สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เราตาม คห. 3 ไปอ่านกระทู้เก่าของคุณมา จึงได้ทราบว่า
คุณใช้คำว่า “สุดจะทน” มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว
มาถึงวันนี้ ก็ใช้คำว่า “ ภรรยาที่ไม่อยากอยู่แล้ว” เราไม่แน่ใจว่า อีกห้าปี คุณจะใช้คำไหน ?
เราไม่ได้ ตั้งใจมาก่อกวน เราแค่อยากจะชี้ให้คุณเห็นตัวเองให้ชัด
ในที่นี้ คนที่คุณควรเบื่อ และแก้ไข มิใช่สามีคุณค่ะ
เพราะสามีคุณมิได้มีความทุกข์ เขาสนุกกับเกม และชีวิตเอื่อยเฉื่อย ที่มีภรรยาคอยเลี้ยงดู
คนที่คุณควรจะเบื่อ คือตัวคุณเองต่างหาก
คุณบ่นว่าทุกข์ มา แปดปี คุณก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งเมื่อดูจากศักยภาพ สติปัญญาที่คุณมี
ความเป็นผู้หญิงเก่ง ทำงานเลี้ยงครอบครัว ย่อมอนุมานได้ว่า คุณรู้วิธีแก้ รู้ทางแก้ แค่คุณไม่เด็ดขาดพอ
สรุปคือ ถ้ารักจะตามใจสามีแต่แรก ก็อย่าบ่นค่ะ ทนต่อไป เลี้ยงดู เขาและลูกจนเติบโต
ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รู้จักมีความสุข กับสิ่งที่ตนมี คุณจะลดความเครียดลงได้เยอะ
แต่ถ้าคิดว่าเรื่องที่คุณบ่น เป็นปัญหาหลักอยากแก้ไข
แนะนำว่า ให้ใช้ไม้แข็งค่ะ
ไหนๆก็เลี้ยงเขามาเหมือนลูกชายคนโตแล้ว ถึงเวลาที่รักวัวต้องผูก รักพ่อของลูกต้องสร้างวินัยให้
ในเมื่อเขาคิดเองไม่ได้ คุณก็แบ่งงานให้เขาทำและ สั่งให้ทำให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีสิทธิ์เล่นเกมค่ะ
ห้องน้ำ ห้ามเอาไอแพดเข้าไป ให้จับได้ต่อเมื่อทำงานเสร็จแล้ว
ทำ ทูดูลิสท์ ไว้ให้เขาเลยค่ะ ทำเสร็จแต่ละรายการให้ขีดฆ่าออกแล้วเอามาส่ง
ทำไม่ได้ตามนี้ ตัดเงิน ตัดเน็ต (หาวิธีที่เหมาะสมทำโทษเขา)
หยุดบ่น แบบพล่ามไปเรื่อย พูดเบาๆพูดน้อยๆ และมีบทลงโทษที่จะทำให้เขากลัวได้จริง
ถ้าเขายังดื้อดึง
ให้คุณมาคำนวณดูว่า การมีเขาอยู่ ทำหน้าที่รับส่งลูกนั้น คุ้มค่าข้าวน้ำที่เลี้ยงดูเขาไหม
ถ้ายังคุ้ม ก็มองเห็นความดีตรงนี้ไว้ให้มาก
ถ้าไม่อยากจะทนแล้ว ก็คำนวณดูดีๆ ว่าการไม่มีเขาอยู่ คุณจะ “ได้อะไร” มาแทนความอึดอัดและเบื่อหน่ายนี้
เมื่อมองภาพแต่ละภาพ แยกออกให้ชัดทีละปัญหา การชั่งน้ำหนักผลได้ / ผลเสีย จะทำได้ง่ายขึ้นค่ะ
คุณใช้คำว่า “สุดจะทน” มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว
มาถึงวันนี้ ก็ใช้คำว่า “ ภรรยาที่ไม่อยากอยู่แล้ว” เราไม่แน่ใจว่า อีกห้าปี คุณจะใช้คำไหน ?
เราไม่ได้ ตั้งใจมาก่อกวน เราแค่อยากจะชี้ให้คุณเห็นตัวเองให้ชัด
ในที่นี้ คนที่คุณควรเบื่อ และแก้ไข มิใช่สามีคุณค่ะ
เพราะสามีคุณมิได้มีความทุกข์ เขาสนุกกับเกม และชีวิตเอื่อยเฉื่อย ที่มีภรรยาคอยเลี้ยงดู
คนที่คุณควรจะเบื่อ คือตัวคุณเองต่างหาก
คุณบ่นว่าทุกข์ มา แปดปี คุณก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งเมื่อดูจากศักยภาพ สติปัญญาที่คุณมี
ความเป็นผู้หญิงเก่ง ทำงานเลี้ยงครอบครัว ย่อมอนุมานได้ว่า คุณรู้วิธีแก้ รู้ทางแก้ แค่คุณไม่เด็ดขาดพอ
สรุปคือ ถ้ารักจะตามใจสามีแต่แรก ก็อย่าบ่นค่ะ ทนต่อไป เลี้ยงดู เขาและลูกจนเติบโต
ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รู้จักมีความสุข กับสิ่งที่ตนมี คุณจะลดความเครียดลงได้เยอะ
แต่ถ้าคิดว่าเรื่องที่คุณบ่น เป็นปัญหาหลักอยากแก้ไข
แนะนำว่า ให้ใช้ไม้แข็งค่ะ
ไหนๆก็เลี้ยงเขามาเหมือนลูกชายคนโตแล้ว ถึงเวลาที่รักวัวต้องผูก รักพ่อของลูกต้องสร้างวินัยให้
ในเมื่อเขาคิดเองไม่ได้ คุณก็แบ่งงานให้เขาทำและ สั่งให้ทำให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีสิทธิ์เล่นเกมค่ะ
ห้องน้ำ ห้ามเอาไอแพดเข้าไป ให้จับได้ต่อเมื่อทำงานเสร็จแล้ว
ทำ ทูดูลิสท์ ไว้ให้เขาเลยค่ะ ทำเสร็จแต่ละรายการให้ขีดฆ่าออกแล้วเอามาส่ง
ทำไม่ได้ตามนี้ ตัดเงิน ตัดเน็ต (หาวิธีที่เหมาะสมทำโทษเขา)
หยุดบ่น แบบพล่ามไปเรื่อย พูดเบาๆพูดน้อยๆ และมีบทลงโทษที่จะทำให้เขากลัวได้จริง
ถ้าเขายังดื้อดึง
ให้คุณมาคำนวณดูว่า การมีเขาอยู่ ทำหน้าที่รับส่งลูกนั้น คุ้มค่าข้าวน้ำที่เลี้ยงดูเขาไหม
ถ้ายังคุ้ม ก็มองเห็นความดีตรงนี้ไว้ให้มาก
ถ้าไม่อยากจะทนแล้ว ก็คำนวณดูดีๆ ว่าการไม่มีเขาอยู่ คุณจะ “ได้อะไร” มาแทนความอึดอัดและเบื่อหน่ายนี้
เมื่อมองภาพแต่ละภาพ แยกออกให้ชัดทีละปัญหา การชั่งน้ำหนักผลได้ / ผลเสีย จะทำได้ง่ายขึ้นค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18
เราจะเล่าในมุมลูกให้ฟัง
เรามีพ่อเป็นแบบนี้ และแม่เราก็เป็นแบบคุณ ของเราอาจหนักกว่าตรงที่ พ่อเราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และแอบเห็นแก่ตัวไม่เคยเสียสละอะไรให้ลูกเมีย ไม่เคยเลี้ยงลูก ใช้อารมณ์กับลูก ว่าง่ายๆ จะดูแลลูกได้แค่ รับส่ง หรือทำตามที่เมียสั่งเท่านั้น
เช่น ถ้าเค้ามีเงิน เค้าเอาไปซื้อมือถือใหม่ ค่าเรียนพิเศษลูกเวลาเมียหมุนเงินไม่ทันบอก "ไม่มี" ค่าใช้จ่ายในบ้านค่ากินสากกะเบือยันเรือรบไม่เคยกระเด็น แถมไม่เคยทำงานบ้านทำอะไรก็ไม่เป็น ภูมิใจกับการเริ่มงานทำงานวันละ 3 ชม. ของตัวเองมาก กินๆนอนๆจนโรครุมเร้า สุดท้าย ทำงานไม่ไหว
ตอนเด็กๆ เค้าเคยอารมณ์เสียกับเราและด่าว่าเราแรงๆ เราเคยขอให้แม่เลิกกับเค้า เพราะรับรู้ภาระมาตลอดว่าแม่เราเหนื่อยมาก แม่เราไม่ยอมเลิกเพราะกลัวนั่นนี่
สรุป ตอนนี้เค้าคือภาระหนักของแม่เรา ลูกทำงานเรียนจบส่งเงินให้ใช้เดือนละ 50,000 เหมือนจะสบายใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ เพราะเงินนั้นต้องผ่อนบ้าน (ตอนลูกเรียนไม่มีเงินซื้อบ้านเพราะดิ้นรนส่งลูกเรียนหมด ให้ผัวกินใช้ ทุกอย่างแม่เราจ่ายหมด และแม่เองก็กู้หมุนรอบตัวจนเงินเดือนไม่เหลือ) และเลี้ยงตัวเค้าเองและสามีผู้โรครุมเร้าและทำตัวดั่งเทวดา
ส่วนลูกก็หาเงินส่งพ่อแม่จนไม่มีเงินต้นในการเริ่มชีวิตตัวเองเพราะเงินเกือบทั้งหมดส่งครอบครัวตัวเองหมด เพราะรู้ว่าแม่เหนื่อยเพื่อเรามามากและแม่มีภาระคือพ่อที่จะปลดภาระตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว ตัวเราเองมีครอบครัวต้องใช้เงินของสามี ซึ่งบอกตรงๆ เราก็ละอาย แต่ไม่มีทางเลือก
บอกตรงๆ แม่เรามีเหตุผลร้อยแปดที่จะเลิกกับเค้า แต่ไม่ยอมทำ ทนมาเรื่อยๆ จนสุดท้าย แก่เกินที่จะทิ้งเค้า กลายเป็นภาระไปตลอดชีวิตไม่เคยได้สบาย เหนื่อยหาเงินส่งลูกเรียน ลูกเรียนจบมีการงานดีๆส่งเงินให้ใช้เยอะแยะ แต่ตัวเองยังไม่สบาย และคิดว่าคงไม่สบายไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง
ส่วนเราในฐานะลูก จะให้เอาเค้ามาดูแล บอกตรงๆ เราทำไม่ได้ เพราะเค้าไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีและเรารู้ว่าหากเอาเค้ามาแล้ว เค้าจะเป็นภาระเพราะจะจิกหัวใช้เราเป็นขี้ข้า เรียกร้องนั่นนี่ตลอดเวลา
เราแทบไม่เคยตอบใครยาวๆ แต่เราอ่านเรื่องของคุณแล้วนึกถึงแม่เรา
เรามีพ่อเป็นแบบนี้ และแม่เราก็เป็นแบบคุณ ของเราอาจหนักกว่าตรงที่ พ่อเราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และแอบเห็นแก่ตัวไม่เคยเสียสละอะไรให้ลูกเมีย ไม่เคยเลี้ยงลูก ใช้อารมณ์กับลูก ว่าง่ายๆ จะดูแลลูกได้แค่ รับส่ง หรือทำตามที่เมียสั่งเท่านั้น
เช่น ถ้าเค้ามีเงิน เค้าเอาไปซื้อมือถือใหม่ ค่าเรียนพิเศษลูกเวลาเมียหมุนเงินไม่ทันบอก "ไม่มี" ค่าใช้จ่ายในบ้านค่ากินสากกะเบือยันเรือรบไม่เคยกระเด็น แถมไม่เคยทำงานบ้านทำอะไรก็ไม่เป็น ภูมิใจกับการเริ่มงานทำงานวันละ 3 ชม. ของตัวเองมาก กินๆนอนๆจนโรครุมเร้า สุดท้าย ทำงานไม่ไหว
ตอนเด็กๆ เค้าเคยอารมณ์เสียกับเราและด่าว่าเราแรงๆ เราเคยขอให้แม่เลิกกับเค้า เพราะรับรู้ภาระมาตลอดว่าแม่เราเหนื่อยมาก แม่เราไม่ยอมเลิกเพราะกลัวนั่นนี่
สรุป ตอนนี้เค้าคือภาระหนักของแม่เรา ลูกทำงานเรียนจบส่งเงินให้ใช้เดือนละ 50,000 เหมือนจะสบายใช่ไหมคะ แต่ไม่เลยค่ะ เพราะเงินนั้นต้องผ่อนบ้าน (ตอนลูกเรียนไม่มีเงินซื้อบ้านเพราะดิ้นรนส่งลูกเรียนหมด ให้ผัวกินใช้ ทุกอย่างแม่เราจ่ายหมด และแม่เองก็กู้หมุนรอบตัวจนเงินเดือนไม่เหลือ) และเลี้ยงตัวเค้าเองและสามีผู้โรครุมเร้าและทำตัวดั่งเทวดา
ส่วนลูกก็หาเงินส่งพ่อแม่จนไม่มีเงินต้นในการเริ่มชีวิตตัวเองเพราะเงินเกือบทั้งหมดส่งครอบครัวตัวเองหมด เพราะรู้ว่าแม่เหนื่อยเพื่อเรามามากและแม่มีภาระคือพ่อที่จะปลดภาระตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว ตัวเราเองมีครอบครัวต้องใช้เงินของสามี ซึ่งบอกตรงๆ เราก็ละอาย แต่ไม่มีทางเลือก
บอกตรงๆ แม่เรามีเหตุผลร้อยแปดที่จะเลิกกับเค้า แต่ไม่ยอมทำ ทนมาเรื่อยๆ จนสุดท้าย แก่เกินที่จะทิ้งเค้า กลายเป็นภาระไปตลอดชีวิตไม่เคยได้สบาย เหนื่อยหาเงินส่งลูกเรียน ลูกเรียนจบมีการงานดีๆส่งเงินให้ใช้เยอะแยะ แต่ตัวเองยังไม่สบาย และคิดว่าคงไม่สบายไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง
ส่วนเราในฐานะลูก จะให้เอาเค้ามาดูแล บอกตรงๆ เราทำไม่ได้ เพราะเค้าไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีและเรารู้ว่าหากเอาเค้ามาแล้ว เค้าจะเป็นภาระเพราะจะจิกหัวใช้เราเป็นขี้ข้า เรียกร้องนั่นนี่ตลอดเวลา
เราแทบไม่เคยตอบใครยาวๆ แต่เราอ่านเรื่องของคุณแล้วนึกถึงแม่เรา
แสดงความคิดเห็น
เบื่อสามี ที่อยู่เฉยๆ ไม่มีอนาคต ไม่คิดหางาน หาเงิน กันมั้ยคะ ????
แต่ไม่รู้จะหาอะไรทำ ไม่เคยคิดหาอะไทำ
ดีแค่ ไปรับ ส่ง ลูก ซื้อกับข้าวให้ลูกๆ
ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่ไม่เคยวางแผนการเลี้ยงลูกให้เรา เราต้องบอกทุกอย่าง
ขนาดให้สอนหนังสือลูกยังต้องบอกแต่ไม่เคยคิดเอง
ทำกับข้าวไม่เป็น งานบ้านไม่ทำ ถ้าไม่บอกสัก 5 รอบขึ้นไปไม่ได้กระดิก
สามีเข้าห้องน้ำ นานเป็นชั่วโมง
ไปส่งลูกเสร็จกลับบ้านเข้าห้องน้ำ 2 ชั่วโมง บ่ายจะต้องรีบไปรับลูก เค้าไม่ได้ไปไหนนะ แต่ติดมือถืออ่านนิยายและเล่นเกม ช่วยงานที่บ้านบ้าง แต่ไม่วางแผนอะไรเลย ยิ่งกว่าคนงานอีก รับลูกเสร็จตอนค่ำ ก็เข้าห้องน้ำเป็นชั่วโมงอีก 2-3 ชั่วโมง ชีวิตเค้ามีแค่นี้ แค่นี้ แค่นี้ จริงๆ
ค่าใช้จ่ายทั้งบ้าน ทั้งรถ เรื่องลูก เราดูแลหมด หารายได้เข้าเป็นหลัก ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายในชีวิต ของ 5 ชีวิต
พอสิ้นเดือนสิ่งที่ได้ยินคือ เมื่อไหร่จะโอนมา เนี่ยต้องจ่ายค่าบัตร ก็เข้าใจนะ บัตรที่รูดก็คือเรื่องลูก ค่ากับข้าวเข้าบ้าน
แต่คนเป็นสามี ไม่คิดจะหารายได้เลยเหรอ ไม่คิดจะให้เงินภรรยาต่อเดือนเลยเหรอ ไม่คิดจะให้เราพึ่งพาเลยเหรอ
คนทำงานหาเงินคือเรา
คนทำงานบ้านหลักคือเรา กวาดเก็บทุกอย่าง ล้างห้องน้ำ ทำอาหาร
คนวางแผนอนาคตลูกๆ ก็คือเรา
ทำงานทุกวัน เลี้ยงลูกไปด้วย ตอนนี้ที่อยู่ได้เพราะลูกๆ และผู้ใหญ่ กลัวพ่อเราเป็นห่วง แต่จริงๆ แล้วจะไม่ไหวแล้ว
บางวัน เคยคิดอยากตายไปเลย จะได้ไม่ได้คิดอะไร ฟังอะไร เห็นอะไร ไม่อยากรับภาระอะไรแล้ว กดดันทุกเดือน กดดันตลอดเวลา
แต่ก็สงสารลูก ห่วงลูก
ภรรยาที่ไม่อยากอยู่แล้ว