วัดกันไปเลย! เทียบผลงานเกมรุก แมนฯ ยู - ลิเวอร์พูล ก่อนเปิดศึกแดงเดือด

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ถือเป็นการเจอกันครั้งที่ 3 ในฤดูกาล 2020-21 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล หลังจากก่อนหน้านี้ดวลกันในเกมลีกกับ เอฟเอ คัพ มาอย่างละ 1 นัด ซึ่งผลการแข่งขันแบ่งเป็นการเสมอกัน 1 ครั้ง และเป็นชัยชนะของ "ปีศาจแดง" 1 หน



นอกจากจะเป็นการดวลกันของทีมใหญ่ และเป็นศึกที่มีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพันแล้วนั้น นี่ยังเป็นการเจอกันของ 2 ทีมที่มีเกมรุกดีเป็นอันดับต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ด้วย หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต้ด ยิงในลีกไปแล้ว 64 ลูก จนถือเป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ส่วน ลิเวอร์พูล ตามมาเป็นที่ 5 ในชาร์ตนี้ หลังทำไปแล้ว 55 ประตู

เนื่องด้วยโอกาสพิเศษแบบนี้ วันนี้เราเลยจะมาลองวัดกันว่าเกมรุกในแต่ละด้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล กับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2020-21 แตกต่างกันมากแค่ไหน โดยจะอ้างอิงข้อมูลจาก whoscored และ FBRef 2 เว็บไซต์ด้านบันทึกสถิติการเล่นชื่อดัง

- ประสิทธิภาพการยิง



จนถึงปัจจุบัน ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีโอกาสทำประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก หลังมีจังหวะยิงถึง 15.5 ครั้งต่อเกม ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ตามมาเป็นที่ 4 ด้วยตัวเลข 14.4 ครั้งต่อนัด แต่หากเจาะลึกลงไปแล้วจะพบว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีประสิทธิภาพการยิงที่ดีกว่านิดหน่อย เพราะพวกเขามีจังหวะยิงตรงกรอบ 5.8 ครั้งต่อนัด ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 1 ของลีกร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ 5.6 ครั้งต่อเกมจนอยู่ที่ 3

นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผลต่างระหว่างจำนวนประตูที่น่าจะเป็น (Expected Goals) กับประตูที่เกิดขึ้นจริงๆ ถึง +7.9 ด้วย โดยสถิติด้านนี้หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ทำประตูได้มากกว่าที่ควรจะเป็นจริงๆ ถึง 7.9 ลูก ส่วนของ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ -8.8 โดยสถิติ "จำนวนประตูที่น่าจะเป็น" นั้น เป็นการประเมินในเรื่องที่ว่าจังหวะนั้นๆ ควรจะเป็นประตูเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ อย่างเช่นมุมของลูกยิง, ทิศทางการยิง และเรื่องที่ว่ามีคู่แข่งขวางทางลูกยิงมากแค่ไหน เป็นต้น

- การผ่านบอล



ลิเวอร์พูล ถือเป็นทืมที่มีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลเข้าเป้ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกจนถึงก่อนโปรแกรมในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากทำได้ถึง 85.8 เปอร์เซ็นต์ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าคู่อริตัวฉกาจมากเท่าไหร่ เพราะพวกเขาตามมาติดๆ เป็นอันดับ 4 ที่ตัวเลข 84.9 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนการผ่านบอลที่เป็นจังหวะสำคัญนั้น ลิเวอร์พูล ก็ยังทำได้ดีกว่า หลังจากทำได้ 11.4 ครั้งต่อเกม ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ของลีก แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไล่จี้มาแบบหายใจรดต้นคอเพราะทำได้ 11.2 ครั้งต่อเกม จนทำให้พวกเขาเป็นอันดับ 4 ในชาร์ตนี้ นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ก็ยังมีจังหวะผ่านบอลที่นำไปสู่จังหวะลุ้นประตูได้ 363 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 3 ของลีกเช่นกัน ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตามมาเป็นที่ 4 อีกรอบ ด้วยจำนวน 356 หน

- การเลี้ยงบอลและการครองบอล



บังเอิญเหลือเกินที่จนถึงตอนนี้ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ต่างก็มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในลีกได้ 11 ครั้งต่อเกมเท่ากันเป๊ะ ทำให้ทั้งคู่เป็นอันดับ 4 ร่วมกันในชาร์ตการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากที่สุดต่อ 1 เกม โดย 3 ทีมที่อยู่เหนือพวกเขาคือ ฟูแล่ม (13.4 ครั้งต่อเกม), แมนฯ ซิตี้ (12.8 ครั้งต่อนัด) และ วูล์ฟส์ (12.2 หนต่อเกม)

อย่างไรก็ตาม ในด้านการเก็บบอลเอาไว้กับตัวนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่านิดหน่อย เพราะพวกเขาโดนคู่แข่งฉกบอลไปจากเท้า 9.7 ครั้งต่อเกม โดยถึงแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นทีมที่เสียบอลในด้านนี้มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ร่วม แต่ก็ยังดีกว่า ลิเวอร์พูล ที่มีตัวเลขด้านนี้อยู่ที่ 10.2 ครั้งต่อนัดจนถือว่าสูงเป็นอันดับ 2 ร่วมของลีกเลย



credit : www.soccersuck.com โดย    - เด็กเกร็ดบอล -
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่