The more you hide your feeling, the more it shows
The more you deny your feeling, the more it grows.
อำพนอยู่ในสถานะน้องชายของเพื่อนสนิท นานเท่าไหร่แล้วที่พี่พิงค์อยู่ในสายตาของเขาเสมอ นับแต่วันที่เจ้าตัวเป็นเด็กชายอ้วนกลม เดินตามหลังพี่สาวคนสวยสองคน พี่สาวแท้ ๆ เติบโตมาสวยแซ่บมั่นใจ ส่วนพี่สาวไม่แท้ก็อ่อนหวานสดใสตรึงใจเด็กชายตัวอ้วนกลมที่เติบโตมาเป็นชายหนุ่มที่ถึงพร้อมด้วยรูปลักษณ์ ฐานะ รวมไปถึงทัศนคติ 8 ปีที่ไม่ได้เจอกัน เจ้าหมูอ้วนของน้ำพิงค์เปลี่ยนไปมาก แต่หากในสายตาของคนเป็นพี่ ดูเหมือนชายหนุ่มที่เติบโตเต็มวัยยังคงเป็นเด็กน้อยปากแจ๋วอยู่เหมือนเดิม ส่วนพี่สาวคน "ไม่" สวยของอำพน ก็ยัง "ไม่" สวยเพียงแค่ปากว่า เพราะ สายตาของ "น้องชาย" คล้ายฉายแววรื่นรมย์ ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง การเย้าแหย่ก็คงเป็นเพียงต้องการมองเห็นอารมณ์หลากหลายของคนตรงหน้าที่ไม่พบเจอกันมานานหลายปี
สำหรับเขาพี่พิงค์ก็เหมือนสวนดอกไม้ เต็มไปด้วยสีสันอ่อนหวานอบอุ่น ร่มรื่นงดงาม จนพึงจะใจหยุดมองนาน ๆ แม้จะต้องกั้นขอบเขตตัวเองให้อยู่นอกรั้วก็ตาม น้ำพิงค์แต่งงานแล้ว เขามีสิทธิแต่เพียงเฝ้ามอง เย้าแหย่ในสถานะน้องชายของเพื่อนสนิทแต่เพียงแค่นั้น แน่นอนว่าการ์ดแต่งงาน และ ตั๋วเครื่องบินที่น้ำพิงค์ส่งให้ไป บ่งบอกถึงความสนิทชิดเชื้อ แน่นอนว่าอำพนย่อมได้รับ แต่การเงียบหายไม่กลับมาน่าจะเป็นนัยยะ ว่าเจ้าตัวคงไม่พร้อมจะทำใจเมื่อสวนดอกไม้สดใสที่เคยเฝ้ามองบัดนี้มีคนจับจองเสียแล้วโดยที่เขาไม่มีสิทธิอะไรที่จะไปหวงห้าม ในเมื่อมันเป็นชีวิตของน้ำพิงค์ สิ่งที่ทำได้คงเป็นเพียงการส่งใจยินดีเงียบ ๆ และ รอให้กาลเวลาขัดเกลาอารมณ์จนพร้อมจะพบพานกันอีกครั้งเมื่อวันนั้นมาถึง
8 ปีผ่านไป อำพนเติบโตเป็นหนุ่มรูปงาม พรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติ และ ทรัพย์สมบัติ กาลเวลาน่าจะขัดเกลาให้เขาเก็บงำอารมณ์และน่าจะทำใจได้อย่างสมบูรณ์ แต่บทสนทนาระหว่างน้ำพิงค์กับรตีพี่สาวกลับจุดประกายความเป็นห่วงลึก ๆ ในใจ ชั้นจะมาคุยกับเธอเรื่องคุณศศี แต่เอาเถอะมันคงไม่มีอะไร ใบหน้าสวยหวานหมองลงด้วยความไม่สบายใจ ... สรปุแล้ว คุณลือ สามีของพี่พิงค์เขาเป็นอย่างไร ในความอยากรู้ และ ความรักแต่เพียงข้างเดียวที่ยังต้องยอมรับว่ายังไม่หายไปไหน ทำให้เจ้าตัวกระโดดลงสู่กลเกมค้นหาความจริง เพื่อพบว่าสวนดอกไม้แสนสวยของเขากำลังถูกทำลาย ผู้ชายคนนั้นไม่ดูแล "คน" สำคัญที่เขาให้ใจ รักใคร่ และ เทอดทูน ไม่เพียงแต่คุณศศีอะไรนั่น แต่นี่คือ รำนำ เด็กในบ้าน อำพนโกรธจนตัวสั่น หากไม่สามารถจะพูดอะไรได้นอกจากพยายามลงลึกสู่กลเกม หวังใจจะให้น้ำพิงค์มองเห็นความจริงที่กัดกินทำลายทั้งตัวตน ทั้งทรัพย์สิน และ ความไว้ใจ ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่ต้องการให้ปราสาททรายของน้ำพิงค์ต้องพังลง แต่มันก็ยังดีกว่าความเสียใจและไร้เกียรติที่จำต้องฝืนทน ทั้งที่ตัวตนของพี่พิงค์ไม่ได้มีอะไรไม่ดีไม่งามเลย
ความรักข้างเดียวยิ่งพยายามปกปิดมันยิ่งปรากฎชัดเจน หลายต่อหลายครั้ง บทสนทนาระหว่างเขาและพี่พิงค์ เป็นอำพนที่หลุดปากเปิดเผยหัวใจ บุญบาปที่อีกฝ่ายมองเขาเป็นน้องชายอย่างสนิทใจ บาปบุญที่สถานะความเป็นน้องของพี่รตีทำให้คนใกล้ตัวไม่นึกสงสัยถึงความหมิ่นเหม่ของถ้อยคำ หากตัดคำว่า "น้อง" ออกไป สิ่งเหล่านั้นก็คือการแสดงความรักจากผู้ชายคนหนึ่งที่มีให้ผู้หญิงคนหนึ่ง อำพนพยายามที่จะขีดเส้นตอนนี้เขาอยู่ในฐานะอะไร พี่พิงค์อยู่ในฐานะอะไร แต่เส้นที่ว่านั้นยิ่งนานวันยิ่งเลือนลาง ยิ่งนานวันยิ่งบอบบาง มันอาจจะขาดลงได้ในทุกวินาที เพราะ ความเป็นห่วงเพิ่มพูนขึ้นทุกวันทุกเวลา เมื่อน้ำพิงค์ตัดสินใจปฏิบัติการลับฉบับเมียหลวงลวงสังหาร
เขารู้ว่ามันไม่ง่ายดาย เมื่อแผลทุกอย่างยังสดใหม่ เขารู้ว่าการตัดสินใจนั้นยาก และ ศึกที่ต้องตั้งรับมาพร้อมกันทั้งกายใจและอารมณ์ เขาอึดอัดที่ทำอะไรไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวเดียวที่ใจอยากทำ เขารู้ว่าพี่พิงค์ต้องการจัดการเรื่องนี้แต่เพียงคนเดียว เขาไม่มีสิทธิที่จะออกตัวจนกว่าพี่พิงค์จะต้องขอ ซึ่งเป็นความทรมานใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้กระทั่งวันที่ชัยชนะมาถึงมือของน้ำพิงค์อย่างหมดจด เส้นแบ่งในใจของอำพนล่มสลายลงจนเกือบหมด แต่เจ้าตัวจะก้าวต่อไปอย่างไร น้ำพิงค์อาจสิ้นสุดความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของลือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าซากปรักหักพังแห่งความสัมพันธ์จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับน้ำพิงค์ พี่พิงค์พร้อมจะเริ่มใหม่กับใครคนไหนรึยัง พี่พิงค์จะยอมรับได้รึเปล่าว่าเจ้าหมูอ้วนข้างตัวคิดอะไรที่ไกลกว่าความเป็นพี่น้อง
ถ้าหากอ้อมกอดในวันนี้เป็นครั้งสุดท้ายในฐานะน้องชาย
จะเป็นไปได้ไหม หากความรักข้างเดียวของเขากำลังจะสิ้นสุดลง
กระเช้าสีดา (กึ่งรีวิว) : อำพน God of one sided love