[SR] รีวิว OPPO BAND สมาร์ตแบนตัวคุ้ม วัด Spo2 แบตอึด 12 วัน ครบในราคา 1,199 บาท !



SMARTBAND เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆคนน่าจะสนใจกันทั้งในระดับเริ่มต้นของการออกกำลังหรือว่าใส่เพื่อติดตามกิจกรรมระหว่างวัน หรือแม้แต่ตรวจดูสุขภาพตัวเองทั่วไปก็ถือว่าใช้งานได้ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเป็นสายออกกำลังก็ได้ หรือบางคนอาจจะเน้นแค่ดูเวลา ดูแจ้งเตือนก็ไม่มีปัญหาครับ สำหรับ OPPO Band เองก็ลงมาลุยตลาดนี้แบบเต็มที่เช่นกันตามหลัง OPPO Watch กันเลยแต่ครั้งนี้เน้นราคาระดับเริ่มต้น ที่คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างมากในราคา 1,199 บาทและมาพร้อมกับ งานออกแบบฟีเจอร์ รองรับการทำงานแบบเต็มที่รวมถึงรองรับภาษาไทยได้ด้วยเช่นกัน







OPPO Band นั้นมาพร้อมกับ สเปกการใช้งานที่ต้องบอกว่าครอบคลุมเด่นๆในเรื่องของการมี เซนเซอร์การวัด SpO2 แบบต่อเนื่องสามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนรวมถึงอัตราการหายใจอย่างละเอียดได้ด้วยทำให้การนอนหลับนั้นดีขึ้นนั้นเองครับ รวมถึง แบตแบตเตอรี่ 100 mAh ที่ใช้งานติดต่อกันได้ 12 วัน และใช้งาน หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว (126 x 294 พิกเซล) touch screen, 100% DCI-P3  ใช้กระจกโค้งแบบ 2.5D และกันรอยขีดข่วน และยังรองรับ โหมดกีฬา 12 โหมด (วิ่งแบบ Outdoor, ปั่นจักรยาน Outdoor , เดิน Outdoor, ปั่นจักรยานในร่ม, วิ่งในที่ร่ม , วิ่งเพื่อลดไขมัน, Free training, แบตมินตัน, ว่ายน้ำ, เครื่อง Rowing, เครื่องเดินวงรี และ เวทเทรนนิ่ง) พร้อมกับ แกนตรวจจับการเคลื่อนที่ 3 แกน (Tri-axis Accelerometer) และรองรับการ กันน้ำ 5ATM (ลึก50เมตร) รวมถึงใช้งาน Bluetooth 5.0 LE ซึ่งมาพร้อมกับ ราคาขายในไทยถือว่าทำได้ดีที่ 1,199 บาทเท่านั้น และใช้งานได้เต็มๆกับฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ ถือว่าคุ้มค่ามาก





UNBOX

- ตัวสาย OPPO Band สีดำ
- ตัวเรือน OPPO Band
- แท่นชาร์จ OPPO Band
- คู่มือการใช้งาน



DESIGN

งานออกแบบนั้นต้องบอกว่าดีไซน์นั้นยังคงมีความกระทัดรัดเหมาะสำหรับทั้ง ผู้ชาย และ ผู้หญิงใส่ได้ทั้งหมด เพราะว่าตัวนี้จริงๆจะมีทั้งสีให้เลือกทั้งสำหรับสาวๆหรือหนุ่มได้ทั้งหมด สีดำ และ สีลาเวนเดอร์ นั้นเองแต่ตัวเรือนจะเป็นสีดำเหมือนกัน แน่นอนว่าดีไซน์อาจจะมีความคล้ายๆกันเพราะว่าพวก Smartband นั้นจะเน้นความเล็ก บาง เบาไว้เป็นหลักทำให้งานออกแบบไมไ่ด้หนีไปจากแนวนี้เท่าไรนัก แต่รุ่นนี้ถือว่าเด่นๆในเรื่องของหน้าจอ 1.1 นิ้ว AMOLED ที่สีสันตรง คมชัด และสัมผัสการใช้งานต้องบอกว่าตอบสนองได้ดีอีกทั้งรองรับการกันน้ำ 50 เมตรได้สบายๆเลยแหละ







ตัว OPPO Band มาพร้อมกับสายซิลิโคนที่มีขนาดกำลังดีรองรับการใช้งานได้หลากหลายขนาดครับและมีความนุ่มกำลังดีและตัวเรือนนั้นไม่ได้หนาหรืออ้วนมากนักทำให้เวลาใส่นั้นไม่ได้รู้สึกนูนออกมาเยอะ หรือเกะกะแต่อย่างใด ตัวล็อกอะไรเป็นแบบตัวล็อกเข้ากับรูบนสายได้แข็งแรงเช่นเดิม รวมถึงตัวหน้าปัดมีขนาดใหญ่รองรับการสัมผัสได้เต็มๆ หน้าจอในรุ่นนี้เด่นๆให้มา AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว (126 x 294 พิกเซล) color touch screen, 100% DCI-P3  ใช้กระจกโค้งแบบ 2.5D และกันรอยขีดข่วน ถือว่ารองรับการทำงานได้แบบสบายๆ







ตัวเรือนนั้นสามารถถอดออกมาได้ง่ายๆเมื่อถอดออกมาจากด้านล่างครับแน่นอนว่าเพื่อความสะดวกต่อการ ถอดเพื่อเปลี่ยนแปลงสาย หรือจะเป็นการชาร์จนั้นเอง แต่ถ้าถามว่ามีความแน่นไหมต้องบอกว่าล็อกได้แน่นเมื่อมองไปในตัวสายเราจะเห็นว่ามีตัวล็อกอะไรแน่นหนาจัดเต็มมาให้ พร้อมกันทั้งหมด 4 ด้านของตัวสายอีกทั้งหน้าจอยังรองรับการใส่ได้แน่นๆเลยทีเดียว ตัวเรือนนั้นเป็นแบบพลาสติกดำเงาทั้งหมดถือว่าสวยงามแต่ต้องระวังรอยขีดข่วนอยู่บ้างครับ



SPEC

- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว (126 x 294 พิกเซล) touch screen, 100% DCI-P3 , ใช้กระจกโค้งแบบ 2.5D และกันรอยขีดข่วน
- แสดงการแจ้งเตือนจากแอป, การโทร ฯลฯ
- การตั้งปลุกแบบเงียบ, สามารถเช็คสภาพอากาศ, ควบคุมการเล่นเพลงได้, instant location lock from phone
- โหมดกีฬา 12 โหมด (วิ่งแบบ Outdoor, ปั่นจักรยาน Outdoor , เดิน Outdoor, ปั่นจักรยานในร่ม, วิ่งในร่ม, วิ่งเพื่อลดไขมัน, Free training, แบตมินตัน, ว่ายน้ำ, เครื่อง Rowing, เครื่องเดินวงรี และ เวทเทรนนิ่ง)
- มีรางวัลสำหรับการนับจำนวนก้าว, นับนาทีที่ออกกำลัง ฯลฯ
- เซนเซอร์วัด Heart rate, เซนเซอร์ Sp02 สำหรับวัดออกซิเจนในเลือด
- แกนตรวจจับการเคลื่อนที่ 3 แกน (Tri-axis Accelerometer)
- น้ำหนัก 10.3กรัม (ไม่รวมสาย)
- กันน้ำ 5ATM (ลึก50เมตร)
- Bluetooth 5.0 LE สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ Android และ iOS devices,
- แบตเตอรี่ 100 mAh ที่ใช้งานติดต่อกันได้ 12 วัน



SOFTWARE

ทางด้านระบบในการใช้งานตัวนี้จะใช้แอปชื่อ Hey Tap Health ที่ต้องกดลงผ่านทาง Playstore ต่างๆครับแม้แต่ในเครื่อง OPPO เองก็ไม่มีนะแอบแปลกใจนิดๆครับ แต่ก็ถือว่าไม่รกเครื่องสำหรับใครที่ไม่ได้ใช้งาน ก็โหลดกันเองได้เลย เมื่อโหลดมาแล้วก็สมัครการใช้งาน ผูกกับ Facebook Google ได้ตามสะดวกเลยว่าจะใช้งานแบบไหนครับเมื่อเข้ามาก็จะสามารถตั้งค่าได้เยอะแยะมากมายรวมถึง การเชื่อมต่อครั้งแรกต้องใช้งานแอปบนมือถือด้วยนะอันนี้จำเป็น



ตัว Software Hey Tap Health สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ทั้งหมดรวมถึงตั้งได่ว่าจะ ใส่ข้างไหน ฟีเจอร์ยกข้อมือแล้วติดหรือว่าจะเป็นการตั้ง Night Mode ต่างๆครับ แน่นอนว่าสามารถเข้าไปดู การเดิน ข้อมูลระหว่างวัน หรือเข้าไป Fitness การวิ่ง เพื่อจับระยะทางเส้นทางร่วมกับ GPS บนมือถือได้ด้วย และหน้าตั้งค่าต่างๆของ OPPO Band ทั้งหมดครับ ทั้งตั้งเวลาปลุก ตั้งค่าการแจ้งเตือน หรือว่าจะเป็นการอัปเดต ต่างๆก็จะเข้าในส่วน more ทั้งหมดครับ



ในส่วนของ Watch Face และการตั้งค่าอื่นๆเช่นการตั้งค่าเป้าหมายของแต่ละวัน การตั้งค่า การวัดชีพจรว่าวัดเยอะหรือทั้งวัน ห่างกันกี่นาที หรือว่าจะเป็น การแจ้งเตือนชีพจร สูง หรือ ต่ำเกินไปต่างๆให้แจ้งเตือนทั้งหมด และการติดตาม SpO2 ตอนนอนหรือว่าตอนทั่วไปทั้งหมดต่างๆ และรองรับการแจ้งเตือนหลายๆแอปรองรับภาษาไทยชัดเจน



หน้าตา Watch Face รองรับการเปลี่ยนเยอะมากๆทั้งหน้าตาที่ให้มาหลากหลายหมวด และ สามารถเอารูปถ่ายของเราไปใส่ใช้งานได้ด้วยทำให้รองรับได้อิสระมากๆในการตกแต่งหรือใช้งาน รวมถึงหน้าจอมีความสวยและลงตัวจริงๆ





SCREEN AMOLED 

หน้าจอเรียกได้ว่ามีความโดดเด่นมากๆตัวนึงเพราะว่านอกเหนือจากการใช้งาน AMOLED แล้วยังให้สเปกที่ค่อนข้างดีใช้งานหน้าจอขนาด 1.1 นิ้ว (126 x 294 พิกเซล) และยังรองรับ touch screen, และมีค่าความแม่นยำของสีมากถึง 100% DCI P3 color gamut และใช้กระจกโค้งแบบ 2.5D และกันรอยขีดข่วน ถือว่าเป็นหน้าจอ Smartband ที่มีความแม่นยำของสีมากๆตัวนึงและรองรับการสู้แสงได้ดีสามารถปรับระดับของแสงได้เยอะมากครับ



ตัวหน้าจอนั้นมีความหลากหลายในการปรับแต่งหน้าตาทั้งหลายรวมถึงสามารถเลือกรูปของเราที่เราถ่ายมาตั้งเป็นพื้นหลังได้อีกด้วยนั้นเองเช่นในภาพข้างบนแอดก็เอาภาพจาก OPPO A74 5G มาใส่บอกเลยว่าแสงสีนั้นทำได้ดีไม่ต่างกับในกล้องหลักเลยแหละรวมถึงการตอบสนองต่อการสัมผัสตัวนี้ถือว่าทำได้ไวตอบสนองได้แม่นและลื่นไหลมากๆครับ เรื่องจอต้องบอกกว่าโดดเด่นทั้งเรื่องของคุณภาพสีสันที่ตรงคมชัด และสู้แสงได้เด่นรวมถึงการสัมผัสด้วยเช่นกัน





FEATURE

ทางด้านฟีเจอร์รุ่นนี้ถือว่ารองรับการใช้งานค่อนข้างเยอะและหลากหลายมากๆในการทำงานแน่นอนว่านอกเหนือจากโหมดออกกำลังทั้ง 12 โหมดแล้วก็ยังสามารถใช้งาน ควบคุมเพลงการเปิดเพลงทั้งหลายในตัวเครื่อง รองรับการวัดชีพจร รองรับการวัด SpO2 รวมถึงการใช้งาน การฝึกหายใจ หรือแม้จะเป็นการดูการแจ้งเตือน การดูสภาพอากาศ และแน่นอนว่า สามารถดูการแจ้งเตือนภาษาไทยได้ และ ดูรายชื่อคนโทรเข้ามาได้และกดวางสายได้ด้วยเช่นกัน ถือว่าฟีเจอร์การใช้งานนั้นค่อนข้างครบ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอย่างมากครับ และ สายออกกำลังน่าจะชอบ



หน้าตาเมื่อเราใส่ทั้งวันนั้นตัวแอปก็จะรวมข้อมูลในแต่ละวันมาให้ทั้งหมดว่าเดินไปทั้งหมดกี่ก้าว เป็นระยะทางเท่าไร เผาผลาญไปเท่าไรอย่างไรบ้าง และแน่นอนว่าสามารถส่งข้อมูลไป Google Fit ได้ด้วยนะ อีกทั้งยังสามารถติดตาม ชีพจรแบบ 24 ชั่วโมงได้ และ แสดงข้อมูลต่างๆทั้งเรื่องของ การนอนหลับแต่ละวัน และ SpO2 ทั้งหมดในแต่ละวัน และในหน้า Fitness นั้นสามารถดูแผนที่นั้นสามารถกดเข้าไป ออกกำลังได้และจะบันทึกเส้นทางจริง เมื่อพกมือถือ



ในหน้าข้อมูล ชีพจรนั้นจะเป็น กราฟแสดงชัดเจนพร้อมกับระยะชีพจรระหว่างต่ำสุด ไปสูงสุดได้ และบอกชีพจรช่วงพักว่าเท่าไรครับ อีกทั้งจะมีการสรุปเป็นเดือน เป็นวีค และเป็นปีได้ด้วยเช่นกันสำหรับการวัดแบบทั้งวัน และแน่นอนว่าข้อมูลในเรื่องของการนอนนั้นบอกได้ละเอียดอย่างมากทั้งเรื่องของระยะการนอนทั้งหมด คิดเป็นกี่ % ว่าดีหรือไม่ดี อีกทั้งยังบอกระยะเวลาการหลับลึก หรือ ช่วงรู้สึกตัว และ ระยะการตื่นหรือ สะดุ้งอะไรทั้งหมดเลยนั้นเองครับ





SpO2

การวัดระดับออกซิเจนในเลือดนั้นเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา และเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ใส่เข้ามาให้ในระดับราคานี้ครับ และค่ายนี้ก็จัดเต็มใส่มาให้แล้วสามารถกดวัดได้เลยไม่ต้องติดตามแค่ตอนนอนครับ แน่นอนว่าบางค่ายจะใส่เข้ามาให้ใช้งานทำงานตอนนอนเท่านั้นแต่อันนี้สามารถกดใช้งานวัดได้ทันที อยู่นิ่งๆแล้วจะทำการวัดให้ รวมถึงตอนนอนตั้งค่าให้วัดตลอดเวลา และวัดบ่อยได้ด้วยเช่นกันถือว่าติดตามแบบ real time และแม่นยำมากๆในการใช้งานจริง

ชื่อสินค้า:   OPPO BAND
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่