security Agency)
10) การบริการบนเครื่องของ EL AL เน้นในเรื่องของ Security First ดังนั้น อาจจะมีบางเรื่องที่ซีเรียสมากกว่าสายการบินอื่นๆ เช่น ผู้โดยสารที่เข้าห้องน้ำบ่อยหรือเข้าห้องน้ำนานๆ หรือผู้โดยสารที่เปลี่ยนที่นั่งไปมา หรือผู้โดยสารที่ลุกเดินไปมาบ่อยๆระหว่างทำการบิน อาจถูกเพ่งเล็งหรือตรวจสอบจากพนักงานต้อนรับบนเครื่อง หรือ Sky Marshal ได้
11) ผู้โดยสารที่เคยเดินทางไป หรือมีตราประทับของประเทศที่อิสราเอลไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตเหล่านี้..
Algeria, Bahrain, Comoros, Djibouti, Iraq, Kuwait, Lebanon, Libya, Mauritania, Morocco, Oman, Qatar, Saudia Arabia, Somalia, Sudan, Syria, Tunisia, United Arab Emirates, Yemen, Afghanistan, Bangladesh, Brunei, Indonesia, Iran, Malaysia, Mali, Niger, Pakistan, Bhutan, Cuba และ North Korea อาจจะถูกถามถึงเหตุผลการไปเยือน ระยะเวลาที่ไปเยือน หรือความสัมพันธ์กับบุคคลหรือองค์กรในประเทศนั้นๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร สายการบินไม่ได้ห้ามผู้ที่เคยไปประเทศเหล่านี้ขึ้นเครื่องบิน
จากมาตรการระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดที่สายการบินนำมาใช้ ทำให้ภายหลังปี 2002 เป็นต้นมา สายการบินก็รอดพ้นจากการก่อวินาศกรรมหรือจี้เครื่องบินมาโดยตลอด ดังคำขวัญใหม่ของสายการบินที่ว่า
"EL AL is not just an airline, It's Israel"
ที่สุดแห่ง (( EL AL ISRAEL AIRLINES )) ที่ๆอันตรายที่สุด.. คือที่ๆปลอดภัยที่สุด..
Algeria, Bahrain, Comoros, Djibouti, Iraq, Kuwait, Lebanon, Libya, Mauritania, Morocco, Oman, Qatar, Saudia Arabia, Somalia, Sudan, Syria, Tunisia, United Arab Emirates, Yemen, Afghanistan, Bangladesh, Brunei, Indonesia, Iran, Malaysia, Mali, Niger, Pakistan, Bhutan, Cuba และ North Korea อาจจะถูกถามถึงเหตุผลการไปเยือน ระยะเวลาที่ไปเยือน หรือความสัมพันธ์กับบุคคลหรือองค์กรในประเทศนั้นๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร สายการบินไม่ได้ห้ามผู้ที่เคยไปประเทศเหล่านี้ขึ้นเครื่องบิน
จากมาตรการระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดที่สายการบินนำมาใช้ ทำให้ภายหลังปี 2002 เป็นต้นมา สายการบินก็รอดพ้นจากการก่อวินาศกรรมหรือจี้เครื่องบินมาโดยตลอด ดังคำขวัญใหม่ของสายการบินที่ว่า "EL AL is not just an airline, It's Israel"