จริงๆแล้วการย้ายประเทศ​มันง่ายขนาดนั้นไหมและการอยู่ที่นั้นเป็นไปตามที่ฝันไหมคะ

เห็นเป็นกระแสในตอนนี้ที่มีคนหลายๆคนมีความรู้สึกได้รับสวัสดิการรัฐที่ไม่เพียงพอ​ หรือความไม่เป็นธรรมต่างๆ​ เลยอยากรู้ว่าจริงๆแล้วการย้ายประเทศนี่มันง่ายไหม​ และพอเราไปอยู่บ้านเมืองเค้านี่มันดีจริงไหมคะ​ อยากทราบจากคนที่มีประสบการณ์​ค่ะ​ (คนไม่มีก็แสดงความคิดเห็น​กันได้นะคะ)​

เห็นหลักที่คนต้องการย้ายไปจะมีอเมริกา​ อังกฤษ​ แคนาดา​ ออสเตรเลีย​ สวิส สวีเดน​ อิตาลี​ เบียลเยียม​ นิวซีแลนด์​ เกาหลี เป็นต้นค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ยาก ถ้าเงินถึง เช่น บาง ปท หอบเงินเข้าไปลงทุนหลักล้านเหรียญขึ้นไป

      ส่วนเรื่องสวัสดิการดีๆ นั้น โดยมากแลกมาด้วยการจ่ายภาษีแพงๆ ค่ะ

      ที่ไทย ประชากรหกเจ็ดสิบล้านคน แต่มีผู้เสียภาษีเงินได้ทั้งหมดประมาณสี่ล้านคนเท่านั้น แล้วจะไปเอาสวัสดิการชั้นเลิศมาจากไหนให้กับ ปชก ทั้งประเทศ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
เราเคยอยู่สิงคโปร์และอเมริการวมๆแล้วก็15ปีได้จนตอนนี้กำลังจะจบเอกและกลับมาไทยถาวร มีแต่คนถามเราว่าทำไมถึงอยากกลับไทย ไม่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาถาวรหรอ? เราว่าไม่มีที่ไหนดีเท่าไทยแล้วแหล่ะ ไปไหนมาไหนสะดวกมาก อยากจะกินอะไรตอนไหนก็แค่เดินออกจากบ้านไปซื้อปากซอย สังคมไทยมีความเป็น community มากกว่า ไปมาหาสู่กันสะดวก จะนัดเจอใครก็ง่ายกว่าเยอะ ที่อเมริกาคือ บ้านใครบ้านมัน ครอบครัวฉันครอบครัวเธอ

ถามว่าค่าใช้จ่าย ค่ากินอยู่ เงินเดือนที่อเมริกาเป็นอย่างไร เงินเดือนสูงกว่าไทยแน่นอนโดยเฉพาะสายที่เราเรียน แต่ค่าใช้จ่ายและภาษีก็สูงตามมาเช่นกัน คนชั้นกลางที่อเมริกาจะซวยสุดเพราะเค้าจ่ายภาษีแพงแต่ลูกๆจะไม่ qualify ที่จะได้ทุนจากรัฐบาลเพื่อเรียนมหาลัย ต้องกู้เรียนกันหลายคนเลย ส่วนเด็กจากครอบครัวที่มีเงินไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดสามารถขอทุนได้เรียนฟรีนะ พวกเด็กจากครอบครัวมีฐานะก็มีเงินที่จะจ่ายเรียนพิเศษ ติวเข้มเพื่อสอบ พอสอบได้คะแนนดีเด็กก็ขอ merit-based scholarship ถึงจะไม่ได้เต็มจำนวนแต่ก็ได้ค่าเรียนเยอะอยู่นะ

ส่วนเรื่องการแพทย์ที่อเมริกา ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมากครับ โรงพยาบาลก็มีเตียงนอนจำกัด เวลาเพื่อนเราคลอดลูก นางได้นอนแค่คืนเดียวแล้วต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน เพื่อนอีกหลายคนที่ตรวจเจอโควิดก็ให้กลับมาพักฟื้นเองที่บ้าน การจะนัดหาหมอผู้เชี่ยวชาญคือต้องไปหาหมอทั่วไปก่อน ถ้าเค้ารักษาไม่ได้ เค้าจะแนะนำเราให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญอีกที รอนานครับกว่าจะได้เจอ เราว่าสาธารณสุขที่ไทยดีกว่าที่อเมริกาเยอะครับ ราคาถูกกว่า รวดเร็วดี และหมอก็เก่งกว่าครับ  

แต่ถ้าเรื่องวิจัยต่างๆ ทั้งการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ต้องขอยกให้ที่อเมริกานะ เครื่องมือเค้าพร้อมกว่ามากครับ

ในแง่ของการศึกษา หลักสูตรที่อเมริกาจะคล้ายๆโรงเรียนอินเตอร์ที่ไทยนั่นแหล่ะ วิธีการสอนก็คล้ายๆกัน จะเน้นการทำโปรเจ้ค ให้ศึกษาค้นคว้าเอง ไม่เน้นท่องจำมาก เน้นการนำเสนอผลงาน เปิดโอกาสให้เด็กๆพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ใหัคิดนอกกรอบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่อเมริกาจะเก่งเลขหรือวิทยาศาสตร์นะ ความรู้เด็กไทยแน่นกว่าเยอะ

ชีวิตเมืองนอกคร่าวๆคือ คุณต้องทำทุกอย่างเองเช่น ซื้อกับข้าว ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน โกยหิมะ ตัดหญ้า ซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ หรือถ้าคุณมีเงินคุณก็จ้างคนทำ แต่เซอร์วิสพวกนี้แพงมาก จากที่เราทำอะไรไม่เป็นตอนอยู่ไทย ก็ค่อนเรียนรู้จากยูทูปนี่แหล่ะจนตอนนี้เราทำเป็นหลายอย่างรวมทั้งซ่อมเครื่องซักผ้าและเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์เอง เราว่านี่คือข้อดีของการอยู่ต่างประเทศเองนะ

ถ้าถามเรื่องการเหยียดผิวที่ตอนนี้เป็นประเด็นอยู่ ใช่ มันแรงครับและมันจะแรงขึ้นด้วย คนเหยียดกันทั่วเลย ถ้าจิตไม่แกร่ง ป้องกันตัวเองไม่ได้ อยู่ไทยดีกว่าครับ บ้านคนเวียดนามใกล้ๆเพิ่งโดนคนเอาโน้ตไปติดตรงประตูให้กลับประเทศจีน ส่วนโรงเรียนใกล้ๆก็เพิ่งมีเรื่องไปเอง มีเด็กขาวเขียนข้อความแย่ๆในเฟซบุ้คเมสเส้นเจอร์ ด่าความเป็นผู้หญิงด่าความเป็นต่างชาติกับเด็กลูกครึ่งครับ โรงเรียนพักการเรียนเด็กขาวคนนี้ไปสามวัน ส่วนอีกกรณีที่เด็กดำถูกเพื่อนบูลลี่ เด็กดำคนนี้เอาปืนอัดลมไปโรงเรียนเพื่อจะไปปกป้องตัวเอง พอทางโรงเรียนรู้จึงสั่งพักการเรียนเด็กดำนี้ไปอาทิตย์กว่า แถมเรียกตำรวจเค้ามาในโรงเรียนเพื่อเรียกเด็กดำไปคุย

ความคิดเห็นส่วนตัวนะ คือถ้าคุณมีฐานะอยู่แล้ว เราว่าอยู่ไทยดีกว่าเยอะ ถ้าฐานะคุณไม่ได้ดีมาก จิตคุณแกร่ง ป้องกันตัวเองเป็น และคุณมีความสามารถพิเศษที่ต่างประเทศต้องการ ลองทำเรื่องย้ายเลยครับ ไม่ชอบก็ค่อยกลับมา ของพวกนี้เราไม่มีวันรู้ถ้าเราไม่ได้ลอง แต่ก็ต้องรับได้กับผลที่ตามมาทั้งดีและไม่ดี
ความคิดเห็นที่ 13
พูดตรงๆ ตอนนี้ที่คนไม่พอใจ ไม่ใช่แค่สวัสดิการ
ทุกคนรู้ดีว่า การเป็น Welfare state ไทยยังไกลจากจุดนั้นมาก

แต่ที่ชัดเจนคือ การจัดการงบประมาณประเทศ
จัดสรรเงินไว้แจกเราชนะ เรารักกัน 600k ล้าน
แต่จัดไว้ซื้อวัคซีน 42k ล้าน
ในขณะที่โรงพยาบาลต้องขอรับบริจาคถังออกซิเจน ชุด PPE
หมอ พยาบาล ทำงานหนักขึ้น แต่ไม่ได้เงินช่วยเหลือเพิ่ม
เอาแค่นี้...คุณเห็นความผิดพลาดมั้ย?

ในฐานะประชากร มีความคาดหวังว่ารัฐจะบริหารจัดการได้ดีกว่านี้
ไม่ต้องคิดไกลว่าคนอยากไปเพราะหวังสวัสดิการอย่างเดียว
แค่มีฝ่ายบริหารที่คิดถึงประโยชน์สาธารณะเป็น Priority แรก ก็คงดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่