เพิ่งนั่งดู เด็กใหม่ Season 2 ตัวละครที่ผมชอบมากตัวนึง คือ "ยูริ"
ความคิดผมอาจจะสวนทางกับหลายคน
แต่ผมมีเหตุผลของผมแบบนี้
ระหว่างสองตัวละคร แนนโน๊ะ กับ ยูริ
มีความ "สีเทา" ที่ต่างกันคนละเฉด
แนนโน๊ะ จะเป็นตัวละครที่ออกมาในเชิงตั้งคำถามแบบ "ท้าทาย"
จุดเปราะบางของมนุษย์
คือ ถ้าใครยอมพ่ายแพ้ก็ต้องรับกันไปในชะตากรรมที่เลือกเอง
หรือบางทีก็มาในแบบของ "เจ้ากรรมนายเวร"
ยูริ จะเป็นตัวละครที่เอาความคิดตัวเองเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของตัวละครนั้นๆ
เน้นแบบตรงไปตรงมา ไม่มีลีลา เห็นผลเร็ว
เพราะยูริเกิดมาจากปมอีกแบบ
คือ รู้สึกว่าตัวเองเคยอยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ
และพร้อมจะหาพวกที่มาสนับสนุนความคิดแบบตัวเอง
เหมือนที่ตัวละครยูริเคยหันไปถามแนนโน๊ะในเรื่องวิธีการที่ชักช้า
เราเลยจะเห็นการหักเหลี่ยมของสองตัวละครนั้นในแทบจะทุกตอน
แต่ด้วยบทของแนนโน๊ะจะถูกวางในตำแหน่งที่เป็นเหมือนนางพญา
ขณะที่ยูริเป็นตัวละครจะดูมี "ความพยายามที่จะเป็น"
ซึ่งมันจะทำให้แนนโน๊ะดูต่างระดับขึ้นมา
นึกภาพแบบดราก้อนบอลที่มี เบจิต้า กับ โกคู
ซึ่งเบจิต้าเก่งยังไงก็ไม่มีทางไล่โกคูทัน
นั่นคือการวางลำดับชั้นของตัวละคร
ที่ต้องมีไว้เพื่อให้เกิดการเปรียบ ดันตัวละครหลักให้เด่นขึ้นมา
และมีจุดเชื่อมโยงถึงกัน
การจะเข้าใจลำดับชั้นของตัวละคร
ต้องลองฟังบทพูดระหว่างกันด้วย
สุดท้าย..เพราะมนุษย์เราต่างมีความซับซ้อน
..
ถ้าไม่มียูริ เราจะไม่เห็นแนนโน๊ะ แบบที่มีมิติในด้านการเปรียบเทียบ
แล้วบทมันจะราบเรียบไปเลยครับ
"ยูริ" ตัวละครที่ควรมีอยู่ใน เด็กใหม่ season 2
ความคิดผมอาจจะสวนทางกับหลายคน
แต่ผมมีเหตุผลของผมแบบนี้
ระหว่างสองตัวละคร แนนโน๊ะ กับ ยูริ
มีความ "สีเทา" ที่ต่างกันคนละเฉด
แนนโน๊ะ จะเป็นตัวละครที่ออกมาในเชิงตั้งคำถามแบบ "ท้าทาย"
จุดเปราะบางของมนุษย์
คือ ถ้าใครยอมพ่ายแพ้ก็ต้องรับกันไปในชะตากรรมที่เลือกเอง
หรือบางทีก็มาในแบบของ "เจ้ากรรมนายเวร"
ยูริ จะเป็นตัวละครที่เอาความคิดตัวเองเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของตัวละครนั้นๆ
เน้นแบบตรงไปตรงมา ไม่มีลีลา เห็นผลเร็ว
เพราะยูริเกิดมาจากปมอีกแบบ
คือ รู้สึกว่าตัวเองเคยอยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ
และพร้อมจะหาพวกที่มาสนับสนุนความคิดแบบตัวเอง
เหมือนที่ตัวละครยูริเคยหันไปถามแนนโน๊ะในเรื่องวิธีการที่ชักช้า
เราเลยจะเห็นการหักเหลี่ยมของสองตัวละครนั้นในแทบจะทุกตอน
แต่ด้วยบทของแนนโน๊ะจะถูกวางในตำแหน่งที่เป็นเหมือนนางพญา
ขณะที่ยูริเป็นตัวละครจะดูมี "ความพยายามที่จะเป็น"
ซึ่งมันจะทำให้แนนโน๊ะดูต่างระดับขึ้นมา
นึกภาพแบบดราก้อนบอลที่มี เบจิต้า กับ โกคู
ซึ่งเบจิต้าเก่งยังไงก็ไม่มีทางไล่โกคูทัน
นั่นคือการวางลำดับชั้นของตัวละคร
ที่ต้องมีไว้เพื่อให้เกิดการเปรียบ ดันตัวละครหลักให้เด่นขึ้นมา
และมีจุดเชื่อมโยงถึงกัน
การจะเข้าใจลำดับชั้นของตัวละคร
ต้องลองฟังบทพูดระหว่างกันด้วย
สุดท้าย..เพราะมนุษย์เราต่างมีความซับซ้อน
..
ถ้าไม่มียูริ เราจะไม่เห็นแนนโน๊ะ แบบที่มีมิติในด้านการเปรียบเทียบ
แล้วบทมันจะราบเรียบไปเลยครับ