หัวใจพลิกล็อค...บทที่ 13

๑๓
 
 
         เมื่อเล่นจนครบเวลาและส่งต่อหน้าที่สร้างความบันเทิงให้ลูกค้าแก่ดีเจของร้านเรียบร้อย สมาชิกวงก็ทยอยลงจากเวที และเข้าไปพักในห้องที่อยู่ด้านหลังร้าน มีเพียงพิชญ์พงศ์ที่เดินเลี่ยงไปยังทิศทางของห้องน้ำ 
 
         ชายหนุ่มยืนรอปาณฑราอยู่แถวๆ หน้าห้องน้ำหญิง เมื่อเห็นว่าก่อนที่เขาจะลงจากเวทีนั้น เธอเดินมาเข้าห้องน้ำด้วยอาการเซนิดๆ ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงตามมาดู 
 
         พิชญ์พงศ์ยืนรออยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งได้ยินเสียงประตูที่ถูกผลักออกมา เขาจึงหันกลับไปมองด้วยรอยยิ้ม แต่คนที่เดินยิ้มร่าออกมานั้นกลับไม่ใช่คนที่เขารอ ทว่าเป็นหญิงสาวอีกคนที่มักให้ทิปเขาอยู่บ่อยๆ ในคืนที่เขามาเล่นดนตรี แถมยังชอบชวนเขาไปต่ออยู่บ่อยๆ ถึงเขาจะปฏิเสธทุกครั้งแต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามที่จะตามตื๊อเขา
 
         “ดีใจจังค่ะที่เจอคุณ ฉันว่าจะเข้าไปหาคุณอยู่พอดีเลย ไม่คิดว่าคุณจะเป็นฝ่ายมาหาฉันเอง” สาวสวยพูดพลางส่งสายตาเย้ายวนไปให้หนุ่มที่ตนหมายปอง
 
         พิชญ์พงศ์ยังไม่ทันจะได้อ้าปากแย้งความเข้าใจผิดของหญิงสาว เธอก็ชิงพูดต่อทันที “คุณร้องเพลงเพราะจังเลยนะคะ แล้วแต่ละเพลงความหมายดีๆ ทั้งนั้นเลย”
 
         “ขอบคุณครับ”
 
         “ร้องเพลงเสร็จแล้วคุณจะไปไหนต่อไหมคะ ถ้าไม่ ฉันอยากจะชวนคุณไปหาอะไรอร่อยๆ กินด้วยกันสักหน่อย” หญิงสาวเดินหน้ารุกเต็มที่
 
         “ผมไม่สะดวกครับ” นักดนตรีหนุ่มยังคงปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง
 
         “ว้า น่าเสียดายจัง” สาวสวยว่าพลางแสร้งทำหน้าเศร้า
 
         “ถ้าอย่างนั้นฉันขอเบอร์โทร. หรือไลน์ของคุณหน่อยได้ไหมคะ จะได้ติดต่อกันได้สะดวก” หญิงสาวยังไม่ละความพยายาม
 
         “ผม...”
 
         พิชญ์พงศ์กำลังจะปฏิเสธ แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงประตูห้องน้ำที่ถูกผลักออกมาโดยคนที่เขากำลังรอ แล้วเธอก็จ้องมาที่เขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และนั่นก็ทำให้เขารีบพูดออกไปรัวเร็ว
 
         “ผมคงให้ไม่ได้หรอกครับ เพราะผมมีแฟนแล้ว เดี๋ยวแฟนจะว่าเอา”
 
         “ถ้าคุณไม่บอก เธอก็ไม่มีทางรู้หรอกค่ะ” ไม่พูดเปล่ามือบางยังถือวิสาสะลูบไล้แผ่วเบาไปตามแผงอกแกร่งผ่านเสื้อยืดตัวบาง
 
         “ไม่ดีมั้งครับแบบนั้น” เขาว่าพร้อมปัดมือซุกซนออกอย่างสุภาพ ก่อนมองเลยไปยังคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าห้องน้ำ 
 
         คนโดนปฏิเสธมองตามสายตาชายหนุ่ม พร้อมกวาดตามองปาณฑราตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างสำรวจ 
 
         “อย่าบอกนะคะว่าแฟนที่คุณว่า คือยายไม้กระดานนี่” ถามพลางแสยะยิ้มอย่างดูแคลน 
 
         เห็นกิริยาของคนที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมแล้ว ปาณฑราที่กำลังเมาได้ที่ก็เลือดขึ้นหน้าทันที อาการมึนเมาแทบหายเป็นปลิดทิ้ง
 
         “ไม้กระดานแล้วมันหนักหัวใครไม่ทราบ” คนถูกปรามาสสวนกลับเสียงเย็น ก่อนจะเดินโงนเงนเข้าไปกอดแขนล่ำๆ อย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้งยังซบศีรษะลงบนไหล่เขาอย่างออดอ้อน 
 
         “ถึงฉันจะแบนเป็นไม้กระดาน แต่แฟนฉันก็รักก็หลงฉันจนไม่รู้ว่าจะหลงยังไงแล้ว ขนาดว่าใครบางคนลงทุนมาอ่อยมาทิปให้เขาทุกคืน เขายังไม่ชายตาแลเลย ช่างน่าสงสารเสียจริง นมใหญ่ซะเปล่า” 
 
         ปาณฑราจีบปากจีบคอพูด โดยไม่ลืมที่จะยักคิ้วใส่อีกฝ่ายอย่างเป็นต่อ และนั่นก็ทำให้ฝ่ายนั้นเต้นเร่าๆ ด้วยความเจ็บใจ และขณะที่หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง คนที่อารมณ์ยังกรุ่นไม่หายก็ชิงพูดขึ้นก่อน
 
         “อ้ะๆๆ แล้วอย่าได้คิดจะทำตัวเป็นนางมารร้าย มาคอยแทรกกลางระหว่างเราล่ะ เพราะมันจะไม่มีวันสำเร็จ และเธอจะเสียเวลาเปล่า เธอก็เห็นแล้วนี่ จากที่เธอมาเทียวไล้เทียวขื่อเขาอยู่เป็นเดือนๆ ถ้าเขาจะเล่นด้วยคงเล่นไปนานแล้ว” 
 
         คำพูดของปาณฑราเหมือนลูกธนูที่พุ่งมาปักกลางอกของสาวสวย แต่จะให้ยอมถอยง่ายๆ ก็คงไม่ใช่เธอ
 
         “เธอได้มาเฝ้าเขาทุกคืนหรือไง ถึงได้มั่นอกมั่นใจในตัวเขาขนาดนั้น ต่อหน้าเธอเขาอาจจะเป็นแบบหนึ่ง แต่ลับหลังอาจจะเป็นอีกอย่างก็ได้” 
 
         หญิงสาวเหยียดยิ้มอย่างเยาะหยัน และเมื่อเห็นว่าปาณฑราเงียบไปราวกับกำลังใช้ความคิด ก็ได้ทีสุมไฟต่อทันที “อย่างเมื่อกี้ถ้าเธอไม่ทะเล่อทะล่าออกมา ฉันอาจจะได้เบอร์ติดต่อเขามาแล้วก็ได้ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็ชอบอะไรแซ่บๆ ทั้งนั้นแหละ ใครมันจะอยากกินแต่แกงจืดทุกวัน” พูดพร้อมมองเหยียดอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
 
         “เธอนี่ไม่รู้อะไร แฟนฉันเขาคนรักสุขภาพย่ะ อย่างแกงจืดเนี่ยเขาชอบกินมากเลยนะเธอ เพราะมีสารอาหารครบถ้วน ต่างจากพวกอาหารรสจัด กินไปก็พานจะแสลงท้องเปล่าๆ ใช่ไหมคะปราชญ์ขา” ถามเสียงออดเสียงอ้อน
 
         “ใช่ครับ” พิชญ์พงศ์เออออไปกับแฟนสมอ้าง และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่รามือง่ายๆ เขาจึงรีบพูดดัก ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกมาให้ใครบางคนเข้าใจเขาผิดอีก แค่นี้คะแนนเขาก็จะติดลบอยู่รอมร่อ
 
         “ผมว่าคุณพอเถอะครับ ผมกับแฟนเรารักกันดี และรักกันมากด้วย ไม่มีที่ว่างให้ใครแทรกได้หรอกครับ แล้วผมก็ไม่ใช่คนโลเลที่จะปันใจไปให้คนอื่นทั้งๆ ที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว คุณอย่าพยายามสร้างรอยร้าวให้เราเลยนะครับ เพราะมันจะเสียเวลาเปล่าอย่างที่แฟนผมว่านั่นแหละ” 
 
         พิชญ์พงศ์พูดเสียงหนักแน่น ส่วนคนที่ซบอยู่ที่ท่อนแขนแข็งแรงก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายอย่างล้อเลียน  
 
         เมื่อฝ่ายชายพูดมาซะขนาดนี้ สาวสวยจึงทำได้เพียงสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างกระแทกกระทั้น
 
         
 ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้หัวใจดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่