สามีภรรยาแต่ละบ้าน ถ้าหากเงินเดือนต่างกันมาก มีวิธีการแบ่งกันจ่ายค่าใช้จ่ายยังไงคะ?

สวัสดีค่ะ เราอยากขอความเห็นจากทุกคนค่ะ เราเขียนไม่ค่อยเก่งนะคะ ขออภัยล่วงหน้าค่ะ T^T
        เรากับแฟนคบกันมา 10 ปีค่ะ เราลองคุยถึงอนาคตกับแฟนค่ะ ว่าถ้าแต่งงานกันไปจะใช้เงินแยกกระเป๋ากัน ซึ่งส่วนนี้เราไม่มีปัญหาค่ะ แต่เค้าบอกว่าถ้าเป็นค่าผ่อนบ้าน  ผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่าเทอมลูก จะต้องหารสองทั้งหมด แฟนจะไม่ยอมออกมากกว่าถึงแม้จะมีรายได้ที่มากกว่าค่ะ ( เราได้เงินเดือน 30,000 ส่วนแฟนได้เงินเดือนประมาณ 100,000 ) เค้าบอกว่าถ้าไม่หารกันมันก็จะไม่แฟร์กับเค้าค่ะ เราเลยถามถึงว่าถ้าเราท้อง หรือต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกล่ะ จะต้องทำยังไง เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวถึงเวลาเค้าก็ให้เงินใช้เองแหละ อย่างนี้ค่ะ เราลองเสนอว่าถ้าเค้าได้เงินเดือนมากกว่าให้เค้าช่วยออกค่าใช้จ่ายมากกว่าเราหน่อยได้มั้ย แต่เราไม่ได้จะให้เค้าออกให้ทั้งหมดนะคะ เราก็ยังจะช่วยผ่อนเหมือนเดิมแต่อาจจะต้องผ่อนเท่าที่ไหว อาจจะไม่ถึงกับหารสอง แต่เค้าบอกว่าทำแบบนี้มันไม่แฟร์กับเค้าค่ะ แล้วเค้าก็บอกว่าทัศนคติทางการเงินของเราแปลกค่ะ ฮือ
         
         เราอยากขอความเห็นจากทุกคนค่ะ ว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะพอเงินเดือนมันต่างกันมากๆ แล้วจะต้องหารสองทุกอย่าง เราคิดว่าในอนาคตเราอาจจะจ่ายไม่ไหวจริงๆค่ะ กลัวว่ามันจะเป็นปัญหาต่อในอนาคต แต่เราก็ไม่อยากดูเป็นคนเห็นแก่เงินที่ไปเซ้าซี้เค้าว่าทำไมเธอไม่ยอมออกมากกว่าล่ะอย่างนี้ค่ะ แง มันยากมากเลย จากที่เป็นแฟนกันตลอดมาก็หารสองกันมาตลอด พอคิดถึงการแต่งงานมันก็ดูยากไปหมดเลยค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ลองยกตัวอย่างเป็นตัวเลขให้แฟนเห็นชัดๆดูสิคะ
ว่าตอนนี้ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดเท่าไหร่ หารกันแล้วตกคนละเท่าไหร่ และคุณจะเหลือเงินใช้เท่าไหร่ต่อเดือน
แล้วถ้ามีลูก มีค่าใช้จ่ายของลูกเพิ่มมาอีกล่ะ ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ แล้วคุณจะเหลือเงินใช้เท่าไหร่

สมมติค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดเดือนละสี่หมื่น หารกันคนละสองหมื่น
คุณเหลือใช้เดือนละหมื่น ในขณะที่แฟนมีเงินเหลือใช้เดือนละแปดหมื่น
แฟนจะคิดบ้างมั้ยว่าที่คุณเหลือใช้เดือนละหมื่นนี่พอใช้มั้ย
หรือจะไม่แคร์ว่าคุณจะเป็นยังไง เอาแค่ตัวเองอยู่สบายก็พอแล้ว
ถ้าคุยกับถึงขนาดนี้แล้วเค้ายังไม่สนใจ ก็คงต้องพิจารณาอีกทีแล้วล่ะค่ะว่าจะสร้างครอบครัวกับผู้ชายคนนี้จริงๆเหรอ
เพราะถ้าแต่งงานกันไปแล้วคุณต้องลำบากขึ้น มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แถมเงินเก็บลดลงหรือเก็บเงินไม่ได้เลย
เราว่ามันเสี่ยงมากเลยนะคะ
เกิดในอนาคตคุณมีลูกหรือตกงานอย่างที่ว่า เค้าจะช่วยค่าใช้จ่ายให้คุณจริงรึเปล่าก็ไม่รู้
ที่ตอบมานี่ก็แค่ตอบส่งๆ ถึงเวลาอาจจะช่วยจริงแต่ช่วยแบบไม่เต็มใจให้และคอยทวงบุญคุณตลอดเวลาก็ได้
ดังนั้นจึงไม่ควรเอาอนาคตของตัวเองไปฝากไว้กับผู้ชายแบบนี้
ถ้าคุยกันแล้วไม่ดีขึ้นหรือไม่มีทีท่าว่าเค้าจะเข้าใจ เราว่าอย่าแต่งงานกันเลยค่ะ จะคบก็คบกันไปเฉยๆแบบนี้แหละ
แต่ไม่ควรสร้างครอบครัวด้วยกัน และไม่ควรมีลูกด้วยค่ะ
การที่ออกตัวตั้งแต่แรกว่าใช้เงินแยกกระเป๋าและทุกอย่างหารสองทั้งหมด ก็ชัดเจนแล้วว่าเค้ากลัวตัวเองจะเสียเปรียบ
คิดแต่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่าที่จะเป็นห่วงคุณ
คิดให้ดีๆก็แล้วกันค่ะว่า่จะสร้างครอบครัวกับผู้ชายแบบนี้จริงเหรอ
ความคิดเห็นที่ 1
มันเป็นผัวเมียหรือ หุ้นส่วนธุรกิจ
ความคิดเห็นที่ 19
เราเงินเดือนต่างจากแฟน 2 เท่าค่ะ (เรามากกว่า)
เราตกลงเลยว่าค่าใช้จ่ายจะคิดเป็น % ของเงินเดือน
เช่น ให้ดึงเงินจากเงินเดือน 50% ของแต่ละคนมาเป็นเงินกองกลาง เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน อีก 30% ต้องเก็บออม อีก 20% ไม่ยุ่งกัน จะใช้อะไรก็ใช้ ประมาณนี้ค่ะ

รักจะอยู่ด้วยกันมาหาร 2 เท่าทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องค่ะ
ความคิดเห็นที่ 15
อ่านแล้วคิดถึงกระทู้นึงเลยค่ะ เดาว่าผู้ชายไทป์นี้จะมีตรรกะ บางอย่างที่ไม่พร้อมกับการมีชีวืตคู่

ห้ามออกจากงานเด็ดขาดค่ะ ผู้ชายแบบนี้ถึงจะคบมาสิบปี เค้าใจไม่กว้างจะดูแลคุณและลูกได้แน่นอน ขนาดทำธุรกิจหุ้นส่วนการค้าก็ต้องใช้หัวใจในการเกื้อกูลร่วมกันอยู่ดี

แต่งงานคือการร่วมหัวจมท้าย ร่วมทุกข์ร่วมสุข ถ้าแบ่งแยกทุกอย่างแบบนี้แนะนำว่าอย่ามีลูก และคิดให้ดีก่อนการแต่งงาน ห้ามออกมาจากงานเด็ดขาด ย้ำรอบสองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
เราเป็น ญ เงินเดือนมากกว่าแฟน ทุกอย่างก็หารสองนะ (ยกเว้นค่าบ้านเพราะเป็นชื่อเรา)

ถ้าแฟนมาบอกให้เราออกมากกว่าเพราะเงินเดือนเยอะกว่า เราก็คงไม่พอใจเหมือนกัน เพราะเงินเดือนเยอะแต่ก็เก็บลงทุนเยอะเช่นกัน ถ้าให้ออกเยอะกว่าจะกลายเป็นว่าเราจะเสียส่วนนี้ไป ดังนั้นก็ออกให้เท่ากันทั้งสองฝ่ายเพื่อความยุติธรรม แต่การออกเท่ากันจะต้องไม่เบียดเบียนจนเงินของอีกฝ่ายไม่เหลือเก็บนะคะ เพราะเราวางแผนใช้จ่ายตามกำลังที่มีค่ะ

เราจะไม่คบกับกับผช.ที่ดูแลผญ.จนเงินไม่เหลือเก็บ เราชอบผช.ที่มีทัศนคติฉลาดในการใช้เงิน คือไม่เอาเปรียบใครและไม่รักจนยอมให้ใครมาเอาเปรียบ

กลับมาที่กรณีคุณ ถ้าคุณประเมินแล้วว่าการหารเท่าจะไปเบียดเบียนส่วนคุณเยอะ แปลว่าพวกคุณใช้จ่ายเกินตัวรึเปล่าคะ คุณควรคุยกับแฟนตรงๆว่าถ้าหารเท่าแปลว่าคุณไหวที่บ้านหรือรถราคาเท่านี้นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่