
.
เช้าวันพุธที่ 28 เมษายน 2021 ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บหน้าอก แต่ก็คิดว่าคงเกิดจากการออกกำลังกาย เลยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันศุกร์ อาการเจ็บหน้าอกก็ยังไม่หายดี แถมยังเกิดอาการซึมๆ คล้ายจะมีไข้ จึงได้ตระหนักว่าตนเองเริ่มมีความเสี่ยง จนนำไปสู่การหาข้อมูลเพื่อไปตรวจโควิด
.
.
จากการหาข้อมูลพบว่า หากจะเลือกวิธีการที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด ก็ต้องเลือก รพ.เอกชน ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3000 บาท ขึ้นไป เหลียวมองเงินในกระเป๋าก็คงได้แต่จำใจ โยนตัวเลือกนี้ทิ้งไปก่อน
.
.
ถัดมาที่ตัวเลือกต่อไป รพ.รัฐ ใกล้บ้าน ปรากฎค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2500 บาท พร้อมจำกัดสิทแค่วันละ 80 คน ต้องไปตั้งแต่เช้า ราคาอยู่ในเรทที่ สู้ไหว ถ้าหากตรวจฟรีไม่เวิร์ค ค่อยกลับมาที่ตัวเลือกนี้ก็ยังคงไม่สาย
.
.
และสุดท้ายในตัวเลือก ตรวจฟรี ในฐานะประชาชนหาเช้ากินค่ำ คงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณพอมีฐานะ ผมขอแนะนำว่าเสียเงินตรวจ รพ. ดีกว่าครับ อย่ามาเสียเวลา แถมเสียอารมณ์ ให้กับการตรวจฟรีเลยครับ ว่าแล้วก็เข้าสู่เรื่องราว การไปตรวจโควิดฟรีกันเลยดีกว่า
.
.
ผมเข้า Google Search คำว่า ตรวจโควิดฟรี ลิ้งค์นี้ก็ขึ้นมาเป็นอันดับแรก
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2081161
มันเป็นการตรวจฟรีวันละ 1000 คน ที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ไม่มีการจองล่วงหน้า ใครมาก่อนได้ก่อน (อย่างนี้ก็ได้หรอ)
เปิดรับบัตรคิว 7.30 น. ผมคุยกับแฟนว่า
“เอาก็เอาวะ ดีกว่าไปเสียเงินตรวจ 2 คน ตั้ง 5,000 บาท”
เมื่อตกลงกันได้ดังนี้ ผมก็ศึกษาเส้นทาง เตรียมเอกสาร ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีห้า ปิดคอมและเข้านอน ราตรีสวัสดิ์
.
.
เสียงฟ้าร้องตลอดคืนวันศุกร์ พร้อมเสียงฝนลงเม็ดห่าใหญ่ อากาศช่างเย็นสบายอะไรเยี่ยงนี้ นาฬิกาปลุกทำหน้าที่ของมันเมื่อถึงเวลา 5.00 น. ผมงัวเงียจากที่นอนมากดปิด พร้อมเปิดผ้าม่านดูฝนตกลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว อากาศเย็นๆ เสียงฝนเสนาะหู ผมตัดสินใจหลับต่อ เพราะอย่างไรแล้วก็มิอาจขี่มอเตอร์ไซต์ฝ่าสายฝนไปได้อยู่ดี เป็นอันว่าทางเลือกนี้ของผมถูกพับเก็บลงไปเป็นที่เรียบร้อย
.
.
1/5/2021 เวลา 7.00 น. ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมอาการเจ็บหน้าอกที่ยังคงอยู่ ณ ตอนนี้ผมโคตรกังวลอย่างบอกไม่ถูก เพราะเกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้ และทางเดียวที่จะสละความกังวลทิ้งไปได้ ก็คือการไปตรวจอย่างเดียวเท่านั้น ไอโรคน่ะผมไม่กลัวหรอก ผมอายุยังน้อย แต่คนรอบตัวนี่สิ ทั้งที่ทำงาน และเพื่อนสนิท ที่พบปะกัน หากผมติดสักคน อีกหลายคนคงเดือดร้อนตามกันไปแน่ๆ
.
ผมเปิดคอมขึ้นมาอีกครั้ง Search google คำเดิม ก็ไปพบกับ การตรวจโควิดฟรีโดยใช้ สิทประกันสังคม
ตามลิ้งค์นี้
https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php
การลงทะเบียนทำได้อย่างง่ายดายมากเลยไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จ จนขั้นตอนสุดท้าย ระบบจะให้เราเลือก พื้นที่ที่สะดวกไปตรวจ เท่าที่เห็นก็จะมี
สนามไทยญี่ปุ่น (เขต กทม) ปรากฎว่าปิดปรับปรุงจ้า ถึงวันที่ 5 พค 2021 ไม่รู้ว่าปิดด้วยสาเหตุอันใด แต่อยากฝากบอกไว้ว่า คุณปิดปรับปรุงแต่โรคยังคงแพร่ระบาดต่อไป ไม่ได้หยุดตามคุณนะ
.
.
เมื่อเขต กทม ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ผมจึงเหลือตัวเลือก 2 จังหวัดคือ นนทบุรี และสมุทรปราการ ไม่รู้เหตุผลกลใดเข้าสิงห์ ผมกดเลือก สมุทรปราการ รีบอาบน้ำเพื่อไปให้ทันเวลานัด 10.00 น. ใส่กุญแจ ลงกลอน ก็ต้องผงะกับสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ผมไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าไม่ไปตรวจวันนี้ คงเครียดตายคาที่นอนแน่ ผมสวมหมวกกันน็อค บิดกุญแจ ฝ่าสายฝนจากบ้าน เป็นระยะทาง 50 กิโลมเตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ กว่าจะถึงสถานที่ตรวจ และนี่คือสภาพเส้นทางที่ผมต้องพบเจอ
.

.
หาก Nasa / SpaceX หรือ Teala อยากทดสอบรถยนต์ สำหรับนำไปวิ่งที่ดวงจันทร์ ผมอยากเรียนเชิญให้มาทดสอบที่จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดที่ถนน หลุม บ่อ เยอะซะเหลือเกิน
.
ก่อนจะเล่าต่อ มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะระบายถึงภาครัฐคือ อยากให้ช่วยกระจายจุดตรวจให้มันทั่วถึงกว่านี้ ถ้ายังมีน้อย แถมเข้าถึงลำบากอย่างนี้ ประชาชน จะได้รับความลำบากมากเลยนะครับ ขนาดผมขับมอเตอร์ไซต์ไปยังคิดว่าลำบากเลย แล้วกับคนที่ไม่มีรถละมันไกล และแทบไม่มีรถสาธารณะเข้าถึงเลยนะครับ สถานที่ตรวจของคุณเนี้ย
.

.
และคุณไม่สามารถให้ประชาชนไปตรวจเองได้ทุกคนหรอก ราคามันตั้ง 2500 บาท++ นะครับ คนหาเช้ากินค่ำ เลือกได้ผมว่าเงินจำนวนนี้มันไม่น้อยเลยนะครับ ผมเกิดคำถามว่าทำไม รพ รัฐ ยังจะต้องเสียเงินตรวจอีก ทำไมถึงไม่ทำสวัสดิการรัฐให้ตรวจฟรีละครับ อย่างนี้คนที่เป็น แต่ไม่ได้ตรวจเพราะไม่มีเงิน ไม่มีเวลา จะปะปนอยู่ในสังคมอีกเท่าไหร่ อย่าว่าแต่เรื่องวัคซีนเลย แค่เรื่องการตรวจเชื้อผมก็คิดว่าคุณบริหารจัดการได้ยังไม่ดีพอเลยครับ
.
.
กลับมาเข้าเรื่องของเราต่อ หลังจากถึงสถานที่ตรวจ “กรมพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรปราการ” จอดรถ พร้อมเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มอย่างไม่มีทางเลือก รีบแจ้นไปยื่นเอกสารให้ จนท
“ถ่ายสำเนาเอกสารบัตร ปชช มารึยังครับ”
“ยังครับ ในระบบไม่ได้บอกหนิครับ”
“น้องเห็นตึกตรงนู้นนนน ไหม มีร้านถ่ายเอกสารไปถ่ายมาก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้ตรวจ”
.
.
ให้ตายเถอะ เห็นพร่ำพรรณนาคำว่า Thailand 4.0 มาเป็นชาติ แต่ไอวัฒนธรรมถ่ายเอกสารเนี้ยเมื่อไหร่จะหมดไปสักที แล้วจะให้ใส่ข้อมูลในระบบมาเพื่อ สุดท้ายก็ต้องใช้เอกสาร แถมเพื่อความเสี่ยงโดยเปล่าประโยชน์อีกตังหาก แต่เมื่อหมดทางเลือกผมรีบไปถ่ายเอกสาร เข้าคิว เหลือบมองนาฬิกาที่เวลา 10.30 น.
.
.
สถานที่นั่งรอตรวจ อากาศถ่ายเท เก้าอี้แต่ละตัวมีระยะห่างกัน 50 เซนติเมตร และหนีไม่พ้นต้องมานั่งกรอกเอกสาร เหมือนที่เคยกรอกในระบบ กรอกซ้ำกรอกซ้อนอีก
.
.
ระหว่างรอสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจและขอเป็นกำลังใจให้จริงๆ คือ เจ้าหน้าที่ ภาคสนามทุกคนเลยครับ แต่ละคนตั้งใจทำงาน บริการประชาชนดีมากเลยครับ ผมว่าคนที่ทำงานหน้างานทุกคน เหนื่อยและเสียสละมากครับ ผมขอชื่นชน และเป็นกำลังใจให้นะครับ
.
.
11.15 ถึงคิวผมตรวจ เจ้าหน้าที่ซักประวัติ เตรียมเครื่องมือตรวจ และก็เดินๆๆๆๆๆๆ ไปจนถึงจุดตรวจ ถอดแมส อ้าปาก อ้าาาาาาาาา เจ้าหน้าที่เอาเหมือนสำลีมาแปะๆ ในกระพุ้งแก้ม ขั้นตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ ขั้นตอนต่อไปนี่สิ ผมจำมิรู้ลืม
“เงยหน้าขึ้นสุดๆ เลยนะ” เจ้าหน้าที่กล่าว ผมเงยหน้าแต่โดยดี เจ้าหน้าที่เอาสำลี พร้อมน้ำยาอะไรสักอย่าง ที่กลิ่นโคตรฉุน ยัดเข้าไปในรูจมูกผม แมร่งเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มันแสบ จั๊กกะจี๊ คิดแล้วก็ขอบาย ยอมฉีดยายังดีซะกว่า แต่ก็เอาน่าาา ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาที กลั้นใจไปก็เสร็จแล้ว
.
.
11.30 น. เป็นอันเสร็จสิ้นการตรวจ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงพอดี โดยผลการตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จะส่งให้ภายใน 1-2 วันนี้ ทาง Sms ที่เราได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ฝนหยุดตกแล้ว แต่หนทางกลับบ้านของผมยังอีกยาวไกลกว่า 50 กิโลเมตร
.
.
.
ความรู้สึกหลังไปตรวจเสร็จ ก็คงรอลุ้นผลกันต่อไป ถ้าไม่ติดก็คงจะโล่งใจได้หน่อย แต่ความรู้สึกหนึ่งที่ยังคงค้างอยู่ในใจจนถึงตอนนี้คือ
เรารู้สึกว่าทำไมรัฐสวัสดิการในประเทศนี้ ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากขนาดนี้ ทำไมภาครัฐถึงไม่สามารถจัดการ หรืออำนวยความสะดวกในการตรวจได้ทั่วถึง กระจายได้มากกว่านี้ โรคนี้อยู่กับเรามา 1 ปีแล้ว แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่า ปีนี้เราเดินถอยหลัง รู้สึกว่าปีนี้เหตุการณ์มันกลับย่ำแย่ลงกว่าเดิม ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อ วัคซีนที่ล่าช้า มาเจอกระบวนการตรวจโรคที่แบบนี้อีก ยิ่งรู้สึกทำให้หวาดหวั่นกับหนทางข้างหน้า ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะจบลง วัคซีนจะได้ฉีดจริงไหม ได้ฉีดยี่ห้อที่เชื่อถือได้รึเปล่า เป็นคำถามที่ พวกเราคนไทย คงต้องช่วยกัน และรอลุ้นกันต่อไป
Review: ไปตรวจโควิดโดยใช้สิทธิประกันสังคม (ฉบับ hardcore)
.
เช้าวันพุธที่ 28 เมษายน 2021 ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บหน้าอก แต่ก็คิดว่าคงเกิดจากการออกกำลังกาย เลยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันศุกร์ อาการเจ็บหน้าอกก็ยังไม่หายดี แถมยังเกิดอาการซึมๆ คล้ายจะมีไข้ จึงได้ตระหนักว่าตนเองเริ่มมีความเสี่ยง จนนำไปสู่การหาข้อมูลเพื่อไปตรวจโควิด
.
.
จากการหาข้อมูลพบว่า หากจะเลือกวิธีการที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด ก็ต้องเลือก รพ.เอกชน ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3000 บาท ขึ้นไป เหลียวมองเงินในกระเป๋าก็คงได้แต่จำใจ โยนตัวเลือกนี้ทิ้งไปก่อน
.
.
ถัดมาที่ตัวเลือกต่อไป รพ.รัฐ ใกล้บ้าน ปรากฎค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2500 บาท พร้อมจำกัดสิทแค่วันละ 80 คน ต้องไปตั้งแต่เช้า ราคาอยู่ในเรทที่ สู้ไหว ถ้าหากตรวจฟรีไม่เวิร์ค ค่อยกลับมาที่ตัวเลือกนี้ก็ยังคงไม่สาย
.
.
และสุดท้ายในตัวเลือก ตรวจฟรี ในฐานะประชาชนหาเช้ากินค่ำ คงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณพอมีฐานะ ผมขอแนะนำว่าเสียเงินตรวจ รพ. ดีกว่าครับ อย่ามาเสียเวลา แถมเสียอารมณ์ ให้กับการตรวจฟรีเลยครับ ว่าแล้วก็เข้าสู่เรื่องราว การไปตรวจโควิดฟรีกันเลยดีกว่า
.
.
ผมเข้า Google Search คำว่า ตรวจโควิดฟรี ลิ้งค์นี้ก็ขึ้นมาเป็นอันดับแรก
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2081161
มันเป็นการตรวจฟรีวันละ 1000 คน ที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ไม่มีการจองล่วงหน้า ใครมาก่อนได้ก่อน (อย่างนี้ก็ได้หรอ)
เปิดรับบัตรคิว 7.30 น. ผมคุยกับแฟนว่า
“เอาก็เอาวะ ดีกว่าไปเสียเงินตรวจ 2 คน ตั้ง 5,000 บาท”
เมื่อตกลงกันได้ดังนี้ ผมก็ศึกษาเส้นทาง เตรียมเอกสาร ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีห้า ปิดคอมและเข้านอน ราตรีสวัสดิ์
.
.
เสียงฟ้าร้องตลอดคืนวันศุกร์ พร้อมเสียงฝนลงเม็ดห่าใหญ่ อากาศช่างเย็นสบายอะไรเยี่ยงนี้ นาฬิกาปลุกทำหน้าที่ของมันเมื่อถึงเวลา 5.00 น. ผมงัวเงียจากที่นอนมากดปิด พร้อมเปิดผ้าม่านดูฝนตกลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว อากาศเย็นๆ เสียงฝนเสนาะหู ผมตัดสินใจหลับต่อ เพราะอย่างไรแล้วก็มิอาจขี่มอเตอร์ไซต์ฝ่าสายฝนไปได้อยู่ดี เป็นอันว่าทางเลือกนี้ของผมถูกพับเก็บลงไปเป็นที่เรียบร้อย
.
.
1/5/2021 เวลา 7.00 น. ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมอาการเจ็บหน้าอกที่ยังคงอยู่ ณ ตอนนี้ผมโคตรกังวลอย่างบอกไม่ถูก เพราะเกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้ และทางเดียวที่จะสละความกังวลทิ้งไปได้ ก็คือการไปตรวจอย่างเดียวเท่านั้น ไอโรคน่ะผมไม่กลัวหรอก ผมอายุยังน้อย แต่คนรอบตัวนี่สิ ทั้งที่ทำงาน และเพื่อนสนิท ที่พบปะกัน หากผมติดสักคน อีกหลายคนคงเดือดร้อนตามกันไปแน่ๆ
.
ผมเปิดคอมขึ้นมาอีกครั้ง Search google คำเดิม ก็ไปพบกับ การตรวจโควิดฟรีโดยใช้ สิทประกันสังคม
ตามลิ้งค์นี้ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php
การลงทะเบียนทำได้อย่างง่ายดายมากเลยไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จ จนขั้นตอนสุดท้าย ระบบจะให้เราเลือก พื้นที่ที่สะดวกไปตรวจ เท่าที่เห็นก็จะมี
สนามไทยญี่ปุ่น (เขต กทม) ปรากฎว่าปิดปรับปรุงจ้า ถึงวันที่ 5 พค 2021 ไม่รู้ว่าปิดด้วยสาเหตุอันใด แต่อยากฝากบอกไว้ว่า คุณปิดปรับปรุงแต่โรคยังคงแพร่ระบาดต่อไป ไม่ได้หยุดตามคุณนะ
.
.
เมื่อเขต กทม ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ผมจึงเหลือตัวเลือก 2 จังหวัดคือ นนทบุรี และสมุทรปราการ ไม่รู้เหตุผลกลใดเข้าสิงห์ ผมกดเลือก สมุทรปราการ รีบอาบน้ำเพื่อไปให้ทันเวลานัด 10.00 น. ใส่กุญแจ ลงกลอน ก็ต้องผงะกับสายฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แต่ผมไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าไม่ไปตรวจวันนี้ คงเครียดตายคาที่นอนแน่ ผมสวมหมวกกันน็อค บิดกุญแจ ฝ่าสายฝนจากบ้าน เป็นระยะทาง 50 กิโลมเตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ กว่าจะถึงสถานที่ตรวจ และนี่คือสภาพเส้นทางที่ผมต้องพบเจอ
.
.
หาก Nasa / SpaceX หรือ Teala อยากทดสอบรถยนต์ สำหรับนำไปวิ่งที่ดวงจันทร์ ผมอยากเรียนเชิญให้มาทดสอบที่จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดที่ถนน หลุม บ่อ เยอะซะเหลือเกิน
.
ก่อนจะเล่าต่อ มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะระบายถึงภาครัฐคือ อยากให้ช่วยกระจายจุดตรวจให้มันทั่วถึงกว่านี้ ถ้ายังมีน้อย แถมเข้าถึงลำบากอย่างนี้ ประชาชน จะได้รับความลำบากมากเลยนะครับ ขนาดผมขับมอเตอร์ไซต์ไปยังคิดว่าลำบากเลย แล้วกับคนที่ไม่มีรถละมันไกล และแทบไม่มีรถสาธารณะเข้าถึงเลยนะครับ สถานที่ตรวจของคุณเนี้ย
.
.
และคุณไม่สามารถให้ประชาชนไปตรวจเองได้ทุกคนหรอก ราคามันตั้ง 2500 บาท++ นะครับ คนหาเช้ากินค่ำ เลือกได้ผมว่าเงินจำนวนนี้มันไม่น้อยเลยนะครับ ผมเกิดคำถามว่าทำไม รพ รัฐ ยังจะต้องเสียเงินตรวจอีก ทำไมถึงไม่ทำสวัสดิการรัฐให้ตรวจฟรีละครับ อย่างนี้คนที่เป็น แต่ไม่ได้ตรวจเพราะไม่มีเงิน ไม่มีเวลา จะปะปนอยู่ในสังคมอีกเท่าไหร่ อย่าว่าแต่เรื่องวัคซีนเลย แค่เรื่องการตรวจเชื้อผมก็คิดว่าคุณบริหารจัดการได้ยังไม่ดีพอเลยครับ
.
.
กลับมาเข้าเรื่องของเราต่อ หลังจากถึงสถานที่ตรวจ “กรมพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรปราการ” จอดรถ พร้อมเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มอย่างไม่มีทางเลือก รีบแจ้นไปยื่นเอกสารให้ จนท
“ถ่ายสำเนาเอกสารบัตร ปชช มารึยังครับ”
“ยังครับ ในระบบไม่ได้บอกหนิครับ”
“น้องเห็นตึกตรงนู้นนนน ไหม มีร้านถ่ายเอกสารไปถ่ายมาก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้ตรวจ”
.
.
ให้ตายเถอะ เห็นพร่ำพรรณนาคำว่า Thailand 4.0 มาเป็นชาติ แต่ไอวัฒนธรรมถ่ายเอกสารเนี้ยเมื่อไหร่จะหมดไปสักที แล้วจะให้ใส่ข้อมูลในระบบมาเพื่อ สุดท้ายก็ต้องใช้เอกสาร แถมเพื่อความเสี่ยงโดยเปล่าประโยชน์อีกตังหาก แต่เมื่อหมดทางเลือกผมรีบไปถ่ายเอกสาร เข้าคิว เหลือบมองนาฬิกาที่เวลา 10.30 น.
.
.
สถานที่นั่งรอตรวจ อากาศถ่ายเท เก้าอี้แต่ละตัวมีระยะห่างกัน 50 เซนติเมตร และหนีไม่พ้นต้องมานั่งกรอกเอกสาร เหมือนที่เคยกรอกในระบบ กรอกซ้ำกรอกซ้อนอีก
.
.
ระหว่างรอสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจและขอเป็นกำลังใจให้จริงๆ คือ เจ้าหน้าที่ ภาคสนามทุกคนเลยครับ แต่ละคนตั้งใจทำงาน บริการประชาชนดีมากเลยครับ ผมว่าคนที่ทำงานหน้างานทุกคน เหนื่อยและเสียสละมากครับ ผมขอชื่นชน และเป็นกำลังใจให้นะครับ
.
.
11.15 ถึงคิวผมตรวจ เจ้าหน้าที่ซักประวัติ เตรียมเครื่องมือตรวจ และก็เดินๆๆๆๆๆๆ ไปจนถึงจุดตรวจ ถอดแมส อ้าปาก อ้าาาาาาาาา เจ้าหน้าที่เอาเหมือนสำลีมาแปะๆ ในกระพุ้งแก้ม ขั้นตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ ขั้นตอนต่อไปนี่สิ ผมจำมิรู้ลืม
“เงยหน้าขึ้นสุดๆ เลยนะ” เจ้าหน้าที่กล่าว ผมเงยหน้าแต่โดยดี เจ้าหน้าที่เอาสำลี พร้อมน้ำยาอะไรสักอย่าง ที่กลิ่นโคตรฉุน ยัดเข้าไปในรูจมูกผม แมร่งเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มันแสบ จั๊กกะจี๊ คิดแล้วก็ขอบาย ยอมฉีดยายังดีซะกว่า แต่ก็เอาน่าาา ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาที กลั้นใจไปก็เสร็จแล้ว
.
.
11.30 น. เป็นอันเสร็จสิ้นการตรวจ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงพอดี โดยผลการตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จะส่งให้ภายใน 1-2 วันนี้ ทาง Sms ที่เราได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ฝนหยุดตกแล้ว แต่หนทางกลับบ้านของผมยังอีกยาวไกลกว่า 50 กิโลเมตร
.
.
.
ความรู้สึกหลังไปตรวจเสร็จ ก็คงรอลุ้นผลกันต่อไป ถ้าไม่ติดก็คงจะโล่งใจได้หน่อย แต่ความรู้สึกหนึ่งที่ยังคงค้างอยู่ในใจจนถึงตอนนี้คือ
เรารู้สึกว่าทำไมรัฐสวัสดิการในประเทศนี้ ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากขนาดนี้ ทำไมภาครัฐถึงไม่สามารถจัดการ หรืออำนวยความสะดวกในการตรวจได้ทั่วถึง กระจายได้มากกว่านี้ โรคนี้อยู่กับเรามา 1 ปีแล้ว แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่า ปีนี้เราเดินถอยหลัง รู้สึกว่าปีนี้เหตุการณ์มันกลับย่ำแย่ลงกว่าเดิม ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อ วัคซีนที่ล่าช้า มาเจอกระบวนการตรวจโรคที่แบบนี้อีก ยิ่งรู้สึกทำให้หวาดหวั่นกับหนทางข้างหน้า ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะจบลง วัคซีนจะได้ฉีดจริงไหม ได้ฉีดยี่ห้อที่เชื่อถือได้รึเปล่า เป็นคำถามที่ พวกเราคนไทย คงต้องช่วยกัน และรอลุ้นกันต่อไป