สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
มันมีไอดอลบางประเภทที่แฟนคลับทุ่มเทให้มากกว่าไอดอลปกติน่ะค่ะ ซึ่งจะมีวิธีขายที่...ขอใช้คำว่า โปรยเสน่ห์ ละกัน ภาษาปากเรียกว่า "ตก-โดนตก" ซึ่งไอดอลประเภทนี้จะชูจุดขายว่าสิ่งที่แฟนคลับทุ่มเทให้จะทำให้เธอเจริญในหน้าที่การงาน ประสบความสำเร็จเป็นไอดอลที่โด่งดัง เธอจะตอบแทนคุณด้วยการตั้งใจทำงานเต็มที่และเป็นไอดอลที่ดี
ซึ่งแฟนคลับจะทุ่มให้มากกว่าไอดอลตามปกติค่ะ ทุ่มให้ประหนึ่งเป็นแฟนจริงๆ ของตัวเองทีเดียว นอกจากทุ่มแบบไม่เหลือเงินเก็บ ต้องกระเบียดกระเสียนกินอยู่ประหยัดเพื่อให้มีเงินมาเปย์ ระดับกู้หนี้ยืมสินมาเปย์ก็ยังมี นอกจากทุ่มเงิน ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจ ใครมาแตะต้องไม่ได้ ก็ยังทั้งรักทั้งหวงสุดชีวิต
ในชีวิตจริง คุณต้องรักหลงอีกฝ่ายเท่าไรจึงจะยอมทำให้ขนาดนี้?
เพราะแฟนคลับกลุ่มนี้ทำให้ขนาดนี้ หากไอดอลมีแฟน จึงรู้สึกเหมือนถูกทรยศนอกใจไงล่ะ ไม่ก็...ส่งลูกไปเรียนแต่ลูกดันตั้งใจมีแฟนมากกว่าเรียน อะไรแบบนั้น OwO"
ในทางกลับกัน แฟนคลับที่ติดตามธรรมดา ไม่ได้ทุ่มเปย์ดุเดือด ก็จะไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนักกับการที่ไอดอลมีแฟน มองว่าไอดอลก็คนคนหนึ่งที่ทำมาหากิน เราเองก็เป็นคนและทำมาหากินเช่นกัน เธอควรทำอะไรได้เหมือนเรา เรามีแฟนได้ เธอก็ควรมีแฟนได้
พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช่แฟนคลับที่ทุ่มทุนสร้างประหนึ่งไอดอลเป็นแฟนหรือลูกของตัวเอง จึงไม่คิดมากหากไอดอลจะมีแฟน
ระบบ 48 จะเก็บคนที่ทุ่มเปย์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักค่ะ ครั้งหนึ่งฉันเคยเรียนรู้มาจาก AKB รุ่นแรกว่า ค่ายขาย "สถานะไอดอลโด่งดัง" เป็นสินค้า ตัวไอดอลเองก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีความฝันและความตั้งใจ ดังนั้นโอตะจึงต้องซื้อ "สถานะไอดอลโด่งดัง" ให้เด็กผู้หญิงคนที่ชอบ โดยการจ่ายเงินให้ค่ายแล้วค่ายก็ไปผลักดันเธอคนนั้นให้เป็นไอดอลซะ เธอเองก็จะชูจุดขายว่า "หนูตั้งใจเป็นไอดอลจริงจังนะ เลือกดันหนูเถอะ" หนึ่งในสิ่งที่เราพอจะมองออกได้ว่าเธอเอาจริงก็คือการไม่มีแฟน แบบว่าทุ่มเทชีวิตให้การเป็นไอดอลอย่างเดียวเลย มันก็น่าสนับสนุนกว่าคนที่แบ่งเวลาส่วนหนึ่งไปใช้กับแฟนถูกไหมล่ะ ในเมื่อคนมีแฟนขายได้น้อยกว่าแน่ๆ ค่ายจึงให้เราเลือกในกลุ่มคนไม่มีแฟนเท่านั้น กลายเป็นกฎห้ามมีแฟนไปโดยปริยาย
ใครทำยอดสูง ค่ายก็จะผลักดันให้ดัง เรียกได้ว่าไอดอลคนนั้นดังได้ด้วยเงินของแฟนคลับ แฟนคลับจึงมีใจทุ่มเปย์ให้ ค่ายก็ผลิตไอดอลตัวเลือกออกมาเยอะๆ ให้คนได้เลือกเมนว่าตัวเองอยากดันใคร มีกิจกรรมมากมายให้มีโอกาสจ่ายและสามารถขายอะไรแปลกๆ อย่างการจับมือหรือการถ่ายรูปด้วยได้ เงินที่จ่ายเพื่อการจับมือหรือถ่ายรูปจะไม่ถูกมองว่าเป็นค่าจับมือหรือค่าถ่ายรูป แต่เป็นค่าสนับสนุนให้บค่ายผลักดันเธอ
ก็เป็นเหตุผลที่คนจ่ายหัวเสียเมื่อค่ายเอาเงินตัวเองไปผลักดันไอดอลชายแทน การจ่ายเงินให้ผลักดันไอดอลหญิงคนที่ชอบนั้นพอจะอะลุ้มอล่วยให้เอาไปผลักดันไอดอลคนอื่นในวงเดียวกันหรือวงน้องสาวได้ (เพราะวงดัง ไอดอลก็ดังตาม) แต่ไม่ใช่เอาไปปั้นวงใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย จ่ายเงินให้ทำเธียเตอร์ให้ไอดอลหญิงโดยเฉพาะ ทำไมอนุญาตให้ไอดอลชายมาใช้ ทำนองนั้นแหละ พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าจ่ายเงินให้ค่ายโดยตรง แต่จ่ายเพื่อให้ค่ายมีเงินไปดันไอดอลคนที่เราชอบต่างหาก
แนวคิดนี้สร้างความแตกต่างจากระบบ "ขายไอดอล (รวมถึงวัตถุและบริการ)" เป็นสินค้าตามปกติ คือค่ายปั้นไอดอลขึ้นมาด้วยเงินค่ายเอง แล้วคนที่ชอบไอดอลก็จ่ายเงินให้ค่าย หากค่ายคิดจะขายการจับมือหรือถ่ายรูปคงโดนด่ายับ ต้องแถมฟรีแล้วมั้ย ค่ายจะหน้าเลือดอยากได้เงินอะไรนักหนา แตกต่างจากแบบแรกชัดเจน
ในกรณีนี้ เงินที่เข้าสู่ค่าย ค่ายจึงสามารถเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ จะปั้นวงใหม่อะไรก็ตามใจ ไม่มีใครไปยุ่ง
แม้ว่าสินค้าจะเป็นตัวไอดอลเอง แต่ก็จะมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่รักหลงไอดอลระดับเดียวกับแบบกรณีแรก พวกเขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำไป เงินที่จ่ายไป ก็เพื่อทำให้ไอดอลยิ่งดังมากขึ้นไปอีก รู้สึกว่าไอดอลคนนั้นดังได้ก็เพราะตัวเอง ก็จะมีพฤติกรรมคล้ายกับแฟนคลับแบบแรก คือไอดอลมีแฟนแล้วโกรธ บริษัทดูแลไอดอลไม่ดีก็โกรธ โกรธแหละแต่ยังพอเข้าใจว่าเราไม่มีอำนาจอะไรจะเปลี่ยนใจค่ายได้จึงได้แต่ด่าเท่านั้น แม้จะเสียใจที่ไอดอลมีแฟน แต่จะไม่คิดแค้นโกรธเคืองระดับกรณีแรก หลายคนรับได้เป็นอย่างดีด้วยซ้ำ
ความที่แนวทางการขายของสองแบบนี้มีความใกล้เคียงกันมากๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่แฟนคลับจะหลงๆ กันบ้าง
อย่างคุณเจ้าของกระทู้ก็มอง BNK เหมือนไอดอลทั่วไป ค่ายจึงดูโคตรแปลกที่มีกฎละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างการห้ามมีแฟน แฟนคลับก็แปลกที่โกรธถ้าไอดอลมีแฟน ใครๆ ก็ควรมีแฟนได้ป้ะ
ความทุ่มเทต่างกัน ความคิดต่างกัน ปฏิกิริยาต่อไอดอลจึงต่างกันน่ะ
ก็ทำนองนี้แหละค่ะ ฉันไม่ใช่โอตะ แค่สนใจโมเดลธุรกิจเลยพอรู้มาบ้าง หากรู้มาผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ซึ่งแฟนคลับจะทุ่มให้มากกว่าไอดอลตามปกติค่ะ ทุ่มให้ประหนึ่งเป็นแฟนจริงๆ ของตัวเองทีเดียว นอกจากทุ่มแบบไม่เหลือเงินเก็บ ต้องกระเบียดกระเสียนกินอยู่ประหยัดเพื่อให้มีเงินมาเปย์ ระดับกู้หนี้ยืมสินมาเปย์ก็ยังมี นอกจากทุ่มเงิน ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจ ใครมาแตะต้องไม่ได้ ก็ยังทั้งรักทั้งหวงสุดชีวิต
ในชีวิตจริง คุณต้องรักหลงอีกฝ่ายเท่าไรจึงจะยอมทำให้ขนาดนี้?
เพราะแฟนคลับกลุ่มนี้ทำให้ขนาดนี้ หากไอดอลมีแฟน จึงรู้สึกเหมือนถูกทรยศนอกใจไงล่ะ ไม่ก็...ส่งลูกไปเรียนแต่ลูกดันตั้งใจมีแฟนมากกว่าเรียน อะไรแบบนั้น OwO"
ในทางกลับกัน แฟนคลับที่ติดตามธรรมดา ไม่ได้ทุ่มเปย์ดุเดือด ก็จะไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนักกับการที่ไอดอลมีแฟน มองว่าไอดอลก็คนคนหนึ่งที่ทำมาหากิน เราเองก็เป็นคนและทำมาหากินเช่นกัน เธอควรทำอะไรได้เหมือนเรา เรามีแฟนได้ เธอก็ควรมีแฟนได้
พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช่แฟนคลับที่ทุ่มทุนสร้างประหนึ่งไอดอลเป็นแฟนหรือลูกของตัวเอง จึงไม่คิดมากหากไอดอลจะมีแฟน
ระบบ 48 จะเก็บคนที่ทุ่มเปย์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักค่ะ ครั้งหนึ่งฉันเคยเรียนรู้มาจาก AKB รุ่นแรกว่า ค่ายขาย "สถานะไอดอลโด่งดัง" เป็นสินค้า ตัวไอดอลเองก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีความฝันและความตั้งใจ ดังนั้นโอตะจึงต้องซื้อ "สถานะไอดอลโด่งดัง" ให้เด็กผู้หญิงคนที่ชอบ โดยการจ่ายเงินให้ค่ายแล้วค่ายก็ไปผลักดันเธอคนนั้นให้เป็นไอดอลซะ เธอเองก็จะชูจุดขายว่า "หนูตั้งใจเป็นไอดอลจริงจังนะ เลือกดันหนูเถอะ" หนึ่งในสิ่งที่เราพอจะมองออกได้ว่าเธอเอาจริงก็คือการไม่มีแฟน แบบว่าทุ่มเทชีวิตให้การเป็นไอดอลอย่างเดียวเลย มันก็น่าสนับสนุนกว่าคนที่แบ่งเวลาส่วนหนึ่งไปใช้กับแฟนถูกไหมล่ะ ในเมื่อคนมีแฟนขายได้น้อยกว่าแน่ๆ ค่ายจึงให้เราเลือกในกลุ่มคนไม่มีแฟนเท่านั้น กลายเป็นกฎห้ามมีแฟนไปโดยปริยาย
ใครทำยอดสูง ค่ายก็จะผลักดันให้ดัง เรียกได้ว่าไอดอลคนนั้นดังได้ด้วยเงินของแฟนคลับ แฟนคลับจึงมีใจทุ่มเปย์ให้ ค่ายก็ผลิตไอดอลตัวเลือกออกมาเยอะๆ ให้คนได้เลือกเมนว่าตัวเองอยากดันใคร มีกิจกรรมมากมายให้มีโอกาสจ่ายและสามารถขายอะไรแปลกๆ อย่างการจับมือหรือการถ่ายรูปด้วยได้ เงินที่จ่ายเพื่อการจับมือหรือถ่ายรูปจะไม่ถูกมองว่าเป็นค่าจับมือหรือค่าถ่ายรูป แต่เป็นค่าสนับสนุนให้บค่ายผลักดันเธอ
ก็เป็นเหตุผลที่คนจ่ายหัวเสียเมื่อค่ายเอาเงินตัวเองไปผลักดันไอดอลชายแทน การจ่ายเงินให้ผลักดันไอดอลหญิงคนที่ชอบนั้นพอจะอะลุ้มอล่วยให้เอาไปผลักดันไอดอลคนอื่นในวงเดียวกันหรือวงน้องสาวได้ (เพราะวงดัง ไอดอลก็ดังตาม) แต่ไม่ใช่เอาไปปั้นวงใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย จ่ายเงินให้ทำเธียเตอร์ให้ไอดอลหญิงโดยเฉพาะ ทำไมอนุญาตให้ไอดอลชายมาใช้ ทำนองนั้นแหละ พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าจ่ายเงินให้ค่ายโดยตรง แต่จ่ายเพื่อให้ค่ายมีเงินไปดันไอดอลคนที่เราชอบต่างหาก
แนวคิดนี้สร้างความแตกต่างจากระบบ "ขายไอดอล (รวมถึงวัตถุและบริการ)" เป็นสินค้าตามปกติ คือค่ายปั้นไอดอลขึ้นมาด้วยเงินค่ายเอง แล้วคนที่ชอบไอดอลก็จ่ายเงินให้ค่าย หากค่ายคิดจะขายการจับมือหรือถ่ายรูปคงโดนด่ายับ ต้องแถมฟรีแล้วมั้ย ค่ายจะหน้าเลือดอยากได้เงินอะไรนักหนา แตกต่างจากแบบแรกชัดเจน
ในกรณีนี้ เงินที่เข้าสู่ค่าย ค่ายจึงสามารถเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ จะปั้นวงใหม่อะไรก็ตามใจ ไม่มีใครไปยุ่ง
แม้ว่าสินค้าจะเป็นตัวไอดอลเอง แต่ก็จะมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่รักหลงไอดอลระดับเดียวกับแบบกรณีแรก พวกเขารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำไป เงินที่จ่ายไป ก็เพื่อทำให้ไอดอลยิ่งดังมากขึ้นไปอีก รู้สึกว่าไอดอลคนนั้นดังได้ก็เพราะตัวเอง ก็จะมีพฤติกรรมคล้ายกับแฟนคลับแบบแรก คือไอดอลมีแฟนแล้วโกรธ บริษัทดูแลไอดอลไม่ดีก็โกรธ โกรธแหละแต่ยังพอเข้าใจว่าเราไม่มีอำนาจอะไรจะเปลี่ยนใจค่ายได้จึงได้แต่ด่าเท่านั้น แม้จะเสียใจที่ไอดอลมีแฟน แต่จะไม่คิดแค้นโกรธเคืองระดับกรณีแรก หลายคนรับได้เป็นอย่างดีด้วยซ้ำ
ความที่แนวทางการขายของสองแบบนี้มีความใกล้เคียงกันมากๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่แฟนคลับจะหลงๆ กันบ้าง
อย่างคุณเจ้าของกระทู้ก็มอง BNK เหมือนไอดอลทั่วไป ค่ายจึงดูโคตรแปลกที่มีกฎละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างการห้ามมีแฟน แฟนคลับก็แปลกที่โกรธถ้าไอดอลมีแฟน ใครๆ ก็ควรมีแฟนได้ป้ะ
ความทุ่มเทต่างกัน ความคิดต่างกัน ปฏิกิริยาต่อไอดอลจึงต่างกันน่ะ
ก็ทำนองนี้แหละค่ะ ฉันไม่ใช่โอตะ แค่สนใจโมเดลธุรกิจเลยพอรู้มาบ้าง หากรู้มาผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมไอดอลมีข่าวเดทหรือมีแฟนทำไมแฟนคลับบางประเภทถึงไม่พอใจครับ?