ผมกับแฟนคบกันมา 10 ปี อยุ่ด้วยกัน ฉันท์ สามีภรรยา โดยที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ เพื่อนฝูงรับรู้ เป็นที่เปิดเผย ระยะสามปีหลัง แฟนเปลียนไปครับ ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ โพสต์เฟสบุ๊คในทำนองโสด และมีการคบรุ่นน้อง แบบสนิทชิดเชื้อเกินไป ซึ่งผมเตือนแล้ว แต่ก็เฉย ผมก็เชื่อใจ และ ไม่อยากทะเลาะกัน ตอนหลัง เริ่มมีปัญหาเรื่องการเงินครับ ท้าวความนิดนึงครับ ผมไม่พกเงิน ไม่เคยมีบัตรATM คือ เงินออก แฟนผมจัดการทั้งหมด ตั้งแต่คบกัน แฟนจัดการเรื่องการเงินทั้งหมด ผมกับแฟน เงินเดือนเท่าๆ กัน แต่ผมมีงานนอกที่ทำเงินก้อนได้ครั้งละ หลายหมื่น ผมก็ให้หมด สามปีหลังที่มีปัญหานี้ เพราะผมรู้ว่า เงินเก็บที่มี หายไปหมด แต่มีหนี้เพิ่มมากขึ้น ผมเตือน และ ไม่ให้กู้เงินสร้างหนี้เพิ่ม แต่เค้าไม่ฟังครับ กู้นั่นโปะ นี่ กู้นี่โปะนั่น ทองที่มี จำนำทั้งหมด ผมก็ให้เค้าขาย ไม่ต้องจ่ายดอกเดือนหลายพัน เค้าไม่ฟังครับ ผมประหยัดอีกทุกทาง แต่แฟน ยังคง ใช้ชีวิต แบบเดิม กินกาแฟ แก้วเป็นร้อย ไอโฟนออกใหม่ ก็จะผ่อน ผมอายุ สี่สิบกว่าแล้ว หน้าที่การงานดี มีเงินเดือน มีรายได้นอก จากที่ก่อนมีแฟนคนนี้เคยมีเงินเก็บ ตอนนี้มีหนี้สิน ผมเริ่มรู้ตัวครับ ผมจึง พยายามใช้หนี้ที่มีร่วมกันให้หมด แล้วขอเลิก ฟางเส้นสุดท้ายก่อนขอเลิกคือ เค้าเอาของที่ผมรักที่สุดและเคยขอไว้ไปจำนำครับ แล้วโกหก แต่ผมเองก้ไม่ได้ดี 100 % ครับ เพราะช่วง 1 ปีก่อนเลิก ผมก็คุย กับผู้หญิง คนนึงอยู่ครับ เค้าก็จับ ได้ แต่ผมกับแฟนก็ ยังอยุ่ด้วยกัน พอผมขอเลิก ขอให้เค้าออกจากบ้านผม เค้าไม่ออกครับ เค้าบอกเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด และเค้าขู่จะ ฟ้องเรียกค่าเสียหายครับ บอกว่าผมมีชู้ผมทำผิด เค้าเรียกค่าเสียโอกาสในชีวิตได้ เหรอครับ??? เลิกกันมาครึ่งปีแล้วครับ แต่เค้ายังยื้อ และไม่ยอมออกจากบ้าน ผมควรทำยังไง และตอนนี้ความจริง ผมอยู่คนเดียว ไม่ได้มีใคร ผมเข็ดมากครับ อะไรที่ผมให้ได้ผมให้ครับ ทั้งทองทั้งรถ แต่บ้าน ผมให้ไม่ได้ครับ เป็นบ้านของพ่อแม่ ถึงพ่อแม่จะไม่อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้บ้าน ก็จะเอาเงินครับ ผมควรทำยังไง ??
เลิกกับแฟน ที่คบกันมา10ปีไม่จดทะเบียนสมรส ไม่มีบุตร ฝ่ายหญิงเรียกค่าเสียเวลา ค่าเสียโอกาสในชีวิตได้ไหมครับ