คือผมอยู่มหาลัยเเต่ยังได้ค่าขนมเท่าตอนที่อยู่ ม.4 ครับคือ3000฿ต่อเดือน เเรกๆก็ไม่ได้คิดอะไรครับ เเต่พอเอาเข้าจริงๆชีวิตมหาลัยของผมมันไม่พอครับ 100฿ต่อวัน ผมก็ลองขอเพิ่มเป็นเดือนละ 4500-5000฿ได้มั้ย เเต่ที่บ้านก็มีทีท่าไม่พอใจครับ คือเขายังคิดอยู่ว่าข้าวคือจานละ 25-30฿ เเบบตอนเรียนมัธยม คือมันก็มีเเหละครับราคานั้นเเต่เป็นโรงอาหารคณะครับ ซึ่งผมคงกินข้าวที่โรงอาหารคณะทุกมื้อไม่ได้ มันต้องกินร้านข้างนอกที่จานละ 40-50฿บ้าง บางวันก็ต้องเข้าสังคมไปกับเพื่อน เสียมื้อนึงเป็นร้อยกว่าบาท
ผมอยากให้ที่บ้านมาลองใช้ชีวิตรอบรั้วมหาลัยกับผมดูบ้างว่าวันละ100฿อยู่ยากครับ ที่บ้านฐานะกลางๆครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมคิดมานานเเล้วว่ายังไงขอเพิ่มมา2000฿คงไม่กระทบขนาดนั้น เพราะค่าขนมไม่ได้มาจากเเม่กับพ่อครับ
ค่าขนมที่ได้ทุกเดือนคุณยายเป็นคนให้ครับ จะขอเพิ่มก็เกรงใจยาย จะขอเเม่เดือนละ2000มาเพิ่ม เเม่ก็บอกยายก็ให้เเล้วนี่มาขออะไรอีก เพื่อนๆผมขั้นต่ำได้ค่าขนมคนละ5000up ทั้งนั้นเลย ผมทั้งทำพาร์ทไทม์เเล้ว เเต่เขาก็มองว่าผมมีเงินเเล้ว ไม่ต้องเอาเยอะก็ได้มั้ง ที่ผมทำพาร์ทไทม์ก็เพราะจะเอาไปซื้อของที่อยากได้เอง เช่น มือถือ หูฟัง บลาๆ เเต่ของจำเป็นอย่าง อาหาร คอนเเทคเลนส์ ค่าน้ำมัน เสื้อผ้า(นานๆทีจะซื้อ) ผมอยากให้เขาช่วยผมเหมือนบ้านอื่นบ้าง
ควรพูดยังไงดีครับให้ไม่ทะเลาะกัน เพราะที่บ้านผมจะพูดกันค่อนข้างใจร้อน ขี้หงุดหงิดชอบตะคอก
ขอวิธีขอค่าขนมเพิ่มกับครอบครัวให้ไม่ทะเลาะกันหน่อย
ผมอยากให้ที่บ้านมาลองใช้ชีวิตรอบรั้วมหาลัยกับผมดูบ้างว่าวันละ100฿อยู่ยากครับ ที่บ้านฐานะกลางๆครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมคิดมานานเเล้วว่ายังไงขอเพิ่มมา2000฿คงไม่กระทบขนาดนั้น เพราะค่าขนมไม่ได้มาจากเเม่กับพ่อครับ
ค่าขนมที่ได้ทุกเดือนคุณยายเป็นคนให้ครับ จะขอเพิ่มก็เกรงใจยาย จะขอเเม่เดือนละ2000มาเพิ่ม เเม่ก็บอกยายก็ให้เเล้วนี่มาขออะไรอีก เพื่อนๆผมขั้นต่ำได้ค่าขนมคนละ5000up ทั้งนั้นเลย ผมทั้งทำพาร์ทไทม์เเล้ว เเต่เขาก็มองว่าผมมีเงินเเล้ว ไม่ต้องเอาเยอะก็ได้มั้ง ที่ผมทำพาร์ทไทม์ก็เพราะจะเอาไปซื้อของที่อยากได้เอง เช่น มือถือ หูฟัง บลาๆ เเต่ของจำเป็นอย่าง อาหาร คอนเเทคเลนส์ ค่าน้ำมัน เสื้อผ้า(นานๆทีจะซื้อ) ผมอยากให้เขาช่วยผมเหมือนบ้านอื่นบ้าง
ควรพูดยังไงดีครับให้ไม่ทะเลาะกัน เพราะที่บ้านผมจะพูดกันค่อนข้างใจร้อน ขี้หงุดหงิดชอบตะคอก