สวัสดีครับ เป็นแฟนพันทิป มานาน และได้ติดตามหาข้อมูลจนเที่ยวมาหลากหลายประเทศ แต่ไม่มีโอกาสได้มารีวิวเลย และนี้ได้โอกาสที่จะมาเล่าประสบการ์ณการท่องเที่ยวของผม และเป็นการรีวิวครั้งแรก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวแฟนๆพันทิปและใครที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวนะครับ
สำหรับการท่องเที่ยวครั้งนี้อยู่ที่ สหรัฐอเมริกาครับ การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการไปแคมปิ้งในบรรยากาศประสบการณ์แปลกใหม่ ในอารมณ์ติดเกาะในอเมริกา สำหรับเกาะที่เราเดินทางไปในครั้งนี้นะครับ มีชื่อว่า Assateague island อยู่ที่รัฐ Maryland ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นเกาะที่มีม้าป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ น้องม้าเขาก็จะออกมาเดินรอบๆเกาะ เราก็ตื่นเต้นกันมากทีเดียวที่จะได้เห็นม้าป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติและในทะเลแบบนี้
บ้านของเราอยู่ในอเมริกา เราอยู่ที่รัฐ Virginia การเดินทางไปที่เกาะจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ การที่จะต้องไปแคมปิ้งที่เกาะคือต้องเตรียมสัมภาระ ของกิน ของใช้ เต้นท์ ฯลฯ ขนอะไรได้ขนไปให้หมดครับ เพราะว่าที่เกาะจะมีแค่จุดกางเต้นท์ให้เท่านั้นนะครับ เดินทางกันเลยครับ
ระหว่างการการเดินทาง พอดีเจอรถมีล้อใหญ่มากๆเลยถ่ายไว้
สมาชิกของเราครับ ชมวิวไประหว่างทาง
เราได้เตรียมของสำหรับการแค้มปิ้งค์ไปเยอะมากๆ ด้านหลังของรถนี้เป็นสถานที่ไว้สำหรับบรรทุกของกินของสำหรับการแคมปิ้งอย่างเดียวเลย น้องหมาก็ได้เดินทางไปกับพวกเราด้วย ก็ขนกันไปแบบนี้ละครับ
เราใช้เวลาเดินทางจากบ้านประมาณสามชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงที่เกาะที่เราจะตั้งหลักปักฐานการแค้มปิ้งกันที่ครับ การเข้าไปในเกาะจะเป็นการขับรถข้ามสะพานไปยังเกาะได้เลยไม่ต้องนั้งเรือเข้าไปนะครับก็ถือว่าสะดวกกับคนที่มาเที่ยวด้วยการขับรถมาเที่ยว
สะพานข้ามไปยังเกาะ
ระหว่างทางเรามีน้องกวางวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถพวกเราด้วย ถือว่าธรรมชาติมากๆ และที่นี้คนจะขับรถช้าหน่อยนะครับเพราะว่ามีสัตว์ป่าเยอะ ใจเย็นๆกันนะครับ
พอถึงที่เกาะเขาจะมีค่าธรรมเนียมในการเข้าไปในเกาะต่อรถยนต์ หนึ่งคัน ราคาอยู่ที่ 25 ดอลล่าร์ แต่ถ้าใครขี่จักรยานหรือเดินเข้าไปเที่ยวก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมครับ
หลังจากที่เราได้ทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราขับรถมายังจุดแคมป์ปิ้งของเรา ซึ่งวันนี้เราได้หมายเลข มาถึงก็จะเห็นได้ว่ามีจุดกางเต้นท์เยอะมากๆครับสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแคมปิ้ง
จุดกลางเต้นท์ริมทะเล
พอมาถึงเกาะนะครับ ปรากฏว่าอากาศหนาวมากๆ แล้วของที่ได้เตรียมคือแบบ อารมณ์มาเที่ยวทะเลชิวๆ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดสบายๆ เตรียมมาตั้งหลายตัวเสื้อกล้ามงี้ คิดไว้ในใจว่าต้องได้รูปสวยๆเริ่ดๆกลับบ้านแน่นอน ปรากฏว่าจนวันกลับกระเป๋าที่ใส่เสื้อพวกนี้มาไม่ได้เปิดเลย โชคดีที่ผมเอาแจ็คเก็ตติดตัวมา และได้เตรียมเอาเสื้อคลุมมาและได้กางเกงขายาวมาคนละตัว เผื่อว่าอากาศจะหนาวสรุปมีอะไรก็ใส่ไปครับ เพราะอากาศมันหนาวมากๆ ทั้งลมก็แรงด้วย
พอมาถึงที่จุดกางเต้นท์เราก็จัดการกางเต้นท์ ด้วยความที่เป็นการกางเต้นท์ครั้งแรกในทะเลของพวกเรา เลยรุ้ถึงการกางเต้นท์ที่ยากพอสมควรเพราะว่ามันเป็นทราย ซึ่งจะไม่สามารถปักเต้นลงไปในทราย พอลมพัดขาเต้นก็ปลิวออกหมด เราเลยได้ยึดเต้นท์ผูกไว้กับต้นไม้กิ่งไม้ข้างๆเแทน แต่พอออกมาดูตรงทรายจึงเห็นว่าเขาได้เอาทรายใส่ถุงและทับเต้นท์ไว้เพื่อให้เต้นท์แข็งแรง
เริ่มกางเต้นท์กันเลย
น้องๆคอยให้กำลังใจ
เสร็จแล้วครับ เต้นท์สำหรับคืนนี้ของเรา
หลังจากกางเต้นท์เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ไปเดินเล่นทะเลกันเลย
เห็นนั่งชิวๆแบบนี้ อากาศแบบหนาวนะครับ
เราก็มาถึงเกาะกันแล้ว เอ๊ะ เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ตามที่เราได้ทราบมาว่า ที่นี้เป็นเกาะที่มีม้าป่าอาศัยอยู่ เราก็ยังไม่เจอน้องม้าสักตัว และนี้คือสิ่งที่เราเจอ
ขี้ม้าเต็มไปหมด
จากนั้น เราก็เลยทำภารกิจตามหาม้ากันครับ เมื่อเราเจอขี้ม้าแล้วเราก็ต้องหาตัวม้าให้เจอ จากนั้นเราเลยได้ขับรถไปเรื่อยๆรอบๆเกาะ กับภารกิจตามหาม้า
และในที่สุดเราก็เจอม้าแล้วครับ เป็นน้องม้าสี่ตัว นั่งเล่นอยู่ข้างๆรถบ้านตรงที่เค้ามาตั้งแคมป์กัน ผู้คนแถวนั้นก็ตื่นเต้นกันมาก
จากนั้นรถก็ยังขับรถไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้เจอน้องม้าอีกครับ
ภารกิจตามหาม้าของเราในวันนี้ก็ได้เป็นอันสำเร็จ หลังจากชมม้าได้เป็นที่พอใจแล้ว เราก็กลับมาที่เต้นท์ของเรา และยังพอมีเวลาก็ออกไปนั่งชมทะเลกันอีก
และสิ่งที่ไม่คาดฝัน เราได้ยินเสียงม้ามากจากไกลๆ สรุปเป็นขบวนม้า ซึ่งมากันเยอะมากๆ เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมาก
ได้สอบถามคนที่ขี่ม้ามา เค้าบอกว่าเป็นกลุ่มมากจากทางเม็กซิโก ซึ่งแค่แวะผ่านมาเท่านั้นเอง
และจุดที่เรานั่งชมทะเลนั้น ก็ได้นั่งชมขบวนม้าเดินผ่าน กลายเป็นที่นั่ง VIP ขึ้นมาเลย
และก็ถึงเวลาทำอาหารเย็นกันแล้วนะครับ
ตรงจุดกางเต้นเค้าจะมีโต๊ะสำหรับนั่งกินข้าวปาร์ตี้กันนะครับ และจะเตาสำหรับทำอาหารให้ด้วย ส่วนฟืนหรือไม้สำหรับจุดไฟต้องเตรียมมาเองนะครับ
และ ไม้ฝืน ของเราก็ไม่พอ เลยได้ขับรถไปที่ร้านค้าเพื่อนจะไปซื้อเพิ่ม ปรากฏว่าร้านดันปิดซะอีก เลยจำเป็นต้องออกไปหาไม้ตามธรรมชาติ แถวๆจุดกางเต้นท์ละครับ
และเราก็ได้ไม้มาเพียบเลย
และก็ได้เวลาทำอาหารสำหรับปาร์ตี้คืนนี้กันเลยครับ
และก็จบไปสำหรับวันแรกของการมาแคมปิ้งที่เกาะ Assateague island อ้อ ม้าที่นี้มีเรื่องราวว่าเมื่อ 300ปีที่แล้วได้มีการขนส่งม้ามาทางเรือ ซึ่งเป็นม้าของทางอเมริกา และเกิดเรืออัปปาง ม้าเค้าเลยได้มาอาศัยอยู่ในเกาะนี้กันครับ
ที่นี้ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้นะครับ ต้องพกพาวเวอร์แบ้งค์ชาจต์แบตเต็มๆมานะครับ สำหรับชาจต์กล้องหรือโทรศัพท์
สำหรับห้องน้ำจะมีจุดให้บริการ สำหรับทำธุระส่วนตัว และห้องอาบน้ำ
สำหรับ EP.2/2 วันที่สองของการเดินทาง เราจะพาไปเที่ยวที่เมืองริมทะเลแห่งรัฐ Maryland กันนะครับ เดี่ยวจะตามมารีวิวให้นะครับ
อ่าน EP.2/2 ได้ตามลิ้งค์นี้ได้เลยครับ
https://pantip.com/topic/40716082
แค้มปิ้งติดเกาะม้าป่า Assateague island ในอเมริกา EP.1/2
สวัสดีครับ เป็นแฟนพันทิป มานาน และได้ติดตามหาข้อมูลจนเที่ยวมาหลากหลายประเทศ แต่ไม่มีโอกาสได้มารีวิวเลย และนี้ได้โอกาสที่จะมาเล่าประสบการ์ณการท่องเที่ยวของผม และเป็นการรีวิวครั้งแรก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับชาวแฟนๆพันทิปและใครที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวนะครับ
สำหรับการท่องเที่ยวครั้งนี้อยู่ที่ สหรัฐอเมริกาครับ การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการไปแคมปิ้งในบรรยากาศประสบการณ์แปลกใหม่ ในอารมณ์ติดเกาะในอเมริกา สำหรับเกาะที่เราเดินทางไปในครั้งนี้นะครับ มีชื่อว่า Assateague island อยู่ที่รัฐ Maryland ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นเกาะที่มีม้าป่าอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ น้องม้าเขาก็จะออกมาเดินรอบๆเกาะ เราก็ตื่นเต้นกันมากทีเดียวที่จะได้เห็นม้าป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติและในทะเลแบบนี้
บ้านของเราอยู่ในอเมริกา เราอยู่ที่รัฐ Virginia การเดินทางไปที่เกาะจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ การที่จะต้องไปแคมปิ้งที่เกาะคือต้องเตรียมสัมภาระ ของกิน ของใช้ เต้นท์ ฯลฯ ขนอะไรได้ขนไปให้หมดครับ เพราะว่าที่เกาะจะมีแค่จุดกางเต้นท์ให้เท่านั้นนะครับ เดินทางกันเลยครับ
ระหว่างการการเดินทาง พอดีเจอรถมีล้อใหญ่มากๆเลยถ่ายไว้
สมาชิกของเราครับ ชมวิวไประหว่างทาง
เราได้เตรียมของสำหรับการแค้มปิ้งค์ไปเยอะมากๆ ด้านหลังของรถนี้เป็นสถานที่ไว้สำหรับบรรทุกของกินของสำหรับการแคมปิ้งอย่างเดียวเลย น้องหมาก็ได้เดินทางไปกับพวกเราด้วย ก็ขนกันไปแบบนี้ละครับ
เราใช้เวลาเดินทางจากบ้านประมาณสามชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงที่เกาะที่เราจะตั้งหลักปักฐานการแค้มปิ้งกันที่ครับ การเข้าไปในเกาะจะเป็นการขับรถข้ามสะพานไปยังเกาะได้เลยไม่ต้องนั้งเรือเข้าไปนะครับก็ถือว่าสะดวกกับคนที่มาเที่ยวด้วยการขับรถมาเที่ยว
สะพานข้ามไปยังเกาะ
ระหว่างทางเรามีน้องกวางวิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถพวกเราด้วย ถือว่าธรรมชาติมากๆ และที่นี้คนจะขับรถช้าหน่อยนะครับเพราะว่ามีสัตว์ป่าเยอะ ใจเย็นๆกันนะครับ
พอถึงที่เกาะเขาจะมีค่าธรรมเนียมในการเข้าไปในเกาะต่อรถยนต์ หนึ่งคัน ราคาอยู่ที่ 25 ดอลล่าร์ แต่ถ้าใครขี่จักรยานหรือเดินเข้าไปเที่ยวก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมครับ
หลังจากที่เราได้ทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราขับรถมายังจุดแคมป์ปิ้งของเรา ซึ่งวันนี้เราได้หมายเลข มาถึงก็จะเห็นได้ว่ามีจุดกางเต้นท์เยอะมากๆครับสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวแคมปิ้ง
จุดกลางเต้นท์ริมทะเล
พอมาถึงเกาะนะครับ ปรากฏว่าอากาศหนาวมากๆ แล้วของที่ได้เตรียมคือแบบ อารมณ์มาเที่ยวทะเลชิวๆ ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืดสบายๆ เตรียมมาตั้งหลายตัวเสื้อกล้ามงี้ คิดไว้ในใจว่าต้องได้รูปสวยๆเริ่ดๆกลับบ้านแน่นอน ปรากฏว่าจนวันกลับกระเป๋าที่ใส่เสื้อพวกนี้มาไม่ได้เปิดเลย โชคดีที่ผมเอาแจ็คเก็ตติดตัวมา และได้เตรียมเอาเสื้อคลุมมาและได้กางเกงขายาวมาคนละตัว เผื่อว่าอากาศจะหนาวสรุปมีอะไรก็ใส่ไปครับ เพราะอากาศมันหนาวมากๆ ทั้งลมก็แรงด้วย
พอมาถึงที่จุดกางเต้นท์เราก็จัดการกางเต้นท์ ด้วยความที่เป็นการกางเต้นท์ครั้งแรกในทะเลของพวกเรา เลยรุ้ถึงการกางเต้นท์ที่ยากพอสมควรเพราะว่ามันเป็นทราย ซึ่งจะไม่สามารถปักเต้นลงไปในทราย พอลมพัดขาเต้นก็ปลิวออกหมด เราเลยได้ยึดเต้นท์ผูกไว้กับต้นไม้กิ่งไม้ข้างๆเแทน แต่พอออกมาดูตรงทรายจึงเห็นว่าเขาได้เอาทรายใส่ถุงและทับเต้นท์ไว้เพื่อให้เต้นท์แข็งแรง
เริ่มกางเต้นท์กันเลย
น้องๆคอยให้กำลังใจ
เสร็จแล้วครับ เต้นท์สำหรับคืนนี้ของเรา
หลังจากกางเต้นท์เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ไปเดินเล่นทะเลกันเลย
เห็นนั่งชิวๆแบบนี้ อากาศแบบหนาวนะครับ
เราก็มาถึงเกาะกันแล้ว เอ๊ะ เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ตามที่เราได้ทราบมาว่า ที่นี้เป็นเกาะที่มีม้าป่าอาศัยอยู่ เราก็ยังไม่เจอน้องม้าสักตัว และนี้คือสิ่งที่เราเจอ
ขี้ม้าเต็มไปหมด
จากนั้น เราก็เลยทำภารกิจตามหาม้ากันครับ เมื่อเราเจอขี้ม้าแล้วเราก็ต้องหาตัวม้าให้เจอ จากนั้นเราเลยได้ขับรถไปเรื่อยๆรอบๆเกาะ กับภารกิจตามหาม้า
และในที่สุดเราก็เจอม้าแล้วครับ เป็นน้องม้าสี่ตัว นั่งเล่นอยู่ข้างๆรถบ้านตรงที่เค้ามาตั้งแคมป์กัน ผู้คนแถวนั้นก็ตื่นเต้นกันมาก
จากนั้นรถก็ยังขับรถไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้เจอน้องม้าอีกครับ
ภารกิจตามหาม้าของเราในวันนี้ก็ได้เป็นอันสำเร็จ หลังจากชมม้าได้เป็นที่พอใจแล้ว เราก็กลับมาที่เต้นท์ของเรา และยังพอมีเวลาก็ออกไปนั่งชมทะเลกันอีก
และสิ่งที่ไม่คาดฝัน เราได้ยินเสียงม้ามากจากไกลๆ สรุปเป็นขบวนม้า ซึ่งมากันเยอะมากๆ เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมาก
ได้สอบถามคนที่ขี่ม้ามา เค้าบอกว่าเป็นกลุ่มมากจากทางเม็กซิโก ซึ่งแค่แวะผ่านมาเท่านั้นเอง
และจุดที่เรานั่งชมทะเลนั้น ก็ได้นั่งชมขบวนม้าเดินผ่าน กลายเป็นที่นั่ง VIP ขึ้นมาเลย
และก็ถึงเวลาทำอาหารเย็นกันแล้วนะครับ
ตรงจุดกางเต้นเค้าจะมีโต๊ะสำหรับนั่งกินข้าวปาร์ตี้กันนะครับ และจะเตาสำหรับทำอาหารให้ด้วย ส่วนฟืนหรือไม้สำหรับจุดไฟต้องเตรียมมาเองนะครับ
และ ไม้ฝืน ของเราก็ไม่พอ เลยได้ขับรถไปที่ร้านค้าเพื่อนจะไปซื้อเพิ่ม ปรากฏว่าร้านดันปิดซะอีก เลยจำเป็นต้องออกไปหาไม้ตามธรรมชาติ แถวๆจุดกางเต้นท์ละครับ
และเราก็ได้ไม้มาเพียบเลย
และก็จบไปสำหรับวันแรกของการมาแคมปิ้งที่เกาะ Assateague island อ้อ ม้าที่นี้มีเรื่องราวว่าเมื่อ 300ปีที่แล้วได้มีการขนส่งม้ามาทางเรือ ซึ่งเป็นม้าของทางอเมริกา และเกิดเรืออัปปาง ม้าเค้าเลยได้มาอาศัยอยู่ในเกาะนี้กันครับ
ที่นี้ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้นะครับ ต้องพกพาวเวอร์แบ้งค์ชาจต์แบตเต็มๆมานะครับ สำหรับชาจต์กล้องหรือโทรศัพท์
สำหรับห้องน้ำจะมีจุดให้บริการ สำหรับทำธุระส่วนตัว และห้องอาบน้ำ
สำหรับ EP.2/2 วันที่สองของการเดินทาง เราจะพาไปเที่ยวที่เมืองริมทะเลแห่งรัฐ Maryland กันนะครับ เดี่ยวจะตามมารีวิวให้นะครับ
อ่าน EP.2/2 ได้ตามลิ้งค์นี้ได้เลยครับ https://pantip.com/topic/40716082