หน.พรรคก้าวไกล แนะคนรุ่นใหม่ กลุ่มย้ายประเทศกันเถอะ ชี้ ไทยยังมีความหวัง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6379644
“พิธา” พรรคก้าวไกล ชี้คนหนุ่มสาวอย่าเพิ่งหมดหวัง ไทยเปลี่ยนแปลงได้ถ้าร่วมกันต่อสู้ แม้ตอนนี้รัฐ จะทำให้อนาคตมืดมน แต่อำนาจการเปลี่ยนแปลง อยู่ในมือเรา
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นกรณีกระแสคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ต้องการย้ายประเทศว่า อย่าเพิ่งหมดหวังที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น เพราะอำนาจในการสร้างความเปลี่ยนแปลง อยู่ในมือเรา ในวันที่ตนก้าวเข้ามาสู่สนามการเมืองเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วมีคนบอกว่า สังคมไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่เราเห็นในวันนี้ ตนในเวลานั้นคงไม่เชื่อ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศนี้เป็นไปได้
“
ผมเข้าใจความผิดหวังของคนหนุ่มสาวที่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการประเทศที่พวกเขาสามารถไขว่คว้าโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่านี้ ต้องการประเทศที่มีระบบนิติรัฐ และระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องการประเทศที่กระบวนการยุติธรรม สามารถดำรงความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง ผมในฐานะที่เป็นพ่อ ผมย่อมอยากให้ลูกของผมเติบโตมาในประเทศที่รับประกันว่าจะมอบชีวิตที่ดีให้ลูกของผม และหลานของผมได้”
นาย
พิธา ย้ำว่า แม้ว่าผู้ที่ถืออำนาจรัฐปัจจุบันจะทำให้เรารู้สึกว่าอนาคตของเราช่างมืดมน แต่ตนยังมีความหวังว่าประเทศเราดีกว่านี้ได้ มีความเป็นธรรมมากกว่านี้ได้ รับผิดชอบต่อประชาชนมากกว่านี้ได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตนและเพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกคนถึงยืนหยัดต่อสู้เพื่อเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น
“
ผมเชื่อว่าถ้าเราลงมือต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงความไม่ถูกต้องที่ดำรงอยู่ เราสามารถสร้างประเทศไทยให้เป็นบ้านที่น่าอยู่สำหรับทุกคนได้ ผมจึงอยากเชิญชวนคนหนุ่มสาวที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศนี้ในอนาคตได้โปรดอย่าเพิ่งหมดหวัง ประเทศไทยยังต้องการกำลังความเปลี่ยนแปลงของทุกท่าน ผมเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นเพราะจากการที่เราต่อสู้ร่วมกัน แน่นอนว่าเส้นทางแห่งความก้าวหน้าไม่เคยเป็นเส้นตรง แต่ความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว และอำนาจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้น อยู่ในมือเรา”
‘ส.ส.อิ่ม’ หวั่น กทม. ให้กลุ่มเสี่ยงเดินทางตรวจรักษาเอง เปิดช่องระบาดเพิ่ม จี้เร่งแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2707353
‘ส.ส.อิ่ม’ หวั่น กทม. ปล่อยให้กลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 เดินทางไปตรวจรักษาเอง ยิ่งเปิดช่องระบาดเพิ่ม จี้เร่งแก้ปัญหา
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม น.ส.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ จัดหารถรับส่งประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากที่พักไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการตรวจรักษาโควิด-19 ตามขั้นตอน หวังที่จะช่วยปิดช่องทางการแพร่ระบาด หลังกรุงเทพมหานครเปลี่ยนวิธีปฏิบัติจากเดิมที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บสารคัดหลั่งที่บ้านของกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เป็นให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเดินทางไปยังโรงพยาบาลหรือจุดที่กำหนดให้ด้วยตัวเองเพื่อเก็บสารคัดหลั่ง
ซึ่งเรื่องนี้ ดร.
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กังวลใจกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารจัดการของกรุงเทพมหานคร ที่อาจทำให้เกิดช่องว่างของการแพร่ระบาดโรค กลายเป็นคลัสเตอร์กลุ่มเสี่ยงสูง ซ้ำเติมสถานการณ์ในปัจจุบัน
โดย น.ส.
ธีรรัตน์ ระบุว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูง ที่อยู่ระหว่างกักตัว จากเดิมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะไปที่บ้านหลังนั้นๆ เพื่อทำการเก็บสารคัดหลั่ง (swab) เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์ไปแจ้งกลุ่มเสี่ยงให้เดินทางไปยังสถานที่ที่กำหนดเพื่อทำการ swab พร้อมกัน ซึ่งได้สอบถามย้ำกับประชาชนที่ประสานขอความช่วยเหลือเข้ามาว่าโรงพยาบาลแจ้งให้เดินทางไปเองใช่หรือไม่ โดยทุกคนยืนยันขั้นตอนตามที่ได้แจ้งไปข้างต้น ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรถรับส่งเข้ามาพอสมควร
น.ส.
ธีรรัตน์ ระบุว่า ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบปัญหา แต่ก็เป็นห่วงว่า กรณีที่กรุงเทพมหานคร เปลี่ยนนโยบายการบริหารจัดการนี้ ในพื้นที่ที่ไม่มีรถบริการจะเกิดปัญหากับพี่น้องประชาชนอย่างไร ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องทำอย่างไร หากจะโดยสารรถขนส่งสาธารณะก็อาจทำให้เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นและอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้ จึงอยากให้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เช่น การจัดหารถรับส่งกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล หรือการส่งเจ้าหน้าที่ไป swab ที่บ้านกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อลดการเดินทางปะปนในที่สาธารณะและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
“
กทม.ไม่ควรทำให้ปัญหาความไม่ลงรอยกันทางการเมืองที่หวังผลไปถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาทำให้พี่น้องประชาชนต้องเป็นผู้รับเคราะห์ หากยังทำงานประสานความร่วมมือกันไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประชาชนซึ่งน่าสงสารที่สุด” น.ส.
ธีรรัตน์ ระบุ
เหล็กแพง ทำสินค้าหลายชนิด จ่อปรับขึ้นราคา
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/146834
วิกฤตราคาเหล็กแพง เริ่มส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าหลายรายการที่อาจจะต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้า
กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้นำเข้า ย้ำยังไม่ออกมาตรการคุมราคา ขณะที่ภาคอสังหาฯ ชี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาบ้านและคอนโดโดยตรง จากกรณีที่สถานการณ์ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากราคาวัตถุดิบในตลาดโลก และประเทศจีนจำกัดส่งออกเหล็ก
นาย
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ใช้เหล็กทั้งระบบมาหารือในสัปดาห์นี้ ถึงสถานการณ์ราคาเหล็ก
ทั้งนี้รวมถึงหาแนวทางลดผลกระทบให้กับผู้ประกอบการ แต่คงยังไม่ถึงขั้นต้องควบคุมราคา ส่วนกรณีผู้ผลิต อาหารกระป๋อง มีต้นทุนทินเพลต ซึ่งเป็นวัสดุในการทำกระป๋องบรรจุอาหารปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว เนื่องจากสถานการณ์ เหล็กแพง และอาจขอปรับขึ้นราคาอาหารกระป๋องนั้น ผู้ประกอบการยังไม่ได้ทำเรื่องมายังกรมฯ แต่อย่างใด
มุมมองของนาย
โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่าราคาเหล็กในตลาดโลกและในประเทศไทย แม้จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาบ้านและคอนโด เนื่องจากค่าแรงของผู้รับเหมาและลูกจ้างไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น แต่หากมองในส่วนของค่าก่อสร้าง อาจจะมีปรับเพิ่มเล็กน้อยเพียง 2.89 % แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 คาดว่าการเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงกว่า 20% หรือมีประมาณ 60,000 หน่วยเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ นาย
โสภณ กล่าวเสริมว่า ฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบคือผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ เช่น การก่อสร้างถนน เส้นทางคมนาคมต่าง ๆ เนื่องจากรัฐบาลเลือกใช้เหล็กเส้นที่ผลิตในประเทศมากกว่า 90% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อภาครัฐโดยตรง นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ภาครัฐจะนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศแทน เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า
ดร.
อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า แม้ราคาเหล็กจะส่งผลโดยตรงกับต้นทุนอาคารชุด โดยเฉพาะต้นทุนวัสดุพื้นผนังที่ต้องใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ แต่ระยะสั้น ผู้ประกอบการต้องยอมดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอง ส่วนในระยะยาว หากราคาเหล็กยังพุ่งสูงขึ้นและยืดเยื้อผู้ประกอบการอาจพิจารณาปรับราคาขายให้สูงขึ้น แต่ขณะนี้ ผู้ประกอบการยังไม่มีแผนในการปรับราคา เพราะอาจจะทำให้เสียฐานลูกค้า
JJNY : หน.ก้าวไกลชี้ไทยยังมีหวัง│‘ส.ส.อิ่ม’หวั่นเปิดช่องระบาดเพิ่ม│เหล็กแพงทำสินค้าจ่อขึ้นราคา│พิมรี่พายอัพเดตส่งกล่อง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6379644
“พิธา” พรรคก้าวไกล ชี้คนหนุ่มสาวอย่าเพิ่งหมดหวัง ไทยเปลี่ยนแปลงได้ถ้าร่วมกันต่อสู้ แม้ตอนนี้รัฐ จะทำให้อนาคตมืดมน แต่อำนาจการเปลี่ยนแปลง อยู่ในมือเรา
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นกรณีกระแสคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ต้องการย้ายประเทศว่า อย่าเพิ่งหมดหวังที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น เพราะอำนาจในการสร้างความเปลี่ยนแปลง อยู่ในมือเรา ในวันที่ตนก้าวเข้ามาสู่สนามการเมืองเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วมีคนบอกว่า สังคมไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่เราเห็นในวันนี้ ตนในเวลานั้นคงไม่เชื่อ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศนี้เป็นไปได้
“ผมเข้าใจความผิดหวังของคนหนุ่มสาวที่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการประเทศที่พวกเขาสามารถไขว่คว้าโอกาสทางเศรษฐกิจมากกว่านี้ ต้องการประเทศที่มีระบบนิติรัฐ และระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องการประเทศที่กระบวนการยุติธรรม สามารถดำรงความยุติธรรมได้อย่างแท้จริง ผมในฐานะที่เป็นพ่อ ผมย่อมอยากให้ลูกของผมเติบโตมาในประเทศที่รับประกันว่าจะมอบชีวิตที่ดีให้ลูกของผม และหลานของผมได้”
นายพิธา ย้ำว่า แม้ว่าผู้ที่ถืออำนาจรัฐปัจจุบันจะทำให้เรารู้สึกว่าอนาคตของเราช่างมืดมน แต่ตนยังมีความหวังว่าประเทศเราดีกว่านี้ได้ มีความเป็นธรรมมากกว่านี้ได้ รับผิดชอบต่อประชาชนมากกว่านี้ได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตนและเพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกคนถึงยืนหยัดต่อสู้เพื่อเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้น
“ผมเชื่อว่าถ้าเราลงมือต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงความไม่ถูกต้องที่ดำรงอยู่ เราสามารถสร้างประเทศไทยให้เป็นบ้านที่น่าอยู่สำหรับทุกคนได้ ผมจึงอยากเชิญชวนคนหนุ่มสาวที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศนี้ในอนาคตได้โปรดอย่าเพิ่งหมดหวัง ประเทศไทยยังต้องการกำลังความเปลี่ยนแปลงของทุกท่าน ผมเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นเพราะจากการที่เราต่อสู้ร่วมกัน แน่นอนว่าเส้นทางแห่งความก้าวหน้าไม่เคยเป็นเส้นตรง แต่ความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว และอำนาจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้น อยู่ในมือเรา”
‘ส.ส.อิ่ม’ หวั่น กทม. ให้กลุ่มเสี่ยงเดินทางตรวจรักษาเอง เปิดช่องระบาดเพิ่ม จี้เร่งแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2707353
‘ส.ส.อิ่ม’ หวั่น กทม. ปล่อยให้กลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 เดินทางไปตรวจรักษาเอง ยิ่งเปิดช่องระบาดเพิ่ม จี้เร่งแก้ปัญหา
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ จัดหารถรับส่งประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากที่พักไปยังโรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการตรวจรักษาโควิด-19 ตามขั้นตอน หวังที่จะช่วยปิดช่องทางการแพร่ระบาด หลังกรุงเทพมหานครเปลี่ยนวิธีปฏิบัติจากเดิมที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บสารคัดหลั่งที่บ้านของกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เป็นให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเดินทางไปยังโรงพยาบาลหรือจุดที่กำหนดให้ด้วยตัวเองเพื่อเก็บสารคัดหลั่ง
ซึ่งเรื่องนี้ ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กังวลใจกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารจัดการของกรุงเทพมหานคร ที่อาจทำให้เกิดช่องว่างของการแพร่ระบาดโรค กลายเป็นคลัสเตอร์กลุ่มเสี่ยงสูง ซ้ำเติมสถานการณ์ในปัจจุบัน
โดย น.ส.ธีรรัตน์ ระบุว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูง ที่อยู่ระหว่างกักตัว จากเดิมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะไปที่บ้านหลังนั้นๆ เพื่อทำการเก็บสารคัดหลั่ง (swab) เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์ไปแจ้งกลุ่มเสี่ยงให้เดินทางไปยังสถานที่ที่กำหนดเพื่อทำการ swab พร้อมกัน ซึ่งได้สอบถามย้ำกับประชาชนที่ประสานขอความช่วยเหลือเข้ามาว่าโรงพยาบาลแจ้งให้เดินทางไปเองใช่หรือไม่ โดยทุกคนยืนยันขั้นตอนตามที่ได้แจ้งไปข้างต้น ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรถรับส่งเข้ามาพอสมควร
น.ส.ธีรรัตน์ ระบุว่า ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบปัญหา แต่ก็เป็นห่วงว่า กรณีที่กรุงเทพมหานคร เปลี่ยนนโยบายการบริหารจัดการนี้ ในพื้นที่ที่ไม่มีรถบริการจะเกิดปัญหากับพี่น้องประชาชนอย่างไร ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องทำอย่างไร หากจะโดยสารรถขนส่งสาธารณะก็อาจทำให้เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นและอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้ จึงอยากให้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เช่น การจัดหารถรับส่งกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล หรือการส่งเจ้าหน้าที่ไป swab ที่บ้านกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อลดการเดินทางปะปนในที่สาธารณะและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด
“กทม.ไม่ควรทำให้ปัญหาความไม่ลงรอยกันทางการเมืองที่หวังผลไปถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาทำให้พี่น้องประชาชนต้องเป็นผู้รับเคราะห์ หากยังทำงานประสานความร่วมมือกันไม่มีประสิทธิภาพ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประชาชนซึ่งน่าสงสารที่สุด” น.ส.ธีรรัตน์ ระบุ
เหล็กแพง ทำสินค้าหลายชนิด จ่อปรับขึ้นราคา
https://www.pptvhd36.com/news/เศรษฐกิจ/146834
วิกฤตราคาเหล็กแพง เริ่มส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าหลายรายการที่อาจจะต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้า
กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการ ผู้ผลิต และผู้นำเข้า ย้ำยังไม่ออกมาตรการคุมราคา ขณะที่ภาคอสังหาฯ ชี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาบ้านและคอนโดโดยตรง จากกรณีที่สถานการณ์ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากราคาวัตถุดิบในตลาดโลก และประเทศจีนจำกัดส่งออกเหล็ก
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ใช้เหล็กทั้งระบบมาหารือในสัปดาห์นี้ ถึงสถานการณ์ราคาเหล็ก
ทั้งนี้รวมถึงหาแนวทางลดผลกระทบให้กับผู้ประกอบการ แต่คงยังไม่ถึงขั้นต้องควบคุมราคา ส่วนกรณีผู้ผลิต อาหารกระป๋อง มีต้นทุนทินเพลต ซึ่งเป็นวัสดุในการทำกระป๋องบรรจุอาหารปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว เนื่องจากสถานการณ์ เหล็กแพง และอาจขอปรับขึ้นราคาอาหารกระป๋องนั้น ผู้ประกอบการยังไม่ได้ทำเรื่องมายังกรมฯ แต่อย่างใด
มุมมองของนายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่าราคาเหล็กในตลาดโลกและในประเทศไทย แม้จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาบ้านและคอนโด เนื่องจากค่าแรงของผู้รับเหมาและลูกจ้างไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น แต่หากมองในส่วนของค่าก่อสร้าง อาจจะมีปรับเพิ่มเล็กน้อยเพียง 2.89 % แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 คาดว่าการเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงกว่า 20% หรือมีประมาณ 60,000 หน่วยเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ นายโสภณ กล่าวเสริมว่า ฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบคือผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ เช่น การก่อสร้างถนน เส้นทางคมนาคมต่าง ๆ เนื่องจากรัฐบาลเลือกใช้เหล็กเส้นที่ผลิตในประเทศมากกว่า 90% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อภาครัฐโดยตรง นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ภาครัฐจะนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศแทน เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า แม้ราคาเหล็กจะส่งผลโดยตรงกับต้นทุนอาคารชุด โดยเฉพาะต้นทุนวัสดุพื้นผนังที่ต้องใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ แต่ระยะสั้น ผู้ประกอบการต้องยอมดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอง ส่วนในระยะยาว หากราคาเหล็กยังพุ่งสูงขึ้นและยืดเยื้อผู้ประกอบการอาจพิจารณาปรับราคาขายให้สูงขึ้น แต่ขณะนี้ ผู้ประกอบการยังไม่มีแผนในการปรับราคา เพราะอาจจะทำให้เสียฐานลูกค้า