สวัสดีค่ะวันนี้จขกทมีเรื่องนึงที่อยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้อ่านกัน ส่วนตัวเราเชื่อว่าปัญญาที่เป็นหัวกระทู้ของเราคงเป็นปัญหาที่หลายๆคนเจอแน่ๆ
เข้าเรื่องเลยนะ คือบ้านจขกทเป็นบ้านที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งนึงค่ะ ตัวบ้านมีทั้งหมด3ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่ส่วนกลางมีบริเวณครัวไว้ทำอาหาร
มีโต๊ะกินข้าว มีทีวีและโซฟาค่ะ
ชั้นสองจะเป็นห้องนอน Master Bedroom
ชั้น3มีอีก2ห้องนอน
บ้านหลังนี้อยู่กัน4คนรวมแม่บ้านที่อยู่กินประจำที่บ้านเลย
ปัญหาที่ทำให้เราเครียดคือพ่อของจขกทเป็นคนที่รกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกๆ ไม่มีความเป็นระเบียบเลยค่ะ เอกสารซองจดหมายต่างๆแทนที่จะเก็บเข้าแฟ้มโน่นค่ะเขาไปกองเป็นเนินภูเขากินที่ครึ่งนึงของโต๊ะกินข้าวเลยค่ะ ส่วนใหนห้องนอนพ่อบอกได้เลยว่าทางเดินแคบมากกกกๆๆ เพราะตรงทางเดินมีหนังสือกองเป็นตั้งๆเลยค่ะ ห้องเขาก็คือห้องชั้น2 คือบริเวณตู้เสื้อผ้าก็โอ้โหเสื้อผ้ามีเป็นกอง คือแม่บ้านบอกว่าไม่มีที่จะยัดเสื้อผ้าที่พับแล้วได้ค่ะเพราะมันล้นออกมานอกตู้แล้ว เอาเป็นว่าMaster Bedroomที่ดูใหญ่ก็ดูเล็กและแคบลงไปอย่างชัดเจนค่ะ
คือพ่อเขาไม่ทิ้งอะไรเลยอ่ะเอกสารเก่าๆก็กองอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวกองเก่าไม่เคยเก็บทิ้งมีกองใหม่มาถมตลอดค่ะ หนังสือนี่คือเป็น1,000กว่าเล่มได้มั้งส่วนใหญ่โดนปลวกกินหมดละ
ส่วนเวลาเขาทำอาหารทำขนมอ่ะเขาก็จะเป็นคนที่ซื้อของมาตุนไว้ทั้งๆที่ของที่เคยซื้อยังไม่เปิดใช้ นึกออกปะคะ ล่าสุดเร็วๆนี้บ้าน รกจนมีน้องตุ๊กแกมาเยือน ยิ่งบ้านรกเท่าไหร่จะมีสัวต์หรือแมลงมาอยู่มากเท่านั้น เจอมาแล้ว อีกทั้งด้วยความที่พ่อชอบทำขนมชอบทำอาหารระหว่างทำก็ไม่เก็บอุปกรณ์ เศษอาหารเศษขนมปังร่วงเต็มบริเวณครัว พ่อก็นะซื่อของมาทีนึงเยอะมากกๆใช่ค่ะซื้อมาตุนแล้วก็ตุนๆ ถ้านี่เป็นตู้เย็นหรือตู้เก็บของคงอยากตะโกนว่าพอเถอะ หยุดสักที กูจะระเบิดแล้วไอ้..... 55555
เราไม่แปลกใจที่จะมีจิ้งจกเต็มบ้าน หน้าที่เก็บล้างใครคะ..... แม่บ้านไงจะใครล่ะ แม่บ้านเราถึงกับเคยบอกว่าคุณเก็บเองบ้างสิคะ ล้างเองบ้างให้ฉันทำทุกวันมันเหนื่อยค่ะ ไหนจะห้องนอน ห้องน้ำคุณอีกที่ต้องใช้เวลาCleanทุกวัน
หลายครั้งที่เราแอบเอาของที่รกๆของเขาไปทิ้งโดยที่เราดูแล้วว่าไม่ใช่เอกสารสำคัญ เรากับแม่บ้านช่วยกันค่ะ ทิ้งได้ประมาณ10ถุงใหญ่เลยยย บ้านก็โล่งไปเยอะ แต่ก็ฝันดีได้ไม่นานเพราะหลักจากนั้นไม่นานเขาก็สั่งซื้อหนังสือและมีเอกสารต่างๆมาอีกเพียบมาไว้ในบ้านเหมือนเดิม บอกก่อนนะคะว่าถ้าห้องนอนเขาจะรกอันนี้เราจะไม่เครียดถือว่าzoneส่วนตัว แต่นี่ลามมาจนชั้น1ค่ะ แม่บ้านบอกว่าห้องเขานี่ไม่มีที่เดินเลยค่ะตอนนี้ต้องวางเสื้อผ้าเขาที่ซักแล้วไว้หน้าห้องและให้พ่อเอาเข้าห้องไปวางเองเพระเข้าไปไม่ได้ละของมันรกมันเยอะโคตรๆ เราบอกพ่อหลายรอบแล้วว่าช่วยจัดบ้านหน่อย ช่วยจัดของให้เป็นระเบียบหน่อย เขาบอกจะทำ จะทำมาชาตินึงแล้วก็ไม่ทำซะทีค่ะ 5555555555 แม่บ้านจัดให้เขาก็ด่า หาว่าทำของเขาหาย !!! ด้วยความที่เรานึกว่าเออพูดไปก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์เพราะเขาไม่ฟังเลย เรานี่เห็นใจแม่บ้านสุดดดๆ
และด้วยความที่เราทนมาหลายปีจนหมดความอดทนมันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพ่อแย่และห่างเหินกันเรื่อยๆ เราเองพอมีเงินอยู่บ้างเลยออกมาซื้อคอนโดอยู่ค่ะ เป็นห้องของเราเองเลยอยู่คนเดียว ข้อดีของคอนโดคือเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากค่ะ เราชอบมากๆ
และเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดเรามีแค่ ทีวี โซฟา โต๊ะกินข้าว เตียงนอน และตู้เสื้อผ้าค่ะ แค่นั้นเองจบ พ่อเราเคยมาหาที่คอนโดเพียงครั้งเดียว
"พ่อถามเราว่า นี่ไม่มีของอะไรเลยเหรออออ? "
จริงๆมีแต่เราเก็บทุกอย่างเป็นระเบียบมากค่ะ ซื้อของเท่าที่ของกินต้องใช้ ไม่มีการซื้อตุนเด็ดขาด ส่วนล่าสุดแม่บ้านลาออกไปแล้วนะคะนางบอกเราว่าอยู่ต่อไม่ไหวจริงๆค่ะ เหนื่อยทุกวัน ส่วนแม่เราอยู่อีกที่ ฉะนั้นเราก็ไม่กลับไปบ้านนั้นอีกเลย
ในตอนนี้บ้านนั้นจะมีสภาพยังไงเราไม่อยากจะนึกเพราะตอนนี้พ่อเขาอาศัยอยู่คนเดียวกับบ้านที่มีถึง3ชั้น !!!
เรื่องของเราก็มีเท่านี้ค่ะ
เพื่อนๆเคยเครียดกับปัญหาการที่มีบ้าน รก กันบ้างไหมคะ ? มาแชร์กันเถอะ
เข้าเรื่องเลยนะ คือบ้านจขกทเป็นบ้านที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งนึงค่ะ ตัวบ้านมีทั้งหมด3ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่ส่วนกลางมีบริเวณครัวไว้ทำอาหาร
มีโต๊ะกินข้าว มีทีวีและโซฟาค่ะ
ชั้นสองจะเป็นห้องนอน Master Bedroom
ชั้น3มีอีก2ห้องนอน
บ้านหลังนี้อยู่กัน4คนรวมแม่บ้านที่อยู่กินประจำที่บ้านเลย
ปัญหาที่ทำให้เราเครียดคือพ่อของจขกทเป็นคนที่รกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกๆ ไม่มีความเป็นระเบียบเลยค่ะ เอกสารซองจดหมายต่างๆแทนที่จะเก็บเข้าแฟ้มโน่นค่ะเขาไปกองเป็นเนินภูเขากินที่ครึ่งนึงของโต๊ะกินข้าวเลยค่ะ ส่วนใหนห้องนอนพ่อบอกได้เลยว่าทางเดินแคบมากกกกๆๆ เพราะตรงทางเดินมีหนังสือกองเป็นตั้งๆเลยค่ะ ห้องเขาก็คือห้องชั้น2 คือบริเวณตู้เสื้อผ้าก็โอ้โหเสื้อผ้ามีเป็นกอง คือแม่บ้านบอกว่าไม่มีที่จะยัดเสื้อผ้าที่พับแล้วได้ค่ะเพราะมันล้นออกมานอกตู้แล้ว เอาเป็นว่าMaster Bedroomที่ดูใหญ่ก็ดูเล็กและแคบลงไปอย่างชัดเจนค่ะ
คือพ่อเขาไม่ทิ้งอะไรเลยอ่ะเอกสารเก่าๆก็กองอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวกองเก่าไม่เคยเก็บทิ้งมีกองใหม่มาถมตลอดค่ะ หนังสือนี่คือเป็น1,000กว่าเล่มได้มั้งส่วนใหญ่โดนปลวกกินหมดละ
ส่วนเวลาเขาทำอาหารทำขนมอ่ะเขาก็จะเป็นคนที่ซื้อของมาตุนไว้ทั้งๆที่ของที่เคยซื้อยังไม่เปิดใช้ นึกออกปะคะ ล่าสุดเร็วๆนี้บ้าน รกจนมีน้องตุ๊กแกมาเยือน ยิ่งบ้านรกเท่าไหร่จะมีสัวต์หรือแมลงมาอยู่มากเท่านั้น เจอมาแล้ว อีกทั้งด้วยความที่พ่อชอบทำขนมชอบทำอาหารระหว่างทำก็ไม่เก็บอุปกรณ์ เศษอาหารเศษขนมปังร่วงเต็มบริเวณครัว พ่อก็นะซื่อของมาทีนึงเยอะมากกๆใช่ค่ะซื้อมาตุนแล้วก็ตุนๆ ถ้านี่เป็นตู้เย็นหรือตู้เก็บของคงอยากตะโกนว่าพอเถอะ หยุดสักที กูจะระเบิดแล้วไอ้..... 55555
เราไม่แปลกใจที่จะมีจิ้งจกเต็มบ้าน หน้าที่เก็บล้างใครคะ..... แม่บ้านไงจะใครล่ะ แม่บ้านเราถึงกับเคยบอกว่าคุณเก็บเองบ้างสิคะ ล้างเองบ้างให้ฉันทำทุกวันมันเหนื่อยค่ะ ไหนจะห้องนอน ห้องน้ำคุณอีกที่ต้องใช้เวลาCleanทุกวัน
หลายครั้งที่เราแอบเอาของที่รกๆของเขาไปทิ้งโดยที่เราดูแล้วว่าไม่ใช่เอกสารสำคัญ เรากับแม่บ้านช่วยกันค่ะ ทิ้งได้ประมาณ10ถุงใหญ่เลยยย บ้านก็โล่งไปเยอะ แต่ก็ฝันดีได้ไม่นานเพราะหลักจากนั้นไม่นานเขาก็สั่งซื้อหนังสือและมีเอกสารต่างๆมาอีกเพียบมาไว้ในบ้านเหมือนเดิม บอกก่อนนะคะว่าถ้าห้องนอนเขาจะรกอันนี้เราจะไม่เครียดถือว่าzoneส่วนตัว แต่นี่ลามมาจนชั้น1ค่ะ แม่บ้านบอกว่าห้องเขานี่ไม่มีที่เดินเลยค่ะตอนนี้ต้องวางเสื้อผ้าเขาที่ซักแล้วไว้หน้าห้องและให้พ่อเอาเข้าห้องไปวางเองเพระเข้าไปไม่ได้ละของมันรกมันเยอะโคตรๆ เราบอกพ่อหลายรอบแล้วว่าช่วยจัดบ้านหน่อย ช่วยจัดของให้เป็นระเบียบหน่อย เขาบอกจะทำ จะทำมาชาตินึงแล้วก็ไม่ทำซะทีค่ะ 5555555555 แม่บ้านจัดให้เขาก็ด่า หาว่าทำของเขาหาย !!! ด้วยความที่เรานึกว่าเออพูดไปก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์เพราะเขาไม่ฟังเลย เรานี่เห็นใจแม่บ้านสุดดดๆ
และด้วยความที่เราทนมาหลายปีจนหมดความอดทนมันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพ่อแย่และห่างเหินกันเรื่อยๆ เราเองพอมีเงินอยู่บ้างเลยออกมาซื้อคอนโดอยู่ค่ะ เป็นห้องของเราเองเลยอยู่คนเดียว ข้อดีของคอนโดคือเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากค่ะ เราชอบมากๆ
และเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดเรามีแค่ ทีวี โซฟา โต๊ะกินข้าว เตียงนอน และตู้เสื้อผ้าค่ะ แค่นั้นเองจบ พ่อเราเคยมาหาที่คอนโดเพียงครั้งเดียว
"พ่อถามเราว่า นี่ไม่มีของอะไรเลยเหรออออ? "
จริงๆมีแต่เราเก็บทุกอย่างเป็นระเบียบมากค่ะ ซื้อของเท่าที่ของกินต้องใช้ ไม่มีการซื้อตุนเด็ดขาด ส่วนล่าสุดแม่บ้านลาออกไปแล้วนะคะนางบอกเราว่าอยู่ต่อไม่ไหวจริงๆค่ะ เหนื่อยทุกวัน ส่วนแม่เราอยู่อีกที่ ฉะนั้นเราก็ไม่กลับไปบ้านนั้นอีกเลย
ในตอนนี้บ้านนั้นจะมีสภาพยังไงเราไม่อยากจะนึกเพราะตอนนี้พ่อเขาอาศัยอยู่คนเดียวกับบ้านที่มีถึง3ชั้น !!!
เรื่องของเราก็มีเท่านี้ค่ะ